After School
ตอนที่16
รุ่งเช้ายุนนาตื่นขึ้นด้วยรอยยิ้ม เธอควานหาร่างบางของจองอา หากแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ยุนนาจึงลุกนั่งอย่างรวดเร็ว เธอกวาดตามองไปรอบๆห้อง ก่อนจะลุกเดินออกไปนอกห้องนอน
"จองอา...จองอา"ยุนนาร้องเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบใดๆ เธอจึงกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง ก่อนจะสังเกตโน๊ตแผ่นหนึ่งบนโต๊ะข้างเตียง เธอหยิบขึ้นมาอ่าน
"ยุนนาฉันขอบคุณสำหรับความทรงจำที่งดงาม ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่เธอให้ฉัน ฉันจะเก็บรักษามันไว้อย่างดี สุดท้ายนี้ขอให้เธอลืมฉันซะ และคิดซะว่าเราไม่เคยพบกัน" จองอาเขียน
ยุนนาทรุดตัวลงเมื่ออ่านจบและร่ำไห้อย่างเจ็บปวด
"ฮื่อๆ..จองอา..ทำไมๆ" ยุนนาร่ำไห้พลางทุบมือกับพื้น เธอร้องไห้เหมือนจะขาดใจ ความทรงจำมากมายไหลเวียน โดยเฉพาะไออุ่นที่ได้รับเมื่อคืน เธอยังคงจดจำไออุ่นนั้นได้ดี ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี ได้แต่นอนร้องไห้อยู่กับพื้นอย่างนั้น
ณ โรงเรียนศิลปะ มงโดกำลังหงุดหงิดที่ศิษย์รักไม่โผล่หัวมาโรงเรียน แถมยังติดต่อไม่ได้อีก
"ยัยบ้านี่ จะบ่ายอยู่แล้วไม่โผล่หัวมาเรียนอีก" มงโดพูดขณะกดวางสายโทรศัพท์เพราะปลายสายไม่เปิดเครื่อง
เขาครุ่นคิดสักครู่ ก่อนจะลุกพรวดออกจากห้องทำงานไป เขาตรงไปยังสถานที่ที่คิดว่ายุนนาจะอยู่ ไม่นานนักมงโดก็มาถึงหน้าห้องของจองอา เขาเคาะประตูอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ เขาจึงถือวิสาสะบิดลูกบิดเปิดประตูเข้าไป น่าแปลกที่มันไม่ได้ล็อค
"ยุนนา..ยุนนา" เขาตะโกนเรียก หากแต่ก็เห็นเพียงห้องว่างเปล่า เขาจึงเดินเข้าไปในห้องนอน ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างยุนนานอนแผ่อยู่บนพื้น เขารีบวิ่งเข้าไปประคองร่างเธอทันที
"ยุนนา เธอเป็นอะไร ทำใจดีๆไว้" มงโดถามอย่างเป็นห่วง ยุนนาค่อยๆลืมตาขึ้น
"อาจารย์...จองอา..จองอาทิ้งหนูไปแล้ว"ยุนนาพูดอย่างอ่อนแรงพลางน้ำตาไหล
มงโดมองเธอด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ
"ให้ตายเถอะ ยัยคนนี้คงทำเธอตายเข้าสักวัน"มงโดพูดอย่างอ่อนใจ ก่อนจะแบกร่างไร้สติของเธอกลับไปบ้านเขา
แม้จะตกเย็นแล้วแต่อาการของยุนนาก็ไม่ดีขึ้น เธอยังคงนั่งเหม่อลอยเหมือนดั่งคนไร้สติอยู่อย่างนั้น
"นี่นั่งแบบนี้ตั้งแต่บ่ายเลยหรอ" อีซานที่เพิ่งมาถึง ถามขึ้น
"อืม"มงโดตอบสั้นและทำหน้าเหนื่อยใจ
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน" อีซานถาม มงโดจึงตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้อีซานฟัง
"อะไรนะ นี่ยุนนารู้รึยัง เรื่องโจอึนน่ะ" อีซานถามหลังจากฟังความจริงทั้งหมดที่มงโดรู้
"คิดว่าไม่นะ" มงโดตอบ
"แล้วเราควรจะบอกดีไหม" อีซานลังเลใจ
"ไม่ดีกว่า ถ้านายยังอยากให้ยัยนี่สืบเรื่องโจอึนให้ ถ้ารู้เรื่องก่อน มีหวังยัยนี่ทำพังแน่ อย่าทำให้เรื่องใหญ่เสียเลยดีกว่า"มงโดเสนอ
อีซานทำหน้าลำบากใจ เขารู้สึกเห็นใจยุนนามากกับเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้สึกเหมือนหลอกใช้ยุนนาให้ไปสืบเรื่องโจอึน เขาจึงมองเธอด้วยสายตาเห็นใจ
หลายวันต่อมามีการติดต่อมาจากคิมโจอึนตามที่อีซานคาดไว้ เขานัดให้ยุนนาไปทานอาหารที่บ้านเขา
"ไม่" ยุนนาตอบสั้นๆ เมื่อมงโดมาบอกหมายกำหนดการแก่เธอ
แม้เธอจะมาเรียนตามปกติแล้ว แต่ก็เหมือนไม่ได้มา วันๆเธอเอาแต่นั่งเหม่อลอย ไม่ก็หลบไปนอนที่ห้องพยาบาล
"นี่เธอจะบ้าหรอ นี่เป็นโอกาสที่พวกเรารออยู่นะ เธอจะทิ้งทุกอย่างเพราะถูกผู้หญิงแบบนั้นทิ้งอย่างงั้นหรอ" มงโดพูดแทงใจดำเธอ
ยุนนาลุกพรวดขึ้นกระชากคอเสื้อมงโดด้วยความโมโห
"อย่าบังอาจว่าเธอแบบนั้น" ยุนนาพูดอย่างเหี้ยมเกรียม มงโดจึงกระชากคอเสื้อเธอบ้าง
"งั้นจะให้ฉันพูดว่าอะไร ชื่นชมที่เธอบูชาความรักโง่ๆ จนลืมพี่ชายของตัวเองรึไง"มงโดพูดประชด
ยุนนาจึงได้สติขึ้นมาและนึกถึงพี่ชายเธอ ตอนนี้เขาก็ยังต้องซ่อนตัวอยู่ พ่อแม่ของเธอก็ยังต้องหวาดหวั่นกับอันตราย ยุนนาทรุดตัวลงนั่งและครุ่นคิดสักครู่
"แล้วจะไปยังไงล่ะ หนูต้องทำอะไรบ้าง"ยุนนาพูดพลางเงยหน้ามองมงโด เขายิ้มออกมาน้อยๆเมื่อได้ยินดังนั้น
หลังเลิกเรียนทั้งคู่จึงไปประชุมกับอีซานที่ร้านคอฟฟี่ช็อปเจ้าประจำ
วันนี้เขาคงแค่อยากทำความรู้จักกับเธอเท่านั้นนะ ฉันว่า" อีซานเอ่ยขึ้น
"เธอก็อย่าทำตัวกะโตกกะตากล่ะ ทำตัวให้ดีๆ น่าเชื่อถือ สมเป็นศิลปินอนาคตไกลหน่อย"มงโดพูดพลางตักชีทเค้กเข้าปาก
"รู้แล้วน่าจารย์ หนูไม่ทำเสียแผนหรอก" ยุนนาตอบขณะที่เคี้ยวแอปเปิ้ลพายอยู่
"ยังไงๆก็ ฝากด้วยนะยุนนา"อีซานฝากฝังกับเธอ และมองภาพอาจารย์ลูกศิษย์สวาปามของหวานอย่างตายอดตายอยาก
เมื่อเวลาหนึ่งทุ่มรถของโจอึนก็มารับเธอที่บ้านพ่อแม่ มงโดเองก็มารอส่งเธอที่นี่
"ยุนนาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันอยากให้เธอคิดถึงผลของการกระทำนี้ให้ดีที่สุดนะ เพื่อพี่ชายของเธอเอง"เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนที่ยุนนาจะเดินออกประตูบ้านไป
เธองงกับท่าทีของเขาหากแต่ก็ไม่สนใจมากนัก เพราะเธอไม่คิดว่าการไปคราวนี้จะเป็นงานยากอะไร แค่กินข้าวกับคนชั่วเธอทำได้สบายอยู่แล้ว ไม่นานนักรถก็แล่นเข้าสู่ตัวบ้าน
"โห..สุดยอด นี่บ้านหรือวังกันเนี่ย"ยุนนาตื่นตากับอาณาเขตของบ้าน
หลังรถจอดสนิทเธอก็ลงจากรถตรงเข้าตัวบ้านตามการเชื้อเชิญของพ่อบ้านที่มารอรับ เมื่อเดินเข้าสู่ห้องรับแขกเธอก็พบโจอึนนั่งรออยู่
"โอ้..มาถึงแล้วหรอยุนนา เอ๊ะฉันเรียกเธอว่ายุนนาได้ไหม" เขาพูดอย่างเป็นมิตร
"ได้ค่ะ ฉันก็ชอบให้เรียกอย่างนั้น เป็นเกียรติมากค่ะที่เชิญฉันมา"เธอกล่าวอย่างมีมารยาท
"ฉันต่างหากที่สมควรพูด เป็นเกียรติมากที่ได้ต้อนรับศิลปินอนาคตไกลอย่างเธอ"โจอึนพูดยกยอ หากแต่ยุนนาก็ไม่หลงคารม
"โอ้..มาแล้วหรอจองอา มาสิฉันจะแนะนำให้รู้จัก"โจอึนเปลี่ยนอิริยาบถทันทีเมื่อเห็นเมียรักเดินเข้ามา ยุนนาสะดุดใจกับชื่อจองอา เธอยืนตัวแข็งไม่กล้าหันไปดูหน้าเจ้าของชื่อ จนหล่อนเดินเข้ามาใกล้และไปยืนเคียงข้างโจอึน นั่นทำให้ยุนนาแน่ใจว่าจองอาคนนี้คือคนเดียวกับจองอาของเธอ
"นี่จองอา ภรรยาฉัน ส่วนนี่ ซินยุนนา เขาได้รับรางวัลศิลปะระดับมัธยมเชียวนะ"โจอึนพูดอย่างภาคภูมิ
จองอาถึงกับหน้าเสียเมื่อเห็นยุนนาอยู่ตรงหน้า
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" จองอาพยายามพูดด้วยเสียงราบเรียบ หากแต่มันยิ่งทำให้ผู้ฟังเจ็บลึกไปถึงทรวง
"เช่นกันค่ะ" ยุนนากัดฟันตอบ ตอนนี้ในสมองเธอสับสนไปหมด ทำไมจองอามาอยู่นี่ รู้จักกับโจอึนได้ยังไง ทำไมถึงเป็นโจอึน เธอทิ้งยุนนาทำไม แต่ทันใดเสียงของมงโดก็ดังขึ้น
"คิดถึงผลของการกระทำนี้ให้ดีที่สุดนะ เพื่อพี่ชายของเธอเอง" ยุนนาจึงได้สติ
"เอาล่ะ เราไปทานกันเลยดีไหม"โจอึนเอ่ยขึ้นพลางเดินโอบจองอานำไป ยุนนาได้แต่มองตามทั้งคู่อย่างเจ็บปวด จองอาเองก็อยากจะหันกลับไปมองคนข้างหลัง แต่กลัวโจอึนจะสังเกตอาการของเธอ
แล้วทั้งหมดก็มานั่งกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร โจอึนนั่งเป็นประธานที่หัวโต๊ะ ทำให้จองอาต้องนั่งเผชิญหน้ากับยุนนา เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารอย่างพะอืดพะอม เพราะยุนนาเอาแต่จ้องเธออย่างไม่วางตา
"อาหารเป็นยังไงบ้างยุนนา"โจอึนถามขึ้น
อร่อยมากค่ะ"เธอตอบ
"ได้ยินไหมจองอา จองอาเป็นคนทำน่ะ"เขาหันไปทางจองอา
"งั้นหรอคะ มิน่า ถึงได้อร่อยนัก"ยุนนาพูดพลางยิ้มๆมองจองอา
"หือ?"โจอึนงงกับคำพุดของยุนนา
"ฉันหมายถึง เธอดูเป็นแม่ศรีเรือนนะค่ะ"ยุนนาอธิบาย โจอึนจึงยิ้มอย่างภูมิใจ หากแต่มันทำให้จองอาทนกับสภาพอึดอัดนี้ไม่ไว้
"ฉันขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะ"จองอาพูดพร้อมลุกขึ้นทันที ยุนนาและโจอึนได้แต่มองตามอย่างสงสัย
"จะว่าไปฉันก็อยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน อั้นมานานแล้วล่ะค่ะ"ยุนนาพูดติดตลก
"งั้นหรอ เอาๆ เชิญๆ เลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปสุดทางจากนั้นก็เลี้ยวขวานะ"โจอึนจึงบอกทางให้ ยุนนาจึงเดินออกจากห้องไป
เมื่อพ้นสายตาโจอึนแล้วเธอจึงเร่งฝีเท้าตามจองอาไป ก่อนจะจับจองอาได้ทันตรงสุดทางเดินแล้วผลักเธอเข้ากับกำแพง
"อย่านะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"จองอาตกใจกับการกระทำของยุนนามาก หากแต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจ
"ยินดีที่ได้รู้จักหรอ ให้ตายเถอะเธอนี่ตีบทแตกจริงๆ"ยุนนาพูดใส่เธอพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ จองอาพยายามเบือนหน้าหนี หากแต่ก็ถูกยุนนารั้งหน้ากลับมาจูบจนได้ ลิ้นของยุนนาเข้ารุกรานจองอาทันที ทำให้เธอหมดแรงต้านทาน ทันใดนั้นทั้งคู่ก็แว่วเสียงฝีเท้าคนเดินมา ยุนนาจึงดึงจองอาเข้าไปในประตูที่อยู่ใกล้ๆตรงนั้น ในนั้นคือห้องเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน เมื่อพ้นสายตาคนยุนนาก็ไม่รอช้า ผลักจองอาเข้ากับกำแพงอีกครั้ง พร้อมจูบเธออย่างดูดดื่ม จองอาพยายามดิ้นรน แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ยุนนาล้วงลึกลงไปยังส่วนล่าง ทำเอาจองอาตั้งตัวไม่ทัน
“อย่า....อ้า ยุนนา”จองอาร้องห้ามพลางครางกระเส่า
ยุนนาไม่ฟังใช้มืออีกข้างล้วงเข้าใต้เสื้อไปเคล้าคลึงอกอิ่มของเธอ จากนั้นจึงเร่งจังหวะมือที่สัมผัสส่วนล่าง จองอาแทบยืนไม่ไว้ จึงโอบรอบคอของยุนนาไว้ ก่อนจะเกร็งตัวละสั่นเล็กน้อย แล้วจึงหอบหายใจเหนื่อย
“หนีไปกับฉันเถอะ”ยุนนากระซิบ จองอาจึงผลักเธอออก
“ฉันทำไม่ได้”จองอาตอบอย่างลำบากใจ
“นี่เธอรักไอ้แก่นั่นหรอ”ยุนนาพูดอย่างโมโห
“เธอทิ้งฉันมาหาไอ้แก่นั่น เธอรักมันงั้นหรอ”ยุนาเร่งเสียงดังขึ้น จองอาเกรงจะมีคนได้ยินจึงรีบตัดบท
“ใช่” ยุนนาได้ยินดังนั้นก็เลือดขึ้นหน้า เงื้อมือจะตบจองอา เธอเห็นดังนั้นก็กลัวหลบหน้าหนี หากแต่ยุนนาก็ไม่ลงมือ ได้แต่เดินฉุนเฉียวออกไป จองอามองตามก่อนจะทรุดตัวลงนั่งร้องไห้
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษยุนนา”เธอรำพึง
ยุนนาเดินกลับมายังห้องทานอาหารที่โจอึนกำลังรอการกลับมาของหญิงสาวทั้งคู่ เธอพยายามทำหน้าให้เรียบที่สุดและจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“เอ้านี่ภรรยาคุณยังไม่กลับมาอีกหรอคะ”ยุนนาแกล้งถาม
“อืม เธอเห็นเขาบ้างไหม”โจอึนจึงถามหาจองอากับเธอ
“ไม่เลยค่ะ อาจจะเพราะฉันเดินหลงทางด้วย ก็เลยหายไปนาน”ยุนนาตอบปฏิเสธพร้อมให้เหตุผล
“งั้นหรอ มิน่าไปซะนาน นี่ขนาดฉันให้คนไปตามยังไม่เจอใครเลย”โจอึนบอก ทำให้ยุนนานึกถึงเสียงฝีเท้าที่เธอได้ยิน คงเป็นคนที่โจอึนใช้ไปตามเป็นแน่ หากแต่สักครู่จองอาก็เดินเข้ามา
“จองอาเธอไปไหนมา เราทานของหวานกันแล้วนะ”โจอึนพูดขึ้นเมื่อเห็นเธอ
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย เลยไปพักมานะค่ะ”จองอากล่าวพลางนั่งลงที่เก้าอี้และสบตาเข้ากับยุนนา หากแต่ยุนนามองตอบอย่างไร้อารมณ์
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า ไม่สบายหรอ”โจอึนพูดอย่างเป็นห่วง เขาลุกขึ้นเอามือไปอังหน้าผากจองอา ยุนนาถึงกับตาเขียว เธอจึงปัดแก้วไวน์ตกพื้นดึงความสนใจโจอึนกลับมา
“อ่ะ ขอโทษค่ะ ฉันนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ”ยุนนากล่าว โจอึนจึงผละจากจองอามาดูโต๊ะฝั่งตรงข้าม
“ท่านดูแลแขกไปเถอะค่ะ ดิฉันขอตัวก่อน”จองอากล่าวพร้อมโค้งเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไป แต่ยุนนาก็พูดสวนขึ้น
“เอาไว้...พบกันคราวหน้านะค่ะ”ยุนนาบอกตามหลัง จองอาจึงหันกลับมา
“ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ สำหรับแขกท่านโจอึน” จองอาพูดจี้ใจยุนนา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คนฟังควันออกหู
หลังจากทานอาหารเสร็จ โจอึนพายุนนาไปยังห้องสมุดของเขา ห้องนี้เก็บหนังสือหายากมากมายรวมถึงเป็นที่โชว์งานศิลปะล้ำค่าอีกหลายชิ้น
“งดงามมากค่ะ ฉันไม่เคยเห็นที่ไหนมีงานศิลปะหลากหลายแบบนี้มาก่อน”ยุนนาลานตากับงานศิลป์ตรงหน้า โจอึนยิ้มอย่างพอใจ
“เป็นงานอดิเรกน่ะ ฉันชอบสะสมงานศิลปะ ฉันว่ามันประเมินค่าไม่ได้นะ”เขาบอก
“แต่ก็ซื้อหาได้ด้วยเงินใช่ไหมค่ะ”เธอพูดเบรกโจอึน เขาถึงกับอึ้ง ยุนนาจึงหัวเราะออกมา ให้เขาคิดว่าเธอพูดหยอกเล่น
“ฮึๆๆ เธอนี่ตลกร้ายจริงๆ มันก็จริงอย่างเธอว่านะ”โจอึนรู้สึกพอใจในตัวยุนนามากขึ้น
ยุนนาเดินไปเปิดหนังสือเล่มหนึ่งดู เธอรู้สึกสนใจมันมาก เพราะเป็นหนังสือรวมภาพหายากในอดีต
“เธอชอบหรอ เอาไปดูไหมล่ะ” โจอึนเสนอ
“ไม่เป็นไรค่ะ มันคงแพงมาก”ยุนนาตอบอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรเอาไปดูเถอะ แล้วถ้าชอบเล่มไหนอีก ก็เข้ามาดูได้ตามใจเธอเลยนะ”โจอึนยังคงเสนอต่อ มันเหมือนกับดักแสนหวานที่ล่อหลอกเหล่าแมลง สิ่งที่รออยู่คือหายนะ ยุนนารู้ดี หากแต่ก็ต้องเล่นตามน้ำ
“ขอบคุณค่ะ”เธอจึงหยิบมันขึ้นมา
จากนั้นโจอึนจึงเดินไปส่งเธอที่รถ
“อย่าลืมล่ะ ถ้าอยากดูอะไรอีก ก็เข้ามาได้เลย บ้านนี้ยินดีต้อนรับเสมอ”โจอึนพูดอย่างอ่อนโยน
“ค่ะ”ยุนนาตอบสั้นๆอย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่รถจะแล่นออกไป
หลังจากส่งยุนนาเรียบร้อย โจอึนก็รีบขึ้นไปดูจองอาทันที เขาเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆ เห็นเธอกำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกจึงเดินเข้าไปจับไหล่บางพร้อมก้มลงสูดกลิ่นหอมของเรือนผม จองอาหลบตัวหนีเล็กน้อย โจอึนจึงผละออกมา
“เป็นไงบ้างดีขึ้นรึยัง”เขาถามอย่างเป็นห่วง
“ค่ะ เขากลับไปแล้วหรอค่ะ”เธอตอบสั้นๆและถามถึงยุนนา
“หมายถึงยุนนาหรอ ใช่กลับแล้ว”โจอึนตอบ
จองอารู้สึกใจหายเล็กน้อยเมื่อคิดว่ายุนนากลับไปแล้ว จึงเผลอทำหน้าเศร้าออกมา โจอึนเข้าใจว่าเธอยังรู้สึกไม่สบายอยู่จึงเดินเข้าไปใกล้หมายจะอังหน้าผากดูอาการ หากแต่เธอกลับถอยหนี โจอึนเห็นดังนั้นจึงชักมือกลับ
“ถ้ายังงั้น เธอก็พักผ่อนเถอะ”โจอึนพูดเสร็จก็เดินออกไป ตั้งแต่แต่งงานเขาก็ไม่เคยได้นอนห้องเดียวกับเธอเลย เขารู้ว่าเธอไม่มีทางปฏิเสธเขาแน่ แต่ก็ไม่อยากทำร้ายน้ำใจเธอ จึงรออย่างมีความหวัง ว่าสักวันเธอจะยินยอมเป็นของเขาทั้งกายและใจ
วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553
After School ตอนที่15
After School
ตอนที่15
ณ โรงเรียนศิลปะ
“อ้า...สองวันแล้วซินะตั้งแต่วันนั้น” ยุนนาพูดกับตัวเอง และหยิบเอาสร้อยขึ้นมาดู
“วันนี้ไปหาจองอาที่คลับดีกว่าจะได้เซอร์ไพร์ส” ยุนนาพูดกับตัวเองแล้วก็หัวเราะคิกๆ จนเพื่อนโต๊ะข้างๆหันมามอง
หลังเลิกเรียนยุนนารีบตรงไปยังคลับ เธอเปิดโต๊ะหนึ่งโต๊ะนั่งคนเดียว
“น้องสาวจะนั่งคนเดียวจริงๆหรอจะ” โฮสเตสสุดเอ็กซ์คนหนึ่งพูดกับยุนนา
“ค่ะไม่เป็นไร ว่าแต่พี่สาวคนสวยจองอาจะมาเมื่อไหร่หรอ” ยุนนาถาม
“จองอาหรอ หล่อนไม่ได้มาที่นี่สักพักแล้วล่ะ ก็นะคนกำลังจะแต่งงานนี่ ว่าก็ว่าเถอะ น่าอิจฉายัยเด็กนั่นจริงๆ ก็พอจะรู้บ้างนะว่าเป็นเด็กของบอส แต่ไม่คิดว่าจะโชคดีขนาดได้ตบได้แต่ง นี่ละนะเสน่ห์ของสาวรุ่น” โฮสเตสสาวตอบยาวเหยียดพร้อมนินทาไปในตัว ยุนนาแทบช็อค เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไป ยุนนาเดินโซเซเหมือนคนเมา ภาพความทรงจำระหว่างทั้งสองก็ลอยเข้ามาในสมอง ทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งนักเมื่อคิดว่าที่ผ่านมาคือการหลอกลวง อารมณ์โกรธแค้นก็ปะทุขึ้น ยุนนาจึงตรงไปยังห้องของจองอาทันที เมื่อมาถึงหน้าประตุ ยุนนาเคาะมันอย่างบ้าคลั่ง
“ปังๆๆๆ จองอาๆ เปิดประตูเดี๋ยวนี้” ยุนนาตะโกนลั่น จองอาจึงรีบมาเปิดประตูทันที หากแต่ยังไม่ทันเปิดออกดี คนอารมณ์ร้อนก็ผลักเข้ามาและปิดประตูดังปัง
“ยุนนา เป็นอะไรรึเปล่า” จองอาสังเกตอาการที่ผิดปรกติของยุนนาตอนนี้เธอดูน่ากลัวมาก
“ผู้หญิงหลอกลวง เธอคงสนุกมากสินะที่หลอกฉันได้ คงแอบหัวเราะเยาะฉันละสิ” ยุนนาระเบิดอารมณ์ใส่ทันที จองอาได้แต่งง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“เรื่องอะไรกัน” จองอาถาม
“อย่ามาทำเป็นไขสือนะ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง” ยุนนาเดินเข้าไปบีบต้นแขนของจองอาอย่างแรง จนเธอหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ
“โอ้ย...ยุนนาฉันเจ็บ” จองอาร้อง
“สมควรแล้ว ผู้หญิงแพศยา ปากบอกขายแต่เสียงเพลง แต่ที่ไหนได้ ขอแค่มีเงินก็สั่นเข้าหาเขาเลยสินะ” ยุนนาพูดเหยียดหยาม จองอาโกรธมากจึงใช้มืออีกข้างตบเข้าหน้ายุนนาอย่างจัง นั่นทำให้อารมณ์โกรธแค้นของยุนนาถึงขีดสุด เธอจึงพลักร่างจองอาล้มลงและขึ้นคร่อมร่างบางนั้นทันที จองอาขัดขืนดิ้นอยู่ใต้ร่างยุนนา มือก็ปัดป้องไปทั่วจนไปข่วนหน้าของยุนนาเข้า เลือดซึมออกมาตามรอยข่วนนั่น จองอาตกใจกับการกระทำของตน ยุนนาจึงดึงเข็มขัดตัวเองออกมาและรัดแขนทั้งสองข้างของจองอาไว้เหนือศรีษะ จากนั้นก็ตบริมฝีปากบางของจองอาด้วยจูบอันดุดัน จองอาดิ้นรนหากแต่ก็ไม่สามารถต้านทานยุนนาได้ แม้นี่จะเป็นจูบที่จองอารอคอยมาตลอด แต่เธอก็ไม่อยากได้รับมันในสภาพแบบนี้ ยุนนาซุกไซร้ใบ หน้าลงไปยังซอกคอขาวและฉีกทึ้งเสื้อผ้าจองอาออก เสื้อสายเดี่ยวของจองอาหลุดตามแรงมือของยุนนา และยกทรงตัวน้อยก็เป็นรายต่อไป
“ไม่...ยุนนา ได้โปรด หยุดเถอะ” จองอาอ้อนวอนทั้งน้ำตา หากแต่คนหน้ามืดไม่สนใจฟัง ยุนนาขย้ำอกอิ่มของจองอาอย่างไม่ใยดี
“โอ้ย...ฉันเจ็บ”จองอาร้องอย่างเจ็บปวด ยุนนาไม่ได้ยินเสียงใดๆทั้งนั้น เธอก้มลงโลมเลียและดูดดื่มมันอย่างดุดัน จองอาได้แต่ร้องไห้จากความเจ็บปวดและเสียใจ หากแต่เธอก็มีอารมณ์ร่วมไปด้วย ทั้งที่ถูกกระทำอย่างรุนแรง อาจเพราะเป็นการกระทำจากคนที่เธอรักและต้องการเขามาตลอด เธอจึงไม่สามารถควบคุมร่างกายไม่ให้รู้สึกตามสัมผัสของยุนนาได้ ยุนนารุกรานซุกไซร้ไปตามเรือนร่างนวลเนียนของจองอาและลงต่ำไปยังส่วนล่าง แล้วถอดกางเกงตัวจิ๋วของจองอาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตามด้วยชั้นในตัวบาง หากแต่จองอาหุบขาเข้าทำให้ยุนนาไม่สามารถถอดออกได้ เธอโมโหจึงดึงมันขาดเป็นชิ้นๆ และใช้มือทั้งสองถ่างขาจองอาออก แล้วซุกหน้าลงไปตรงหว่างขานั้น จองอาเบือนหน้าหนีอย่างอับอายและเสียใจ ขณะที่ยุนนาลิ้มรสความสาวของเธอ
“อ่ะไม่....อ้า” แม้จะไม่เต็มใจแต่จองอาก็ห้ามร่างกายไม่ให้รู้สึกไม่ได้ เธอจึงหลุดครางอย่างลืมตัว ก่อนที่ยุนนาจะสอดนิ้วเข้าสัมผัสภายในที่ร้อนรุ่มของเธอ
“....อ่ะ..อ้า...อ้า...อ้า....” จองอาสติหลุดลอย ยุนนาเองก็เร่งจังหวะตามอารมณ์ของจองอา ในที่สุดหญิงสาวก็เกร็งตัวพลางยกสะโพกขึ้นก่อนจะหอบอย่างหมดแรง เมื่อได้สติหญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมา เธอร้องไห้อย่างเจ็บปวด ยุนนาเองเมื่อได้ระบายอารมณ์จนสมใจสติจึงกลับมา เธอมองภาพจองอาร้องไห้สะอึกสะอื้นก็สะเทือนใจ
“จองอาฉัน...ฉันขอโทษ” ยุนนาพูดพลางลุกจากร่างของจองอา เธอจึงพลิกตัวหลบหน้ายุนนาด้วยน้ำตาที่ไหลริน
“เธอพอใจแล้วใช่ไหม งั้นก็กลับไปได้แล้ว” จองอาพูดทั้งน้ำตา ยุนนารู้สึกเสียใจกับอารมณ์ชั่ววูบของตัวเองมาก เธอจึงถอดเสื้อตัวนอกห่มให้กับจองอาและแก้เข็มขัดที่พันธนาการหล่อนออก พร้อมทั้งช่วยพยุงตัวจองอาลุกนั่ง ก่อนจะยืนขึ้นและนั่งลงขอขมาจองอา
“ฉันขอโทษจริงๆ ฉันผิดไปแล้ว ฉันเสียใจมากที่เธอหลอกฉัน ฉันทนไม่ได้ที่เรื่องทั้งหมดระหว่างเราเป็นเพียงเรื่องโกหก” ยุนนาพูด
“ใครบอกเธอกันล่ะว่าฉันหลอกเธอ ฉันไม่เคยคิดที่จะหลอกเธอเลย และรู้ไว้ด้วยนะ ว่าเรื่องทั้งหมดนั้นนะไม่ใช่เรื่องหลอกลวง ฉัน...ฉันรักเธอ” จองอาพูดอย่างใส่อารมณ์ก่อนจะจบด้วยน้ำตา ยุนนาอึ้งกับคำบอกรักของเธอ จึงจับมือของจองอามากุมไว้
“ฉันเอง...ฉันก็....รักเธอ จนแทบคลั่ง” ยุนนาบอกความในใจ จองอาถึงกับปล่อยโฮเข้าไปซบยุนนา ยุนนากอดเธอไว้ด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด
ฉันขอโทษ ขอโทษนะจองอา” ยุนนาพร่ำบอกเธอ จองอาได้แต่ร้องไห้พลางส่ายหัวไปมาในอ้อมกอดของยุนนา เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร หากแต่เธอพูดไม่ออก ก่อนที่ทั้งคู่จะสบตากันด้วยความเข้าใจ และสื่อถึงความรักที่มีให้กัน ทันใดนั้นจองอาก็เอื้อมมือไปคล้องคอของยุนนา ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้และจูบเธออย่างแผ่วเบา ยุนนาตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของจองอา
“พาฉันไปในห้องหน่อยสิ” จองอากระซิบข้างหู ยุนนาตาเบิกกว้างเมื่อได้ยิน ก่อนจะลุกขึ้นอุ้มจองอาด้วยสองมือแล้วเดินเข้าห้องไป
ยุนนาพรมจูบอย่างอ่อนโยนตามรอยแดงที่เธอทำ ทั้งข้อมือสองที่ถูกมัด ริ้วรอยตามเนื้อตัวที่ถูกจับอย่างรุนแรง จองอารู้สึกร้อนไปทั้งตัวตามรอยที่ยุนนาจูบ แม้จะอยากให้ยุนนาทำต่อไป แต่อีกใจก็รั้งให้เธอหยุดการกระทำของยุนนาไว้ จองอาจับใบหน้าของยุนนาแล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้า ยุนนาจั๊กจี้เล็กน้อย ก่อนที่จองอาจะถอดเสื้อยุนนาออก ที่จองอาหยุดยุนนาเพราะเธออยากเป็นฝ่ายให้ความสุขแก่ยุนนาบ้าง จองอานิ่งมองหน้าอกของยุนนาสักครู่ และก้มลงจูบอย่างอ่อนโยน พร้อมเอื้อมมือไปข้างหลังของยุนนาเพื่อปลดตะขอบรา เมื่อบราถูกถอดก็เผยให้เห็นอกน้อยๆของยุนนา เธอรู้สึกอายเล็กน้อยที่จองอาจ้องมัน หากแต่ไม่นานนักจองอาเข้าสัมผัสและดูดดื่มมันทันที ทำให้ยุนนารู้สึกเสียวซ่านแทบปล่อยครางออกมา แต่เธอก็กลั้นไว้และผลักจองอาลงนอน ก่อนที่จะรีบถอดกางเกงตัวเองออก จองอามองอย่างรอคอย เมื่อยุนนาไร้ซึ่งอาภรณ์เธอก็โผเข้าหาจองอาที่อ้าแขนรอรับอ้อมกอดของเธอ ทั้งคู่กอดรัดเนื้อแนบเนื้อ ถ่ายทอดความรักแก่กันและกัน จองอาพลิกตัวเพื่ออยู่ข้างบนขณะที่ปากของพวกเธอยังจูบกันอย่างดูดดื่ม ยุนนาบีบเค้นก้นงอนๆของจองอาขณะแลกลิ้นกันนัวเนีย จากนั้นจองอาก็เลื่อนลงมาซุกไซร้กับอกตูมของยุนนา เธอเคล้าคลึงมันอย่างเบามือและดูดดื่มมันอย่างเมามัน จนยุนนาเผลอครางด้วยความเสียวซ่าน
“อ้า....จองอา” ยุนนาครางอย่างเสียวซ่าน
แล้วจองอาก็เลื่อนต่ำลงมายังส่วนล่าง เธอเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้กับยุนนา ยุนนามองจองอาตาเยิ้ม จากนั้นจองอาก็ก้มลงหว่างขาของเธอ เพื่อลิ้มรสความสาว จองอาลงลิ้นเนิบนาบก่อนจะเร่งเร็วขึ้นตามอารมณ์ ยุนนาสะกดกลั้นความเสียวซ่านไม่ไหว จึงจิกมือลงกับเตียงและครางออกมาอย่างลืมตัว
“อ้า..อ้า..อ้า...” ยุนนาครางพลางแอ่นสะโพกรับสัมผัส ก่อนที่จองอาจะหยุดการกระทำ ทำให้ยุนนามองเธออย่างอ้อนวอน จองอาจึงแทรกตัวเข้าไปยังหว่างขาของยุนนา เพื่อให้ส่วนที่ไวต่อสัมผัสของทั้งคู่สัมผัสกัน ก่อนจะขยับตัวตามอารมณ์ ยุนนาตกใจกับการกระทำนั้น หากแต่มันก็สร้างความเสียวซ่านต่อเธอมาก ส่วนสงวนของทั้งคู่เสียดสีกันไปมาและเร่งเร็วตามจังหวะของอารมณ์ ยุนนาทนเป็นฝ่ายรับอยู่ไม่ไหว เธอจึงลุกขึ้นผลักจองอาลงนอนและเข้าแทนตำแหน่งทันที ยุนนาเร่งจังหวะจนจองอาแทบขาดใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปโอบรอบคอของยุนนา และจิกลงแผ่นหลังด้วยความเสียวซ่านพร้อมกระตุกอย่างแรง แล้วทั้งคู่ก็ถึงฝั่งฝันพร้อมกัน ทั้งจองอาและยุนนาต่างหอบหายใจเหนื่อย พวกเธอมองสบตากันก่อนจะจูบกันอย่างหวานล้ำ ยุนนานอนซบบนร่างของจองอาอยู่อย่างงั้น จองอาเองก็ลูบผมยุนนาอย่างเอ็นดู ก่อนที่ยุนนาจะลุกพรวดขึ้น
“อ้าลืมเลย” ยุนนาอุทานออกมา เมื่อนึกถึงบางอย่างได้ เธอลงจากเตียงไปควานหาของบางอย่างในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะขึ้นเตียงมาพร้อมมัน เธอยื่นมันให้จองอาดู
“อะไรหรอ” จองอาถาม
“ฉันซื้อมาให้เธอ ตอบแทนที่เป็นแบบให้ฉัน” ยุนนาพุดพลางสวมมันให้จองอาเธอจึงรวบผมเพื่อให้ยุนนาสวมให้อย่างสะดวก
“เธอชอบไหม” ยุนนากระซิบถามข้างหูจากด้านหลังของจองอา จองอาจับจี้ผีเสื้อก่อนจะเอ่ยว่า
“ชอบสิ ของที่ได้จากเธอฉันชอบทั้งนั้นแหละ” เธอตอบ ยุนนาดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น จึงโอบกอดจองอาไว้และเริ่มไซร้ที่ท้ายทอยขาว พร้อมเคล้าคลึงอกอิ่มของจองอา จากนั้นไฟรักก็โหมขึ้นอีกครั้งและอีกครั้ง จนทั้งคู่เหนื่อยและผลอยหลับไป
ตอนที่15
ณ โรงเรียนศิลปะ
“อ้า...สองวันแล้วซินะตั้งแต่วันนั้น” ยุนนาพูดกับตัวเอง และหยิบเอาสร้อยขึ้นมาดู
“วันนี้ไปหาจองอาที่คลับดีกว่าจะได้เซอร์ไพร์ส” ยุนนาพูดกับตัวเองแล้วก็หัวเราะคิกๆ จนเพื่อนโต๊ะข้างๆหันมามอง
หลังเลิกเรียนยุนนารีบตรงไปยังคลับ เธอเปิดโต๊ะหนึ่งโต๊ะนั่งคนเดียว
“น้องสาวจะนั่งคนเดียวจริงๆหรอจะ” โฮสเตสสุดเอ็กซ์คนหนึ่งพูดกับยุนนา
“ค่ะไม่เป็นไร ว่าแต่พี่สาวคนสวยจองอาจะมาเมื่อไหร่หรอ” ยุนนาถาม
“จองอาหรอ หล่อนไม่ได้มาที่นี่สักพักแล้วล่ะ ก็นะคนกำลังจะแต่งงานนี่ ว่าก็ว่าเถอะ น่าอิจฉายัยเด็กนั่นจริงๆ ก็พอจะรู้บ้างนะว่าเป็นเด็กของบอส แต่ไม่คิดว่าจะโชคดีขนาดได้ตบได้แต่ง นี่ละนะเสน่ห์ของสาวรุ่น” โฮสเตสสาวตอบยาวเหยียดพร้อมนินทาไปในตัว ยุนนาแทบช็อค เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไป ยุนนาเดินโซเซเหมือนคนเมา ภาพความทรงจำระหว่างทั้งสองก็ลอยเข้ามาในสมอง ทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งนักเมื่อคิดว่าที่ผ่านมาคือการหลอกลวง อารมณ์โกรธแค้นก็ปะทุขึ้น ยุนนาจึงตรงไปยังห้องของจองอาทันที เมื่อมาถึงหน้าประตุ ยุนนาเคาะมันอย่างบ้าคลั่ง
“ปังๆๆๆ จองอาๆ เปิดประตูเดี๋ยวนี้” ยุนนาตะโกนลั่น จองอาจึงรีบมาเปิดประตูทันที หากแต่ยังไม่ทันเปิดออกดี คนอารมณ์ร้อนก็ผลักเข้ามาและปิดประตูดังปัง
“ยุนนา เป็นอะไรรึเปล่า” จองอาสังเกตอาการที่ผิดปรกติของยุนนาตอนนี้เธอดูน่ากลัวมาก
“ผู้หญิงหลอกลวง เธอคงสนุกมากสินะที่หลอกฉันได้ คงแอบหัวเราะเยาะฉันละสิ” ยุนนาระเบิดอารมณ์ใส่ทันที จองอาได้แต่งง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“เรื่องอะไรกัน” จองอาถาม
“อย่ามาทำเป็นไขสือนะ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง” ยุนนาเดินเข้าไปบีบต้นแขนของจองอาอย่างแรง จนเธอหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ
“โอ้ย...ยุนนาฉันเจ็บ” จองอาร้อง
“สมควรแล้ว ผู้หญิงแพศยา ปากบอกขายแต่เสียงเพลง แต่ที่ไหนได้ ขอแค่มีเงินก็สั่นเข้าหาเขาเลยสินะ” ยุนนาพูดเหยียดหยาม จองอาโกรธมากจึงใช้มืออีกข้างตบเข้าหน้ายุนนาอย่างจัง นั่นทำให้อารมณ์โกรธแค้นของยุนนาถึงขีดสุด เธอจึงพลักร่างจองอาล้มลงและขึ้นคร่อมร่างบางนั้นทันที จองอาขัดขืนดิ้นอยู่ใต้ร่างยุนนา มือก็ปัดป้องไปทั่วจนไปข่วนหน้าของยุนนาเข้า เลือดซึมออกมาตามรอยข่วนนั่น จองอาตกใจกับการกระทำของตน ยุนนาจึงดึงเข็มขัดตัวเองออกมาและรัดแขนทั้งสองข้างของจองอาไว้เหนือศรีษะ จากนั้นก็ตบริมฝีปากบางของจองอาด้วยจูบอันดุดัน จองอาดิ้นรนหากแต่ก็ไม่สามารถต้านทานยุนนาได้ แม้นี่จะเป็นจูบที่จองอารอคอยมาตลอด แต่เธอก็ไม่อยากได้รับมันในสภาพแบบนี้ ยุนนาซุกไซร้ใบ หน้าลงไปยังซอกคอขาวและฉีกทึ้งเสื้อผ้าจองอาออก เสื้อสายเดี่ยวของจองอาหลุดตามแรงมือของยุนนา และยกทรงตัวน้อยก็เป็นรายต่อไป
“ไม่...ยุนนา ได้โปรด หยุดเถอะ” จองอาอ้อนวอนทั้งน้ำตา หากแต่คนหน้ามืดไม่สนใจฟัง ยุนนาขย้ำอกอิ่มของจองอาอย่างไม่ใยดี
“โอ้ย...ฉันเจ็บ”จองอาร้องอย่างเจ็บปวด ยุนนาไม่ได้ยินเสียงใดๆทั้งนั้น เธอก้มลงโลมเลียและดูดดื่มมันอย่างดุดัน จองอาได้แต่ร้องไห้จากความเจ็บปวดและเสียใจ หากแต่เธอก็มีอารมณ์ร่วมไปด้วย ทั้งที่ถูกกระทำอย่างรุนแรง อาจเพราะเป็นการกระทำจากคนที่เธอรักและต้องการเขามาตลอด เธอจึงไม่สามารถควบคุมร่างกายไม่ให้รู้สึกตามสัมผัสของยุนนาได้ ยุนนารุกรานซุกไซร้ไปตามเรือนร่างนวลเนียนของจองอาและลงต่ำไปยังส่วนล่าง แล้วถอดกางเกงตัวจิ๋วของจองอาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตามด้วยชั้นในตัวบาง หากแต่จองอาหุบขาเข้าทำให้ยุนนาไม่สามารถถอดออกได้ เธอโมโหจึงดึงมันขาดเป็นชิ้นๆ และใช้มือทั้งสองถ่างขาจองอาออก แล้วซุกหน้าลงไปตรงหว่างขานั้น จองอาเบือนหน้าหนีอย่างอับอายและเสียใจ ขณะที่ยุนนาลิ้มรสความสาวของเธอ
“อ่ะไม่....อ้า” แม้จะไม่เต็มใจแต่จองอาก็ห้ามร่างกายไม่ให้รู้สึกไม่ได้ เธอจึงหลุดครางอย่างลืมตัว ก่อนที่ยุนนาจะสอดนิ้วเข้าสัมผัสภายในที่ร้อนรุ่มของเธอ
“....อ่ะ..อ้า...อ้า...อ้า....” จองอาสติหลุดลอย ยุนนาเองก็เร่งจังหวะตามอารมณ์ของจองอา ในที่สุดหญิงสาวก็เกร็งตัวพลางยกสะโพกขึ้นก่อนจะหอบอย่างหมดแรง เมื่อได้สติหญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมา เธอร้องไห้อย่างเจ็บปวด ยุนนาเองเมื่อได้ระบายอารมณ์จนสมใจสติจึงกลับมา เธอมองภาพจองอาร้องไห้สะอึกสะอื้นก็สะเทือนใจ
“จองอาฉัน...ฉันขอโทษ” ยุนนาพูดพลางลุกจากร่างของจองอา เธอจึงพลิกตัวหลบหน้ายุนนาด้วยน้ำตาที่ไหลริน
“เธอพอใจแล้วใช่ไหม งั้นก็กลับไปได้แล้ว” จองอาพูดทั้งน้ำตา ยุนนารู้สึกเสียใจกับอารมณ์ชั่ววูบของตัวเองมาก เธอจึงถอดเสื้อตัวนอกห่มให้กับจองอาและแก้เข็มขัดที่พันธนาการหล่อนออก พร้อมทั้งช่วยพยุงตัวจองอาลุกนั่ง ก่อนจะยืนขึ้นและนั่งลงขอขมาจองอา
“ฉันขอโทษจริงๆ ฉันผิดไปแล้ว ฉันเสียใจมากที่เธอหลอกฉัน ฉันทนไม่ได้ที่เรื่องทั้งหมดระหว่างเราเป็นเพียงเรื่องโกหก” ยุนนาพูด
“ใครบอกเธอกันล่ะว่าฉันหลอกเธอ ฉันไม่เคยคิดที่จะหลอกเธอเลย และรู้ไว้ด้วยนะ ว่าเรื่องทั้งหมดนั้นนะไม่ใช่เรื่องหลอกลวง ฉัน...ฉันรักเธอ” จองอาพูดอย่างใส่อารมณ์ก่อนจะจบด้วยน้ำตา ยุนนาอึ้งกับคำบอกรักของเธอ จึงจับมือของจองอามากุมไว้
“ฉันเอง...ฉันก็....รักเธอ จนแทบคลั่ง” ยุนนาบอกความในใจ จองอาถึงกับปล่อยโฮเข้าไปซบยุนนา ยุนนากอดเธอไว้ด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด
ฉันขอโทษ ขอโทษนะจองอา” ยุนนาพร่ำบอกเธอ จองอาได้แต่ร้องไห้พลางส่ายหัวไปมาในอ้อมกอดของยุนนา เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร หากแต่เธอพูดไม่ออก ก่อนที่ทั้งคู่จะสบตากันด้วยความเข้าใจ และสื่อถึงความรักที่มีให้กัน ทันใดนั้นจองอาก็เอื้อมมือไปคล้องคอของยุนนา ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้และจูบเธออย่างแผ่วเบา ยุนนาตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของจองอา
“พาฉันไปในห้องหน่อยสิ” จองอากระซิบข้างหู ยุนนาตาเบิกกว้างเมื่อได้ยิน ก่อนจะลุกขึ้นอุ้มจองอาด้วยสองมือแล้วเดินเข้าห้องไป
ยุนนาพรมจูบอย่างอ่อนโยนตามรอยแดงที่เธอทำ ทั้งข้อมือสองที่ถูกมัด ริ้วรอยตามเนื้อตัวที่ถูกจับอย่างรุนแรง จองอารู้สึกร้อนไปทั้งตัวตามรอยที่ยุนนาจูบ แม้จะอยากให้ยุนนาทำต่อไป แต่อีกใจก็รั้งให้เธอหยุดการกระทำของยุนนาไว้ จองอาจับใบหน้าของยุนนาแล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้า ยุนนาจั๊กจี้เล็กน้อย ก่อนที่จองอาจะถอดเสื้อยุนนาออก ที่จองอาหยุดยุนนาเพราะเธออยากเป็นฝ่ายให้ความสุขแก่ยุนนาบ้าง จองอานิ่งมองหน้าอกของยุนนาสักครู่ และก้มลงจูบอย่างอ่อนโยน พร้อมเอื้อมมือไปข้างหลังของยุนนาเพื่อปลดตะขอบรา เมื่อบราถูกถอดก็เผยให้เห็นอกน้อยๆของยุนนา เธอรู้สึกอายเล็กน้อยที่จองอาจ้องมัน หากแต่ไม่นานนักจองอาเข้าสัมผัสและดูดดื่มมันทันที ทำให้ยุนนารู้สึกเสียวซ่านแทบปล่อยครางออกมา แต่เธอก็กลั้นไว้และผลักจองอาลงนอน ก่อนที่จะรีบถอดกางเกงตัวเองออก จองอามองอย่างรอคอย เมื่อยุนนาไร้ซึ่งอาภรณ์เธอก็โผเข้าหาจองอาที่อ้าแขนรอรับอ้อมกอดของเธอ ทั้งคู่กอดรัดเนื้อแนบเนื้อ ถ่ายทอดความรักแก่กันและกัน จองอาพลิกตัวเพื่ออยู่ข้างบนขณะที่ปากของพวกเธอยังจูบกันอย่างดูดดื่ม ยุนนาบีบเค้นก้นงอนๆของจองอาขณะแลกลิ้นกันนัวเนีย จากนั้นจองอาก็เลื่อนลงมาซุกไซร้กับอกตูมของยุนนา เธอเคล้าคลึงมันอย่างเบามือและดูดดื่มมันอย่างเมามัน จนยุนนาเผลอครางด้วยความเสียวซ่าน
“อ้า....จองอา” ยุนนาครางอย่างเสียวซ่าน
แล้วจองอาก็เลื่อนต่ำลงมายังส่วนล่าง เธอเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้กับยุนนา ยุนนามองจองอาตาเยิ้ม จากนั้นจองอาก็ก้มลงหว่างขาของเธอ เพื่อลิ้มรสความสาว จองอาลงลิ้นเนิบนาบก่อนจะเร่งเร็วขึ้นตามอารมณ์ ยุนนาสะกดกลั้นความเสียวซ่านไม่ไหว จึงจิกมือลงกับเตียงและครางออกมาอย่างลืมตัว
“อ้า..อ้า..อ้า...” ยุนนาครางพลางแอ่นสะโพกรับสัมผัส ก่อนที่จองอาจะหยุดการกระทำ ทำให้ยุนนามองเธออย่างอ้อนวอน จองอาจึงแทรกตัวเข้าไปยังหว่างขาของยุนนา เพื่อให้ส่วนที่ไวต่อสัมผัสของทั้งคู่สัมผัสกัน ก่อนจะขยับตัวตามอารมณ์ ยุนนาตกใจกับการกระทำนั้น หากแต่มันก็สร้างความเสียวซ่านต่อเธอมาก ส่วนสงวนของทั้งคู่เสียดสีกันไปมาและเร่งเร็วตามจังหวะของอารมณ์ ยุนนาทนเป็นฝ่ายรับอยู่ไม่ไหว เธอจึงลุกขึ้นผลักจองอาลงนอนและเข้าแทนตำแหน่งทันที ยุนนาเร่งจังหวะจนจองอาแทบขาดใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปโอบรอบคอของยุนนา และจิกลงแผ่นหลังด้วยความเสียวซ่านพร้อมกระตุกอย่างแรง แล้วทั้งคู่ก็ถึงฝั่งฝันพร้อมกัน ทั้งจองอาและยุนนาต่างหอบหายใจเหนื่อย พวกเธอมองสบตากันก่อนจะจูบกันอย่างหวานล้ำ ยุนนานอนซบบนร่างของจองอาอยู่อย่างงั้น จองอาเองก็ลูบผมยุนนาอย่างเอ็นดู ก่อนที่ยุนนาจะลุกพรวดขึ้น
“อ้าลืมเลย” ยุนนาอุทานออกมา เมื่อนึกถึงบางอย่างได้ เธอลงจากเตียงไปควานหาของบางอย่างในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะขึ้นเตียงมาพร้อมมัน เธอยื่นมันให้จองอาดู
“อะไรหรอ” จองอาถาม
“ฉันซื้อมาให้เธอ ตอบแทนที่เป็นแบบให้ฉัน” ยุนนาพุดพลางสวมมันให้จองอาเธอจึงรวบผมเพื่อให้ยุนนาสวมให้อย่างสะดวก
“เธอชอบไหม” ยุนนากระซิบถามข้างหูจากด้านหลังของจองอา จองอาจับจี้ผีเสื้อก่อนจะเอ่ยว่า
“ชอบสิ ของที่ได้จากเธอฉันชอบทั้งนั้นแหละ” เธอตอบ ยุนนาดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น จึงโอบกอดจองอาไว้และเริ่มไซร้ที่ท้ายทอยขาว พร้อมเคล้าคลึงอกอิ่มของจองอา จากนั้นไฟรักก็โหมขึ้นอีกครั้งและอีกครั้ง จนทั้งคู่เหนื่อยและผลอยหลับไป
ป้ายกำกับ:
After School
วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553
After School ตอนที่ 14
After School
ตอนที่ 14
ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง
“รางวัลชนะเลิศการประกวดศิลปะระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ ซินยุนนา จากโรงเรียนศิลปะครับ” ผู้ประกาศรางวัลประกาศขึ้นในงาน มงโดและยุนนาต่างกระโดดีใจเมื่อได้ยิน แล้วยุนนาก็ขึ้นไปรับรางวัล ผู้มอบรางวัลคือ คิมโจอึน หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน
“ยินดีด้วยนะ” โจอึนพูดแสดงความยินดีขณะมอบรางวัลให้ยุนนา เธอรับมันมาอย่างภาคภูมิใจหลังงานเลิกยุนนาก็รีบขอตัวกลับทันที
“เดี๋ยวยุนนาจะไปไหนนะ” มงโดร้องเรียกเธอไว้
“หนูมีธุระนิดหน่อย เดี๋ยวตามไปจารย์” เธอพูดจบก็รีบวิ่งไปทันที
“อย่าลืมงานเลี้ยงคืนนี้ล่ะ” มงโดตะโกนตามหลัง หากแต่เธอคงไม่ได้ยินซะแล้ว เพราะหัวใจนั้นวิ่งไปก่อนตัวซะอีก เธอมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่หัวใจอยากจะแวะไปทุกวัน หากแต่ที่ผ่านมามงโดคุมเข้มฝึกเธอทั้งวันทั้งคืน ไม่ปล่อยให้เธอไปไหนเลย เธอจึงได้แต่โทรศัพท์บรรเทาอาการคิดถึงไปยังจองอานางฟ้าของเธอ แต่วันนี้ถึงยังไงยุนนาก็ต้องพบหน้าเธอให้ได้ เพื่อบอกข่าวดีนี้ให้เธอรู้ ระหว่างทางยุนนาผ่านร้านเครื่องประดับร้านหนึ่ง จึงเดินเข้าไปเลือกดู เธอถูกใจสร้อยเงินจี้ผีเสื้ออย่างมาก จึงตัดสินใจซื้อติดมือเพื่อนำไปมอบให้จองอา จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังห้องของจองอา เมื่อมาถึงหน้าห้อง ยุนนากำลังจะเคาะประตุ แต่จองอาก็เปิดออกมาพอดี
“ยุนนา เธอมาได้ยังไง” จองอากล่าวอย่างตกใจเมื่อเห็นยุนนาหน้าห้อง
“ก็คิดถึงนะซิ เลยมาหา” ยุนนาพูด จองอาถึงกับหน้าแดง
“แล้วก็มีข่าวดีมาบอก” ยุนนาพูดแย้มๆ จองอาจึงทำหน้างง
“ข่าวดีอะไรหรอ” จองอาถาม
“เข้าไปข้างในก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะบอก” ยุนนาพูดพลางโอบจองอาเดินเข้าห้อง
“พอดีฉันต้องออกไปข้างนอกนะ”จองอาพูด
“ไปไหนหรอ”ยุนนาถามอย่างสงสัย จองอาครุ่นคิดสักพักจึงตอบ
“ไปซื้อของน่ะ เดี๋ยวฉันกลับมาแป๊บเดียว รอก่อนนะ” ยุนนาพยักหน้ารับทราบ จองอาจึงรีบเดินจากไป ยุนนาเลยเข้ามารอเธอภายในห้องจองอารีบไปยังที่หมาย
“ขอโทษค่ะที่ช้า” เธอกล่าวขอโทษชายที่นั่งรอการมาของเธออยู่
“ไม่เป็นไร ทานกันเลยไหม”เขากล่าว เธอจึงนั่งลงทานอาหาร
“เหลืออีกสามวันแล้วซินะ อ้า...ฉันตื่นเต้นจังเลย” เขาพูดขึ้น เธอถึงกับหมดความอยากอาหารเลยทีเดียว จึงรวบช้อนวาง
“อิ่มแล้วหรอ”เขาถาม
“ค่ะ พอดีว่าฉันเพิ่งทานไปนะค่ะ” เธอตอบ
“งั้นจะเอาของหวานเลยไหมล่ะ” เขาเสนอ
“ไม่ล่ะค่ะ ฉันอิ่มแล้ว และถ้าท่านไม่ว่าอะไร ฉันขอตัวกลับก่อนได้ไหมค่ะ พอดีว่าฉันมีธุระต้องทำนิดหน่อยนะค่ะ” เธอกล่าวพร้อมลุกขึ้น
“ฉันจะว่าอะไรได้ล่ะ” เขากล่าวอย่างน้อยใจเล็กน้อย หากแต่เธอก็ไม่สนใจ เดินออกมาทันที เขาได้แต่มองตามเธอขณะที่ยุนนากำลังรอจองอาอยู่นั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
“นี่เธออยู่ไหนเนี่ย กี่โมงกี่ยามแล้วเมื่อไหร่จะมา” มงโดเม้งใส่เธอทันที
“โธ่จารย์อีกแป๊บนึงหนูทำธุระอยู่” เธอตอบ
“ธุระบ้าอะไร ฉันรู้นะว่าเธออยู่ไหน อย่าให้ฉันต้องไปลากเธอมานะ รีบมาเดี๋ยวนี้เลยไม่งั้นเธอเจอดีแน่” เขาขู่ ยุนนาครุ่นคิดสักพักจึงตัดสินใจ
“เออๆ รู้แล้วจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เธอจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้อง และทิ้งโน้ตเอาไว้ให้จองอา ระหว่างทางเธอก็ได้แต่นึกเสียดายที่ไม่ได้พบจองอา
“ไว้ค่อยให้ครั้งหน้าก็ได้” ยุนนาพูดพลางหยิบสร้อยผีเสื้อขึ้นมาดูจองอาเองเมื่อผละจากชายคนนั้นได้ เธอก็รีบกลับห้องทันที หากแต่ก็คลาดกันกับยุนนา เธอเข้ามาเห็นเพียงห้องที่ว่างเปล่า และโน้ตสั้นๆหนึ่งใบ
“จองอาฉันมีธุระด่วน ต้องไปก่อน ไว้เจอกันคราวหน้านะ จุ๊บๆ” ยุนนาเขียน จองอาอ่านจบก็อมยิ้ม แล้วก็ทำหน้าเศร้า ทั้งที่เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วเธอก็ยังไม่ได้บอกยุนนาเรื่องแต่งงาน
“ฉันจะทำยังไงดี ทำไมไม่รออีกนิดนะยุนนา” เธอรำพึงฝั่งยุนนาเมื่อเดินทางมาถึงบ้านของมงโดก็บ่นเป็นหมีกินผึ้ง
“ไหนล่ะอาหาร ไหนว่าให้รีบมาไง พี่ซานยังไม่เห็นมาเลย”ยุนนาบ่นอุบ
“ใครว่าไม่มาล่ะ โน่นทำอาหารอยู่ในครัวโน่น” มงโดตอบ
“มาแล้วๆ พิซซ่าหน้าซีฟู๊ตบิ๊กเบิ้ม” อีซานพูดพลางยกพิซซ่าถาดใหญ่ออกมา
“โห นี่พี่ซานทำเองหรอค่ะ” ยุนนามองพิซซ่าตาโต
“จ้า เห็นว่ายุนนาชอบพิซซ่านี่ แล้วก็ชอบอาหารทะเลด้วยใช่ไหม พี่เลยทำพิซซ่าหน้าซีฟู๊ตให้น่ะ” อีซานตอบ
“สุดยอดเลยค่ะพี่ซาน พี่ซานเก่งจังเลยทำอาหารได้ทุกอย่างเลย” ยุนนาชม
“ไม่หรอก บางอย่างก็ทำไม่เป็นหรอกนะ” อีซานถ่อมตัว
“โอ้ น่ากินชะมัด” มงโดพูดพร้อมเอื้อมมือมาหยิบพิซซ่า แต่โดนอีซานตีมือสกัดไว้
“นี่ของยุนนา” อีซานบอก
“ใช่ๆอะไรอ่ะจารย์อย่ามาเนียนนะ” ยุนนาสมทบ
“อะไรๆ นี่เธองกกับฉันหรอ” มงโดว่า
“เปล่านะอาจารย์ แต่พี่ซานเขาทำให้ฉันคนเดียวนี่ ใช่ไหมพี่ซาน”ยุนนาพูดพลางหันไปพยักหน้าถามอีซาน แต่มงโดไม่หยุดความพยายาม ยังคงเข้าไปแย่งยุนนา
“เธอนะกินแค่ครึ่งชิ้นก็พอแล้ว เป็นผู้หญิงนะเขาไม่กินเยอะหรอก เดี๋ยวอ้วนเป็นหมูไม่มีคนมาขอนะ” มงโดพูดใส่ยุนนา
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องห่วงอาจารย์ถ้าไม่มาขอเดี๋ยวฉันไปขอเอง” ยุนนาต่อปากต่อคำพร้อมถือถาดหลบหลีกการแย่งชิงจากมงโดอีซานเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหว
“พอทีไม่ต้องแย่งกัน ของนายนะฉันทำให้แล้ว กำลังอบอยู่พิซซ่าหน้ากิมจิ”อีวานตะโกนบอกทั้งสอง มงโดจึงหยุดศึกชิงพิซซ่านี้
“หา? พิซซ่าหน้ากิมจิหรอ มีหน้านี้ด้วย” ยุนนาถามอย่างสงสัย
“หมอนี่เขาชอบกิมจิน่ะ” อีซานตอบ
“ว้าวอยากลองจัง” ยุนนาบอก
“พอเลย อย่าแม้แต่จะคิด ซานทำให้ฉันคนเดียวโว้ย” มงโดได้ทีพูดใส่ยุนนา
“แลกกันนะอาจารย์” ยุนนาต่อลอง แล้วศึกแลกพิซซ่าก็เริ่มขึ้น
ตอนที่ 14
ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง
“รางวัลชนะเลิศการประกวดศิลปะระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ ซินยุนนา จากโรงเรียนศิลปะครับ” ผู้ประกาศรางวัลประกาศขึ้นในงาน มงโดและยุนนาต่างกระโดดีใจเมื่อได้ยิน แล้วยุนนาก็ขึ้นไปรับรางวัล ผู้มอบรางวัลคือ คิมโจอึน หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน
“ยินดีด้วยนะ” โจอึนพูดแสดงความยินดีขณะมอบรางวัลให้ยุนนา เธอรับมันมาอย่างภาคภูมิใจหลังงานเลิกยุนนาก็รีบขอตัวกลับทันที
“เดี๋ยวยุนนาจะไปไหนนะ” มงโดร้องเรียกเธอไว้
“หนูมีธุระนิดหน่อย เดี๋ยวตามไปจารย์” เธอพูดจบก็รีบวิ่งไปทันที
“อย่าลืมงานเลี้ยงคืนนี้ล่ะ” มงโดตะโกนตามหลัง หากแต่เธอคงไม่ได้ยินซะแล้ว เพราะหัวใจนั้นวิ่งไปก่อนตัวซะอีก เธอมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่หัวใจอยากจะแวะไปทุกวัน หากแต่ที่ผ่านมามงโดคุมเข้มฝึกเธอทั้งวันทั้งคืน ไม่ปล่อยให้เธอไปไหนเลย เธอจึงได้แต่โทรศัพท์บรรเทาอาการคิดถึงไปยังจองอานางฟ้าของเธอ แต่วันนี้ถึงยังไงยุนนาก็ต้องพบหน้าเธอให้ได้ เพื่อบอกข่าวดีนี้ให้เธอรู้ ระหว่างทางยุนนาผ่านร้านเครื่องประดับร้านหนึ่ง จึงเดินเข้าไปเลือกดู เธอถูกใจสร้อยเงินจี้ผีเสื้ออย่างมาก จึงตัดสินใจซื้อติดมือเพื่อนำไปมอบให้จองอา จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังห้องของจองอา เมื่อมาถึงหน้าห้อง ยุนนากำลังจะเคาะประตุ แต่จองอาก็เปิดออกมาพอดี
“ยุนนา เธอมาได้ยังไง” จองอากล่าวอย่างตกใจเมื่อเห็นยุนนาหน้าห้อง
“ก็คิดถึงนะซิ เลยมาหา” ยุนนาพูด จองอาถึงกับหน้าแดง
“แล้วก็มีข่าวดีมาบอก” ยุนนาพูดแย้มๆ จองอาจึงทำหน้างง
“ข่าวดีอะไรหรอ” จองอาถาม
“เข้าไปข้างในก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะบอก” ยุนนาพูดพลางโอบจองอาเดินเข้าห้อง
“พอดีฉันต้องออกไปข้างนอกนะ”จองอาพูด
“ไปไหนหรอ”ยุนนาถามอย่างสงสัย จองอาครุ่นคิดสักพักจึงตอบ
“ไปซื้อของน่ะ เดี๋ยวฉันกลับมาแป๊บเดียว รอก่อนนะ” ยุนนาพยักหน้ารับทราบ จองอาจึงรีบเดินจากไป ยุนนาเลยเข้ามารอเธอภายในห้องจองอารีบไปยังที่หมาย
“ขอโทษค่ะที่ช้า” เธอกล่าวขอโทษชายที่นั่งรอการมาของเธออยู่
“ไม่เป็นไร ทานกันเลยไหม”เขากล่าว เธอจึงนั่งลงทานอาหาร
“เหลืออีกสามวันแล้วซินะ อ้า...ฉันตื่นเต้นจังเลย” เขาพูดขึ้น เธอถึงกับหมดความอยากอาหารเลยทีเดียว จึงรวบช้อนวาง
“อิ่มแล้วหรอ”เขาถาม
“ค่ะ พอดีว่าฉันเพิ่งทานไปนะค่ะ” เธอตอบ
“งั้นจะเอาของหวานเลยไหมล่ะ” เขาเสนอ
“ไม่ล่ะค่ะ ฉันอิ่มแล้ว และถ้าท่านไม่ว่าอะไร ฉันขอตัวกลับก่อนได้ไหมค่ะ พอดีว่าฉันมีธุระต้องทำนิดหน่อยนะค่ะ” เธอกล่าวพร้อมลุกขึ้น
“ฉันจะว่าอะไรได้ล่ะ” เขากล่าวอย่างน้อยใจเล็กน้อย หากแต่เธอก็ไม่สนใจ เดินออกมาทันที เขาได้แต่มองตามเธอขณะที่ยุนนากำลังรอจองอาอยู่นั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
“นี่เธออยู่ไหนเนี่ย กี่โมงกี่ยามแล้วเมื่อไหร่จะมา” มงโดเม้งใส่เธอทันที
“โธ่จารย์อีกแป๊บนึงหนูทำธุระอยู่” เธอตอบ
“ธุระบ้าอะไร ฉันรู้นะว่าเธออยู่ไหน อย่าให้ฉันต้องไปลากเธอมานะ รีบมาเดี๋ยวนี้เลยไม่งั้นเธอเจอดีแน่” เขาขู่ ยุนนาครุ่นคิดสักพักจึงตัดสินใจ
“เออๆ รู้แล้วจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เธอจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้อง และทิ้งโน้ตเอาไว้ให้จองอา ระหว่างทางเธอก็ได้แต่นึกเสียดายที่ไม่ได้พบจองอา
“ไว้ค่อยให้ครั้งหน้าก็ได้” ยุนนาพูดพลางหยิบสร้อยผีเสื้อขึ้นมาดูจองอาเองเมื่อผละจากชายคนนั้นได้ เธอก็รีบกลับห้องทันที หากแต่ก็คลาดกันกับยุนนา เธอเข้ามาเห็นเพียงห้องที่ว่างเปล่า และโน้ตสั้นๆหนึ่งใบ
“จองอาฉันมีธุระด่วน ต้องไปก่อน ไว้เจอกันคราวหน้านะ จุ๊บๆ” ยุนนาเขียน จองอาอ่านจบก็อมยิ้ม แล้วก็ทำหน้าเศร้า ทั้งที่เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วเธอก็ยังไม่ได้บอกยุนนาเรื่องแต่งงาน
“ฉันจะทำยังไงดี ทำไมไม่รออีกนิดนะยุนนา” เธอรำพึงฝั่งยุนนาเมื่อเดินทางมาถึงบ้านของมงโดก็บ่นเป็นหมีกินผึ้ง
“ไหนล่ะอาหาร ไหนว่าให้รีบมาไง พี่ซานยังไม่เห็นมาเลย”ยุนนาบ่นอุบ
“ใครว่าไม่มาล่ะ โน่นทำอาหารอยู่ในครัวโน่น” มงโดตอบ
“มาแล้วๆ พิซซ่าหน้าซีฟู๊ตบิ๊กเบิ้ม” อีซานพูดพลางยกพิซซ่าถาดใหญ่ออกมา
“โห นี่พี่ซานทำเองหรอค่ะ” ยุนนามองพิซซ่าตาโต
“จ้า เห็นว่ายุนนาชอบพิซซ่านี่ แล้วก็ชอบอาหารทะเลด้วยใช่ไหม พี่เลยทำพิซซ่าหน้าซีฟู๊ตให้น่ะ” อีซานตอบ
“สุดยอดเลยค่ะพี่ซาน พี่ซานเก่งจังเลยทำอาหารได้ทุกอย่างเลย” ยุนนาชม
“ไม่หรอก บางอย่างก็ทำไม่เป็นหรอกนะ” อีซานถ่อมตัว
“โอ้ น่ากินชะมัด” มงโดพูดพร้อมเอื้อมมือมาหยิบพิซซ่า แต่โดนอีซานตีมือสกัดไว้
“นี่ของยุนนา” อีซานบอก
“ใช่ๆอะไรอ่ะจารย์อย่ามาเนียนนะ” ยุนนาสมทบ
“อะไรๆ นี่เธองกกับฉันหรอ” มงโดว่า
“เปล่านะอาจารย์ แต่พี่ซานเขาทำให้ฉันคนเดียวนี่ ใช่ไหมพี่ซาน”ยุนนาพูดพลางหันไปพยักหน้าถามอีซาน แต่มงโดไม่หยุดความพยายาม ยังคงเข้าไปแย่งยุนนา
“เธอนะกินแค่ครึ่งชิ้นก็พอแล้ว เป็นผู้หญิงนะเขาไม่กินเยอะหรอก เดี๋ยวอ้วนเป็นหมูไม่มีคนมาขอนะ” มงโดพูดใส่ยุนนา
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องห่วงอาจารย์ถ้าไม่มาขอเดี๋ยวฉันไปขอเอง” ยุนนาต่อปากต่อคำพร้อมถือถาดหลบหลีกการแย่งชิงจากมงโดอีซานเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหว
“พอทีไม่ต้องแย่งกัน ของนายนะฉันทำให้แล้ว กำลังอบอยู่พิซซ่าหน้ากิมจิ”อีวานตะโกนบอกทั้งสอง มงโดจึงหยุดศึกชิงพิซซ่านี้
“หา? พิซซ่าหน้ากิมจิหรอ มีหน้านี้ด้วย” ยุนนาถามอย่างสงสัย
“หมอนี่เขาชอบกิมจิน่ะ” อีซานตอบ
“ว้าวอยากลองจัง” ยุนนาบอก
“พอเลย อย่าแม้แต่จะคิด ซานทำให้ฉันคนเดียวโว้ย” มงโดได้ทีพูดใส่ยุนนา
“แลกกันนะอาจารย์” ยุนนาต่อลอง แล้วศึกแลกพิซซ่าก็เริ่มขึ้น
ป้ายกำกับ:
After School
วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553
After School ตอนที่ 13
After School
ตอนที่ 13
ภายในโรงภาพยนตร์อันหรูหรา ผู้ชมกำลังตั้งใจชมภาพยนตร์สยองขวัญที่ฉายอยู่ มีเพียงหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้นที่นั่งมองเหม่ออยู่
“เป็นอะไรไปจองอา หนังไม่สนุกหรอ” ชายวัยกลางคนที่นั่งข้างๆเธอถามขึ้น
“อ้อเปล่าค่ะ สนุกดี” เธอตอบพลางหันหน้าไปสนใจกับจอตรงหน้า
“ฉันแปลกใจจริงๆ ที่วันนี้เธอเป็นคนเลือกหนังเอง แถมยังเลือกเป็นหนังผีซะอีก คาดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะชอบหนังผีนะ” เขากล่าวพลางมองเธออย่างอ่อนโยน
ที่นี่คือโรงภาพยนตร์ที่จองอาเคยมากับยุนนา เธอมักมาดูหนังที่นี่บ่อยๆกับชายคนนี้ วันนี้ก็เช่นกัน หากแต่วันนี้เธอเป็นคนเรื่องหนังดูเองผิดกับทุกครั้งที่ดูตามใจเขา ที่เธอเลือกหนังผีเพราะเป็นเรื่องเดียวกับที่ดูกับยุนนา เพื่อจะได้รู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังดูหนังกับยุนนาอยู่ หากแต่มันกลับไม่ได้รู้สึกอย่างที่คิดเมื่อเข้ามาอยู่ในโรง เธอกลับคิดถึงยุนนามากขึ้นไปอีก เพราะตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้พบกับยุนนาอีกเลย มีเพียงแค่โทรหากันเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่สามารถบรรเทาความคิดถึงของเธอได้ จนทำให้เธอเผลอหลุดอาการเหม่อลอยต่อหน้าชายผู้นี้
“วันนี้ดูเธอเหม่อๆชอบกลน่ะ มีอะไรหรือเปล่า” ชายวัยกลางคนถาม ขณะที่รับประทานอาหารในร้านอาหารฝรั่งเศส ณ โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร คิดเรื่องงานนิดหน่อย” เธอตอบ
“งานหรอ เธอยังไปที่คลับอยู่หรอ” เขาถาม เธอพยักหน้าตอบ
“ถ้ามันลำบากนัก ก็ไม่ต้องไปก็ได้นะ ฉันเองเห็นว่าเธอชอบเล่นดนตรีเลยให้ไปเล่นที่นั่น ไม่ได้บังคับอะไร ถ้ามันทำให้เธอยุ่งยาก ก็ไม่ต้องไปหรอกนะ” เขาบอกในฐานนะเจ้าของคลับนั้น
“ไม่เลยค่ะ ฉันชอบและยังอยากจะเล่นที่นั่นอยู่ ไม่ลำบากหรอกค่ะ” เธอตอบ เพราะที่นั่นเป็นที่เดียวที่เธอจะสามารถเล่นดนตรีให้คนฟังได้ แม้เธอจะรู้อยู่แก่ใจว่า คนพวกนั้นไม่ได้ฟังมันเลยก็ตาม
“งั้นหรอ ถ้างั้นก็ตามใจเธอนะ แต่ว่าหลังแต่งงานฉันไม่ยอมให้เธอไปแล้วนะ” เขาพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน หากแต่เมื่อเธอฟังมันกลับรู้สึกเจ็บปวด แม้จะรู้ดีและเตรียมใจกับเรื่องนี้มานานแล้ว แต่นั่นมันก่อนที่เธอจะได้พบกับยุนนา ผู้หญิงที่เธอเผลอรักจนหมดใจ เมื่อคิดถึงยุนนาเธอก็ยิ่งเจ็บปวด แม้จะรุ้ดีว่าไม่มีทางสมหวัง แต่ใจดื้อดึงก็ไม่ยอมฟัง กลับเอาตัวเข้าไปพัวพันกับยุนนา จนตอนนี้ถอนหัวใจไม่ทันซะแล้ว และเวลาของเธอก็ใหล้จะหมดเต็มที
“อาหารไม่ถูกปากหรอ จะเปลี่ยนร้านไหม” ชายคนนั้นถามเมื่อเห็นเธอไม่แตะอาหาร
“ไม่ค่ะ อร่อยมาก” เธอตอบ
“งั้นก็ทานเยอะๆนะ ฉันไม่อยากได้เจ้าสาวผอมแห้งแรงน้อยนะรู้ไหม” เขาบอก เธอจึงได้แต่เพียงก้มหน้าทานอาหารอย่างขมขื่น อีกสองสัปดาห์จะเป็นวันเกิดอายุครบสิบแปดปีของเธอ และเป็นวันที่ชายคนนี้พร่ำบอกเธอมาตลอดตั้งแต่เธอสิบขวบ ซึ่งเป็นตอนที่เขารับเธอมาเลี้ยง
“เธอจะต้องเป็นเจ้าสาวของฉันนะจองอา เมื่อเธออายุครบสิบแปด เราจะแต่งงานกัน” ชายคนนั้นบอกกับเธอเมื่อตอนที่พบกันครั้งแรก เขาหลงใหลในตัวจองอาตั้งแต่แรกเห็น แม้เธอจะมีอายุได้เพียงสิบขวบก็ตาม (เฒ่าหัวงู)
ตอนที่ 13
ภายในโรงภาพยนตร์อันหรูหรา ผู้ชมกำลังตั้งใจชมภาพยนตร์สยองขวัญที่ฉายอยู่ มีเพียงหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้นที่นั่งมองเหม่ออยู่
“เป็นอะไรไปจองอา หนังไม่สนุกหรอ” ชายวัยกลางคนที่นั่งข้างๆเธอถามขึ้น
“อ้อเปล่าค่ะ สนุกดี” เธอตอบพลางหันหน้าไปสนใจกับจอตรงหน้า
“ฉันแปลกใจจริงๆ ที่วันนี้เธอเป็นคนเลือกหนังเอง แถมยังเลือกเป็นหนังผีซะอีก คาดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะชอบหนังผีนะ” เขากล่าวพลางมองเธออย่างอ่อนโยน
ที่นี่คือโรงภาพยนตร์ที่จองอาเคยมากับยุนนา เธอมักมาดูหนังที่นี่บ่อยๆกับชายคนนี้ วันนี้ก็เช่นกัน หากแต่วันนี้เธอเป็นคนเรื่องหนังดูเองผิดกับทุกครั้งที่ดูตามใจเขา ที่เธอเลือกหนังผีเพราะเป็นเรื่องเดียวกับที่ดูกับยุนนา เพื่อจะได้รู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังดูหนังกับยุนนาอยู่ หากแต่มันกลับไม่ได้รู้สึกอย่างที่คิดเมื่อเข้ามาอยู่ในโรง เธอกลับคิดถึงยุนนามากขึ้นไปอีก เพราะตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้พบกับยุนนาอีกเลย มีเพียงแค่โทรหากันเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่สามารถบรรเทาความคิดถึงของเธอได้ จนทำให้เธอเผลอหลุดอาการเหม่อลอยต่อหน้าชายผู้นี้
“วันนี้ดูเธอเหม่อๆชอบกลน่ะ มีอะไรหรือเปล่า” ชายวัยกลางคนถาม ขณะที่รับประทานอาหารในร้านอาหารฝรั่งเศส ณ โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร คิดเรื่องงานนิดหน่อย” เธอตอบ
“งานหรอ เธอยังไปที่คลับอยู่หรอ” เขาถาม เธอพยักหน้าตอบ
“ถ้ามันลำบากนัก ก็ไม่ต้องไปก็ได้นะ ฉันเองเห็นว่าเธอชอบเล่นดนตรีเลยให้ไปเล่นที่นั่น ไม่ได้บังคับอะไร ถ้ามันทำให้เธอยุ่งยาก ก็ไม่ต้องไปหรอกนะ” เขาบอกในฐานนะเจ้าของคลับนั้น
“ไม่เลยค่ะ ฉันชอบและยังอยากจะเล่นที่นั่นอยู่ ไม่ลำบากหรอกค่ะ” เธอตอบ เพราะที่นั่นเป็นที่เดียวที่เธอจะสามารถเล่นดนตรีให้คนฟังได้ แม้เธอจะรู้อยู่แก่ใจว่า คนพวกนั้นไม่ได้ฟังมันเลยก็ตาม
“งั้นหรอ ถ้างั้นก็ตามใจเธอนะ แต่ว่าหลังแต่งงานฉันไม่ยอมให้เธอไปแล้วนะ” เขาพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน หากแต่เมื่อเธอฟังมันกลับรู้สึกเจ็บปวด แม้จะรู้ดีและเตรียมใจกับเรื่องนี้มานานแล้ว แต่นั่นมันก่อนที่เธอจะได้พบกับยุนนา ผู้หญิงที่เธอเผลอรักจนหมดใจ เมื่อคิดถึงยุนนาเธอก็ยิ่งเจ็บปวด แม้จะรุ้ดีว่าไม่มีทางสมหวัง แต่ใจดื้อดึงก็ไม่ยอมฟัง กลับเอาตัวเข้าไปพัวพันกับยุนนา จนตอนนี้ถอนหัวใจไม่ทันซะแล้ว และเวลาของเธอก็ใหล้จะหมดเต็มที
“อาหารไม่ถูกปากหรอ จะเปลี่ยนร้านไหม” ชายคนนั้นถามเมื่อเห็นเธอไม่แตะอาหาร
“ไม่ค่ะ อร่อยมาก” เธอตอบ
“งั้นก็ทานเยอะๆนะ ฉันไม่อยากได้เจ้าสาวผอมแห้งแรงน้อยนะรู้ไหม” เขาบอก เธอจึงได้แต่เพียงก้มหน้าทานอาหารอย่างขมขื่น อีกสองสัปดาห์จะเป็นวันเกิดอายุครบสิบแปดปีของเธอ และเป็นวันที่ชายคนนี้พร่ำบอกเธอมาตลอดตั้งแต่เธอสิบขวบ ซึ่งเป็นตอนที่เขารับเธอมาเลี้ยง
“เธอจะต้องเป็นเจ้าสาวของฉันนะจองอา เมื่อเธออายุครบสิบแปด เราจะแต่งงานกัน” ชายคนนั้นบอกกับเธอเมื่อตอนที่พบกันครั้งแรก เขาหลงใหลในตัวจองอาตั้งแต่แรกเห็น แม้เธอจะมีอายุได้เพียงสิบขวบก็ตาม (เฒ่าหัวงู)
ป้ายกำกับ:
After School
วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553
After School ตอนที่ 12
After School
ตอนที่ 12
รุ่งเช้าแสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้อง ทำให้คนที่หลับอยู่ลืมตาขึ้นเพราะแสงนั้น และอาการปวดหัวจนแทบระเปิดก็เกิดขึ้น
“โอ้ยยย เจ็บ” ยุนนาร้องขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว ทำให้ชายสองคนที่นอนเฝ้าเธอตื่นตาม
“ยุนนา รู้สึกตัวแล้วหรอ” อีซานเอ่ยถามเป็นคนแรก
“พี่ซาน อาจารย์” ยุนนาทักพวกเขาอย่างอ่อนแรง มงโดจึงเอาน้ำให้เธอดื่มและช่วยปรับเตียงให้เธอลุกนั่ง
“นี่หนูเป็นอะไรหรอ” ยุนนาถามมงโด เขาได้แต่นิ่งเงียบไม่กล้าตอบ
“เธอถูกปล้นนะ” เป็นอีซานที่ตอบให้ ยุนนาจึงพยายามคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนแต่นั่นกับทำให้เธอปวดหัวหนัก
“โอ้ย.....” ยุนนาร้องด้วยความเจ็บปวด
“ยัยบ้าเอ้ย เธอมันบ้าที่สุด เป็นผู้หญิงยิงเรือกลับมืดๆค่ำๆแบบนั้นได้ไงกัน นี่ถ้าฉันไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นหึ” เขาด่าเธอยกใหญ่ จนยุนนาทำหน้างงเพราะยังลำดับเหตุการณ์ไม่ถูก โชคดีที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแค่หัวแตกจากการถูกตีเท่านั้นสักพักเธอก็จำทุกอย่างได้
“ภาพ! ภาพล่ะอาจารย์ ภาพจองอาล่ะ” เธอถามขึ้นทันทีที่นึกออก สร้างความฉุนเฉียวแก่มงโดนัก
“ไม่รู้..ถูกโจรมันเอาไปแล้วมั้ง” เขาตอบ เธอทำหน้าเศร้าทันที จึงทำให้มงโดพูดความจริงออกไป
“ฉันล้อเล่น ฉันเก็บเอาไว้ให้แล้ว” เขาบอก ยุนนาจึงยิ้มออกทันที
“ขอบคุณนะอาจารย์” ยุนนากล่าวเสียงหวาน มงโดหมันเขี้ยวทำท่าจะโขกศรีษะเธอแต่ก็ยั้งมือไว้
“เอาล่ะๆ เลิกเล่นเป็นเด็กได้แล้ว ยุนนาฉันไม่ได้บอกพ่อแม่เธอเรื่องนี้หรอกนะ ฉันเกรงพวกท่านจะรับไม่ไหวนะ” อีซานบอก
“ดีแล้วล่ะค่ะ ฉันก็ไม่อยากให้พ่อแม่รู้เหมือนกัน” ยุนนาตอบ
“เพราฉะนั้นจนกว่าเธอจะหายก็ไปพักอยู่กับฉันซะ ฉันบอกพ่อแม่เธอแล้วว่าจะให้เธอเข้าคอร์สพิเศษ” มงโดกล่าว
“หา? คอร์สพิเศษ” ยุนนากล่าวด้วยเสียงงงๆ
“ใช่ เธอจะเข้าประกวดนี่ ยังไม่ได้ลงสีเลยใช่ไหมภาพเธอนะ งั้นก็ใช้เวลาที่เหลือนี้ทำมันซะนะ” อีซานกล่าว ยุนนาพยักหน้ารับแบบจำใจ หลังจากตัวร่างกายเรียบร้อยและหมอยืนยันว่าไม่เป็นอะไรแล้ว มงโดก็พายุนนาไปที่บ้านเขา แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่เธอได้มาที่นี่ แต่เธอก์เพิ่งได้สำรวจมันอย่างเป็นจริงก็ครั้งนี้
“บ้านอาจารย์นี่ ก็เรียบร้อยกว่าที่คิดไว้นะ” ยุนนากล่าวขึ้น
“ทำไม เธอคิดว่าบ้านฉันต้องเป็นยังไงหรอ” มงโดถาม
“ก็แบบ จารย์เป็นศิลปินใช่ป่ะ แล้วยังเป็นผู้ชายอีก แถมยังเป็นคิมมงโดอ่ะนะ มันก็น่าจะแบบ” ยุนนาอธิบาย นั่นทำให้มงโดเกิดอาการเคืองขึ้นมา
“ทำไมเป็นฉันมันทำไมหรอ ห่ะ? ยัยเด็กนี่” มงโดเอ็ดเข้าให้ ยุนนาจึงทำท่าแลบลิ้นปลิ่นตา วิ่งหลบมะกอกของมงโด จึงไปเจอเข้ากับตู้โชว์รางวัลมากมายของมงโดเข้า
“โหรางวัลอือเลย” ยุนนาหยุดมองอยู่หน้าตู้ พอดีกลับที่มงโดเดินมาข้างๆ
“อ้อนี่หรอ หมอนั่นมันจัดน่ะ ฉันไม่สนใจรางวัลพวกนี้เท่าไรหรอกตอนแรกว่าจะทิ้งๆไปด้วยซ้ำ แต่หมอนั่นโมโหใหญ่ ซื้อตู้มาแล้วจัดเรียงซะเรียบ” มงโดเล่าด้วยร้อยยิ้ม เป็นใบหน้าที่ยุนนาแปลกใจมากที่เห็น จึงรู้สึกสะกิดใจบางอย่าง
“งั้น ชั้นวางหนังสือนั่นล่ะ ใครทำ” ยุนนาชี้ไปยังชั้นวางหนังสือ
“หมอนั่นก็ทำ” เขาตอบ
“ชั้นโชว์ของประดับตกแต่งบ้าน” ยุนนาชี้ไปยังชั้นโชว์ของประดับตกแต่งบ้านอีก
“ก็หมอนั่นนะซิ คิดว่าชั้นมีอารมณ์ซื้อของปัญญาอ่อนพวกนั้นมาจัดหรอ” เขาตอบ ยิ่งทำให้ยุนนาคิดหนัก
“งั้นใครจัดบ้านนี้ทั้งหมด” ยุนนาถาม มงโดหันไปมองหน้ายุนนา
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าหมอนั่น” มงโดตอบด้วยอารมณ์รำคาญเล็กๆ
“แล้วหมอนั่นนี่หมอไหนอ่ะ” ยุนนาถามอีก
“ก็เจ้า...” มงโดยังไม่ทันได้ตอบ อีซานก็โผล่มา
“มากันแล้วหรอ ฉันซื้ออาหารมาทำเยอะเลย ยุนนาชอบปูรึเปล่า ฉันซื้อปูมานะ เดี้ยวทำซุปปูกินกันนะ” อีซานพูดขึ้น ยุนนาจึงใช้สมองอันชาญฉลาดของตนประมวลผลข้อมูลทั้งหมด และก็ได้คำตอบจึงหัวเราะออกมาทันที ทำให้ชายทั้งสองมองเธออย่างประหลาดใจและพลางคิดไปว่าคงเป็นเพราะสมองเธอได้รับความกระทบกระเทือน ระหว่างที่ยุนนาอยู่ที่บ้านมงโด อีซานเองก็มาอยู่ที่นี่ด้วย(เอหรือว่าอยู่ที่นี่อยู่แล้ว) เธอยังไปเรียนตามปกติหลังเลิกเรียนก็มาศึกษาเทคนิคเพิ่มเติมจากมงโด พร้อมๆกับลงสีภาพของจองอาไปด้วย จนถึงเวลาส่งผลงาน ยุนนาพอใจกับผลงานที่เธอวาดมากเช่นเดียวกับมงโด ภาพนี้สื่อได้ถึงอารมณ์ของภาพดีมาก ยุนนาใช้เทคนิควาดภาพให้ออกมาในมุมมองเดียวกับคนที่นอนอยู่บนเตียง และตื่นขึ้นมาพบกับคนรัก เมื่อมองดูภาพจะไม่รู้สึกว่าตนมองภาพอยู่ แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นเข้าไปอยู่ในภาพจริงๆ สีที่เธอลงสื่อถึงอารมณ์และความสัมพันธ์ทั้งนุ่มนวลและเร่าร้อน เหมือนดั่งความสัมพันธ์ของชายหญิง ทุกๆรายละเอียดทำให้ผู้ที่เห็นภาพนี้นึกถึงคนรักของตน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง หลังส่งผลงานยุนนาก็กลับบ้านของเธอ
ตอนที่ 12
รุ่งเช้าแสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้อง ทำให้คนที่หลับอยู่ลืมตาขึ้นเพราะแสงนั้น และอาการปวดหัวจนแทบระเปิดก็เกิดขึ้น
“โอ้ยยย เจ็บ” ยุนนาร้องขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว ทำให้ชายสองคนที่นอนเฝ้าเธอตื่นตาม
“ยุนนา รู้สึกตัวแล้วหรอ” อีซานเอ่ยถามเป็นคนแรก
“พี่ซาน อาจารย์” ยุนนาทักพวกเขาอย่างอ่อนแรง มงโดจึงเอาน้ำให้เธอดื่มและช่วยปรับเตียงให้เธอลุกนั่ง
“นี่หนูเป็นอะไรหรอ” ยุนนาถามมงโด เขาได้แต่นิ่งเงียบไม่กล้าตอบ
“เธอถูกปล้นนะ” เป็นอีซานที่ตอบให้ ยุนนาจึงพยายามคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนแต่นั่นกับทำให้เธอปวดหัวหนัก
“โอ้ย.....” ยุนนาร้องด้วยความเจ็บปวด
“ยัยบ้าเอ้ย เธอมันบ้าที่สุด เป็นผู้หญิงยิงเรือกลับมืดๆค่ำๆแบบนั้นได้ไงกัน นี่ถ้าฉันไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นหึ” เขาด่าเธอยกใหญ่ จนยุนนาทำหน้างงเพราะยังลำดับเหตุการณ์ไม่ถูก โชคดีที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแค่หัวแตกจากการถูกตีเท่านั้นสักพักเธอก็จำทุกอย่างได้
“ภาพ! ภาพล่ะอาจารย์ ภาพจองอาล่ะ” เธอถามขึ้นทันทีที่นึกออก สร้างความฉุนเฉียวแก่มงโดนัก
“ไม่รู้..ถูกโจรมันเอาไปแล้วมั้ง” เขาตอบ เธอทำหน้าเศร้าทันที จึงทำให้มงโดพูดความจริงออกไป
“ฉันล้อเล่น ฉันเก็บเอาไว้ให้แล้ว” เขาบอก ยุนนาจึงยิ้มออกทันที
“ขอบคุณนะอาจารย์” ยุนนากล่าวเสียงหวาน มงโดหมันเขี้ยวทำท่าจะโขกศรีษะเธอแต่ก็ยั้งมือไว้
“เอาล่ะๆ เลิกเล่นเป็นเด็กได้แล้ว ยุนนาฉันไม่ได้บอกพ่อแม่เธอเรื่องนี้หรอกนะ ฉันเกรงพวกท่านจะรับไม่ไหวนะ” อีซานบอก
“ดีแล้วล่ะค่ะ ฉันก็ไม่อยากให้พ่อแม่รู้เหมือนกัน” ยุนนาตอบ
“เพราฉะนั้นจนกว่าเธอจะหายก็ไปพักอยู่กับฉันซะ ฉันบอกพ่อแม่เธอแล้วว่าจะให้เธอเข้าคอร์สพิเศษ” มงโดกล่าว
“หา? คอร์สพิเศษ” ยุนนากล่าวด้วยเสียงงงๆ
“ใช่ เธอจะเข้าประกวดนี่ ยังไม่ได้ลงสีเลยใช่ไหมภาพเธอนะ งั้นก็ใช้เวลาที่เหลือนี้ทำมันซะนะ” อีซานกล่าว ยุนนาพยักหน้ารับแบบจำใจ หลังจากตัวร่างกายเรียบร้อยและหมอยืนยันว่าไม่เป็นอะไรแล้ว มงโดก็พายุนนาไปที่บ้านเขา แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่เธอได้มาที่นี่ แต่เธอก์เพิ่งได้สำรวจมันอย่างเป็นจริงก็ครั้งนี้
“บ้านอาจารย์นี่ ก็เรียบร้อยกว่าที่คิดไว้นะ” ยุนนากล่าวขึ้น
“ทำไม เธอคิดว่าบ้านฉันต้องเป็นยังไงหรอ” มงโดถาม
“ก็แบบ จารย์เป็นศิลปินใช่ป่ะ แล้วยังเป็นผู้ชายอีก แถมยังเป็นคิมมงโดอ่ะนะ มันก็น่าจะแบบ” ยุนนาอธิบาย นั่นทำให้มงโดเกิดอาการเคืองขึ้นมา
“ทำไมเป็นฉันมันทำไมหรอ ห่ะ? ยัยเด็กนี่” มงโดเอ็ดเข้าให้ ยุนนาจึงทำท่าแลบลิ้นปลิ่นตา วิ่งหลบมะกอกของมงโด จึงไปเจอเข้ากับตู้โชว์รางวัลมากมายของมงโดเข้า
“โหรางวัลอือเลย” ยุนนาหยุดมองอยู่หน้าตู้ พอดีกลับที่มงโดเดินมาข้างๆ
“อ้อนี่หรอ หมอนั่นมันจัดน่ะ ฉันไม่สนใจรางวัลพวกนี้เท่าไรหรอกตอนแรกว่าจะทิ้งๆไปด้วยซ้ำ แต่หมอนั่นโมโหใหญ่ ซื้อตู้มาแล้วจัดเรียงซะเรียบ” มงโดเล่าด้วยร้อยยิ้ม เป็นใบหน้าที่ยุนนาแปลกใจมากที่เห็น จึงรู้สึกสะกิดใจบางอย่าง
“งั้น ชั้นวางหนังสือนั่นล่ะ ใครทำ” ยุนนาชี้ไปยังชั้นวางหนังสือ
“หมอนั่นก็ทำ” เขาตอบ
“ชั้นโชว์ของประดับตกแต่งบ้าน” ยุนนาชี้ไปยังชั้นโชว์ของประดับตกแต่งบ้านอีก
“ก็หมอนั่นนะซิ คิดว่าชั้นมีอารมณ์ซื้อของปัญญาอ่อนพวกนั้นมาจัดหรอ” เขาตอบ ยิ่งทำให้ยุนนาคิดหนัก
“งั้นใครจัดบ้านนี้ทั้งหมด” ยุนนาถาม มงโดหันไปมองหน้ายุนนา
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าหมอนั่น” มงโดตอบด้วยอารมณ์รำคาญเล็กๆ
“แล้วหมอนั่นนี่หมอไหนอ่ะ” ยุนนาถามอีก
“ก็เจ้า...” มงโดยังไม่ทันได้ตอบ อีซานก็โผล่มา
“มากันแล้วหรอ ฉันซื้ออาหารมาทำเยอะเลย ยุนนาชอบปูรึเปล่า ฉันซื้อปูมานะ เดี้ยวทำซุปปูกินกันนะ” อีซานพูดขึ้น ยุนนาจึงใช้สมองอันชาญฉลาดของตนประมวลผลข้อมูลทั้งหมด และก็ได้คำตอบจึงหัวเราะออกมาทันที ทำให้ชายทั้งสองมองเธออย่างประหลาดใจและพลางคิดไปว่าคงเป็นเพราะสมองเธอได้รับความกระทบกระเทือน ระหว่างที่ยุนนาอยู่ที่บ้านมงโด อีซานเองก็มาอยู่ที่นี่ด้วย(เอหรือว่าอยู่ที่นี่อยู่แล้ว) เธอยังไปเรียนตามปกติหลังเลิกเรียนก็มาศึกษาเทคนิคเพิ่มเติมจากมงโด พร้อมๆกับลงสีภาพของจองอาไปด้วย จนถึงเวลาส่งผลงาน ยุนนาพอใจกับผลงานที่เธอวาดมากเช่นเดียวกับมงโด ภาพนี้สื่อได้ถึงอารมณ์ของภาพดีมาก ยุนนาใช้เทคนิควาดภาพให้ออกมาในมุมมองเดียวกับคนที่นอนอยู่บนเตียง และตื่นขึ้นมาพบกับคนรัก เมื่อมองดูภาพจะไม่รู้สึกว่าตนมองภาพอยู่ แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นเข้าไปอยู่ในภาพจริงๆ สีที่เธอลงสื่อถึงอารมณ์และความสัมพันธ์ทั้งนุ่มนวลและเร่าร้อน เหมือนดั่งความสัมพันธ์ของชายหญิง ทุกๆรายละเอียดทำให้ผู้ที่เห็นภาพนี้นึกถึงคนรักของตน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง หลังส่งผลงานยุนนาก็กลับบ้านของเธอ
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 11
After School
ตอนที่ 11
เมื่อยุนนาเดินมาส่งจองอาถึงหน้าห้องแล้ว ก็ถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องบอกลากัน
“วันนี้ขอบคุณนะ ฉันสนุกเลย”จองอากล่าว ยุนนาได้แต่พยักหน้า จองอาจึงเปิดประตูจะเข้าห้อง หากแต่ยุนนาไม่อยากให้วันนี้จบเพียงเท่านี้ เธอตัดสินใจเอื้อมมือไปจับแขนของจองอาที่กำลังบิดประตูเปิดออก จองอาตกใจกับการกระทำนั้น ทั้งคู่จึงหันมาสบตากัน
“จองอา”ยุนนาเอ่ย จองอาสบตาและตั้งใจฟังเธอ
“ฉันขอ...ฉันขอ” ยุนนายื่นหน้าเข้าไปใกล้จองอา
“ฉันขอวาดรูปเธอได้ไหม” ยุนนาตัดสินใจพูดออกไป ทำเอาคนฟังลุ้นตัวงอ และผิดหวังนิดหน่อยที่สิ่งที่ร้องขอไม่ใช่อย่างที่เธอคิด (คิดอะไรล่ะจองอา)
“ฮึ..ได้ซิ” จองอาตอบพร้อมยิ้มน้อยๆ จากนั้นทั้งคู่จึงเข้าห้องไปด้วยกัน จองอานำน้ำมาให้ยุนนาแล้วนั่งลงยังโซฟาข้างๆกัน
“แล้ว..จะวาดแบบไหนล่ะ” จองอาถาม ยุนนาทำหน้าอึกอักก่อนจะเปิดกระเป๋าย่ามที่สะพายมาด้วยออก เธอหยิบดินสอและกระดาษสเก็ตออกมา
“อืม....เธอช่วย.....เธอช่วย...ถอดได้ไหม” ยุนนาพูดไม่เต็มเสียงนักคนฟังจึงได้ยินไม่ถนัด
“อะไรน่ะ” จองอาถาม
“ถอดชุดน่ะ คือฉันไม่ได้ลามกนะแค่นิดหน่อย เอ้ย หมายถึง คือ..คือแค่ด้านหลังนะ..ด้านหลังเท่านั้น” ยุนนาพูดตะกุกตะกัก
จองอาได้แต่นิ่งเงียบด้วยใบหน้าตกใจ ยุนนาเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนใจเลยลุกขึ้นเก็บข้าวของ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่ามันก็มากเกินไป เธอไม่ต้องทำก็ได้ เดี้ยวฉัน...” ยุนนาพูดไม่ทันจบจองอาก็สวนขึ้น
“ได้ ฉันจะทำ” จองอาตอบด้วยใบหน้าเรียบแต่สายตาอ่อนโยน ทำให้ยุนนาถึงกับอึ้ง
“แต่ว่าฉันขอไปเตรียมตัวก่อนนะ วันนี้เดินทั้งวันเลย..ฉันอยากอาบน้ำก่อน” จองอาพูดแล้วจึงเดินลับเข้าห้องนอนไป ยุนนาได้แต่ยืนแข็งทื่อมองตาม ก่อนจะนั่งลงยังโซฟาตัวเดิมแล้วกระน้ำดื่มอึกๆจนหมดแก้ว
จองอาเมื่อเดินเข้ามาภายในห้องนอนก็ถอดชุดออกและตรงไปยังห้องน้ำ เธอทำความสะอาดร่างกายอย่างดี ในขณะที่นั่งอยู่ในอ่างก็พลางคิดถึงคนที่รออยู่ข้างนอก คืนนี้เธอต้องโชว์เรือนร่างนี้ให้แก่คนคนนั้น ในใจก็เกิดเต็นรัวขึ้นใบหน้าก็แดงระเรื่อ เธอเอามือมาสัมผัสใบหน้าที่ร้อนวูบวาบเพื่อให้มันบรรเทาลง และจับไปยังหน้าอกตัวเองที่กำลังเต็นตุบๆเพราะก้อนเนื้อข้างในสูบฉีดเลือดอย่างแรงตามความรู้สึกเธอ เช่นเดียวกันกับคนที่นั่งรออยู่ที่โซฟาข้างนอก ตอนนี้หัวใจยุนนาเต็นตุบๆอย่างเร็วจนเธอรู้สึกปวดอกเลยทีเดียว จึงต้องบรรเทาด้วยการเอามือตีที่อกตัวเองเบาๆ
“โอ้ยอย่าเต้นเร็วนักซิโว้ย” ยุนนาบอกกับก้อนเนื้อภายในร่างกาย ทันใดนั้นจองอาก็เปิดประตูออกมา พร้อมกลิ่นหอมๆของสบู่ที่ลอยมาก่อนตัวเธอซะอีก ทำเอายุนนาแทบคลั่ง จองอาเดินออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำเธอเดินมาหยุดอยู่หน้ายุนนา ทั้งคู่ต่างหลบตากันและนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่จองอาจะพูดทำลายความเงียบนั้นลง
“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ”จองอาถาม จึงทำให้ยุนนาได้สติขึ้น เงยหน้าขึ้นไปเผชิญความขาวเอ้ยความจริงตรงหน้า
“อ้อ...เออ...คือมันต้องใช้เตียงน่ะ” ยุนนาตอบ (ใช้เตียงทำไรครับพี่) จองอาถึงกับทำหน้าตกใจยุนนาเห็นดังนั้นจึงรีบบอก
“คือไม่ใช่ยังงั้นนะ ฉันอยากให้เธอนั่งบนเตียงนะ แค่นั้น” ยุนนาอธิบาย จองอาจึงทำหน้าเข้าใจและเดินนำยุนนาเข้าไปในห้องเธอ เมื่อเข้ามาภายในห้อง ยุนนาก็ให้จองอานั่งตรงขอบเตียงข้างหนึ่ง ส่วนตัวเองขึ้นมานอนที่เตียงอีกฝั่งเพื่อดูตำแหน่งที่นั่งของจองอาว่าตรงกับที่คิดไหม จองอาลอบมองการกระทำของยุนนา ยุนนาดูตั้งใจที่จะจัดองค์ประกอบของภาพมากจึงทำให้จองอารู้สึกผ่อนคลายลง เมื่อจองอาหันไปมองยุนนาอีกทีกลับเห็นเธอนอนมองหล่อนอยู่ด้วยสายตาที่เร่าร้อน หัวใจของจองอาก็เต้นเร็วอีกครั้ง เธอหลบหน้าหนีสายตาอันเร่าร้อนของยุนนา หากแต่ยุนนากลับลุกขึ้นและเข้าไปด้านหลังของจองอา
“จองอา”ยุนนากระซิบข้างหูจองอาด้วยเสียงที่แหบพลาพร้อมลมหายใจอุ่น หัวใจของจองอาเต้นรัวเร็ว ยุนนาเอื้อมมือไปแก้เชือกผ้าคลุมของจองอาออก และค่อยๆถอดมันออกจากร่างหญิงสาว เธอนิ่งอย่างว่าง่ายทำให้ผู้รุกรานได้ใจลูบไล้ไหล่นวลเนียนของเธอ ก่อนจะรวบผมที่แผ่เต็มหลังขาวของเธอไปไว้อีกข้างของด้านหน้า แล้วก้มลงสูดกลิ่นกายสาวหากแต่ไม่ใกล้จนถึงกับสัมผัสผิวเธอ ลมหายใจร้อนถูกปล่อยรดลงยังซอกคอขาว จองอาสั่นด้วยความวาบวามก่อนที่จะหันกลับมามองผู้รุกราน หากแต่เธอจะถูกหยุดการกระทำด้วยการกระซิบข้างหูอย่างเสียงซ่านอีกครั้ง
“อยู่เฉยๆนะ” ยุนนากระซิบบอกก่อนจะพละตัวออกและเริ่มวาดอย่างจริงจัง ทำเอาจองอางงเป็นไก่ตาแตก ที่อยู่ๆอีกคนก็เปลี่ยนท่าทีไปดื้อๆให้อีกคนอารมณ์ค้าง จองอาจึงทำได้แค่เพียงนั่งอยู่เฉยๆตามคำบอกของยุนนา พวกเขานิ่งเงียบอยู่นานเวลาเลื่องเลยไปจนไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ยุนนายังคงมองร่างของจองอาและวาดภาพอย่างมุ่งมั่น แม้ว่าในห้องนั้นจะมีเครื่องปรับอากาศที่คอยให้ความเย็นแต่ยุนนากลับมีหมดเหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้า จนในที่สุดเธอก็วาดเสร็จ ยุนนาถึงกับถอนหายใจราวกับเหนื่อยหอบ ก่อนจะหันไปยังร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ขอบเตียง ตอนนี้ยุนนาวาดเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงทำให้สายตาศิลปินแปรเปลี่ยนเป็นเพียงสายตาของยุนนาที่กำลังมองเรือนร่างของหญิงสาวที่ตนหลงไหล ซักพักจองอาก็รู้สึกว่าเสียงขีดเขียนเงียบลงนานแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น
“เสร็จแล้วหรอ” จองอาถามจึงทำให้ยุนนาได้สติ
“อ่ะ อือเสร็จแล้ว” ยุนนาตอบพลางคลุมเสื้อคลุมให้จองอา เมื่อใส่เสื้อคลุมเรียบร้อยเธอจึงหันมาหายุนนา
“เออขอบคุณนะ” ยุนนากล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไร”จองอาตอบอย่างเขินอาย
“งั้น...ฉันกลับก่อนดีกว่า ดึกมากแล้ว” ยุนนากล่าวพลางลุกออกจากเตียง จองอาจะเดินไปส่งเธอแต่ยุนนาบอกไม่เป็นไรเพราะเธอแต่งตัวไม่เรียบร้อย ยุนนาจึงออกไปเก็บข้าวของแล้วออกไป ระหว่างทางเดินกลับบ้านยุนนายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และนึกถึงเรือนร่างขาวๆของจองอาก็เผลอทำหน้าลามกออกมา ทันใดนั้นยุนนาก็รู้สึกว่าศรีษะถูกของแข็งกระแทกเข้าอย่างแรง เธอล้มลงทันที ชายคนหนึ่งตีเธอด้วยไม้หน้าสามจากนั้นเขาก็เริ่มค้นข้าวของเธอ เขาเจอกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ มันไม่ค่อยมากนักทำให้เขาเซ็งนิดหน่อย ก่อนที่จะสักเกตว่าเธอเป็นผู้หญิงมันจึงเกิดความคิดชั่ว ลากเธอเข้าข้างทาง
ฝั่งมงโดพยายามติดต่อยุนนาหากแต่เขาโทรไม่ติด
“เด็กบ้านี่ปิดเครื่องหนีหรอ” เขากล่าวพลางพยายามโทรไปหาเธอ เขากระวนกระวายใจหลังจากที่โทรไปหาเธอที่บ้านแล้วทราบว่าเธอยังไม่กลับ จึงออกไปตามหาเธอทันที เขาตรงไปยังห้องของจองอาที่เขาเคยมาครั้งก่อน จองอาจึงเดินมาเปิดประตู
“ยัยนั่นล่ะ”เขาถามทันทีที่จองอาเปิดประตูออกมา
“ใครค่ะ”จองอาถาม
“อย่าไก๋ดีกว่า เรียกยัยนั่นออกมาได้แล้ว ดึกดื่นแล้วมันอันตราย” เขากล่าว
“เธอคุณหมายถึงยุนนาล่ะก็เธอกลับไปแล้ว”จองอาตอบ ด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก มงโดเมื่อได้ยินดังนั้นก็โมโหเพราะคิดว่าจองอาโกหก
“อย่าให้ฉันต้องเข้าไปค้นนะ นี่เด็กบ้าออกมาน่ะยัยลูกลิง!”เขาตะโกนเรียกยุนนา จนทำให้ห้องข้างๆเปิดประตูออกมาดู
“ฉันบอกแล้วว่าเขาไม่อยู่นี่ คุณกลับไปเถอะ” จองอารีบไล่เขากลับก่อนจะก่อกวนชาวบ้านมากกว่านี้
“ฮึ..กลัวเสี่ยเธอจะมาเห็นรึไง” มงโดพูดขึ้น
“คุณพูดเรื่องอะไรไม่ทราบ” จองอาถามเสียงเขียว
“คบกิ๊กเป็นผู้หญิง เสี่ยเธอจะได้คิดว่าเป็นเพื่อน ได้ทั้งขึ้นทั้งร่องฉลาดจริงๆ มืออาชีพมาก” เขาพูดเหยียดหยามเธอ จองอาโมโหสุดขีดห้ามตัวเองไม่ไหว จึงตบหน้าเขาอย่างแรง
“กรุณากลับไปเถอะค่ะ ยุนนาไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ” จองอาพูดก่อนจะปิดประตูดังปัง มงโดลูบรอยฝ่ามือบนหน้าอย่างเซ็งๆและเดินออกมา เขาเดินไปทางหมายจะไปบ้านยุนนาหากแต่มาสะดุดเข้ากับย่ามอันนึงที่อยู่บนพื้นถนน เขาจึงหยิบมันขึ้นมาดู
“นี่มันของยัยนั่นนิ” เขาจำได้ทันทีว่าเป็นของยุนนา จึงกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เห็นรอยลากเข้าไปข้างทางเข้าเดินตามไปก็พบชายคนหนึ่งกำลังค่อมร่างยุนนาอยู่ เสื้อผ้าเธอถูกฉีกขาดอีกทั้งเลือดก็ออกเต็มศรีษะ เขาสติขาดทันทีที่เห็นภาพนั้น จึงตรงเข้าไปทำร้ายชายคนนั้น เขาทั้งเตะทั้งต่อยด้วยแรงโมโห ชายคนนั้นถึงกับร้องโอดโอยขอชีวิต เมื่อซ้อมจนหนำใจเขาก็ได้สติเข้าไปอุ้มร่างเธอ
“ยุนนา..ยุนนา” เขาร้องเรียกเธอ ไม่นานนักยุนนาก็ถูกส่งไปยังโรงพยาบาล เมื่ออีซานรู้ข่าวจึงรีบตามมาทันที
“มงโด ยุนนาเป็นไงบ้าง” อีซานเห็นมงโดยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ตามตัวเขาเต็มไปด้วยเลือดของยุนนา อีซานเดินเข้ามาใกล้เขา มงโดวางศรีษะลงบนไหล่ของอีซาน อีซานรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของมงโด จึงไม่ได้ต่อต้านอะไรกับการกระทำนี้
ตอนที่ 11
เมื่อยุนนาเดินมาส่งจองอาถึงหน้าห้องแล้ว ก็ถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องบอกลากัน
“วันนี้ขอบคุณนะ ฉันสนุกเลย”จองอากล่าว ยุนนาได้แต่พยักหน้า จองอาจึงเปิดประตูจะเข้าห้อง หากแต่ยุนนาไม่อยากให้วันนี้จบเพียงเท่านี้ เธอตัดสินใจเอื้อมมือไปจับแขนของจองอาที่กำลังบิดประตูเปิดออก จองอาตกใจกับการกระทำนั้น ทั้งคู่จึงหันมาสบตากัน
“จองอา”ยุนนาเอ่ย จองอาสบตาและตั้งใจฟังเธอ
“ฉันขอ...ฉันขอ” ยุนนายื่นหน้าเข้าไปใกล้จองอา
“ฉันขอวาดรูปเธอได้ไหม” ยุนนาตัดสินใจพูดออกไป ทำเอาคนฟังลุ้นตัวงอ และผิดหวังนิดหน่อยที่สิ่งที่ร้องขอไม่ใช่อย่างที่เธอคิด (คิดอะไรล่ะจองอา)
“ฮึ..ได้ซิ” จองอาตอบพร้อมยิ้มน้อยๆ จากนั้นทั้งคู่จึงเข้าห้องไปด้วยกัน จองอานำน้ำมาให้ยุนนาแล้วนั่งลงยังโซฟาข้างๆกัน
“แล้ว..จะวาดแบบไหนล่ะ” จองอาถาม ยุนนาทำหน้าอึกอักก่อนจะเปิดกระเป๋าย่ามที่สะพายมาด้วยออก เธอหยิบดินสอและกระดาษสเก็ตออกมา
“อืม....เธอช่วย.....เธอช่วย...ถอดได้ไหม” ยุนนาพูดไม่เต็มเสียงนักคนฟังจึงได้ยินไม่ถนัด
“อะไรน่ะ” จองอาถาม
“ถอดชุดน่ะ คือฉันไม่ได้ลามกนะแค่นิดหน่อย เอ้ย หมายถึง คือ..คือแค่ด้านหลังนะ..ด้านหลังเท่านั้น” ยุนนาพูดตะกุกตะกัก
จองอาได้แต่นิ่งเงียบด้วยใบหน้าตกใจ ยุนนาเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนใจเลยลุกขึ้นเก็บข้าวของ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่ามันก็มากเกินไป เธอไม่ต้องทำก็ได้ เดี้ยวฉัน...” ยุนนาพูดไม่ทันจบจองอาก็สวนขึ้น
“ได้ ฉันจะทำ” จองอาตอบด้วยใบหน้าเรียบแต่สายตาอ่อนโยน ทำให้ยุนนาถึงกับอึ้ง
“แต่ว่าฉันขอไปเตรียมตัวก่อนนะ วันนี้เดินทั้งวันเลย..ฉันอยากอาบน้ำก่อน” จองอาพูดแล้วจึงเดินลับเข้าห้องนอนไป ยุนนาได้แต่ยืนแข็งทื่อมองตาม ก่อนจะนั่งลงยังโซฟาตัวเดิมแล้วกระน้ำดื่มอึกๆจนหมดแก้ว
จองอาเมื่อเดินเข้ามาภายในห้องนอนก็ถอดชุดออกและตรงไปยังห้องน้ำ เธอทำความสะอาดร่างกายอย่างดี ในขณะที่นั่งอยู่ในอ่างก็พลางคิดถึงคนที่รออยู่ข้างนอก คืนนี้เธอต้องโชว์เรือนร่างนี้ให้แก่คนคนนั้น ในใจก็เกิดเต็นรัวขึ้นใบหน้าก็แดงระเรื่อ เธอเอามือมาสัมผัสใบหน้าที่ร้อนวูบวาบเพื่อให้มันบรรเทาลง และจับไปยังหน้าอกตัวเองที่กำลังเต็นตุบๆเพราะก้อนเนื้อข้างในสูบฉีดเลือดอย่างแรงตามความรู้สึกเธอ เช่นเดียวกันกับคนที่นั่งรออยู่ที่โซฟาข้างนอก ตอนนี้หัวใจยุนนาเต็นตุบๆอย่างเร็วจนเธอรู้สึกปวดอกเลยทีเดียว จึงต้องบรรเทาด้วยการเอามือตีที่อกตัวเองเบาๆ
“โอ้ยอย่าเต้นเร็วนักซิโว้ย” ยุนนาบอกกับก้อนเนื้อภายในร่างกาย ทันใดนั้นจองอาก็เปิดประตูออกมา พร้อมกลิ่นหอมๆของสบู่ที่ลอยมาก่อนตัวเธอซะอีก ทำเอายุนนาแทบคลั่ง จองอาเดินออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำเธอเดินมาหยุดอยู่หน้ายุนนา ทั้งคู่ต่างหลบตากันและนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่จองอาจะพูดทำลายความเงียบนั้นลง
“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ”จองอาถาม จึงทำให้ยุนนาได้สติขึ้น เงยหน้าขึ้นไปเผชิญความขาวเอ้ยความจริงตรงหน้า
“อ้อ...เออ...คือมันต้องใช้เตียงน่ะ” ยุนนาตอบ (ใช้เตียงทำไรครับพี่) จองอาถึงกับทำหน้าตกใจยุนนาเห็นดังนั้นจึงรีบบอก
“คือไม่ใช่ยังงั้นนะ ฉันอยากให้เธอนั่งบนเตียงนะ แค่นั้น” ยุนนาอธิบาย จองอาจึงทำหน้าเข้าใจและเดินนำยุนนาเข้าไปในห้องเธอ เมื่อเข้ามาภายในห้อง ยุนนาก็ให้จองอานั่งตรงขอบเตียงข้างหนึ่ง ส่วนตัวเองขึ้นมานอนที่เตียงอีกฝั่งเพื่อดูตำแหน่งที่นั่งของจองอาว่าตรงกับที่คิดไหม จองอาลอบมองการกระทำของยุนนา ยุนนาดูตั้งใจที่จะจัดองค์ประกอบของภาพมากจึงทำให้จองอารู้สึกผ่อนคลายลง เมื่อจองอาหันไปมองยุนนาอีกทีกลับเห็นเธอนอนมองหล่อนอยู่ด้วยสายตาที่เร่าร้อน หัวใจของจองอาก็เต้นเร็วอีกครั้ง เธอหลบหน้าหนีสายตาอันเร่าร้อนของยุนนา หากแต่ยุนนากลับลุกขึ้นและเข้าไปด้านหลังของจองอา
“จองอา”ยุนนากระซิบข้างหูจองอาด้วยเสียงที่แหบพลาพร้อมลมหายใจอุ่น หัวใจของจองอาเต้นรัวเร็ว ยุนนาเอื้อมมือไปแก้เชือกผ้าคลุมของจองอาออก และค่อยๆถอดมันออกจากร่างหญิงสาว เธอนิ่งอย่างว่าง่ายทำให้ผู้รุกรานได้ใจลูบไล้ไหล่นวลเนียนของเธอ ก่อนจะรวบผมที่แผ่เต็มหลังขาวของเธอไปไว้อีกข้างของด้านหน้า แล้วก้มลงสูดกลิ่นกายสาวหากแต่ไม่ใกล้จนถึงกับสัมผัสผิวเธอ ลมหายใจร้อนถูกปล่อยรดลงยังซอกคอขาว จองอาสั่นด้วยความวาบวามก่อนที่จะหันกลับมามองผู้รุกราน หากแต่เธอจะถูกหยุดการกระทำด้วยการกระซิบข้างหูอย่างเสียงซ่านอีกครั้ง
“อยู่เฉยๆนะ” ยุนนากระซิบบอกก่อนจะพละตัวออกและเริ่มวาดอย่างจริงจัง ทำเอาจองอางงเป็นไก่ตาแตก ที่อยู่ๆอีกคนก็เปลี่ยนท่าทีไปดื้อๆให้อีกคนอารมณ์ค้าง จองอาจึงทำได้แค่เพียงนั่งอยู่เฉยๆตามคำบอกของยุนนา พวกเขานิ่งเงียบอยู่นานเวลาเลื่องเลยไปจนไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว ยุนนายังคงมองร่างของจองอาและวาดภาพอย่างมุ่งมั่น แม้ว่าในห้องนั้นจะมีเครื่องปรับอากาศที่คอยให้ความเย็นแต่ยุนนากลับมีหมดเหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้า จนในที่สุดเธอก็วาดเสร็จ ยุนนาถึงกับถอนหายใจราวกับเหนื่อยหอบ ก่อนจะหันไปยังร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ขอบเตียง ตอนนี้ยุนนาวาดเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงทำให้สายตาศิลปินแปรเปลี่ยนเป็นเพียงสายตาของยุนนาที่กำลังมองเรือนร่างของหญิงสาวที่ตนหลงไหล ซักพักจองอาก็รู้สึกว่าเสียงขีดเขียนเงียบลงนานแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น
“เสร็จแล้วหรอ” จองอาถามจึงทำให้ยุนนาได้สติ
“อ่ะ อือเสร็จแล้ว” ยุนนาตอบพลางคลุมเสื้อคลุมให้จองอา เมื่อใส่เสื้อคลุมเรียบร้อยเธอจึงหันมาหายุนนา
“เออขอบคุณนะ” ยุนนากล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไร”จองอาตอบอย่างเขินอาย
“งั้น...ฉันกลับก่อนดีกว่า ดึกมากแล้ว” ยุนนากล่าวพลางลุกออกจากเตียง จองอาจะเดินไปส่งเธอแต่ยุนนาบอกไม่เป็นไรเพราะเธอแต่งตัวไม่เรียบร้อย ยุนนาจึงออกไปเก็บข้าวของแล้วออกไป ระหว่างทางเดินกลับบ้านยุนนายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และนึกถึงเรือนร่างขาวๆของจองอาก็เผลอทำหน้าลามกออกมา ทันใดนั้นยุนนาก็รู้สึกว่าศรีษะถูกของแข็งกระแทกเข้าอย่างแรง เธอล้มลงทันที ชายคนหนึ่งตีเธอด้วยไม้หน้าสามจากนั้นเขาก็เริ่มค้นข้าวของเธอ เขาเจอกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ มันไม่ค่อยมากนักทำให้เขาเซ็งนิดหน่อย ก่อนที่จะสักเกตว่าเธอเป็นผู้หญิงมันจึงเกิดความคิดชั่ว ลากเธอเข้าข้างทาง
ฝั่งมงโดพยายามติดต่อยุนนาหากแต่เขาโทรไม่ติด
“เด็กบ้านี่ปิดเครื่องหนีหรอ” เขากล่าวพลางพยายามโทรไปหาเธอ เขากระวนกระวายใจหลังจากที่โทรไปหาเธอที่บ้านแล้วทราบว่าเธอยังไม่กลับ จึงออกไปตามหาเธอทันที เขาตรงไปยังห้องของจองอาที่เขาเคยมาครั้งก่อน จองอาจึงเดินมาเปิดประตู
“ยัยนั่นล่ะ”เขาถามทันทีที่จองอาเปิดประตูออกมา
“ใครค่ะ”จองอาถาม
“อย่าไก๋ดีกว่า เรียกยัยนั่นออกมาได้แล้ว ดึกดื่นแล้วมันอันตราย” เขากล่าว
“เธอคุณหมายถึงยุนนาล่ะก็เธอกลับไปแล้ว”จองอาตอบ ด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก มงโดเมื่อได้ยินดังนั้นก็โมโหเพราะคิดว่าจองอาโกหก
“อย่าให้ฉันต้องเข้าไปค้นนะ นี่เด็กบ้าออกมาน่ะยัยลูกลิง!”เขาตะโกนเรียกยุนนา จนทำให้ห้องข้างๆเปิดประตูออกมาดู
“ฉันบอกแล้วว่าเขาไม่อยู่นี่ คุณกลับไปเถอะ” จองอารีบไล่เขากลับก่อนจะก่อกวนชาวบ้านมากกว่านี้
“ฮึ..กลัวเสี่ยเธอจะมาเห็นรึไง” มงโดพูดขึ้น
“คุณพูดเรื่องอะไรไม่ทราบ” จองอาถามเสียงเขียว
“คบกิ๊กเป็นผู้หญิง เสี่ยเธอจะได้คิดว่าเป็นเพื่อน ได้ทั้งขึ้นทั้งร่องฉลาดจริงๆ มืออาชีพมาก” เขาพูดเหยียดหยามเธอ จองอาโมโหสุดขีดห้ามตัวเองไม่ไหว จึงตบหน้าเขาอย่างแรง
“กรุณากลับไปเถอะค่ะ ยุนนาไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ” จองอาพูดก่อนจะปิดประตูดังปัง มงโดลูบรอยฝ่ามือบนหน้าอย่างเซ็งๆและเดินออกมา เขาเดินไปทางหมายจะไปบ้านยุนนาหากแต่มาสะดุดเข้ากับย่ามอันนึงที่อยู่บนพื้นถนน เขาจึงหยิบมันขึ้นมาดู
“นี่มันของยัยนั่นนิ” เขาจำได้ทันทีว่าเป็นของยุนนา จึงกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เห็นรอยลากเข้าไปข้างทางเข้าเดินตามไปก็พบชายคนหนึ่งกำลังค่อมร่างยุนนาอยู่ เสื้อผ้าเธอถูกฉีกขาดอีกทั้งเลือดก็ออกเต็มศรีษะ เขาสติขาดทันทีที่เห็นภาพนั้น จึงตรงเข้าไปทำร้ายชายคนนั้น เขาทั้งเตะทั้งต่อยด้วยแรงโมโห ชายคนนั้นถึงกับร้องโอดโอยขอชีวิต เมื่อซ้อมจนหนำใจเขาก็ได้สติเข้าไปอุ้มร่างเธอ
“ยุนนา..ยุนนา” เขาร้องเรียกเธอ ไม่นานนักยุนนาก็ถูกส่งไปยังโรงพยาบาล เมื่ออีซานรู้ข่าวจึงรีบตามมาทันที
“มงโด ยุนนาเป็นไงบ้าง” อีซานเห็นมงโดยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ตามตัวเขาเต็มไปด้วยเลือดของยุนนา อีซานเดินเข้ามาใกล้เขา มงโดวางศรีษะลงบนไหล่ของอีซาน อีซานรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของมงโด จึงไม่ได้ต่อต้านอะไรกับการกระทำนี้
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 10
After School
ตอนที่ 10
เมื่อมงโดกลับมานั่งยังม้านั่งตัวเดิม ยุนนาก็ยืนน้ำที่เธอซื้อมาให้จองอา
“จองอาน้ำจ๊ะ” เธอยื่นพร้อมบริการเปิดขวดยกหลอดให้ดูดกันเลยที่เดียว จองดูดน้ำอย่างเขินอายในขณะที่ยุนนายิ้มอย่างมีความสุข มงโดมองภาพนั้นอย่างหมันใส้จึงหันไปยังอีซานที่นั่งข้างๆเขา ซึ่งกำลังดื่มน้ำอยู่เช่นกัน
“ซานจ้าหิวน้ำจังเลยป้อนเขาหน่อยซิตัวเอง” มงโดจีบปากจีบคอพูด ทำให้อีซานถึงกับสำลักน้ำออกมา จองอาและยุนนาก็หันไปมองทั้งคู่อย่างหยะแหยง
“ไอ้บ้ามงโดเอ้ย” อีซานพูดอย่างโมโหก่อนจะลุกเดินหนีไป
“อ้าวซาน เฮ้ยอีซาน น้ำฉันล่ะ” มงโดจึงลุกเดินตาม ในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็จากไป ยุนนารู้สึกโล่งใจจริงๆ
“เฮ้อ ไปซะได้ รำคาญจะแย่” ยุนนากล่าว
“เอ๊ะ นึกว่าเธอนัดเขามาซะอีก” จองอาถาม
“อะไรนะ บ้าแล้ว จะนัดมาทำไม นี่ก็แทบไม่อยากทักด้วยซ้ำ” ยุนนาตอบ
“จริงหรอที่ว่าไม่อยากทักนะ เห็นตะโกนเรียกกันเลย แถมยังคุยเล่นกันอีก” จองอาพูดอย่างประชด (หึงอ่ะดิ)
“คุยเล่นเนี่ยนะ มองยังไงเนี่ย ทะเลาะกันชัดๆ” ยุนนาอธิบาย
“ช่างมันเถอะ” จองอาพูดตัดบทและเงียบไป ยุนนาสังเกตได้ว่าเธออารมณ์ไม่ดี
“เป็นไรอีกอ่ะ โกรธหรอ” ยุนนากระแซะตัวถาม หากแต่ของอาไม่ตอบเธอนั่งนิ่งเงียบ เหมือนดั่งครุ่นคิดอยู่ ยุนนาเห็นท่าไม่ดี จึงหยิบซูชิขึ้นมากินต่อแล้วรีบยัดๆเข้าไป
“อืม อร่อยจริงๆเลย อึก แค่กๆๆ” ยุนนารีบกินมากจนติดคอ จองอาหันมามองอย่างเป็นห่วง เธอรีบเอาน้ำให้ยุนนาดื่ม
“จะรีบกินทำไมเล่า เคี้ยวช้าๆก็ได้ ดูซิติดคอเลย” จองอาเอ็ดให้ แต่ยุนนากลับยิ้มดีใจที่เธอสามารถทำให้อีกคนหายจากอาการเงียบขรึมได้ แม้ว่าจะทำเกินไปหน่อยแต่เธอก็คิดว่าคุ้ม
“หายโกรธแล้วหรอ” ยุนนาพูดขึ้นทันทีที่รู้สึกดีขึ้นจากอาการติดคอ
“ใครโกรธล่ะ” จองอายังคงไม่ยอมรับเช่นเคย กันจะตีเข้าที่ไหล่ของคนชอบแหย่ที่ทำหน้าทะเล้นใส่ เมื่อทานอาหารเสร็จทั้งคู่ก็ออกจากสวนสัตว์ ตอนนี้บ่ายกว่าๆแล้ว
“ไปไหนกันอีกดีล่ะ” จองอาเป็นฝ่ายถามมั่ง
“ไปดูหนังไหม” ยุนนาจึงรีบตอบทันที จองอานิ่งไปเมื่อได้ยิน ยุนนาจึงคิดว่าเธอคงไม่ชอบเลยทำหน้าจ๋อย
“อืมไปซิ” แต่ในที่สุดจองอาก็ตอบออกมา จากนั้นทั้งคู่จึงมุ่งหน้าไปยังโรงภาพยนตร์ จองอาเป็นคนนำยุนนามายังโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง
“ว้าวที่นี่แจ๋วไปเลย หรูสุดๆ”ยุนนาตื่นเต้นกับความโอ่อ่าที่เห็น ที่นี่คือโรงหนังระดับสูงซึ่งยุนนาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ทั้งคู่เดินมาดูรอบฉาย
“ดูอะไรกันดีล่ะ” ยุนนาถามขึ้น
“แล้วเธออยากดูอะไรล่ะ” จองอาถามกลับ ก่อนที่ยุนนาจะแอบทำหน้าเจ้าเลห์
“งั้นดูวิญญาณล้างแค้นละกัน” ยุนนาพูดขึ้น
“หนังผีหรอ”จองอาทำหน้าหวาดๆ แต่ก็ยอมแต่โดยดี
“ฮิๆๆ พอจองอาดูหนังแล้วกลัวก็จะมากอดเรา ฮ่าๆๆๆความคิดชั่วมากยุนนา” ยุนนาคิดแผนชั่วในใจ จากนั้นทั้งคู่จึงเดินมายังจุดจำหน่ายบัตร
“วิญญาณล้างแค้นสองที่ค่ะ” ยุนนาบอกพนักงาน
“หกหมื่นวอนค่ะ” พนักงานบอกราคาที่ต้องชำระ
“ห่ะ? หกหมื่นวอน” ยุนนาอุทานออกมาด้วยความตกใจไม่คาอคิดว่ามันจะแพงขนาดนี้ ทันใดนั้นจองอาก็ยื่นบัตรบางอย่างให้แก่พนักงาน พนักงานรับมารูดและยื่นหางบัตรให้แก่เธอ
“จองอาทำไรน่ะ เดี้ยวฉันจ่ายเอง” ยุนนาพูด
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีบัตรหนังอยู่แล้วน่ะ” จองอาตอบ
“แต่ยังไงมันก็เสียตังค์อยู่ดีนี่” ยุนนาบอก
“ไม่หรอกฉันได้ฟรีมาน่ะ ยังเหลืออีกตั้งหลายที่” จองอาอธิบาย (เหมือนบัตรMovies card)
“งั้นหรอ ดีจังนะได้มาจากใครหรอ” ยุนนาถาม หากแต่จองอากลับนิ่งเงียบ ก่อนจะหันมายิ้มให้ยุนนา
“ไปซื้อป๊อปคร์อนกันเถอะ” จองอาพูดพลางคล้องแขนยุนนาเดินไป ยุนนาเก็บยิ้มดีใจแทบไม่มิดที่จองอามาคล้องแขนเลยลืมสังเกตท่าทางแปลกของจองอาต่อคำถามเมื่อครู่ เมื่อได้เวลาเข้าชมทั่งคู่ก็เข้ามานั่งยังที่นั่งที่ซื้อไว้ มันเป็นโซฟาคู่ขนาดใหญ่และมีพาดิชั่นกั้นระหว่างที่นั่งคู่อื่นๆ จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว
“คนรวยเขานั่งโรงแบบนี้กันนี่เอง” ยุนนาพูดขึ้นกับตัวเอง
“อะไรนะ”จองอาได้ยินไม่ถนัดนัก
“อ้อเปล่าๆ ไม่มีไร ที่นั่งดีเนอะ”ยุนนาบอก จองอาได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนที่ไตเติลหนังจะเริ่ม
“ฮึๆๆ จองอาจ้าโผเข้ามาสู่อ้อมกอดฉันได้เลยนะจ๊ะ” ยุนนาคิดในใจ หากแต่เมื่อหนังฉายคนที่กลัวลนลานกลับเป็นยุนนาที่กระโดดไปเกาะจองอาเหมือนหมีโคอาล่าเกาะต้นไม้ ยุนนาหน้าก้มหน้างุดๆหนีจอหนังที่กำลังฉายหน้าของวิญญาณสุดสยอง เมื่อมีเสียงเอฟเฟ็คใดๆดังขึ้นยุนนาก็ร้องตกใจเสียงหลง จนทำให้เธอลืมจุดประสงค์แรกไปเลย จองอาได้แต่ขำกับท่าทางของยุนนามากกว่าจะดูหนังเสียด้วยซ้ำ เมื่อหนังจบทั้งคู่จึงเดินออกมาจากโรง ยุนนาเดินอย่างอ่อนเพลียเหมือนวิ่งผ่านป่าช้ามา
“โอ้ย หนังบ้าอะไรน่ากลัวชิหาย”ยุนนาบ่นอย่างอ่อนแรง
“แล้วใครเป็นคนเรื่องล่ะ”จองอาพูดพลางหัวเราะ
“ก็คิดว่าจองอาจะกลัวแล้วมากอดฉันอ่ะ” ยุนนาหลุดปากพูด จองอาหันขวับมาทันที
“อะไรนะ นี่วางแผนไว้ยังงี้เองหรอ” เธอพูดพลางตีไปตามตัวยุนนา
“โอ้ยๆเจ็บน้า”ยุนนาบ่น
“ดีสมน้ำหน้า สมควรแล้ว ใครใช้ให้คิดเรื่องอะไรแบบนี้ เป็นไงล่ะจะให้เขากลัวตัวเองกับกลัวซะเอง” จองอาพูดเอ็ดยุนนายกใหญ่ ยุนนาได้แต่ทำหน้าเสียอกเสียใจให้เธอสงสาร หากแต่เธอกับไม่สนใจ จึงเดินนำไปลิ่วๆเหมือนว่าเธอโกรธให้ยุนนาวิ่งตาม
“อ้าจองอารอด้วยดิ” ยุนนาร้องเรียก จองอาได้แต่แอบยิ้มไม่ให้อีกคนเห็น เมื่อยุนนาวิ่งมาทันเธอเธอก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึง
“ฉันขอโทษน้า” ยุนนาพูดพลางช้อนตาให้ดูน่าสงสาร จองอามองภาพนั้นแล้วก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ จึงปล่อยหลุดออกมา ทำให้ยุนนาถึงกับงง แล้วจึงรู้ว่าจองอาแกล้งงอนเธอเท่านั้น
“นี่แกล้งกันหรอ” ยุนนาพูดขึ้น จองอาได้แต่ยิ้มหน้าเป็น
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” ยุนนาจึงพูดฝากแค้นไว้ หากแต่น่าจะเป็นรักซะมากกว่า ตอนนี้เวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้วทั้งคู่จึงปรึกษากันอีกครั้งว่าจะไปที่ใดต่อ
“เริ่มเย็นแล้วจะไปไหนต่อดี”ยุนนาถาม จองอาคิดสักครู่ก็ตอบ
“งั้นกลับไปจนเริ่มต้นกันเถอะ” จองอาตอบ ยุนนาได้ยินดังนั้นก็ทำหน้างงทันที จองอาจึงดึงมือเธอไป จองอาพายุนนามายังนัมซันทาวเวอร์สถานที่ที่นัดพบเมื่อเช้า ยุนนาจึงได้เข้าใจคำพูดเธอ ทั้งคู่ขึ้นไปบนตึกเพื่อไปขึ้นกระเช้าชมเมือง จองอาดูมีความสุขมากๆเมื่ออยู่บนกระเช้า ยุนนาได้แต่มองเธอมากกว่าจะมองวิวทิวทัศน์ของโซวซะอีก เมื่อกระเช้ากลับมายังตึกเป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์อัสดงพอดีทั้งคู่จึงหยุดดู จองอาเดินไปเกาะตรงระเบียงยุนนายืนอยู่ด้านหลัง บนตึกสูงเช่นนั้นลมจึงแรงมากจองอาที่อยู่ตรงระเบียงจึงเงยหน้ารับลมทำให้ผมของเธอปลิวไสวพร้อมกับชุดของเธอที่ปลิวไปตามแรงลม ในขณะที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนลงมาตรงกับตำแหน่งที่จองอายืน ยุนนามองภาพนั้นดั่งต้องมนต์ มันช่างงดงามจนเธอแทบลืมหายใจ
“อ้า...หนูเข้าใจแล้วอาจารย์” เธอคิดในใจและนึกถึงคำพูดของมงที่ “แรงบันดาลใจนะมีทุกที่นะแหละ” แรงบันดาลใจของเธอก็คือจองอานั่นเอง ยุนนายิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนที่จองอาจะหันกลับมามองเธอและส่งยิ้มให้ ยุนนาจึงเดินไปยืนข้างๆเธอที่ระเบียง และลอบมองหน้าด้านข้างที่ถูกแสงอาทิตย์สีส้มสาดส่อง ยุนนานิ่งมองอยู่ยังงั้นจนจองอารู้สึกตัว เธอจึงหันมามองยุนนา
“มีอะไรหรอ” จองอาถาม
“ไม่มีอะไร” ยุนนาตอบแต่ไม่ยอมละสายตาไปจากหน้าเธอ จองอาจึงทำหน้างงๆ หลังชมดวงอาทิตย์ตกเสร็จทั้งคู่ก็ลงจากตึก ตอนนี้หกโมงกว่าแล้วยุนนาจึงพาจองอาไปทานข้าวที่ร้านบะหมี่เจ้าประจำ (คิดได้พาสาวไปร้านบะหมี่)
“ไงยุนนา ไม่เจอนานนะ” เจ้าของทักเธอทันทีที่เดินเข้าร้าน จองอารู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอไม่เคยมาร้านแบบนี้มาก่อน ยุนนาพาเธอมานั่งยังโต๊ะ
“เอาไรดี” ยุนนาถามจองอา จองอาได้แต่ทำปากผงาบๆ ก่อนที่ยุนนาจะรู้ว่าเธอไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรดี
“งั้นเดี้ยวฉันสั่งให้ ร้านนี้อร่อยมากไม่ต้องห่วง” ยุนนายืนยัน
“เถ่าแก่ ขอจาจังเหมี่ยนสองที่ ให้เยอะๆนะ” ยุนนาตะโกนบอกเจ้าของร้าน จองอายิ้มน้อยๆเมื่อมองคนตรงหน้า ไม่นานนักอาหารก็มาเสริฟ ยุนนาอธิบายวิธีการกินและสาธิตให้ดูไปในตัว จองอามองท่าทางของยุนนาแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ ทั้งคู่ทานบะหมี่อย่างสนุกสนาน เมื่อทานเสร็จยุนนาจึงเดินไปส่งจองอาที่ห้อง ระหว่างทางทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรมาก เพียงแค่จับมือกันและเดินไปตามถนนทั่วนั้น จองอารู้สึกอิ่มเอมในความสุขอย่างมากวันนี้เธอได้ไปในหลายๆที่ที่เธอไม่เคยไปมาก่อนกับคนคนนี้ที่เธอมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้ ยุนนาเองก็รู้สึกไม่ต่างกันเธอมีความสุขมากวันนี้ การมีจองอาอยู่ใกล้ๆทำให้สถานที่ธรรมดากลายเป็นสวรรค์ได้ง่ายๆ อีกทั้งยังได้ค้นพบว่าจองอาคือแรงบันดาลใจของเธออีกด้วย และตอนนี้เหลือเพียงสิ่งหนึ่งที่ยุนนาอยากทำ หากแต่คิดอยู่ว่าจะบอกจองอายังไง (ทำอะไรอ่ะ)
ตอนที่ 10
เมื่อมงโดกลับมานั่งยังม้านั่งตัวเดิม ยุนนาก็ยืนน้ำที่เธอซื้อมาให้จองอา
“จองอาน้ำจ๊ะ” เธอยื่นพร้อมบริการเปิดขวดยกหลอดให้ดูดกันเลยที่เดียว จองดูดน้ำอย่างเขินอายในขณะที่ยุนนายิ้มอย่างมีความสุข มงโดมองภาพนั้นอย่างหมันใส้จึงหันไปยังอีซานที่นั่งข้างๆเขา ซึ่งกำลังดื่มน้ำอยู่เช่นกัน
“ซานจ้าหิวน้ำจังเลยป้อนเขาหน่อยซิตัวเอง” มงโดจีบปากจีบคอพูด ทำให้อีซานถึงกับสำลักน้ำออกมา จองอาและยุนนาก็หันไปมองทั้งคู่อย่างหยะแหยง
“ไอ้บ้ามงโดเอ้ย” อีซานพูดอย่างโมโหก่อนจะลุกเดินหนีไป
“อ้าวซาน เฮ้ยอีซาน น้ำฉันล่ะ” มงโดจึงลุกเดินตาม ในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็จากไป ยุนนารู้สึกโล่งใจจริงๆ
“เฮ้อ ไปซะได้ รำคาญจะแย่” ยุนนากล่าว
“เอ๊ะ นึกว่าเธอนัดเขามาซะอีก” จองอาถาม
“อะไรนะ บ้าแล้ว จะนัดมาทำไม นี่ก็แทบไม่อยากทักด้วยซ้ำ” ยุนนาตอบ
“จริงหรอที่ว่าไม่อยากทักนะ เห็นตะโกนเรียกกันเลย แถมยังคุยเล่นกันอีก” จองอาพูดอย่างประชด (หึงอ่ะดิ)
“คุยเล่นเนี่ยนะ มองยังไงเนี่ย ทะเลาะกันชัดๆ” ยุนนาอธิบาย
“ช่างมันเถอะ” จองอาพูดตัดบทและเงียบไป ยุนนาสังเกตได้ว่าเธออารมณ์ไม่ดี
“เป็นไรอีกอ่ะ โกรธหรอ” ยุนนากระแซะตัวถาม หากแต่ของอาไม่ตอบเธอนั่งนิ่งเงียบ เหมือนดั่งครุ่นคิดอยู่ ยุนนาเห็นท่าไม่ดี จึงหยิบซูชิขึ้นมากินต่อแล้วรีบยัดๆเข้าไป
“อืม อร่อยจริงๆเลย อึก แค่กๆๆ” ยุนนารีบกินมากจนติดคอ จองอาหันมามองอย่างเป็นห่วง เธอรีบเอาน้ำให้ยุนนาดื่ม
“จะรีบกินทำไมเล่า เคี้ยวช้าๆก็ได้ ดูซิติดคอเลย” จองอาเอ็ดให้ แต่ยุนนากลับยิ้มดีใจที่เธอสามารถทำให้อีกคนหายจากอาการเงียบขรึมได้ แม้ว่าจะทำเกินไปหน่อยแต่เธอก็คิดว่าคุ้ม
“หายโกรธแล้วหรอ” ยุนนาพูดขึ้นทันทีที่รู้สึกดีขึ้นจากอาการติดคอ
“ใครโกรธล่ะ” จองอายังคงไม่ยอมรับเช่นเคย กันจะตีเข้าที่ไหล่ของคนชอบแหย่ที่ทำหน้าทะเล้นใส่ เมื่อทานอาหารเสร็จทั้งคู่ก็ออกจากสวนสัตว์ ตอนนี้บ่ายกว่าๆแล้ว
“ไปไหนกันอีกดีล่ะ” จองอาเป็นฝ่ายถามมั่ง
“ไปดูหนังไหม” ยุนนาจึงรีบตอบทันที จองอานิ่งไปเมื่อได้ยิน ยุนนาจึงคิดว่าเธอคงไม่ชอบเลยทำหน้าจ๋อย
“อืมไปซิ” แต่ในที่สุดจองอาก็ตอบออกมา จากนั้นทั้งคู่จึงมุ่งหน้าไปยังโรงภาพยนตร์ จองอาเป็นคนนำยุนนามายังโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง
“ว้าวที่นี่แจ๋วไปเลย หรูสุดๆ”ยุนนาตื่นเต้นกับความโอ่อ่าที่เห็น ที่นี่คือโรงหนังระดับสูงซึ่งยุนนาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ทั้งคู่เดินมาดูรอบฉาย
“ดูอะไรกันดีล่ะ” ยุนนาถามขึ้น
“แล้วเธออยากดูอะไรล่ะ” จองอาถามกลับ ก่อนที่ยุนนาจะแอบทำหน้าเจ้าเลห์
“งั้นดูวิญญาณล้างแค้นละกัน” ยุนนาพูดขึ้น
“หนังผีหรอ”จองอาทำหน้าหวาดๆ แต่ก็ยอมแต่โดยดี
“ฮิๆๆ พอจองอาดูหนังแล้วกลัวก็จะมากอดเรา ฮ่าๆๆๆความคิดชั่วมากยุนนา” ยุนนาคิดแผนชั่วในใจ จากนั้นทั้งคู่จึงเดินมายังจุดจำหน่ายบัตร
“วิญญาณล้างแค้นสองที่ค่ะ” ยุนนาบอกพนักงาน
“หกหมื่นวอนค่ะ” พนักงานบอกราคาที่ต้องชำระ
“ห่ะ? หกหมื่นวอน” ยุนนาอุทานออกมาด้วยความตกใจไม่คาอคิดว่ามันจะแพงขนาดนี้ ทันใดนั้นจองอาก็ยื่นบัตรบางอย่างให้แก่พนักงาน พนักงานรับมารูดและยื่นหางบัตรให้แก่เธอ
“จองอาทำไรน่ะ เดี้ยวฉันจ่ายเอง” ยุนนาพูด
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีบัตรหนังอยู่แล้วน่ะ” จองอาตอบ
“แต่ยังไงมันก็เสียตังค์อยู่ดีนี่” ยุนนาบอก
“ไม่หรอกฉันได้ฟรีมาน่ะ ยังเหลืออีกตั้งหลายที่” จองอาอธิบาย (เหมือนบัตรMovies card)
“งั้นหรอ ดีจังนะได้มาจากใครหรอ” ยุนนาถาม หากแต่จองอากลับนิ่งเงียบ ก่อนจะหันมายิ้มให้ยุนนา
“ไปซื้อป๊อปคร์อนกันเถอะ” จองอาพูดพลางคล้องแขนยุนนาเดินไป ยุนนาเก็บยิ้มดีใจแทบไม่มิดที่จองอามาคล้องแขนเลยลืมสังเกตท่าทางแปลกของจองอาต่อคำถามเมื่อครู่ เมื่อได้เวลาเข้าชมทั่งคู่ก็เข้ามานั่งยังที่นั่งที่ซื้อไว้ มันเป็นโซฟาคู่ขนาดใหญ่และมีพาดิชั่นกั้นระหว่างที่นั่งคู่อื่นๆ จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว
“คนรวยเขานั่งโรงแบบนี้กันนี่เอง” ยุนนาพูดขึ้นกับตัวเอง
“อะไรนะ”จองอาได้ยินไม่ถนัดนัก
“อ้อเปล่าๆ ไม่มีไร ที่นั่งดีเนอะ”ยุนนาบอก จองอาได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนที่ไตเติลหนังจะเริ่ม
“ฮึๆๆ จองอาจ้าโผเข้ามาสู่อ้อมกอดฉันได้เลยนะจ๊ะ” ยุนนาคิดในใจ หากแต่เมื่อหนังฉายคนที่กลัวลนลานกลับเป็นยุนนาที่กระโดดไปเกาะจองอาเหมือนหมีโคอาล่าเกาะต้นไม้ ยุนนาหน้าก้มหน้างุดๆหนีจอหนังที่กำลังฉายหน้าของวิญญาณสุดสยอง เมื่อมีเสียงเอฟเฟ็คใดๆดังขึ้นยุนนาก็ร้องตกใจเสียงหลง จนทำให้เธอลืมจุดประสงค์แรกไปเลย จองอาได้แต่ขำกับท่าทางของยุนนามากกว่าจะดูหนังเสียด้วยซ้ำ เมื่อหนังจบทั้งคู่จึงเดินออกมาจากโรง ยุนนาเดินอย่างอ่อนเพลียเหมือนวิ่งผ่านป่าช้ามา
“โอ้ย หนังบ้าอะไรน่ากลัวชิหาย”ยุนนาบ่นอย่างอ่อนแรง
“แล้วใครเป็นคนเรื่องล่ะ”จองอาพูดพลางหัวเราะ
“ก็คิดว่าจองอาจะกลัวแล้วมากอดฉันอ่ะ” ยุนนาหลุดปากพูด จองอาหันขวับมาทันที
“อะไรนะ นี่วางแผนไว้ยังงี้เองหรอ” เธอพูดพลางตีไปตามตัวยุนนา
“โอ้ยๆเจ็บน้า”ยุนนาบ่น
“ดีสมน้ำหน้า สมควรแล้ว ใครใช้ให้คิดเรื่องอะไรแบบนี้ เป็นไงล่ะจะให้เขากลัวตัวเองกับกลัวซะเอง” จองอาพูดเอ็ดยุนนายกใหญ่ ยุนนาได้แต่ทำหน้าเสียอกเสียใจให้เธอสงสาร หากแต่เธอกับไม่สนใจ จึงเดินนำไปลิ่วๆเหมือนว่าเธอโกรธให้ยุนนาวิ่งตาม
“อ้าจองอารอด้วยดิ” ยุนนาร้องเรียก จองอาได้แต่แอบยิ้มไม่ให้อีกคนเห็น เมื่อยุนนาวิ่งมาทันเธอเธอก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึง
“ฉันขอโทษน้า” ยุนนาพูดพลางช้อนตาให้ดูน่าสงสาร จองอามองภาพนั้นแล้วก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ จึงปล่อยหลุดออกมา ทำให้ยุนนาถึงกับงง แล้วจึงรู้ว่าจองอาแกล้งงอนเธอเท่านั้น
“นี่แกล้งกันหรอ” ยุนนาพูดขึ้น จองอาได้แต่ยิ้มหน้าเป็น
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” ยุนนาจึงพูดฝากแค้นไว้ หากแต่น่าจะเป็นรักซะมากกว่า ตอนนี้เวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้วทั้งคู่จึงปรึกษากันอีกครั้งว่าจะไปที่ใดต่อ
“เริ่มเย็นแล้วจะไปไหนต่อดี”ยุนนาถาม จองอาคิดสักครู่ก็ตอบ
“งั้นกลับไปจนเริ่มต้นกันเถอะ” จองอาตอบ ยุนนาได้ยินดังนั้นก็ทำหน้างงทันที จองอาจึงดึงมือเธอไป จองอาพายุนนามายังนัมซันทาวเวอร์สถานที่ที่นัดพบเมื่อเช้า ยุนนาจึงได้เข้าใจคำพูดเธอ ทั้งคู่ขึ้นไปบนตึกเพื่อไปขึ้นกระเช้าชมเมือง จองอาดูมีความสุขมากๆเมื่ออยู่บนกระเช้า ยุนนาได้แต่มองเธอมากกว่าจะมองวิวทิวทัศน์ของโซวซะอีก เมื่อกระเช้ากลับมายังตึกเป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์อัสดงพอดีทั้งคู่จึงหยุดดู จองอาเดินไปเกาะตรงระเบียงยุนนายืนอยู่ด้านหลัง บนตึกสูงเช่นนั้นลมจึงแรงมากจองอาที่อยู่ตรงระเบียงจึงเงยหน้ารับลมทำให้ผมของเธอปลิวไสวพร้อมกับชุดของเธอที่ปลิวไปตามแรงลม ในขณะที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนลงมาตรงกับตำแหน่งที่จองอายืน ยุนนามองภาพนั้นดั่งต้องมนต์ มันช่างงดงามจนเธอแทบลืมหายใจ
“อ้า...หนูเข้าใจแล้วอาจารย์” เธอคิดในใจและนึกถึงคำพูดของมงที่ “แรงบันดาลใจนะมีทุกที่นะแหละ” แรงบันดาลใจของเธอก็คือจองอานั่นเอง ยุนนายิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนที่จองอาจะหันกลับมามองเธอและส่งยิ้มให้ ยุนนาจึงเดินไปยืนข้างๆเธอที่ระเบียง และลอบมองหน้าด้านข้างที่ถูกแสงอาทิตย์สีส้มสาดส่อง ยุนนานิ่งมองอยู่ยังงั้นจนจองอารู้สึกตัว เธอจึงหันมามองยุนนา
“มีอะไรหรอ” จองอาถาม
“ไม่มีอะไร” ยุนนาตอบแต่ไม่ยอมละสายตาไปจากหน้าเธอ จองอาจึงทำหน้างงๆ หลังชมดวงอาทิตย์ตกเสร็จทั้งคู่ก็ลงจากตึก ตอนนี้หกโมงกว่าแล้วยุนนาจึงพาจองอาไปทานข้าวที่ร้านบะหมี่เจ้าประจำ (คิดได้พาสาวไปร้านบะหมี่)
“ไงยุนนา ไม่เจอนานนะ” เจ้าของทักเธอทันทีที่เดินเข้าร้าน จองอารู้สึกประหม่าเล็กน้อย เธอไม่เคยมาร้านแบบนี้มาก่อน ยุนนาพาเธอมานั่งยังโต๊ะ
“เอาไรดี” ยุนนาถามจองอา จองอาได้แต่ทำปากผงาบๆ ก่อนที่ยุนนาจะรู้ว่าเธอไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรดี
“งั้นเดี้ยวฉันสั่งให้ ร้านนี้อร่อยมากไม่ต้องห่วง” ยุนนายืนยัน
“เถ่าแก่ ขอจาจังเหมี่ยนสองที่ ให้เยอะๆนะ” ยุนนาตะโกนบอกเจ้าของร้าน จองอายิ้มน้อยๆเมื่อมองคนตรงหน้า ไม่นานนักอาหารก็มาเสริฟ ยุนนาอธิบายวิธีการกินและสาธิตให้ดูไปในตัว จองอามองท่าทางของยุนนาแล้วหัวเราะอย่างชอบใจ ทั้งคู่ทานบะหมี่อย่างสนุกสนาน เมื่อทานเสร็จยุนนาจึงเดินไปส่งจองอาที่ห้อง ระหว่างทางทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรมาก เพียงแค่จับมือกันและเดินไปตามถนนทั่วนั้น จองอารู้สึกอิ่มเอมในความสุขอย่างมากวันนี้เธอได้ไปในหลายๆที่ที่เธอไม่เคยไปมาก่อนกับคนคนนี้ที่เธอมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้ ยุนนาเองก็รู้สึกไม่ต่างกันเธอมีความสุขมากวันนี้ การมีจองอาอยู่ใกล้ๆทำให้สถานที่ธรรมดากลายเป็นสวรรค์ได้ง่ายๆ อีกทั้งยังได้ค้นพบว่าจองอาคือแรงบันดาลใจของเธออีกด้วย และตอนนี้เหลือเพียงสิ่งหนึ่งที่ยุนนาอยากทำ หากแต่คิดอยู่ว่าจะบอกจองอายังไง (ทำอะไรอ่ะ)
ป้ายกำกับ:
After School
วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553
แนะนำตัวละคร After School
แนะนำตัวละคร............................
มาทำความรู้จักกับตัวละครแต่ละตัวกันหน่อยนะจ๊ะ
เริ่มที่คนแรกของเราก็คือ ยุนนา
ผมสั้นๆของเธอ เวลามองด้านหลังจะดูเหมือนผู้ชาย พวกที่ตามล่าเธอเห็นแค่ด้านหลังจึงคิดว่าเป็นผู้ชาย ไม่คิดกันมั้งว่าหนูนาเป็นหญิงก็เลยยิงผิดตัว ยุนนามีนิสัยดื้อรั้นแต่น่ารัก ด้วยความเป็นลูกสาวคนสุดท้องจึงถูกทุกคนในครอบครัวตามใจ โดยเฉพาะพี่ชายสุดที่รักซึ่งเป็นฝาแฝดกับเธอ และเพราะอยู่กับพี่เสมออีกทั้งสนิทกับพ่อเธอจึงมีท่าทางห้าวๆเหมือนผู้ชาย ประกอบกับต้องเรียนอยู่ในโรงเรียนชายล้วนแบบนี้ จะมาทำหงิมๆคงไม่ได้ จึงไม่แปลกใจที่เธอจะมีเรื่องชกต่อยกับผู้ชาย และเพราะอยู่กับผู้ชายมากเกินไปเธอจึงได้รู้สึกสะดุดใจกับคนสวยๆอย่างจองอาทันที
คนต่อมาคือ จองอา นางฟ้า(ของยุนนา)ไวโอลิน
นางฟ้าแสนงอนของยุนนา แม้จะดูเป็นคนใจเย็นแต่ความจริงแล้วภายในใจของเธอกับเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่เก็บซ่อนไว้ เช่นเดียวกับความลับของเธอที่รอการเปิดเผย แล้วยุนนาจะรับได้ไหมเมื่อรู้ว่านางฟ้าของเธอไม่ได้สูงส่งอะไรเลย เพราะเรียนอยู่ในโรงเรียนคุณหนูมาตั้งแต่เด็กเธอจึงมีกิริยาและคำพูดที่สุภาพเสมอ และเหตุที่ตนเป็นคนสวยจึงไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะคนอื่นๆมักมองว่าเธอเป็นคนหยิ่ง ผู้ชายก็ล้วนเข้ามาหาเพื่อหวังผลในตัวเธอ แต่ยุนนาต่างจากทุกคน ยุนนาเป็นผู้หญิงคนแรกที่เธอคุยได้อย่างสนิทสนมและมีความสุขเมื่ออยู่กับหล่อน จึงไม่แปลกหรอกที่จองอาจะเปิดใจรับหนูนาเข้าไปง่ายๆ
คิมมงโด
อาจารย์แสบจอมกวน เป็นทั้งคู่กัดและคู่หูของยุนนา เขามักทำสิ่งที่คาดเดาไม่ถึงเสมอ และยังมีอีกหลายสิ่งที่ยังเป็นปริศนาเกี่ยวกับเขา นิสัยชอบแกล้งและปากจัด เขาพูดได้ไม่ไว้หน้าไม่ว่าชายหญิง เป็นคนที่ต่อกรด้วยยาก แม้จะประสบความสำเร้จด้านศิลปะอย่างสูงสุดแต่เขาก็มีอีกหลายๆสิ่งที่อยากทำ รวมถึงการสืบสวนคดีของยุนนาด้วย เขาถูกชะตากับยุนนามากโดยที่เหตุผลก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ไม่รู้ว่าเพราะ รัก หมันไส้ หรือเอ็นดู แต่ก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะช่วยเหลือเธอได้
สุดท้าย ผบ. อีซาน(กรี๊ดๆๆ ทำไม?)
ผบ.หนุ่มหน้าใสไฟแรง เพื่อนสมัยเรียนของมงโด พวกเขารู้จักกันมานาน จึงสนิทกันเป็นพิเศษ(?) ด้วยความที่อายุยังน้อยแล้วต้องมารับหน้าที่ในการคุม ปปส. เขาจึงถูกกดดันจากหลายฝ่าย และมีหลายครั้งที่ไม่ได้รับความร่วมมือ เขาจึงต้องให้เพื่อนเก่าอย่างมงโดช่วยอีกแรง อีซานมีนิสัยสุขุมและให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ความจริงแล้วเขาค่อนข้างจู่จี้ออกจะขี้โมโหซะด้วยซ้ำ หากแต่เขาไม่ค่อยแสดงอาการ จะมีแต่กับมงโดเท่านั้นที่เขาสามารถทำตัวได้ตามสบาย แม้ว่ามงโดจะค่อยกวนอารมณ์เขาอยู่บ่อยๆ แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอ
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 9
After School
ตอนที่ 9
พวกเธอทั้งคู่เดินมาจนรอบสวนแล้ว จึงแวะพักที่ม้านั่งแห่งหนึ่ง
“โอ้ยเหนื่อยเลย”ยุนนาบ่นขึ้น
“ฮึ หิวแล้วล่ะซิ”จองอาพูดอย่างอมยิ้ม แล้วเธอจึงเปิดกระเป๋าล้วงข้าวกล่องที่เธอทำเองออกมา มันเป็นชุดซูชิทำง่ายๆ แต่นั่นก็สร้างความประทับใจให้ยุนนาไม่รู้ลืม จองอาคีบซูชิป้อนให้ยุนนา ยุนนาทำหน้าเขินๆก่อนจะอ้าปากรับซูชิแสนหวานเข้าไปเคี้ยวให้ซ่ำใจ อ้าบรรยากาศช่างแสนโรแมนติก ยุนนาคิดว่านี่คงจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของวันนี้แน่ๆ หากแต่ก็มีเสียงน่ารำคาญดังมาจากม้านั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งมีเพียงต้นไม้ต้นหนึ่งกั้นไว้เท่านั้น
“ฉันบอกว่าฉันไม่กินยังไงล่ะ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“อะไรกันนายบอกเบื่อร้านนั้นฉันก็พาออกมาเปลี่ยนบรรยากาศแล้วไง เอากินหน่อยซี่” ชายอีกคนพยายามป้อนเค้กให้อีกฝ่ายอยู่(ว้ายYอีกแล้ว) ยุนนารู้สึกคุ้นหูกับเสียงทั้งสองมากจึงหันไปมอง
“จารย์ ผบ.” เธอตะโกนทักพวกเขาอย่างตกใจ ทำให้อีซานเด้งโย้งยืนขึ้นทันที แต่อีกคนกลับทักทายยุนนากลับอย่างปกติ
“อ้าวไงยุนนา” มงโดนั่นเองที่กล่าวทักเธอ
“อาจารย์กับ ผบ. มาที่นี่ได้ไงค่ะ” ยุนนาถามอย่างสงสัยป่นหยะแหยงนิดหน่อย
“พอดีอยากเปลี่ยนบรรยากาศนะ” มงโดตอบ
“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย พวกเราแค่มาคุยงานกันนะยุนนา” อีซานแก้ต่าง หากแต่ยุนนากลับมองพวกเขาด้วยสายตาที่เคลือบแคลง นั่นทำให้มงโดหัวเราะร่าแต่อีซานโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“อ่ะนั่น พี่ของเธอนี่” จองอากล่าวขึ้น
“หา ไม่ใช่ๆ พี่ของฉันนะเขา...” ยุนนากำลังจะตอบแต่ห้ามปากตัวเองไว้ทัน มงโดและอีซานต่างมองยุนนาเป็นตาเดียว
“เขาตายแล้วนะ” ยุนนาตอบเสียงอ่อย จองอาถึงกับหน้าเสีย
“เออคือฉันคิดว่าเขาเป็น...ฉันขอโทษ” จองอารีบกล่าวขอโทษยกใหญ่
“ไม่เป็นไร” ยุนนาจับมือเธอเพื่อให้จองอาสงบลง
“แหมหิวน้ำจริงๆเลย เฮ้นี่ยุนนาไปซื้อน้ำมาให้ฉันกินหน่อยซิ” มงโดอยู่ดีๆก็พูดขึ้น
“อะไรเหล่าอาจารย์หิวก็ไปซื้อมากินเองซิ” ยุนนาปฎิเสธ
“นี่ๆๆ ฉันเป็นอาจารย์เธอนะ ยัยเด็กนี่ เดี้ยวปั๊ดให้ตกซะหรอก” เขาจึงพูดขู่ จองอาเองก็รู้สึกตกใจที่รู้ว่าเขาเป็นอาจารย์ของยุนนา
“เร็วๆซี่” มงโดโวยวายไม่หยุด จนยุนนาต้องไปตามที่เขาสั่ง
“โอ้ยๆเข้าใจแล้ว ให้ตายเถอะ โซวมีตั้งกว้างทำไมต้องมาเจอกันด้วยเนี่ย” ยุนนาบ่น
“บุพเพอาละวาดล่ะมั้ง รีบไปเร็ว” มงโดเร่ง
“เดี้ยวฉันไปช่วยก็แล้วกัน” อีซานจึงเดินตามยุนนาที่ทำหน้ามุ่ยเดินนำไป เมื่อทั้งคู่จากไป มงโดก็ลุกจากที่นั่งมานั่งกับจองอา
“โอ้ซูชิทำเองหรอเนี่ย ไม่ได้กินมานานแล้ว ขอหน่อยละกัน” มงโดไม่พูดขอเปล่า เขาหยิบมันเข้าปากทันที มือจองอาเองก็ห้ามไม่ทัน เธอจึงทำได้แต่หน้างอ มงโดล่อบมองใบหน้านั่น
“ฮึ เธอนี่สวยจริงๆเลยนะ มิน่ายัยนั่นถึงคลั่งเธอนัก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงยียวน
“คุณพูดอะไรมิทราบ” เธอพยายามสุภาพ
“ไม่เอาน่า ดูครั้งแรกฉันก็รู้แล้ว ตั้งแต่ตอนที่ฉันไปเอาตัวยัยนั่นนะ ฉันก็รู้แล้วว่าเธอนะ จะสร้างปัญหาให้ยัยนั่นแน่ๆ” มงโดพูดใส่หน้าเธออย่างท้าทาย
“นี่คุณ!” จองอาโมโหสุดขีด
“ไม่ต้องมาตีหน้ายักษ์กับฉันหรอก เก็บไว้ทำกับยัยนั่นดีกว่า” เขาพูดกวนอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืนพลางหยิบซูชิอีกก้อนขึ้นมากิน
ขณะเดียวกันของยุนนาและอีซานที่เดินไปซื้อน้ำ
“ให้ตายเถอะตาลุงบ้าเอ้ย แก่มากจนเดินไม่ได้แล้วรึไงเนี่ย” ยุนนาบ่นพึมพำตลอดทาง
“ยุนนา” อีซานซึ่งเดินตามหลังเรียกเธอ
“ค่ะ? ผบ.” เธอจะหยุดตอบเขา
“เรียก พี่ซานก็ได้ เรียก ผบ.แล้วมันยังไงชอบกล คนอื่นได้ยินตกใจแย่” เขากล่าว
“อ่ะค่ะ ผ เอ้ย พี่ซาน” ยุนนาจึงเรียกตามเขาบอก
“ฉันได้เบาะแสใหม่มา เลยอยากจะบอกให้เธอรู้” อีซานบอก
“อะไรรึค่ะ”เธอถาม
“คิมโจอึน นักธุรกิจชื่อดังของเกาหลี หรือเบื้องหลังก็คือ พ่อค้ายาที่ใหญ่ที่สุดในแทบภาคกลาง หมอนี่ชอบทำบุญเอาหน้าเหมือนเศรษฐีทั่วไป แต่ที่ต่างก็คือมันชอบเลี้ยงเด็กไว้ ยิ่งเด็กเก่งๆมันยิ่งอยากได้ ทั้งกีฬาด้านต่างๆ วิชาการ หรือกิจกรรม มันเอาหมด แหล่งข่าวบอกว่า มันให้เด็กพวกนี้เล่นยา พอติดก็ให้ทำงานให้ เด็กพวกนี้มีภาพลักษณ์ดีมีคนชื่นชอบมากมายจึงไม่มีคนสงสัย ตรงกันข้ามกับมีลูกค้าเยอะซะด้วย และบางทีก็ไม่ใช่แค่ขายยา ยังมีการค้าประเวณี และการทรมานต่างๆ รวมไปถึงการฆาตกรรมอีกด้วย และฉันคิดว่าเป้าหมายตอนนี้ของมันน่าจะเป็นการแข่งขันศิลปะระดับมัธยม เพราะหนึ่งในคณะกรรมการก็คือ คิมโจอึนและฉันคิดว่าเขาจะพาเราไปสู่ลียองเอได้” อิซานบอกข้อมูลทั้งหมดแก่ยุนนา
“อะไรนะค่ะ”ยุนนาไม่อยากจะเชื่อ
“มงโดว่าเธอมีโอกาสที่จะได้แชมป์ ฉันก็เลยมาบอกเธอก่อน ถ้าไม่เป็นการเสี่ยงเกินไปฉัน....” อิซานพูดไม่ทันจบยุนนาก็ตอบเขาแล้ว
“ฉันทำค่ะ ถ้ามันจะทำให้เราจับผู้หญิงคนนั้นได้” ยุนนาตอบอย่างหนักแน่น
“เอาล่ะตอนนี้ ก็ตั้งใจวาดรูปก่อนเถอะนะ” อีซานบอก
“อ้า...จริงซิแรงบันดาลใจ ต้องหาให้เจอ” เธอทำท่าปวดหัว เขาจึงหัวเราะกับท่าทีนั้น เมื่อซื้อน้ำเสร็จทั้งคู่จึงเดินกลับมายังม้านั่ง ยุนนาก็เห็นมงโดหยิบซูชิของจองอาขึ้นมากิน จึงรีบวิ่งเข้าไป
“อาจารย์ให้มันรู้บ้างนะว่าของใครเป็นของใครนะ” ยุนนาพูดเสียงเข้มก่อนจะดึงซูชิที่ค้างอยู่หน้าปากของมงโดมากิน
“นี่มันซูชิหนูจารย์ห้ามกิน” ยุนนาพูดพลางเคี้ยวอย่างอร่อย
“ขี้งกจริงๆเลยยัยเด็กคนนี้นี่” เขาพูดพลางเดินกลับไปนั่งยังม้านั่งตัวเดิมของเขา
ตอนที่ 9
พวกเธอทั้งคู่เดินมาจนรอบสวนแล้ว จึงแวะพักที่ม้านั่งแห่งหนึ่ง
“โอ้ยเหนื่อยเลย”ยุนนาบ่นขึ้น
“ฮึ หิวแล้วล่ะซิ”จองอาพูดอย่างอมยิ้ม แล้วเธอจึงเปิดกระเป๋าล้วงข้าวกล่องที่เธอทำเองออกมา มันเป็นชุดซูชิทำง่ายๆ แต่นั่นก็สร้างความประทับใจให้ยุนนาไม่รู้ลืม จองอาคีบซูชิป้อนให้ยุนนา ยุนนาทำหน้าเขินๆก่อนจะอ้าปากรับซูชิแสนหวานเข้าไปเคี้ยวให้ซ่ำใจ อ้าบรรยากาศช่างแสนโรแมนติก ยุนนาคิดว่านี่คงจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของวันนี้แน่ๆ หากแต่ก็มีเสียงน่ารำคาญดังมาจากม้านั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งมีเพียงต้นไม้ต้นหนึ่งกั้นไว้เท่านั้น
“ฉันบอกว่าฉันไม่กินยังไงล่ะ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“อะไรกันนายบอกเบื่อร้านนั้นฉันก็พาออกมาเปลี่ยนบรรยากาศแล้วไง เอากินหน่อยซี่” ชายอีกคนพยายามป้อนเค้กให้อีกฝ่ายอยู่(ว้ายYอีกแล้ว) ยุนนารู้สึกคุ้นหูกับเสียงทั้งสองมากจึงหันไปมอง
“จารย์ ผบ.” เธอตะโกนทักพวกเขาอย่างตกใจ ทำให้อีซานเด้งโย้งยืนขึ้นทันที แต่อีกคนกลับทักทายยุนนากลับอย่างปกติ
“อ้าวไงยุนนา” มงโดนั่นเองที่กล่าวทักเธอ
“อาจารย์กับ ผบ. มาที่นี่ได้ไงค่ะ” ยุนนาถามอย่างสงสัยป่นหยะแหยงนิดหน่อย
“พอดีอยากเปลี่ยนบรรยากาศนะ” มงโดตอบ
“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย พวกเราแค่มาคุยงานกันนะยุนนา” อีซานแก้ต่าง หากแต่ยุนนากลับมองพวกเขาด้วยสายตาที่เคลือบแคลง นั่นทำให้มงโดหัวเราะร่าแต่อีซานโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“อ่ะนั่น พี่ของเธอนี่” จองอากล่าวขึ้น
“หา ไม่ใช่ๆ พี่ของฉันนะเขา...” ยุนนากำลังจะตอบแต่ห้ามปากตัวเองไว้ทัน มงโดและอีซานต่างมองยุนนาเป็นตาเดียว
“เขาตายแล้วนะ” ยุนนาตอบเสียงอ่อย จองอาถึงกับหน้าเสีย
“เออคือฉันคิดว่าเขาเป็น...ฉันขอโทษ” จองอารีบกล่าวขอโทษยกใหญ่
“ไม่เป็นไร” ยุนนาจับมือเธอเพื่อให้จองอาสงบลง
“แหมหิวน้ำจริงๆเลย เฮ้นี่ยุนนาไปซื้อน้ำมาให้ฉันกินหน่อยซิ” มงโดอยู่ดีๆก็พูดขึ้น
“อะไรเหล่าอาจารย์หิวก็ไปซื้อมากินเองซิ” ยุนนาปฎิเสธ
“นี่ๆๆ ฉันเป็นอาจารย์เธอนะ ยัยเด็กนี่ เดี้ยวปั๊ดให้ตกซะหรอก” เขาจึงพูดขู่ จองอาเองก็รู้สึกตกใจที่รู้ว่าเขาเป็นอาจารย์ของยุนนา
“เร็วๆซี่” มงโดโวยวายไม่หยุด จนยุนนาต้องไปตามที่เขาสั่ง
“โอ้ยๆเข้าใจแล้ว ให้ตายเถอะ โซวมีตั้งกว้างทำไมต้องมาเจอกันด้วยเนี่ย” ยุนนาบ่น
“บุพเพอาละวาดล่ะมั้ง รีบไปเร็ว” มงโดเร่ง
“เดี้ยวฉันไปช่วยก็แล้วกัน” อีซานจึงเดินตามยุนนาที่ทำหน้ามุ่ยเดินนำไป เมื่อทั้งคู่จากไป มงโดก็ลุกจากที่นั่งมานั่งกับจองอา
“โอ้ซูชิทำเองหรอเนี่ย ไม่ได้กินมานานแล้ว ขอหน่อยละกัน” มงโดไม่พูดขอเปล่า เขาหยิบมันเข้าปากทันที มือจองอาเองก็ห้ามไม่ทัน เธอจึงทำได้แต่หน้างอ มงโดล่อบมองใบหน้านั่น
“ฮึ เธอนี่สวยจริงๆเลยนะ มิน่ายัยนั่นถึงคลั่งเธอนัก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงยียวน
“คุณพูดอะไรมิทราบ” เธอพยายามสุภาพ
“ไม่เอาน่า ดูครั้งแรกฉันก็รู้แล้ว ตั้งแต่ตอนที่ฉันไปเอาตัวยัยนั่นนะ ฉันก็รู้แล้วว่าเธอนะ จะสร้างปัญหาให้ยัยนั่นแน่ๆ” มงโดพูดใส่หน้าเธออย่างท้าทาย
“นี่คุณ!” จองอาโมโหสุดขีด
“ไม่ต้องมาตีหน้ายักษ์กับฉันหรอก เก็บไว้ทำกับยัยนั่นดีกว่า” เขาพูดกวนอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืนพลางหยิบซูชิอีกก้อนขึ้นมากิน
ขณะเดียวกันของยุนนาและอีซานที่เดินไปซื้อน้ำ
“ให้ตายเถอะตาลุงบ้าเอ้ย แก่มากจนเดินไม่ได้แล้วรึไงเนี่ย” ยุนนาบ่นพึมพำตลอดทาง
“ยุนนา” อีซานซึ่งเดินตามหลังเรียกเธอ
“ค่ะ? ผบ.” เธอจะหยุดตอบเขา
“เรียก พี่ซานก็ได้ เรียก ผบ.แล้วมันยังไงชอบกล คนอื่นได้ยินตกใจแย่” เขากล่าว
“อ่ะค่ะ ผ เอ้ย พี่ซาน” ยุนนาจึงเรียกตามเขาบอก
“ฉันได้เบาะแสใหม่มา เลยอยากจะบอกให้เธอรู้” อีซานบอก
“อะไรรึค่ะ”เธอถาม
“คิมโจอึน นักธุรกิจชื่อดังของเกาหลี หรือเบื้องหลังก็คือ พ่อค้ายาที่ใหญ่ที่สุดในแทบภาคกลาง หมอนี่ชอบทำบุญเอาหน้าเหมือนเศรษฐีทั่วไป แต่ที่ต่างก็คือมันชอบเลี้ยงเด็กไว้ ยิ่งเด็กเก่งๆมันยิ่งอยากได้ ทั้งกีฬาด้านต่างๆ วิชาการ หรือกิจกรรม มันเอาหมด แหล่งข่าวบอกว่า มันให้เด็กพวกนี้เล่นยา พอติดก็ให้ทำงานให้ เด็กพวกนี้มีภาพลักษณ์ดีมีคนชื่นชอบมากมายจึงไม่มีคนสงสัย ตรงกันข้ามกับมีลูกค้าเยอะซะด้วย และบางทีก็ไม่ใช่แค่ขายยา ยังมีการค้าประเวณี และการทรมานต่างๆ รวมไปถึงการฆาตกรรมอีกด้วย และฉันคิดว่าเป้าหมายตอนนี้ของมันน่าจะเป็นการแข่งขันศิลปะระดับมัธยม เพราะหนึ่งในคณะกรรมการก็คือ คิมโจอึนและฉันคิดว่าเขาจะพาเราไปสู่ลียองเอได้” อิซานบอกข้อมูลทั้งหมดแก่ยุนนา
“อะไรนะค่ะ”ยุนนาไม่อยากจะเชื่อ
“มงโดว่าเธอมีโอกาสที่จะได้แชมป์ ฉันก็เลยมาบอกเธอก่อน ถ้าไม่เป็นการเสี่ยงเกินไปฉัน....” อิซานพูดไม่ทันจบยุนนาก็ตอบเขาแล้ว
“ฉันทำค่ะ ถ้ามันจะทำให้เราจับผู้หญิงคนนั้นได้” ยุนนาตอบอย่างหนักแน่น
“เอาล่ะตอนนี้ ก็ตั้งใจวาดรูปก่อนเถอะนะ” อีซานบอก
“อ้า...จริงซิแรงบันดาลใจ ต้องหาให้เจอ” เธอทำท่าปวดหัว เขาจึงหัวเราะกับท่าทีนั้น เมื่อซื้อน้ำเสร็จทั้งคู่จึงเดินกลับมายังม้านั่ง ยุนนาก็เห็นมงโดหยิบซูชิของจองอาขึ้นมากิน จึงรีบวิ่งเข้าไป
“อาจารย์ให้มันรู้บ้างนะว่าของใครเป็นของใครนะ” ยุนนาพูดเสียงเข้มก่อนจะดึงซูชิที่ค้างอยู่หน้าปากของมงโดมากิน
“นี่มันซูชิหนูจารย์ห้ามกิน” ยุนนาพูดพลางเคี้ยวอย่างอร่อย
“ขี้งกจริงๆเลยยัยเด็กคนนี้นี่” เขาพูดพลางเดินกลับไปนั่งยังม้านั่งตัวเดิมของเขา
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 8
After School
ตอนที่ 8
เมื่องานศพจอมปลอมเสร็จสิ้นยุนนาก็กลับมาเรียนตามปกติ เพียงแต่ไม่มีพี่ชายของเธอมาเรียนด้วยเท่านั้น
“นักเรียนทุกคน นี่ก็ใกล้ช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนรอคอยแล้วนะ การแข่งขันศิลปะระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศจะมีในสัปดาห์หน้าแล้ว ขอให้นักเรียนทุกคนพบแรงบันดาลใจในการวาดและตั้งใจวาดอย่างเต็มที่นะ” อาจารย์ประจำชั้นกล่าว
“การแข่งขันศิลปะระดับมัธยมศึกษาหรอ” ยุนนาพึมพำกับตัวเอง พลางนึกถึงพี่ ยุนโฮตื่นเต้นเสมอเมื่อถึงเวลานี้ เขาจะตะเวนออกไปที่ต่างๆเพื่อหาแรงบันดาลใจ และกลับมาวาดมันอย่างตั้งใจ แม้จะไม่เคยได้รางวัลแต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเลิก ผิดกับยุนนาเธอไม่เห็นถึงความสำคัญของมันเท่าไหร่ และเพราะพี่เธอตั้งใจกับมันมากเธอจึงไม่อยากเป็นคู่แข่งกับพี่ทุกปีเธอจะส่งแบบขอไปที หากแต่ปีนี้เธอตั้งใจว่าจะทำในส่วนของพี่แทนเอง
“อาจารย์ อาจารย์หาแรงบันดาลใจจากที่ไหนอ่ะ” ยุนนามักมานั่งอยู่ที่ห้องทำงานของมงโดเป็นประจำ
“อะไรของเธอ อยู่ดีๆก็ถาม” เขาที่กำลังตรวจการบ้านอยู่จึงหยุดชะงัก
“ก็จะมีการแข่งขันศิลปะระดับมัธยม หนูกะว่าจะคว้าแชมป์ให้ได้นะ” เธอพูดอย่างตั้งใจ แต่ทำให้มงโดหัวเราะก๊าก
“หน้าอย่างเธอเนี่ยนะ ฮ่าๆๆๆ” เขาชี้หน้าเธอพร้อมหัวเราะ
“ทำไมล่ะ โธ่เอ้ยแค่แชมป์ระดับมัธยม ที่ผ่านมาหนูไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นล่ะ คอยดูปีนี้เถอะหนูจะคว้าแชมป์ให้ได้เลย” เธอพูดอย่างหึกเหิมจากนั้นก็ทำหน้าเศร้า
“พี่ยุนโฮเองก็คงอยากแข่งเหมือนกัน” เธอพูดอย่างรำลึกถึงผู้เป็นพี่ มงโดจึงเข้าใจถึงจุดประสงค์เธอ เขาจึงเดินไปขยี่หัวเธอ
“โธ่เอ้ยมันจะยากอะไร แค่หาแรงบันดาลใจนะ มันมีอยู่ทุกที่นั่นล่ะ แล้วแต่ว่าเธอจะไปที่ไหน” เขาเอ่ย หากแต่ยุนนาไม่เข้าใจที่เขาพูดเลย สุดสัปดาห์นั้นเธอจึงวางแผนเดินทางเพื่อไปหาแรงบันดาลใจ แต่ก็นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นได้ มือเลยกดโทรศัพท์ไปตามใจที่เรียกร้อง
“หวัดดี เป็นไงบ้าง” ยุนนาทัก
“ใครน่ะ โทรมาไม่บอกชื่อ” ปลายสายกับตอบตัดลอน
“เอ้าจองอานี่ฉันไงยุนนาอ่ะ จำไม่ได้หรอ” ยุนนาพูด
"ยุนนาไหนหรอฉันจำได้ว่าไม่เคยมีเพื่อนชื่อยุนนานะ” เธอยังคงตอบทำลายน้ำใจอยู่ ยุนนาถึงกับจ๋อยแต่ก็ทำหน้ามึนพูดขึ้น
“ก็แน่ล่ะ เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันนี่” ยุนนาพูดแล้วอมยิ้ม อีกฝ่ายนิ่งไปซักพักก็หน้าแดงทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นขึ้นมา
“งั้น..งั้นเป็นอะไรล่ะ” หญิงสาวจึงจี้ถาม
“อ้า..นั่นสิเป็นอะไรดีน้า ถ้าไม่เป็นเพื่อนก็คงเป็น....คนรู้จักไง” ยุนนาเฉลย เล่นเอาคนลุ้นฟังใจหาย จึงโมโหใส่
“ถ้าไม่มีธุระก็แค่นี้นะ” หญิงสาวรีบตัดบท
“อ่ะเดี้ยวซิ ไปเที่ยวกันนะ” ยุนนารีบพูดเพราะกลัวอีกคนตัดสายทิ้ง หากแต่อีกฝ่ายเมื่อได้ยินดังนั้นกลับหน้าบาน
“แล้วไปไหนล่ะ” หญิงสาวถาม
“ก็..ไม่รู้อ่ะ” ยุนนาตอบอย่างสิ้นคิด เพราะเธอเองก็จนปัญญา ครั้นจะให้บอกว่าไปตามหาแรงบันดาลใจก็เกรงว่าอีกฝ่ายคงยิ่งงงนัก
“แล้วไปวันไหนล่ะ” แต่หญิงสาวกลับไม่ซักถาม นี่ล่ะน้าใจมันไปก่อนตัวแล้วนี่
“เสาร์นี้”ยุนนาตอบ
“อืม งั้นเจอกันหน้านัมซันทาวเวอร์ 10โมงนะ” หญิงสาวบอกสถานที่นัดพบ
“หา 10 เลยหรอ” ยุนนาร้องท้วง
“ทำไมล่ะเช้าไปหรอ” หญิงสาวถาม
“เปล่าสายไป เจอกันเช้าๆเถอะ จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ” ยุนนาหยอด
“งั้น 7 โมงล่ะกัน” หญิงสาวพูดพลางอายม้วนกับตัวเอง
“อืมไว้เจอกันนะ” ยุนนากล่าวลาก่อนจะวางสาย หัวใจพองโตจนรู้สึกคับหน้าอกเลยทีเดียว
เช้าวันเสาร์ เสียงโทรศัพท์ดังรบกวน ยุนนาตั้งแต่เช้า
“ฮัลโหล ใครอ่ะ” ยุนนารับอย่างงัวเงีย
“นี่ยังไม่ตื่นอีกหรอ นัดให้คนอื่นเขามารอได้เป็นชั่วโมง” เสียงโมโหของจองอาแทบจะแผดเผามือถือเครื่องน้อยๆเลยทีเดียว และช่วยปลุกโสตประสานของยุนนาให้สะดุ้งตื้นได้อย่างฉับพลัน ยุนนาเด้งตัวขึ้นรีบวิ่งผ่าน้ำและแต่งตัว เธอคงทำลายสถิติโลกในการอาบน้ำแต่งตัวเร็วที่สุดเป็นแน่เพราะเวลาไม่ถึงห้านาทีเธอก็วิ่งปู๊ดออกจากบ้านไป ตรงไปยังนัมซันทาวเวอร์จุดนัดพบครึ่งชั่วโมงในการเดินทาง ขณะนี้เวลา 8โมง 32 นาที
“ขอโทษจ้าๆๆๆ”ยุนนามาถึงก็ยกมือไหว้ปลกๆ ขอโทษขอโพยจองอายกใหญ่ เพราะเธอมัวแต่ตื่นเต้น และเลือกชุดทั้งคืนจนนอนดึก สุดท้ายเธอก็หยิบชุดที่ใส่ง่ายใกล้มือออกมา จองอานิ่งเงียบหน้าบูดบึ่ง เธอเองก็ตื่นเต้นเช่นกันและเลือกชุดอย่างยากลำบาก กว่าจะได้นอนก็ดึกดื่น แล้วต้องรีบตื่นแต่เช้าเพราะกลัวคนนัดรอนานที่ไหนได้ เขากลับไม่ให้ความสำคัญลืมนัดหล่อนนอนหลับสบายใจ จองอาจึงโกรธมากจนไม่อยากจะมองหน้ายุนนาเลย
“ฉันกลับล่ะ” จองอาพูดพลางเดินกลับ แต่ยุนนาดึงมือเธอไว้
“เดี้ยว ฉันขอโทษจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอรอ แต่ว่า” ยุนนาพยายามหาคำมาง้อเธอ
“แต่อะไรล่ะ เธอเห็นฉันไม่สำคัญใช่ไหมล่ะ ถ้ายังงั้นก็ไม่น่าจะต้องชวนฉันออกมา” จองอาประชด
“ก็ฉันอยากเจอเธอนี่ ฉันอยากอยู่กับเธอ” ยุนนาตอบ
“งั้นทำไมถึงให้ฉันรอล่ะ” จองอาพูดเหมือนจะร้องไห้ ยุนนาเห็นดังนั้นก็เศ้ราใจที่เป็นเหตุให้เธอต้องเสียใจ
“เพราะฉันมันโง่เอง ฉันมันไม่ได้เรื่อง งี่เงาที่สุด บ้าบอ บื้อ บ๊อง...” ยุนนาพูดด่าตัวเองไม่หยุดจนจองอาต้องเอามือมาปิดปาก ทั้งคู่สบตากัน และต่างยิ้มออกมา ยุนนายื่นมือมาจับมือที่จองอาปิดปากเธอไว้
“หายโกรธแล้วนะ” ยุนนาถาม
“ใครโกรธกันล่ะ” จองอาตอบ
“โอเคจ้า ไม่ได้โกรธเลย”ยุนนาจึงพูดประชดใส่ จองอาถึงกับมองตาเขียวเข้าให้ และทั้งคู่ก็เดินจูงมือกันไป
“ไปไหนกันดีล่ะ”ยุนนาถามขึ้นและหันไปมองจองอา
“สวนสัตว์ดีไหม” จองอาเสนอ
“หา?สวนสัตว์เนี่ยนะ” ยุนนาสะอึก
“ทำไมล่ะ” จองอาพูดด้วยน้ำเสียงเง้างอน
“ก็...ดีไง ดีมากเลย กำลังอยากไปอยู่เชียว” ยุนนาตอบ จึงทำให้จองอายิ้มออกมาได้
“เฮ้อสวนสัตว์เนี่ยนะ นี่มาทัศนศึกษาโรงเรียนอนุบาลรึยังไง” ยุนนาคิดในใจขณะเดินเข้าสวนสัตว์
“คิดอะไรน่ะ” จองอาหันมาถาม ราวกับอ่านความคิดยุนนาได้
“อ่ะเปล่าจ๊ะ ดูโน่นสิน่ารักจังเลยตัวกินมด” ยุนนาชี้ไปยังกรงสัตว์ให้จองอาดู
“เฮ้อ ตู โคตรหวีตเลย” ยุนนายังคงคิดต่อ
“เอาเถอะเผื่อว่าแรงบรรดาลใจมันจะซ่อนอยู่ที่นี่ก็ได้” นี่ก็คิดจ้า
ยุนนามองจองอาที่ร่าเริงเพราะเห็นเหล่าสัตว์นานาชนิด ก็รู้สึกพอใจ
“วันนี้จองอาน่ารักจังเลย แต่งตัวก็น่ารัก ใส่กระโปรงสีชมพู ไม่ยาวมากไปไม่เกะกะ หือ? เกะกะไรฟ่ะ...ฮ่าๆๆๆ” นี่เริ่มจะคิดไปใหญ่
“ยุนนาถ่ายรูปหน่อย” จองอาเรียกยุนนาให้ไปถ่ายรูปให้เธอ เมื่อถ่ายให้จองอาเสร็จเธอก็ชวนยุนนาถ่ายด้วยกัน
“มาถ่ายด้วยกันซี่” จองอาพูดพร้อมกวักมือ“ถ่ายยังไงล่ะ ใครจะกดชัตเตอร์” ยุนนาถาม จองอาจึงดึงกล้องมาจากมือยุนนามาถือไว้แล้วเขยิบเข้าไปชิดตัวเธอ จองอาซบลงไปที่ไล่ของยุนนา โดยที่มืออีกข้างของเธอก็กดชัดเตอร์ ยุนนายังไม่ได้ตั้งตัวจึงถูกถ่ายในสภาพเหวอ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นที่จองอาเข้ามาซบ
_____________________________
ขอกระจายความหวานไปต่อตอนหน้านะจ๊ะ
ตอนที่ 8
เมื่องานศพจอมปลอมเสร็จสิ้นยุนนาก็กลับมาเรียนตามปกติ เพียงแต่ไม่มีพี่ชายของเธอมาเรียนด้วยเท่านั้น
“นักเรียนทุกคน นี่ก็ใกล้ช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนรอคอยแล้วนะ การแข่งขันศิลปะระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศจะมีในสัปดาห์หน้าแล้ว ขอให้นักเรียนทุกคนพบแรงบันดาลใจในการวาดและตั้งใจวาดอย่างเต็มที่นะ” อาจารย์ประจำชั้นกล่าว
“การแข่งขันศิลปะระดับมัธยมศึกษาหรอ” ยุนนาพึมพำกับตัวเอง พลางนึกถึงพี่ ยุนโฮตื่นเต้นเสมอเมื่อถึงเวลานี้ เขาจะตะเวนออกไปที่ต่างๆเพื่อหาแรงบันดาลใจ และกลับมาวาดมันอย่างตั้งใจ แม้จะไม่เคยได้รางวัลแต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะเลิก ผิดกับยุนนาเธอไม่เห็นถึงความสำคัญของมันเท่าไหร่ และเพราะพี่เธอตั้งใจกับมันมากเธอจึงไม่อยากเป็นคู่แข่งกับพี่ทุกปีเธอจะส่งแบบขอไปที หากแต่ปีนี้เธอตั้งใจว่าจะทำในส่วนของพี่แทนเอง
“อาจารย์ อาจารย์หาแรงบันดาลใจจากที่ไหนอ่ะ” ยุนนามักมานั่งอยู่ที่ห้องทำงานของมงโดเป็นประจำ
“อะไรของเธอ อยู่ดีๆก็ถาม” เขาที่กำลังตรวจการบ้านอยู่จึงหยุดชะงัก
“ก็จะมีการแข่งขันศิลปะระดับมัธยม หนูกะว่าจะคว้าแชมป์ให้ได้นะ” เธอพูดอย่างตั้งใจ แต่ทำให้มงโดหัวเราะก๊าก
“หน้าอย่างเธอเนี่ยนะ ฮ่าๆๆๆ” เขาชี้หน้าเธอพร้อมหัวเราะ
“ทำไมล่ะ โธ่เอ้ยแค่แชมป์ระดับมัธยม ที่ผ่านมาหนูไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นล่ะ คอยดูปีนี้เถอะหนูจะคว้าแชมป์ให้ได้เลย” เธอพูดอย่างหึกเหิมจากนั้นก็ทำหน้าเศร้า
“พี่ยุนโฮเองก็คงอยากแข่งเหมือนกัน” เธอพูดอย่างรำลึกถึงผู้เป็นพี่ มงโดจึงเข้าใจถึงจุดประสงค์เธอ เขาจึงเดินไปขยี่หัวเธอ
“โธ่เอ้ยมันจะยากอะไร แค่หาแรงบันดาลใจนะ มันมีอยู่ทุกที่นั่นล่ะ แล้วแต่ว่าเธอจะไปที่ไหน” เขาเอ่ย หากแต่ยุนนาไม่เข้าใจที่เขาพูดเลย สุดสัปดาห์นั้นเธอจึงวางแผนเดินทางเพื่อไปหาแรงบันดาลใจ แต่ก็นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นได้ มือเลยกดโทรศัพท์ไปตามใจที่เรียกร้อง
“หวัดดี เป็นไงบ้าง” ยุนนาทัก
“ใครน่ะ โทรมาไม่บอกชื่อ” ปลายสายกับตอบตัดลอน
“เอ้าจองอานี่ฉันไงยุนนาอ่ะ จำไม่ได้หรอ” ยุนนาพูด
"ยุนนาไหนหรอฉันจำได้ว่าไม่เคยมีเพื่อนชื่อยุนนานะ” เธอยังคงตอบทำลายน้ำใจอยู่ ยุนนาถึงกับจ๋อยแต่ก็ทำหน้ามึนพูดขึ้น
“ก็แน่ล่ะ เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันนี่” ยุนนาพูดแล้วอมยิ้ม อีกฝ่ายนิ่งไปซักพักก็หน้าแดงทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นขึ้นมา
“งั้น..งั้นเป็นอะไรล่ะ” หญิงสาวจึงจี้ถาม
“อ้า..นั่นสิเป็นอะไรดีน้า ถ้าไม่เป็นเพื่อนก็คงเป็น....คนรู้จักไง” ยุนนาเฉลย เล่นเอาคนลุ้นฟังใจหาย จึงโมโหใส่
“ถ้าไม่มีธุระก็แค่นี้นะ” หญิงสาวรีบตัดบท
“อ่ะเดี้ยวซิ ไปเที่ยวกันนะ” ยุนนารีบพูดเพราะกลัวอีกคนตัดสายทิ้ง หากแต่อีกฝ่ายเมื่อได้ยินดังนั้นกลับหน้าบาน
“แล้วไปไหนล่ะ” หญิงสาวถาม
“ก็..ไม่รู้อ่ะ” ยุนนาตอบอย่างสิ้นคิด เพราะเธอเองก็จนปัญญา ครั้นจะให้บอกว่าไปตามหาแรงบันดาลใจก็เกรงว่าอีกฝ่ายคงยิ่งงงนัก
“แล้วไปวันไหนล่ะ” แต่หญิงสาวกลับไม่ซักถาม นี่ล่ะน้าใจมันไปก่อนตัวแล้วนี่
“เสาร์นี้”ยุนนาตอบ
“อืม งั้นเจอกันหน้านัมซันทาวเวอร์ 10โมงนะ” หญิงสาวบอกสถานที่นัดพบ
“หา 10 เลยหรอ” ยุนนาร้องท้วง
“ทำไมล่ะเช้าไปหรอ” หญิงสาวถาม
“เปล่าสายไป เจอกันเช้าๆเถอะ จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ” ยุนนาหยอด
“งั้น 7 โมงล่ะกัน” หญิงสาวพูดพลางอายม้วนกับตัวเอง
“อืมไว้เจอกันนะ” ยุนนากล่าวลาก่อนจะวางสาย หัวใจพองโตจนรู้สึกคับหน้าอกเลยทีเดียว
เช้าวันเสาร์ เสียงโทรศัพท์ดังรบกวน ยุนนาตั้งแต่เช้า
“ฮัลโหล ใครอ่ะ” ยุนนารับอย่างงัวเงีย
“นี่ยังไม่ตื่นอีกหรอ นัดให้คนอื่นเขามารอได้เป็นชั่วโมง” เสียงโมโหของจองอาแทบจะแผดเผามือถือเครื่องน้อยๆเลยทีเดียว และช่วยปลุกโสตประสานของยุนนาให้สะดุ้งตื้นได้อย่างฉับพลัน ยุนนาเด้งตัวขึ้นรีบวิ่งผ่าน้ำและแต่งตัว เธอคงทำลายสถิติโลกในการอาบน้ำแต่งตัวเร็วที่สุดเป็นแน่เพราะเวลาไม่ถึงห้านาทีเธอก็วิ่งปู๊ดออกจากบ้านไป ตรงไปยังนัมซันทาวเวอร์จุดนัดพบครึ่งชั่วโมงในการเดินทาง ขณะนี้เวลา 8โมง 32 นาที
“ขอโทษจ้าๆๆๆ”ยุนนามาถึงก็ยกมือไหว้ปลกๆ ขอโทษขอโพยจองอายกใหญ่ เพราะเธอมัวแต่ตื่นเต้น และเลือกชุดทั้งคืนจนนอนดึก สุดท้ายเธอก็หยิบชุดที่ใส่ง่ายใกล้มือออกมา จองอานิ่งเงียบหน้าบูดบึ่ง เธอเองก็ตื่นเต้นเช่นกันและเลือกชุดอย่างยากลำบาก กว่าจะได้นอนก็ดึกดื่น แล้วต้องรีบตื่นแต่เช้าเพราะกลัวคนนัดรอนานที่ไหนได้ เขากลับไม่ให้ความสำคัญลืมนัดหล่อนนอนหลับสบายใจ จองอาจึงโกรธมากจนไม่อยากจะมองหน้ายุนนาเลย
“ฉันกลับล่ะ” จองอาพูดพลางเดินกลับ แต่ยุนนาดึงมือเธอไว้
“เดี้ยว ฉันขอโทษจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอรอ แต่ว่า” ยุนนาพยายามหาคำมาง้อเธอ
“แต่อะไรล่ะ เธอเห็นฉันไม่สำคัญใช่ไหมล่ะ ถ้ายังงั้นก็ไม่น่าจะต้องชวนฉันออกมา” จองอาประชด
“ก็ฉันอยากเจอเธอนี่ ฉันอยากอยู่กับเธอ” ยุนนาตอบ
“งั้นทำไมถึงให้ฉันรอล่ะ” จองอาพูดเหมือนจะร้องไห้ ยุนนาเห็นดังนั้นก็เศ้ราใจที่เป็นเหตุให้เธอต้องเสียใจ
“เพราะฉันมันโง่เอง ฉันมันไม่ได้เรื่อง งี่เงาที่สุด บ้าบอ บื้อ บ๊อง...” ยุนนาพูดด่าตัวเองไม่หยุดจนจองอาต้องเอามือมาปิดปาก ทั้งคู่สบตากัน และต่างยิ้มออกมา ยุนนายื่นมือมาจับมือที่จองอาปิดปากเธอไว้
“หายโกรธแล้วนะ” ยุนนาถาม
“ใครโกรธกันล่ะ” จองอาตอบ
“โอเคจ้า ไม่ได้โกรธเลย”ยุนนาจึงพูดประชดใส่ จองอาถึงกับมองตาเขียวเข้าให้ และทั้งคู่ก็เดินจูงมือกันไป
“ไปไหนกันดีล่ะ”ยุนนาถามขึ้นและหันไปมองจองอา
“สวนสัตว์ดีไหม” จองอาเสนอ
“หา?สวนสัตว์เนี่ยนะ” ยุนนาสะอึก
“ทำไมล่ะ” จองอาพูดด้วยน้ำเสียงเง้างอน
“ก็...ดีไง ดีมากเลย กำลังอยากไปอยู่เชียว” ยุนนาตอบ จึงทำให้จองอายิ้มออกมาได้
“เฮ้อสวนสัตว์เนี่ยนะ นี่มาทัศนศึกษาโรงเรียนอนุบาลรึยังไง” ยุนนาคิดในใจขณะเดินเข้าสวนสัตว์
“คิดอะไรน่ะ” จองอาหันมาถาม ราวกับอ่านความคิดยุนนาได้
“อ่ะเปล่าจ๊ะ ดูโน่นสิน่ารักจังเลยตัวกินมด” ยุนนาชี้ไปยังกรงสัตว์ให้จองอาดู
“เฮ้อ ตู โคตรหวีตเลย” ยุนนายังคงคิดต่อ
“เอาเถอะเผื่อว่าแรงบรรดาลใจมันจะซ่อนอยู่ที่นี่ก็ได้” นี่ก็คิดจ้า
ยุนนามองจองอาที่ร่าเริงเพราะเห็นเหล่าสัตว์นานาชนิด ก็รู้สึกพอใจ
“วันนี้จองอาน่ารักจังเลย แต่งตัวก็น่ารัก ใส่กระโปรงสีชมพู ไม่ยาวมากไปไม่เกะกะ หือ? เกะกะไรฟ่ะ...ฮ่าๆๆๆ” นี่เริ่มจะคิดไปใหญ่
“ยุนนาถ่ายรูปหน่อย” จองอาเรียกยุนนาให้ไปถ่ายรูปให้เธอ เมื่อถ่ายให้จองอาเสร็จเธอก็ชวนยุนนาถ่ายด้วยกัน
“มาถ่ายด้วยกันซี่” จองอาพูดพร้อมกวักมือ“ถ่ายยังไงล่ะ ใครจะกดชัตเตอร์” ยุนนาถาม จองอาจึงดึงกล้องมาจากมือยุนนามาถือไว้แล้วเขยิบเข้าไปชิดตัวเธอ จองอาซบลงไปที่ไล่ของยุนนา โดยที่มืออีกข้างของเธอก็กดชัดเตอร์ ยุนนายังไม่ได้ตั้งตัวจึงถูกถ่ายในสภาพเหวอ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นที่จองอาเข้ามาซบ
_____________________________
ขอกระจายความหวานไปต่อตอนหน้านะจ๊ะ
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 7
After School
ตอนที่ 7
มงโดจึงจำใจพาเธอไปที่งาน เธอพบพ่อและแม่พวกเขากอดกันทันทีที่พบหลักจากไม่ได้พบหน้ากันหลายวัน พวกท่านเป็นห่วงยุนนามาก หากแต่พวกท่านเองก้รู้แผนนี้แล้วเช่นกัน พวกท่านจึงต้องทำท่าเสียใจที่เสียลูกชายไป ยุนนาเดินเข้าไปใกล้ๆโลงศพ มงโดจึงเดินมาสมทบเธอ
“รู้สึกแปลกๆจัง เหมือนกับความฝันเลย” เธอพูดขึ้น
“ก็ความฝันนะซิ ไม่นานเธอก็จะตื่นขึ้น และเรื่องทุกอย่างก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม ไม่นานหรอก” มงโดพูดปลอบเธอ ทันใดนั้นยุนนาก็ได้ยินเสียงเอะอะมาจากทางเข้างาน เป็นเสียงของเหล่านักข่าวที่ตามมาสัมภาษณ์ ส.ส.ลียองเอ ส.ส.ผู้ดูแลเขตนี้
“คุณพ่อและคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะค่ะดิฉันจะตามจับคนที่ยิงลูกท่าน มาดำเนินคดีอย่างแน่นอนค่ะ” เธอเดินมาพูดกับพ่อแม่ยุนนาโดยที่สื่อมวลชนห่อมล้อมอยู่ ส.ส.ลียองเอ อยู่ดีๆก็ลงมาสนใจกับคดีฆาตกรรมเด็กนักเรียนชาย สื่อจึงรุมสนใจ
“เฮ้อให้ตายเถอะ ชอบเอาน่าจริงๆพวกนักการเมือง” มงโดหันไปพูดกับยุนนา หากแต่เธอกลับไม่ได้ฟังเขาเลย เธอมองไปยัง ส.ส.ลียองเออย่างเครียดแค้น
“ยุนนาเป็นอะไรน่ะ” เขาถามอย่างสงสัย
“นั่น...นังนั่น..นังนั่นมันฆ่า...” ก่อนที่ยุนนาจะตะโกนเสียงดัง มงโดก็ปิดปากเธอและลากออกมาพ้นบริเวณที่แขกในงานอยู่
“อาจารย์ปล่อยฉันนะฉันจะไปฆ่ามัน” ยุนนาโวยวาย
“เฮ้เงียบนะ เธออยากจะให้พวกมันรู้หรือไง ว่าเธอยังไม่ตายนะ” เขาพูดเตือนสติ
“แต่มัน..มันยิงพี่” เธอพูดอย่างเจ็บปวด
“ฉันเข้าใจ ให้ตายเถอะเพราะยังงี้นี่เอง ลียองเอเลยลงมาดูคดีนี้” เขาพูดอย่างคาดไม่ถึง
“เราต้องรีบบอกอีซาน” เขาพูดแล้วจึงพาเธออกจากงานไปพบ ผบ.อีซาน ที่ร้านเค้กเจ้าประจำ
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้ว ว่าให้ไปที่อื่น” ผบ.อีซานพูดอย่างเอือมระอา ขณะที่ศิษย์อาจารย์ต่างตักกินเค้กอย่างเอร็ดอร่อย
“ทำไมล่ะ ฉันชอบเค้กร้านนี้นี่” มงโดพูดพลางเคี้ยวเค้กสตอเบอรี่นมสด
“ใช่ๆ ร้านนี้นี่สุดยอด เค้กอร่อยมากกก” ยุนนากล่าวสมทบพลางเคี้ยวบลูเบอรี่ชีทเค้ก ทำให้คนที่เกลียดของหวานอย่าง ผบ.อีซาน รู้สึกอยากอ้วกขึ้นทุกทีที่เห็นปากเลอะครีมของทั้งคู่ขยับเคี้ยวไม่หยุดหย่อน
“เอาล่ะ มาว่าเรื่องงานกันซักทีดีไหม” ผบ.อีวาน ทนต่อไปไม่ได้แล้ว ทั้งคู่จึงรีบเคี้ยวๆๆๆ และกลืนลงไป
“คือยังงี้...” ผบ.อีซาน ใช้มือทำท่าให้มงโดหยุดพูดก่อนจะหยิบทิชชู่ไปเช็ดปากให้มงโด(อุ้ยแอบY) และยุนนา
“ให้ตายเหอะกินมูมมามเป็นเด็กๆ” เขาทำท่าหน้าบูดเมื่อพูด
“ก็มีแม่คอยเช็ดปากให้แบบนี้ก็คงต้องเป็นเด็กตลอดไปล่ะนะ” มงโดพูดแหย่อีซาน(ว้ายYเห็นๆ)
“หา?แล้วใครเป็นพ่อล่ะ” ยุนนาชงต่อ มงโดจึงหัวเราะชอบใจใหญ่ แต่เมื่อเหลือบมาเห็นตาเขียวๆของคนตรงหน้าก้หุบปากทันที
“เอาล่ะเข้าเรื่องกันดีกว่านะ ยุนนา” มงโดเปลี่ยนน้ำเสียงมาจริงจัง
“คือฉันพบผู้หญิงในรูปแล้วค่ะ” เธอตอบ
“ผู้หญิงในรูปหรอ” อีซานยังงงๆอยู่
“ค่ะผู้หญิงในรูปเป็นหัวหน้า เธอพูดอะไรซักอย่างกับผู้ชายที่ถูกมัด และสั่งให้คนมาจับฉันค่ะ” เธอตอบ
“แล้วที่ว่าเธอเห็นเขานะ ที่ไหนกัน” อีวานถามต่อ
“งานศพพี่ฉัน หล่อนคือ ส.ส.ลียองเอ” ยุนนาตอบ
“อะไรนะ” อีซานไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เขาไม่เคยได้ข้อมูลของลียองเอมาก่อนเลย
“เออนี่มัน...ค่อนข้างที่จะ เป็นข้อมูลใหม่ทีเดียว” อีซานกล่าว
“เพราะงั้นยัยนั่นถึงได้ลงมาทำคดีนี้ยังไงล่ะ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครรู้อะไร” มงโดกล่าว
“ถ้าอย่างงั้น เราก็ต้องระวังตัวหนักเลยล่ะ คงไว้ใจตำรวจท้องที่ไม่ได้แล้ว” อีซานกล่าวอย่างหวาดหวั่น
“แล้วนายแน่ใจหรอ ว่าเรื่องยุนโฮยังไม่ตาย จะไม่รั่วนะ” มงโดถาม
“เรื่องนี้ฉันมั่นใจ ตอนนำออกจากโรงพยาบาลฉันให้เขาส่งจ่ายเป็นศพ ทั้งหมอและพยาบาลก็คิดว่าเขาตาย” อีซานยืนยัน
“แล้วตอนนี้พี่อยู่ไหนหรอค่ะ” ยุนนาถามอย่างเป็นห่วง“เขาอยุ่ในที่ปลอดภัย ไม่ต้องห่วงหรอก” อีซานตอบเพียงแค่นี้เพราะรู้ดีว่าหากบอกเธอว่าที่ไหน เธอต้องไปหาเขาแน่ นั่นจึงไม่เป็นการดีต่อทั้งคู่ มงโดจึงกุมมือเธอไว้เพื่อให้กำลังใจ หากแต่อีซานกับมองการกระทำนั้นแล้วทำหน้าใส่มงโดเหมือนดั่งตำหนิ มงโดจึงทำหน้าสงสัย อีซานจึงทำสายตาให้มงโดปล่อยมือเธอซะ แต่เขากลับกวนอารมณ์อีซานด้วยการโอบกอดเธอแล้วทำหน้าทะเล้นใส่อีซาน(Yแน่ๆ) พวกเขาหยอกล้อกันผ่านสายตาในขณะที่ยุนนายังอยู่ในอารมณ์เศร้าซึมเพราะเป็นห่วงพี่
ตอนที่ 7
มงโดจึงจำใจพาเธอไปที่งาน เธอพบพ่อและแม่พวกเขากอดกันทันทีที่พบหลักจากไม่ได้พบหน้ากันหลายวัน พวกท่านเป็นห่วงยุนนามาก หากแต่พวกท่านเองก้รู้แผนนี้แล้วเช่นกัน พวกท่านจึงต้องทำท่าเสียใจที่เสียลูกชายไป ยุนนาเดินเข้าไปใกล้ๆโลงศพ มงโดจึงเดินมาสมทบเธอ
“รู้สึกแปลกๆจัง เหมือนกับความฝันเลย” เธอพูดขึ้น
“ก็ความฝันนะซิ ไม่นานเธอก็จะตื่นขึ้น และเรื่องทุกอย่างก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม ไม่นานหรอก” มงโดพูดปลอบเธอ ทันใดนั้นยุนนาก็ได้ยินเสียงเอะอะมาจากทางเข้างาน เป็นเสียงของเหล่านักข่าวที่ตามมาสัมภาษณ์ ส.ส.ลียองเอ ส.ส.ผู้ดูแลเขตนี้
“คุณพ่อและคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะค่ะดิฉันจะตามจับคนที่ยิงลูกท่าน มาดำเนินคดีอย่างแน่นอนค่ะ” เธอเดินมาพูดกับพ่อแม่ยุนนาโดยที่สื่อมวลชนห่อมล้อมอยู่ ส.ส.ลียองเอ อยู่ดีๆก็ลงมาสนใจกับคดีฆาตกรรมเด็กนักเรียนชาย สื่อจึงรุมสนใจ
“เฮ้อให้ตายเถอะ ชอบเอาน่าจริงๆพวกนักการเมือง” มงโดหันไปพูดกับยุนนา หากแต่เธอกลับไม่ได้ฟังเขาเลย เธอมองไปยัง ส.ส.ลียองเออย่างเครียดแค้น
“ยุนนาเป็นอะไรน่ะ” เขาถามอย่างสงสัย
“นั่น...นังนั่น..นังนั่นมันฆ่า...” ก่อนที่ยุนนาจะตะโกนเสียงดัง มงโดก็ปิดปากเธอและลากออกมาพ้นบริเวณที่แขกในงานอยู่
“อาจารย์ปล่อยฉันนะฉันจะไปฆ่ามัน” ยุนนาโวยวาย
“เฮ้เงียบนะ เธออยากจะให้พวกมันรู้หรือไง ว่าเธอยังไม่ตายนะ” เขาพูดเตือนสติ
“แต่มัน..มันยิงพี่” เธอพูดอย่างเจ็บปวด
“ฉันเข้าใจ ให้ตายเถอะเพราะยังงี้นี่เอง ลียองเอเลยลงมาดูคดีนี้” เขาพูดอย่างคาดไม่ถึง
“เราต้องรีบบอกอีซาน” เขาพูดแล้วจึงพาเธออกจากงานไปพบ ผบ.อีซาน ที่ร้านเค้กเจ้าประจำ
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้ว ว่าให้ไปที่อื่น” ผบ.อีซานพูดอย่างเอือมระอา ขณะที่ศิษย์อาจารย์ต่างตักกินเค้กอย่างเอร็ดอร่อย
“ทำไมล่ะ ฉันชอบเค้กร้านนี้นี่” มงโดพูดพลางเคี้ยวเค้กสตอเบอรี่นมสด
“ใช่ๆ ร้านนี้นี่สุดยอด เค้กอร่อยมากกก” ยุนนากล่าวสมทบพลางเคี้ยวบลูเบอรี่ชีทเค้ก ทำให้คนที่เกลียดของหวานอย่าง ผบ.อีซาน รู้สึกอยากอ้วกขึ้นทุกทีที่เห็นปากเลอะครีมของทั้งคู่ขยับเคี้ยวไม่หยุดหย่อน
“เอาล่ะ มาว่าเรื่องงานกันซักทีดีไหม” ผบ.อีวาน ทนต่อไปไม่ได้แล้ว ทั้งคู่จึงรีบเคี้ยวๆๆๆ และกลืนลงไป
“คือยังงี้...” ผบ.อีซาน ใช้มือทำท่าให้มงโดหยุดพูดก่อนจะหยิบทิชชู่ไปเช็ดปากให้มงโด(อุ้ยแอบY) และยุนนา
“ให้ตายเหอะกินมูมมามเป็นเด็กๆ” เขาทำท่าหน้าบูดเมื่อพูด
“ก็มีแม่คอยเช็ดปากให้แบบนี้ก็คงต้องเป็นเด็กตลอดไปล่ะนะ” มงโดพูดแหย่อีซาน(ว้ายYเห็นๆ)
“หา?แล้วใครเป็นพ่อล่ะ” ยุนนาชงต่อ มงโดจึงหัวเราะชอบใจใหญ่ แต่เมื่อเหลือบมาเห็นตาเขียวๆของคนตรงหน้าก้หุบปากทันที
“เอาล่ะเข้าเรื่องกันดีกว่านะ ยุนนา” มงโดเปลี่ยนน้ำเสียงมาจริงจัง
“คือฉันพบผู้หญิงในรูปแล้วค่ะ” เธอตอบ
“ผู้หญิงในรูปหรอ” อีซานยังงงๆอยู่
“ค่ะผู้หญิงในรูปเป็นหัวหน้า เธอพูดอะไรซักอย่างกับผู้ชายที่ถูกมัด และสั่งให้คนมาจับฉันค่ะ” เธอตอบ
“แล้วที่ว่าเธอเห็นเขานะ ที่ไหนกัน” อีวานถามต่อ
“งานศพพี่ฉัน หล่อนคือ ส.ส.ลียองเอ” ยุนนาตอบ
“อะไรนะ” อีซานไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เขาไม่เคยได้ข้อมูลของลียองเอมาก่อนเลย
“เออนี่มัน...ค่อนข้างที่จะ เป็นข้อมูลใหม่ทีเดียว” อีซานกล่าว
“เพราะงั้นยัยนั่นถึงได้ลงมาทำคดีนี้ยังไงล่ะ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครรู้อะไร” มงโดกล่าว
“ถ้าอย่างงั้น เราก็ต้องระวังตัวหนักเลยล่ะ คงไว้ใจตำรวจท้องที่ไม่ได้แล้ว” อีซานกล่าวอย่างหวาดหวั่น
“แล้วนายแน่ใจหรอ ว่าเรื่องยุนโฮยังไม่ตาย จะไม่รั่วนะ” มงโดถาม
“เรื่องนี้ฉันมั่นใจ ตอนนำออกจากโรงพยาบาลฉันให้เขาส่งจ่ายเป็นศพ ทั้งหมอและพยาบาลก็คิดว่าเขาตาย” อีซานยืนยัน
“แล้วตอนนี้พี่อยู่ไหนหรอค่ะ” ยุนนาถามอย่างเป็นห่วง“เขาอยุ่ในที่ปลอดภัย ไม่ต้องห่วงหรอก” อีซานตอบเพียงแค่นี้เพราะรู้ดีว่าหากบอกเธอว่าที่ไหน เธอต้องไปหาเขาแน่ นั่นจึงไม่เป็นการดีต่อทั้งคู่ มงโดจึงกุมมือเธอไว้เพื่อให้กำลังใจ หากแต่อีซานกับมองการกระทำนั้นแล้วทำหน้าใส่มงโดเหมือนดั่งตำหนิ มงโดจึงทำหน้าสงสัย อีซานจึงทำสายตาให้มงโดปล่อยมือเธอซะ แต่เขากลับกวนอารมณ์อีซานด้วยการโอบกอดเธอแล้วทำหน้าทะเล้นใส่อีซาน(Yแน่ๆ) พวกเขาหยอกล้อกันผ่านสายตาในขณะที่ยุนนายังอยู่ในอารมณ์เศร้าซึมเพราะเป็นห่วงพี่
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 6
After School
ตอนที่ 6
ยุนนาและแม่รีบไปโรงพยาบาลทันที เมื่อมาถึงก็พบพ่อเธอรออยู่แล้ว ยุนนาและแม่โผลเข้าหาพ่อเธอทันที
“ไม่ต้องห่วงเขาต้องปลอดภัย” พ่อปลอบใจทั้งสอง ยุนนาและแม่ต่างร้องไห้ยกใหญ่ ยุนนาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอยู่ดีๆพี่เธอถึงถูกยิงได้ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นมงโดเธอจึงเดินเข้าไปคุย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ” เธอถามอย่างสอึกสะอื้น หากแต่เขากลับไม่ตอบเธอ เธอสังเกตเห็นกรอบรูปข้างตัวเขา จึงหยิบขึ้นดู
“ยุนนาอย่า”เขาร้องห้าม แต่ไม่ทันมือเธอ เธอพลิกดูด้านหน้า มันคือรูปๆนั้นที่เธอวาด วาดจาดเหตุการณ์ที่เธอเห็น มันปรากฎเป็นรูโบ้อยู่ริมกลางภาพพร้อมรอยเลือดแดงฉานของพี่ชาย เธอจึงปะติดปะต่อเรื่องทุกอย่างได้ และรู้ได้ทันทีว่าพี่เธอโดนยิงเพราะเหตุใด
“โธ่เว้ย” เธอเขวี้ยงมันลงกับพื้น
“ทำไมทำไม” เธอตะโกนใส่หน้ามงโดและวิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลไป มงโดจึงวิ่งตามหากแต่เขาก็วิ่งไม่ทันเธอเช่นเคย ยุนนาหายลับตาเขาไป เธอวิ่งออกมายังถนนและวิ่งไปเรื่อยๆ สายฝนก็โปรยปรายลงมาเหมือนดั่งน้ำตาที่ไหลรินของเธอ เธอวิ่งไปเรื่อยๆจนขาของเธอล้าและล้มลง
“โธ่เว้ยทำไมถึงเป็นยังงี้ว้า” เมื่อขาเธอวิ่งต่อไม่ไหว เธอจึงใช้กำปั้นตุบพื้นระบายอารมณ์จนมันแตก เลือดไหลซิบออกจากมือเธอและล้มตัวลงนอนอย่างหมดอาลัย ตอนนี้สติของเธอเริ่มลางเลือนเต้มที ภาพสุดท้ายที่เห็นคือใบหน้าของนางฟ้าที่เธอหลงรัก จองอา
“ยุนนาๆ” จองอาเดินทางกลับจากโรงเรียนพอดี เธอเห็นใครคนหนึ่งนอนแผ่อยู่กลางถนนจึงเดินเข้ามาดู ก็ตกใจที่เป็นยุนนา ผู้หญิงที่เธอเฝ้าคิดถึงตลอดทั้งวัน จองอาจึงหอบร่างไร้สติของยุนนาไปยังห้องของเธอ เธอจัดการเช็ดเนื้อตัวที่เปียกฝนและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ยุนนา พร้อมทั้งทำแผลที่มือของเธอด้วย
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นน้า” จองอาพึมพำ พลางลูบหน้ายุนนาอย่างเป็นห่วง จึงเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ของยุนนาที่เปียกน้ำวางไว้ข้างเตียง จองอาจึงถอดซิมของยุนนาออกจากเรื่องและนำมาใส่เครื่องเธอ แล้วเปิดดูสมุดโทรศัพท์ เธอจำได้ว่ายุนนามีพี่ชาย ซักพักก็เจอชื่อที่คิดว่าน่าจะใช่
“พี่ยุนโฮหรอ อันนี้ล่ะมั้ง” เธอจึงตัดสินใจเธอออกไป ซักพักก็มีคนรับ
“ยุนนาเธออยู่ที่ไหนนะ” เสียงปลายสายดูมีอายุกว่าที่จองอาคิดไว้
“เออคุณพี่ยุนนาใช่ไหมค่ะ” เธอถาม
“เธอเป็นใครนะ ยุนนาล่ะ” แต่เขากลับถามเธอตอบ
“ฉันเป็น...เอ่อยุนนาอยู่กับฉันนะคะ คือเธอบาดเจ็บ” จองอาเลือกที่จะพูดถึงยุนนาเลย เพราะก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตนเป็นอะไรกับยุนนา
“อะไรนะ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” เขาตกใจมากเมื่อทราบว่ายุนนาบาดเจ็บ เมื่อได้ที่อยู่จองอาเขาจึงรีบมาทันที
“พี่ยุนโฮ พี่ยุน..โฮ” ยุนนาเพ้อด้วยพิษไข้
“ยุนนาๆ”จองอาพยายามเรียก หากแต่ก้ไม่เป็นผล เธอจึงทำได้เพียงเช็ดตัวยุนนาไล่ไอร้อนไปเท่านั้น ซักพักเธอก็สงบลง ทันใดเสียงออดก็ดังขึ้น จองอาจึงเดินไปเปิดประตู เมื่อประตูถูกเปิดออกยังไม่ทันที่เจ้าบ้านจะเชื้อเชิญมงโดก้พรวดพราดเข้ามา
“ไหนล่ะเธออยู่ไหน” เขาถามหายุนนาทันที
“คุณเป็นพี่ยุนนาหรอค่ะ” เธอรู้สึกสงัสยในตัวเขา หากแต่เขาไม่ฟังเดินเข้าไปภายในห้องโดยพละการ จึงพบร่างไร้สติของยุนนาบนเตียง เข้าตรงเข้าไปหาเธอทันที
“ยุนนาๆ เธอเป็นไงบ้าง” เขาเข้ามาพยุงร่างเธอ
“นี่เธอเป็นอะไรเนี่ย” เขาถามจองอาพร้อมมองเธออย่างตำหนิ ทำให้จองอารู้สึกไม่พอใจ ทั้งที่เธอเป็นคนช่วยยุนนาแท้ๆ
“ฉันไม่ทราบค่ะ พบเธอนอนอยู่บนถนนข้างนอก มือแตกไปหมด เลยเอาเข้ามาทำแผล” จองอาตอบ มงโดรีบสำรวจมือของยุนนาทันที เขาจับมันอย่างอ่อนโยนและทนุถนอม ภาพนี้ทำให้จองอารู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่เขาเป็นพี่ชายยุนนาทำให้ เธอจะต้องหึงเขาด้วย จองอารู้สึกสับสนมาก ทันใดนั้นเขาก็อุ้มร่างยุนนาขึ้น
“นี่คุณจะทำอะไรน่ะ” จองอาร้องถาม หากแต่เขากลับอุ้มร่างเธอเดินไปยังทางออก
“นี่คุณจะเอาเธอไปไหนนะ” จองอารีบเดินตาม
“ไม่เกี่ยวกับเธอ ขอบคุณมากที่ช่วยยุนนาไว้” เขาพูดพวกแค่นั้นและอุ้มร่างยุนนาเดินออกประตูไป จองอาได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง มงโดนำยุนนามาที่บ้านของเขา เขาคอยเช็ดตัวและเฝ้าไข้เธอตลอดสองวันในที่สุดเธอก็รู้สึกตัว
“น้ำขอน้ำหน่อย” มงโดได้ยินดังนั้นก็ป้อนน้ำให้เธอ
“เธอเป็นยังไงบ้างยุนนา” เขาถามอย่างเป็นห่วง
“พี่หนู พี่” เธอยังไม่มีแรงนัก
“พี่เธอปลอดภัย ไม่ต้องห่วง” เขาตอบจึงทำให้เธอคลายกังวลได้
“แต่เราต้องให้ข่าวออกไปว่าเขาตายแล้ว เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวเธอและตัวเธอเอง” เขาพูด ยุนนาไม่ค่อยเข้าใจนัก ทันใดนั้นชายคนนึงก็พูดขึ้น
“พวกนั้นไม่รู้ว่าคนที่เห็นเหตุการณ์เป็นเธอ จากการลอบสังหารพี่เธอดังกล่าวทำให้เรารู้อะไรขึ้นมากทีเดียว” ชายคนนั้นอธิบาย
“คุณเป็นใครน่ะ” ยุนนาถาม
“เออยุนนานี่ ผบ.อีซาน เขาเป็นผบ.ปปส. ที่ตามคดีนี้อยู่นะ” มงโดอธิบาย
“ฉันเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นด้วยนะ แต่จากนี้ไปฉันจะจัดทีมคุ้มกันเธอ” ผบ.อีซานกล่าว
“เฮ้จะดีหรอ แบบนั้นพวกมันก็รู้ตัวนะซิ” มงโดแย้ง
“ไม่ต้องห่วง พวกนั้นไม่รู้หรอก ฉันจัดการหนอนบ่อนใส้ที่ส่งรูปนั้นเรียบร้อยแล้ว” เขาอธิบาย
“ว่าแต่นายจะบอกเธอไหม” ผบ.อีซานพูดกับมงโด ทำให้ยุนนาสงสัย
“อะไรค่ะ เรื่องอะไร” เธอถาม
“งานศพน่ะ งานศพพี่เธอ เธอจะไปไหม แต่เธอไม่จำเป็นต้อง...” มงโดพุดไม่ทันจบยุนนาก็สวนขึ้น“ไปคะ หนูจะไป” เธอตอบอย่างมุ่งมั่น
ตอนที่ 6
ยุนนาและแม่รีบไปโรงพยาบาลทันที เมื่อมาถึงก็พบพ่อเธอรออยู่แล้ว ยุนนาและแม่โผลเข้าหาพ่อเธอทันที
“ไม่ต้องห่วงเขาต้องปลอดภัย” พ่อปลอบใจทั้งสอง ยุนนาและแม่ต่างร้องไห้ยกใหญ่ ยุนนาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอยู่ดีๆพี่เธอถึงถูกยิงได้ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นมงโดเธอจึงเดินเข้าไปคุย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ” เธอถามอย่างสอึกสะอื้น หากแต่เขากลับไม่ตอบเธอ เธอสังเกตเห็นกรอบรูปข้างตัวเขา จึงหยิบขึ้นดู
“ยุนนาอย่า”เขาร้องห้าม แต่ไม่ทันมือเธอ เธอพลิกดูด้านหน้า มันคือรูปๆนั้นที่เธอวาด วาดจาดเหตุการณ์ที่เธอเห็น มันปรากฎเป็นรูโบ้อยู่ริมกลางภาพพร้อมรอยเลือดแดงฉานของพี่ชาย เธอจึงปะติดปะต่อเรื่องทุกอย่างได้ และรู้ได้ทันทีว่าพี่เธอโดนยิงเพราะเหตุใด
“โธ่เว้ย” เธอเขวี้ยงมันลงกับพื้น
“ทำไมทำไม” เธอตะโกนใส่หน้ามงโดและวิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลไป มงโดจึงวิ่งตามหากแต่เขาก็วิ่งไม่ทันเธอเช่นเคย ยุนนาหายลับตาเขาไป เธอวิ่งออกมายังถนนและวิ่งไปเรื่อยๆ สายฝนก็โปรยปรายลงมาเหมือนดั่งน้ำตาที่ไหลรินของเธอ เธอวิ่งไปเรื่อยๆจนขาของเธอล้าและล้มลง
“โธ่เว้ยทำไมถึงเป็นยังงี้ว้า” เมื่อขาเธอวิ่งต่อไม่ไหว เธอจึงใช้กำปั้นตุบพื้นระบายอารมณ์จนมันแตก เลือดไหลซิบออกจากมือเธอและล้มตัวลงนอนอย่างหมดอาลัย ตอนนี้สติของเธอเริ่มลางเลือนเต้มที ภาพสุดท้ายที่เห็นคือใบหน้าของนางฟ้าที่เธอหลงรัก จองอา
“ยุนนาๆ” จองอาเดินทางกลับจากโรงเรียนพอดี เธอเห็นใครคนหนึ่งนอนแผ่อยู่กลางถนนจึงเดินเข้ามาดู ก็ตกใจที่เป็นยุนนา ผู้หญิงที่เธอเฝ้าคิดถึงตลอดทั้งวัน จองอาจึงหอบร่างไร้สติของยุนนาไปยังห้องของเธอ เธอจัดการเช็ดเนื้อตัวที่เปียกฝนและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ยุนนา พร้อมทั้งทำแผลที่มือของเธอด้วย
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นน้า” จองอาพึมพำ พลางลูบหน้ายุนนาอย่างเป็นห่วง จึงเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ของยุนนาที่เปียกน้ำวางไว้ข้างเตียง จองอาจึงถอดซิมของยุนนาออกจากเรื่องและนำมาใส่เครื่องเธอ แล้วเปิดดูสมุดโทรศัพท์ เธอจำได้ว่ายุนนามีพี่ชาย ซักพักก็เจอชื่อที่คิดว่าน่าจะใช่
“พี่ยุนโฮหรอ อันนี้ล่ะมั้ง” เธอจึงตัดสินใจเธอออกไป ซักพักก็มีคนรับ
“ยุนนาเธออยู่ที่ไหนนะ” เสียงปลายสายดูมีอายุกว่าที่จองอาคิดไว้
“เออคุณพี่ยุนนาใช่ไหมค่ะ” เธอถาม
“เธอเป็นใครนะ ยุนนาล่ะ” แต่เขากลับถามเธอตอบ
“ฉันเป็น...เอ่อยุนนาอยู่กับฉันนะคะ คือเธอบาดเจ็บ” จองอาเลือกที่จะพูดถึงยุนนาเลย เพราะก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตนเป็นอะไรกับยุนนา
“อะไรนะ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” เขาตกใจมากเมื่อทราบว่ายุนนาบาดเจ็บ เมื่อได้ที่อยู่จองอาเขาจึงรีบมาทันที
“พี่ยุนโฮ พี่ยุน..โฮ” ยุนนาเพ้อด้วยพิษไข้
“ยุนนาๆ”จองอาพยายามเรียก หากแต่ก้ไม่เป็นผล เธอจึงทำได้เพียงเช็ดตัวยุนนาไล่ไอร้อนไปเท่านั้น ซักพักเธอก็สงบลง ทันใดเสียงออดก็ดังขึ้น จองอาจึงเดินไปเปิดประตู เมื่อประตูถูกเปิดออกยังไม่ทันที่เจ้าบ้านจะเชื้อเชิญมงโดก้พรวดพราดเข้ามา
“ไหนล่ะเธออยู่ไหน” เขาถามหายุนนาทันที
“คุณเป็นพี่ยุนนาหรอค่ะ” เธอรู้สึกสงัสยในตัวเขา หากแต่เขาไม่ฟังเดินเข้าไปภายในห้องโดยพละการ จึงพบร่างไร้สติของยุนนาบนเตียง เข้าตรงเข้าไปหาเธอทันที
“ยุนนาๆ เธอเป็นไงบ้าง” เขาเข้ามาพยุงร่างเธอ
“นี่เธอเป็นอะไรเนี่ย” เขาถามจองอาพร้อมมองเธออย่างตำหนิ ทำให้จองอารู้สึกไม่พอใจ ทั้งที่เธอเป็นคนช่วยยุนนาแท้ๆ
“ฉันไม่ทราบค่ะ พบเธอนอนอยู่บนถนนข้างนอก มือแตกไปหมด เลยเอาเข้ามาทำแผล” จองอาตอบ มงโดรีบสำรวจมือของยุนนาทันที เขาจับมันอย่างอ่อนโยนและทนุถนอม ภาพนี้ทำให้จองอารู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่เขาเป็นพี่ชายยุนนาทำให้ เธอจะต้องหึงเขาด้วย จองอารู้สึกสับสนมาก ทันใดนั้นเขาก็อุ้มร่างยุนนาขึ้น
“นี่คุณจะทำอะไรน่ะ” จองอาร้องถาม หากแต่เขากลับอุ้มร่างเธอเดินไปยังทางออก
“นี่คุณจะเอาเธอไปไหนนะ” จองอารีบเดินตาม
“ไม่เกี่ยวกับเธอ ขอบคุณมากที่ช่วยยุนนาไว้” เขาพูดพวกแค่นั้นและอุ้มร่างยุนนาเดินออกประตูไป จองอาได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง มงโดนำยุนนามาที่บ้านของเขา เขาคอยเช็ดตัวและเฝ้าไข้เธอตลอดสองวันในที่สุดเธอก็รู้สึกตัว
“น้ำขอน้ำหน่อย” มงโดได้ยินดังนั้นก็ป้อนน้ำให้เธอ
“เธอเป็นยังไงบ้างยุนนา” เขาถามอย่างเป็นห่วง
“พี่หนู พี่” เธอยังไม่มีแรงนัก
“พี่เธอปลอดภัย ไม่ต้องห่วง” เขาตอบจึงทำให้เธอคลายกังวลได้
“แต่เราต้องให้ข่าวออกไปว่าเขาตายแล้ว เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวเธอและตัวเธอเอง” เขาพูด ยุนนาไม่ค่อยเข้าใจนัก ทันใดนั้นชายคนนึงก็พูดขึ้น
“พวกนั้นไม่รู้ว่าคนที่เห็นเหตุการณ์เป็นเธอ จากการลอบสังหารพี่เธอดังกล่าวทำให้เรารู้อะไรขึ้นมากทีเดียว” ชายคนนั้นอธิบาย
“คุณเป็นใครน่ะ” ยุนนาถาม
“เออยุนนานี่ ผบ.อีซาน เขาเป็นผบ.ปปส. ที่ตามคดีนี้อยู่นะ” มงโดอธิบาย
“ฉันเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นด้วยนะ แต่จากนี้ไปฉันจะจัดทีมคุ้มกันเธอ” ผบ.อีซานกล่าว
“เฮ้จะดีหรอ แบบนั้นพวกมันก็รู้ตัวนะซิ” มงโดแย้ง
“ไม่ต้องห่วง พวกนั้นไม่รู้หรอก ฉันจัดการหนอนบ่อนใส้ที่ส่งรูปนั้นเรียบร้อยแล้ว” เขาอธิบาย
“ว่าแต่นายจะบอกเธอไหม” ผบ.อีซานพูดกับมงโด ทำให้ยุนนาสงสัย
“อะไรค่ะ เรื่องอะไร” เธอถาม
“งานศพน่ะ งานศพพี่เธอ เธอจะไปไหม แต่เธอไม่จำเป็นต้อง...” มงโดพุดไม่ทันจบยุนนาก็สวนขึ้น“ไปคะ หนูจะไป” เธอตอบอย่างมุ่งมั่น
ป้ายกำกับ:
After School
วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553
After School ตอนที่5
After School
ตอนที่5
ณ ปปส. หลักฐานภาพวาดของยุนนาก็ได้ถูกส่งมาทางเมล ให้แก่เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เขาดูมันอย่างพิจารณาซักพักก็กดโทรศัพท์ออก
“นี่ฉันเอง ได้รับแล้วนะ แต่นี่มันใช้ในชั้นศาลไม่ได้หรอกนะ” เขาพูด
“ฉันรู้ แต่ถ้าคำให้การของคนที่วาดมันล่ะ พอจะใช้ในชั้นศาลได้ใช่ไหม” ชายปลายสายตอบ ก่อนที่การสื่อสารจะจบลง มงโดนั่นเองที่เป็นคนส่งไป
“ซินยุนนา เธอจะหนีฉันไปถึงเมื่อไหร่กัน” เขาพึมพำกับตัวเอง
เช้าวันต่อมายุนนาปวดหัวแทบระเบิดด้วยอาการเมา(ไม่)ค้างของเธอ วันนี้เธอจึงงอแงที่จะลุกขึ้นจากเตียง
“โอ้ยไม่ไหวปวดหัวอ่ะพี่ยุนโฮ” ยุนนาอ้อน
“เป็นอะไร ไม่สบายหรอ” ยุนโฮถามอย่างเป็นห่วง
“อือสงสัยจะมีไข้นะ” ยุนนาโกหกคำโต หากแต่ความยุติธรรมยังมีอยู่ไม่ให้คนดีๆอย่างยุนโฮถูกจิงจอกเจ้าเล่ห์หรอกได้ก็โผล่มา
“เป็นไข้หรือเมาค้างยุนนา” พ่อของเธอนั่นเองที่โผล่เข้าห้องมาดูอาการงอแงเหมือนเด็กของลูกสาว
“จริงหรอยุนนา อ้า...จริงซิเมื่อคืนไปคลับมาจริงๆใช่ไหม” ยุนโฮซัก
“โธ่เอ้ย คนยิ่งปวดหัวอยู่พ่อกับพี่พูดอะไรเนี่ย โอ้ยไปไม่ไหวหยุดๆ” เธอบ่ายเบี่ยงและทำท่าทรมานจนยุนโฮเกือบใจอ่อน
“ไม่ได้ลุกขึ้นมาเดี้ยวนี้เลยยัยตัวดี ทำตัวเองแล้วมาบ่นพ่อไม่หลงกลหรอกนะ” พ่อเขาไปกระชากผ้าห่มที่ถูกยุนนาขดพันกับตัว และแกะร่างเธอขึ้นจากเตียง
“น้าพ่อนะ วันเดียว”เธอยังอ้อนต่อ
“ไม่ได้ถ้าเธอหยุด พี่เธอคงไม่ยอมไปโรงเรียนแน่ เดี้ยวก็ได้หยุดตามมาดูแลกันอีก” พ่ออธิบาย จากนั้นจึงลากเธอเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูขังไว้หากไม่อาบน้ำก็ไม่ปล่อยออกมา จนเธอต้องยอมทำตามอาบน้ำแต่งตัวแต่โดยดี
“กว่าจะลงมาได้นะ” แม่ทำหน้าเอือมระอากับลูกสาวตัวดีที่ไม่รู้จักโตขณะเดินลงบันใดมาทานอาหาร เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จยุนนาและยุนโฮก็เดินทางไปโรงเรียนตามปกติ หากแต่พอมาถึงโรงเรียนยุนนาก็หลบไปนอนที่ห้องพยาบาล
มงโดอังเอิญเจอยุนโฮตรงระเบียงจึงเข้าไปถามหายุนนา
“ไงซินุยนโฮ น้องเธอไปไหนซะล่ะ” มงโดเอ่ยถาม
“เออคือเธอไม่ค่อยสบายนะครับวันนี้ ก็เลยนอนที่ห้องพยาบาล” เขาตอบ
“ตั้งแต่เช้าเนี่ยนะ” มงโดถามเสียงสูง ยุนโฮได้แต่พยักหน้า ก่อนที่มงโดจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา และมุ่งหน้าไปยังห้องพยาบาล เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องก็พบร่างยุนนานอนหลับตาพริ้มสบายอารมณ์ เห็นดังนั้นมงโดจึงหมันใส้
“ไฟไหม้ๆๆๆ” เขาตะโกนเสียงดังจนยุนนาตกใจตื่นและคิดว่าไฟไหม้จริง
“แม่ๆๆ ตายๆๆห่า” เธออุทานพร้อมกระเด้งตัวลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว และมองไปรอบๆจึงพบกับมงโดที่ยืนมองปิฏิกิริยาของเธอ เธอจึงรุ้ได้ทันทีว่าเขาแกล้ง
“โธ่เอ้ยอาจารย์ เป็นบ้าไรเนี่ยตกใจหมดเลย” เธอโมโหยกใหญ่
“ดีแล้ว เธอคิดจะโดดเรียนมานอนอู้ยังงี้ถึงเมื่อไหร่” เขาเอ็ดเธอให้
“มันก็เรื่องของหนูนะอาจารย์” เธอจะกลับไปนอนต่อ แต่เขาดันล้มตัวลงนอนเต็มเตียง เธอจึงย้ายไปเตียงข้างๆเขาก็เอาขามาพาดกลางเตียงเลย
“อาจารย์” เธอตะโกน เขาจึงลุกขึ้นนั่ง
“ฉันอยากคุยเรื่องการ์ตูนบ้านั่น” เขาบอก
“หนูไม่อยาก” เธอตอบ
“ดีงั้นคุยเรื่องภาพที่เธอวาดที่สวนกันดีไหม” เขาจึงเปลี่ยนเรื่อง แต่เธอกลับทำหน้าเครียด
“ไม่คุย ไม่ฟัง ไม่คุย ไม่ฟัง...” เธอพูดวนอย่างนั้นแล้วก็วิ่งหนีไปอีก มงโดเริ่มเอือมระอากับยุนนาเต็มทีแล้ว แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ตามตัวเธอโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ไง มีอะไรหรอ” มงตอบปลายสาย
“หาฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุย”คนปลายสายบอก
“ก็ได้ที่เดิมละกัน” มงโดรับคำ เมื่อวางสายเขาก็ออกจากโรงเรียนไปโดยไม่เข้ามาอีก
แม้คาบเรียนภาคบ่ายเริ่มยุนนาก็ยังไม่กลับมาเรียน ทำให้ยุนโฮรู้สึกเป็นห่วงเธอมากหากแต่ก็ติดต่อเธอไม่ได้
“เอาล่ะนะนักเดี้ยวก่อนที่จะเริ่มเรียนอาจารย์มีอะไรจะถามหน่อย ภาพนี้เป็นของใครกันอาจารย์คิมฝากคนมาคืนอาจารย์น่ะ อาจารย์คิมท่านชอบภาพนี้มากเลยนะ เลยใส่กรอบให้ เอ้ามาเอาคืนไปซิ” อาจารย์ประจำชั้นประกาศหาเจ้าของภาพ นักเรียนทุกคนต่างมองหน้ากัน หากแต่ไม่มีใครแสดงตัว ทันใดนั้นยุนโฮก็ยกมือขึ้น
“อาจารย์ครับของน้องผมครับ” ยุนโฮจำรายเส้นของน้องเขาได้ดี แม้จะไม่เคยเห็นมันมาก่อนแค่เห็นภาพก็รู้ว่าเธอวาดมัน อาจารยืจึงเอาภาพให้ยุนโฮ ยุนโฮรู้สึกชื่นชอบมากที่ภาพของน้องสาวเธอถูกใจศิลปินชื่อดังอย่างคิมมงโดจึงรีบเก็บมันไว้อย่างดี เมื่อถึงเวลากลับบ้านเขาเกรงว่าหากใส่เป้มันอาจโดนกระแทกจึงตัดสินใจถือมันไว้ แต่ก่อนอื่นก็ชื่นชมมันอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เขาสังเกตเห็นว่าภาพมันแปลกๆ ไม่เหมือนกับภาพวาดธรรมดา เขาจึงแกะมันออกมาจากกรอบ ก็รู้สึกงงที่มันเป็นแค่กระดาษที่ปริ๊นภาพออกมาเท่านั้น ยุนโฮไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์คิมถึงให้ภาพปริ๊นสีแก่น้องเธอ แล้วภาพวาดจริงๆอยุ่ที่ใด หากแต่เมื่อมองเวลาเขาจึงรีบกลับแม้จะยังคาใจอยู่ก็ตาม เขาเดินออกมายังหน้าโรงเรียนในมือกอดกรอบรูปนั้นไว้แต่ใจกลับล่องลอยเฝ้าครุ่นคิดปริศนากรอบรูปนี้ โดยไม่ทันตั้งตัวเขาก็รู้สึกเหมือนมีวัตถุความไวสูงทะลุผ่านร่างเขาไป จากนั้นเขาก็ล้มลงจมกองเลือดทันที บังเอิญกับที่มงโดกลับมาเอาการบ้านนักเรียนที่ลืมไว้เพื่อไปตรวจที่บ้าน เขาเห็นยุนโฮถูกยิงและล้มลง จึงรีบเข้าไปช่วย เขาเข้าไปพยุงร่างยุนโฮในอ้อมกอดของยุนโฮยังกอดรัดกรอบรูปนั้นไว้แน่น มงโดตกใจมากที่เห็นรูปของยุนนามาอยู่ที่นี่ ทั้งที่เขาเก็บมันไว้อย่างดีที่บ้าน หากแต่ก็ไม่มีเวลาให้เขาปะติดปะต่อเรื่องนัก เขาก็รีบพายุนโฮส่งโรงพยาบาลทันที
“ยุนนาๆ นี่โทรไปบอกพี่เขาหรือยังนะหา? เดี้ยวก็ได้เป็นห่วงแย่หรอก” แม่ของยุนนาตะโกนบอกเธอจากหลังบ้าน วันนี้ยุนนาแอบกลับบ้านมาก่อนและอ้อนแม่ว่าไม่สบาย เพื่อไม่ให้พี่ชายเธอโทรมากวนใจยุนนาจึงปิดโทรศัพท์หนีเขา แต่เมื่อแม่บอกขึ้นจึงทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าเป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว จึงเปิดมือถือเพื่อโทรกลับไปบอกพี่ว่าให้กลับบ้านเลย เธอรอสายสักพักก็มีคนรับ
“พี่หรอ ฉันอยู่บ้านแล้วนะ กลับบ้านได้เลยไม่ต้องรอ” ยุนนาพูด
“ยุนนา...พี่..พี่เธอ..” ชายคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่พี่เธอพูดปลายสาย
“ใครนะ?” ยุนนาถาม
“ฉันคิมมงโด พี่เธอ...พี่เธอถูกยิง”
ตอนที่5
ณ ปปส. หลักฐานภาพวาดของยุนนาก็ได้ถูกส่งมาทางเมล ให้แก่เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เขาดูมันอย่างพิจารณาซักพักก็กดโทรศัพท์ออก
“นี่ฉันเอง ได้รับแล้วนะ แต่นี่มันใช้ในชั้นศาลไม่ได้หรอกนะ” เขาพูด
“ฉันรู้ แต่ถ้าคำให้การของคนที่วาดมันล่ะ พอจะใช้ในชั้นศาลได้ใช่ไหม” ชายปลายสายตอบ ก่อนที่การสื่อสารจะจบลง มงโดนั่นเองที่เป็นคนส่งไป
“ซินยุนนา เธอจะหนีฉันไปถึงเมื่อไหร่กัน” เขาพึมพำกับตัวเอง
เช้าวันต่อมายุนนาปวดหัวแทบระเบิดด้วยอาการเมา(ไม่)ค้างของเธอ วันนี้เธอจึงงอแงที่จะลุกขึ้นจากเตียง
“โอ้ยไม่ไหวปวดหัวอ่ะพี่ยุนโฮ” ยุนนาอ้อน
“เป็นอะไร ไม่สบายหรอ” ยุนโฮถามอย่างเป็นห่วง
“อือสงสัยจะมีไข้นะ” ยุนนาโกหกคำโต หากแต่ความยุติธรรมยังมีอยู่ไม่ให้คนดีๆอย่างยุนโฮถูกจิงจอกเจ้าเล่ห์หรอกได้ก็โผล่มา
“เป็นไข้หรือเมาค้างยุนนา” พ่อของเธอนั่นเองที่โผล่เข้าห้องมาดูอาการงอแงเหมือนเด็กของลูกสาว
“จริงหรอยุนนา อ้า...จริงซิเมื่อคืนไปคลับมาจริงๆใช่ไหม” ยุนโฮซัก
“โธ่เอ้ย คนยิ่งปวดหัวอยู่พ่อกับพี่พูดอะไรเนี่ย โอ้ยไปไม่ไหวหยุดๆ” เธอบ่ายเบี่ยงและทำท่าทรมานจนยุนโฮเกือบใจอ่อน
“ไม่ได้ลุกขึ้นมาเดี้ยวนี้เลยยัยตัวดี ทำตัวเองแล้วมาบ่นพ่อไม่หลงกลหรอกนะ” พ่อเขาไปกระชากผ้าห่มที่ถูกยุนนาขดพันกับตัว และแกะร่างเธอขึ้นจากเตียง
“น้าพ่อนะ วันเดียว”เธอยังอ้อนต่อ
“ไม่ได้ถ้าเธอหยุด พี่เธอคงไม่ยอมไปโรงเรียนแน่ เดี้ยวก็ได้หยุดตามมาดูแลกันอีก” พ่ออธิบาย จากนั้นจึงลากเธอเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูขังไว้หากไม่อาบน้ำก็ไม่ปล่อยออกมา จนเธอต้องยอมทำตามอาบน้ำแต่งตัวแต่โดยดี
“กว่าจะลงมาได้นะ” แม่ทำหน้าเอือมระอากับลูกสาวตัวดีที่ไม่รู้จักโตขณะเดินลงบันใดมาทานอาหาร เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จยุนนาและยุนโฮก็เดินทางไปโรงเรียนตามปกติ หากแต่พอมาถึงโรงเรียนยุนนาก็หลบไปนอนที่ห้องพยาบาล
มงโดอังเอิญเจอยุนโฮตรงระเบียงจึงเข้าไปถามหายุนนา
“ไงซินุยนโฮ น้องเธอไปไหนซะล่ะ” มงโดเอ่ยถาม
“เออคือเธอไม่ค่อยสบายนะครับวันนี้ ก็เลยนอนที่ห้องพยาบาล” เขาตอบ
“ตั้งแต่เช้าเนี่ยนะ” มงโดถามเสียงสูง ยุนโฮได้แต่พยักหน้า ก่อนที่มงโดจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา และมุ่งหน้าไปยังห้องพยาบาล เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องก็พบร่างยุนนานอนหลับตาพริ้มสบายอารมณ์ เห็นดังนั้นมงโดจึงหมันใส้
“ไฟไหม้ๆๆๆ” เขาตะโกนเสียงดังจนยุนนาตกใจตื่นและคิดว่าไฟไหม้จริง
“แม่ๆๆ ตายๆๆห่า” เธออุทานพร้อมกระเด้งตัวลุกจากเตียงอย่างรวดเร็ว และมองไปรอบๆจึงพบกับมงโดที่ยืนมองปิฏิกิริยาของเธอ เธอจึงรุ้ได้ทันทีว่าเขาแกล้ง
“โธ่เอ้ยอาจารย์ เป็นบ้าไรเนี่ยตกใจหมดเลย” เธอโมโหยกใหญ่
“ดีแล้ว เธอคิดจะโดดเรียนมานอนอู้ยังงี้ถึงเมื่อไหร่” เขาเอ็ดเธอให้
“มันก็เรื่องของหนูนะอาจารย์” เธอจะกลับไปนอนต่อ แต่เขาดันล้มตัวลงนอนเต็มเตียง เธอจึงย้ายไปเตียงข้างๆเขาก็เอาขามาพาดกลางเตียงเลย
“อาจารย์” เธอตะโกน เขาจึงลุกขึ้นนั่ง
“ฉันอยากคุยเรื่องการ์ตูนบ้านั่น” เขาบอก
“หนูไม่อยาก” เธอตอบ
“ดีงั้นคุยเรื่องภาพที่เธอวาดที่สวนกันดีไหม” เขาจึงเปลี่ยนเรื่อง แต่เธอกลับทำหน้าเครียด
“ไม่คุย ไม่ฟัง ไม่คุย ไม่ฟัง...” เธอพูดวนอย่างนั้นแล้วก็วิ่งหนีไปอีก มงโดเริ่มเอือมระอากับยุนนาเต็มทีแล้ว แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ตามตัวเธอโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ไง มีอะไรหรอ” มงตอบปลายสาย
“หาฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุย”คนปลายสายบอก
“ก็ได้ที่เดิมละกัน” มงโดรับคำ เมื่อวางสายเขาก็ออกจากโรงเรียนไปโดยไม่เข้ามาอีก
แม้คาบเรียนภาคบ่ายเริ่มยุนนาก็ยังไม่กลับมาเรียน ทำให้ยุนโฮรู้สึกเป็นห่วงเธอมากหากแต่ก็ติดต่อเธอไม่ได้
“เอาล่ะนะนักเดี้ยวก่อนที่จะเริ่มเรียนอาจารย์มีอะไรจะถามหน่อย ภาพนี้เป็นของใครกันอาจารย์คิมฝากคนมาคืนอาจารย์น่ะ อาจารย์คิมท่านชอบภาพนี้มากเลยนะ เลยใส่กรอบให้ เอ้ามาเอาคืนไปซิ” อาจารย์ประจำชั้นประกาศหาเจ้าของภาพ นักเรียนทุกคนต่างมองหน้ากัน หากแต่ไม่มีใครแสดงตัว ทันใดนั้นยุนโฮก็ยกมือขึ้น
“อาจารย์ครับของน้องผมครับ” ยุนโฮจำรายเส้นของน้องเขาได้ดี แม้จะไม่เคยเห็นมันมาก่อนแค่เห็นภาพก็รู้ว่าเธอวาดมัน อาจารยืจึงเอาภาพให้ยุนโฮ ยุนโฮรู้สึกชื่นชอบมากที่ภาพของน้องสาวเธอถูกใจศิลปินชื่อดังอย่างคิมมงโดจึงรีบเก็บมันไว้อย่างดี เมื่อถึงเวลากลับบ้านเขาเกรงว่าหากใส่เป้มันอาจโดนกระแทกจึงตัดสินใจถือมันไว้ แต่ก่อนอื่นก็ชื่นชมมันอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เขาสังเกตเห็นว่าภาพมันแปลกๆ ไม่เหมือนกับภาพวาดธรรมดา เขาจึงแกะมันออกมาจากกรอบ ก็รู้สึกงงที่มันเป็นแค่กระดาษที่ปริ๊นภาพออกมาเท่านั้น ยุนโฮไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์คิมถึงให้ภาพปริ๊นสีแก่น้องเธอ แล้วภาพวาดจริงๆอยุ่ที่ใด หากแต่เมื่อมองเวลาเขาจึงรีบกลับแม้จะยังคาใจอยู่ก็ตาม เขาเดินออกมายังหน้าโรงเรียนในมือกอดกรอบรูปนั้นไว้แต่ใจกลับล่องลอยเฝ้าครุ่นคิดปริศนากรอบรูปนี้ โดยไม่ทันตั้งตัวเขาก็รู้สึกเหมือนมีวัตถุความไวสูงทะลุผ่านร่างเขาไป จากนั้นเขาก็ล้มลงจมกองเลือดทันที บังเอิญกับที่มงโดกลับมาเอาการบ้านนักเรียนที่ลืมไว้เพื่อไปตรวจที่บ้าน เขาเห็นยุนโฮถูกยิงและล้มลง จึงรีบเข้าไปช่วย เขาเข้าไปพยุงร่างยุนโฮในอ้อมกอดของยุนโฮยังกอดรัดกรอบรูปนั้นไว้แน่น มงโดตกใจมากที่เห็นรูปของยุนนามาอยู่ที่นี่ ทั้งที่เขาเก็บมันไว้อย่างดีที่บ้าน หากแต่ก็ไม่มีเวลาให้เขาปะติดปะต่อเรื่องนัก เขาก็รีบพายุนโฮส่งโรงพยาบาลทันที
“ยุนนาๆ นี่โทรไปบอกพี่เขาหรือยังนะหา? เดี้ยวก็ได้เป็นห่วงแย่หรอก” แม่ของยุนนาตะโกนบอกเธอจากหลังบ้าน วันนี้ยุนนาแอบกลับบ้านมาก่อนและอ้อนแม่ว่าไม่สบาย เพื่อไม่ให้พี่ชายเธอโทรมากวนใจยุนนาจึงปิดโทรศัพท์หนีเขา แต่เมื่อแม่บอกขึ้นจึงทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าเป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว จึงเปิดมือถือเพื่อโทรกลับไปบอกพี่ว่าให้กลับบ้านเลย เธอรอสายสักพักก็มีคนรับ
“พี่หรอ ฉันอยู่บ้านแล้วนะ กลับบ้านได้เลยไม่ต้องรอ” ยุนนาพูด
“ยุนนา...พี่..พี่เธอ..” ชายคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่พี่เธอพูดปลายสาย
“ใครนะ?” ยุนนาถาม
“ฉันคิมมงโด พี่เธอ...พี่เธอถูกยิง”
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 4
After School
ตอนที่ 4
“ทำตัวตามสบายนะ”จองอาบอกยุนนา ยุนนาสังเกตได้ถึงความสะอาดสะอ้านผิดกับห้องของเธอที่ทั้งรกและมีแต่เศษกระดาษเกลื่อน “เธออยู่คนเดียวหรอ” ยุนนาถาม จองอานิ่งไปสักครู่แล้วจึงตอบ “อือ” เมื่อเข้ามาข้างในยุนนาก็ไปนั่งลงบนโซฟา จองอานำน้ำมาเสริฟให้ จากนั้นเธอก็ไปนำไวโอลินของเธอออกมา “อ้าเจ้าตัวนี้ที่ฉันนั่งทับนี่” ยุนนาจำมันได้“ใช่ รู้ไหมมันโกรธเธอด้วยนะ” จองอาตอบ ยุนนาถึงกับอึ้งที่เธอพูดเหมือนไวโอลินมีชีวิต เมื่อจองอาจับสีหน้าได้จึงหน้าแดงอายที่ตนพูดออกไปเช่นนั้น“ฮึๆๆ งั้นฉันฝากขอโทษมันด้วยล่ะกัน” ยุนนาพูด จองอาได้แต่เขิน “ถ้ามันหายโกรธฉันแล้ว ก็ให้มันส่งเสียงให้ฉันได้ฟังเพลงเพราะๆซักทีนะ” ยุนนาล้อต่อ จองอาถึงกับทำหน้าค้อน เธอจึงหยิบไวโอลินขึ้นมาเล่น ยุนนาหลับตาซึมซับกับบทเพลง มันช่างไพเราะยิ่งนัก ยิ่งกว่าในคลับเป็นร้อยเท่า มันงดงามเหมือนดั่งใบหน้าของคนบรรเลง ยุนนาลืมตามองดูจองอาที่กำลังยิ้มขณะบรรเลง “เพราะยังงี้ซินะมันถึงได้เพราะนัก เพราะเธอยิ้ม ดนตรีก็คือตัวเธอนั่นเองจองอา” ยุนนาคิด เมื่อดนตรีหยุดลง ยุนนาก็ตบมือให้จองอายกใหญ่จนเธอเขิน “มัน...เพราะมาก ฉันไม่เคยฟังดนตรีอะไรที่เพราะแบบนี้มาก่อน” ยุนนาบอกกับจองอา นั่นทำให้จองอาซาบซึ้งใจมาก เพราะเธอก็สัมผัสได้เช่นกันว่ายุนนาฟังเพลงของเธออย่างแท้จริง ไม่เหมือนคนอื่นๆที่เพียงแค่มองความสวยของเธอเท่านั้น“อ่า...ฉันอยากวาดรูปจังเลย” ยุนนากล่าวขึ้น“งั้นก็วาดซิ” จองอาพูด จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปเอากระดาษและดินสอมาให้ยุนนา“งั้นเรามาบรรเลงพร้อมกันเลยดีกว่า” ยุนนากล่าว แล้วทั้งคู่ก็สอดผสานกันด้วยศิลปะ ยุนนาวาดรูปของจองอาที่กำลังบรรเลงดนตรีอันไพเราะให้ยุนนาฟัง ทั้งคู่บรรเลงจนเหนื่อยหอบจึงล้มตัวลงนอนกับพื้น ต่างมองสบตากันอย่างพอใจ ยุนนายื่นภาพให้จองอา เธอรับแล้วนำมากางดู ยุนนาจึงเลื่อนเข้าไปนอนข้างๆเธอจนไหล่ชนกัน “ชอบไหม” ยุนนากระซิบข้างหูเธอ“แล้วเธอล่ะชอบไหม” จองอาพูดพลางหันไปสบตา จนจมูกทั้งคู่ชนกัน ความนิ่งเงียบก็เข้าปกคลุม “เธอชอบที่ฉันเล่นไหม” เป็นจองอานั่นเองที่พูดทำลายความเงียบ หากแต่ก็ไม่เปลี่ยนอิริยาบท ทั้งคู่จะยังนอนจ้องหน้าหายใจรดกันอยู่“แค่ชอบหรอ” ยุนนาถาม ก่อนที่จะขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของจองอา ทันใดเสียงโทรศัพท์ของยุนนาก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศและทุกสิ่ง จองอาสะดุ้งโย้งลุกนั่งทันที ยุนนาจึงกดรับโทรศัพท์อย่างสุดเคือง“ฮัลโหล” เธอกระแทกเสียงใส่“ยุนนาอยู่ไหนนะ พ่อแม่เป็นห่วงนะ เมื่อกี้พี่โทรไปถามเพื่อนในห้องบอกยุนนาไปที่คลับหรอ” ยุนโฮนั่นเองที่โทรมา“รู้แล้วน่ากำลังกลับ ไม่ต้องเป็นห่วงบอกพ่อแม่ด้วย แค่นี้นะ” ยุนนาตอบอย่างเอือมระอา เซ็งสุดๆที่พี่ชายตัวดีโทรมาขัดจังหวะซะได้“เออ...พี่ชายนะ...เป็นห่วง” ยุนนาพูดตะกุกตะกัก“หรอ..นั่นซิ...ดึกมากแล้ว งั้นก็...” จองอาเองก็ด้วย“ใช่...งั้น....กลับล่ะ” ยุนนาตอบ ทั้งคู่จึงลุกขึ้นยืน หากแต่ไม่กล้าสบตากัน จองอาเดินไปส่งยุนนาที่หน้าห้อง“งั้น...ไว้เจอกันนะ เออ...ขอเบอร์หน่อยได้ไหม” ยุนนาพูดก่อนหยิบมือถือขึ้นมา จองอาจึงเอามากดเบอร์ของตนให้ไป จากนั้นยุนนาจึงเดินออกไป“อ่ะแล้วภาพล่ะ” จองอาท้วง“เก็บไว้เถอะ ฉันให้” ยุนนาพูดยิ้มๆ แล้วเดินจากไป ตลอดทางกลับบ้านเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ “ยะฮู้” ยุนนาตะโกนด้วยความดีใจพร้อมกระโดดเอาเท้าตบกัน แต่นั่นทำให้เธอรู้สึกมึน จากนั้นก็คลื่นใส้และอ้วกออกมายกใหญ่“เวร เมา(ไม่)ค้าง ฮ่าๆๆๆ แหวะ.....” ยุนนาอ้วกต่ออีกหลายยกกว่าจะถึงบ้าน เมื่อถึงเธอจึงหลับทันทีโดยไม่รู้เลยว่ามีคนรอโทรศัพท์เธออยู่“บ้าจัง รู้งี้น่าจะยิงเข้าเครื่องเราด้วย” จองอาพึมพำกับตัวเองก่อนจะข่มตาให้หลับ
-----------------------------------
มาน้อยๆแต่ได้คุณภาพ โฮกกันไหมค่ะท่าน
ตอนที่ 4
“ทำตัวตามสบายนะ”จองอาบอกยุนนา ยุนนาสังเกตได้ถึงความสะอาดสะอ้านผิดกับห้องของเธอที่ทั้งรกและมีแต่เศษกระดาษเกลื่อน “เธออยู่คนเดียวหรอ” ยุนนาถาม จองอานิ่งไปสักครู่แล้วจึงตอบ “อือ” เมื่อเข้ามาข้างในยุนนาก็ไปนั่งลงบนโซฟา จองอานำน้ำมาเสริฟให้ จากนั้นเธอก็ไปนำไวโอลินของเธอออกมา “อ้าเจ้าตัวนี้ที่ฉันนั่งทับนี่” ยุนนาจำมันได้“ใช่ รู้ไหมมันโกรธเธอด้วยนะ” จองอาตอบ ยุนนาถึงกับอึ้งที่เธอพูดเหมือนไวโอลินมีชีวิต เมื่อจองอาจับสีหน้าได้จึงหน้าแดงอายที่ตนพูดออกไปเช่นนั้น“ฮึๆๆ งั้นฉันฝากขอโทษมันด้วยล่ะกัน” ยุนนาพูด จองอาได้แต่เขิน “ถ้ามันหายโกรธฉันแล้ว ก็ให้มันส่งเสียงให้ฉันได้ฟังเพลงเพราะๆซักทีนะ” ยุนนาล้อต่อ จองอาถึงกับทำหน้าค้อน เธอจึงหยิบไวโอลินขึ้นมาเล่น ยุนนาหลับตาซึมซับกับบทเพลง มันช่างไพเราะยิ่งนัก ยิ่งกว่าในคลับเป็นร้อยเท่า มันงดงามเหมือนดั่งใบหน้าของคนบรรเลง ยุนนาลืมตามองดูจองอาที่กำลังยิ้มขณะบรรเลง “เพราะยังงี้ซินะมันถึงได้เพราะนัก เพราะเธอยิ้ม ดนตรีก็คือตัวเธอนั่นเองจองอา” ยุนนาคิด เมื่อดนตรีหยุดลง ยุนนาก็ตบมือให้จองอายกใหญ่จนเธอเขิน “มัน...เพราะมาก ฉันไม่เคยฟังดนตรีอะไรที่เพราะแบบนี้มาก่อน” ยุนนาบอกกับจองอา นั่นทำให้จองอาซาบซึ้งใจมาก เพราะเธอก็สัมผัสได้เช่นกันว่ายุนนาฟังเพลงของเธออย่างแท้จริง ไม่เหมือนคนอื่นๆที่เพียงแค่มองความสวยของเธอเท่านั้น“อ่า...ฉันอยากวาดรูปจังเลย” ยุนนากล่าวขึ้น“งั้นก็วาดซิ” จองอาพูด จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปเอากระดาษและดินสอมาให้ยุนนา“งั้นเรามาบรรเลงพร้อมกันเลยดีกว่า” ยุนนากล่าว แล้วทั้งคู่ก็สอดผสานกันด้วยศิลปะ ยุนนาวาดรูปของจองอาที่กำลังบรรเลงดนตรีอันไพเราะให้ยุนนาฟัง ทั้งคู่บรรเลงจนเหนื่อยหอบจึงล้มตัวลงนอนกับพื้น ต่างมองสบตากันอย่างพอใจ ยุนนายื่นภาพให้จองอา เธอรับแล้วนำมากางดู ยุนนาจึงเลื่อนเข้าไปนอนข้างๆเธอจนไหล่ชนกัน “ชอบไหม” ยุนนากระซิบข้างหูเธอ“แล้วเธอล่ะชอบไหม” จองอาพูดพลางหันไปสบตา จนจมูกทั้งคู่ชนกัน ความนิ่งเงียบก็เข้าปกคลุม “เธอชอบที่ฉันเล่นไหม” เป็นจองอานั่นเองที่พูดทำลายความเงียบ หากแต่ก็ไม่เปลี่ยนอิริยาบท ทั้งคู่จะยังนอนจ้องหน้าหายใจรดกันอยู่“แค่ชอบหรอ” ยุนนาถาม ก่อนที่จะขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของจองอา ทันใดเสียงโทรศัพท์ของยุนนาก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศและทุกสิ่ง จองอาสะดุ้งโย้งลุกนั่งทันที ยุนนาจึงกดรับโทรศัพท์อย่างสุดเคือง“ฮัลโหล” เธอกระแทกเสียงใส่“ยุนนาอยู่ไหนนะ พ่อแม่เป็นห่วงนะ เมื่อกี้พี่โทรไปถามเพื่อนในห้องบอกยุนนาไปที่คลับหรอ” ยุนโฮนั่นเองที่โทรมา“รู้แล้วน่ากำลังกลับ ไม่ต้องเป็นห่วงบอกพ่อแม่ด้วย แค่นี้นะ” ยุนนาตอบอย่างเอือมระอา เซ็งสุดๆที่พี่ชายตัวดีโทรมาขัดจังหวะซะได้“เออ...พี่ชายนะ...เป็นห่วง” ยุนนาพูดตะกุกตะกัก“หรอ..นั่นซิ...ดึกมากแล้ว งั้นก็...” จองอาเองก็ด้วย“ใช่...งั้น....กลับล่ะ” ยุนนาตอบ ทั้งคู่จึงลุกขึ้นยืน หากแต่ไม่กล้าสบตากัน จองอาเดินไปส่งยุนนาที่หน้าห้อง“งั้น...ไว้เจอกันนะ เออ...ขอเบอร์หน่อยได้ไหม” ยุนนาพูดก่อนหยิบมือถือขึ้นมา จองอาจึงเอามากดเบอร์ของตนให้ไป จากนั้นยุนนาจึงเดินออกไป“อ่ะแล้วภาพล่ะ” จองอาท้วง“เก็บไว้เถอะ ฉันให้” ยุนนาพูดยิ้มๆ แล้วเดินจากไป ตลอดทางกลับบ้านเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ “ยะฮู้” ยุนนาตะโกนด้วยความดีใจพร้อมกระโดดเอาเท้าตบกัน แต่นั่นทำให้เธอรู้สึกมึน จากนั้นก็คลื่นใส้และอ้วกออกมายกใหญ่“เวร เมา(ไม่)ค้าง ฮ่าๆๆๆ แหวะ.....” ยุนนาอ้วกต่ออีกหลายยกกว่าจะถึงบ้าน เมื่อถึงเธอจึงหลับทันทีโดยไม่รู้เลยว่ามีคนรอโทรศัพท์เธออยู่“บ้าจัง รู้งี้น่าจะยิงเข้าเครื่องเราด้วย” จองอาพึมพำกับตัวเองก่อนจะข่มตาให้หลับ
-----------------------------------
มาน้อยๆแต่ได้คุณภาพ โฮกกันไหมค่ะท่าน
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 3
After School
ตอนที่ 3
ยุนนากำลังแอบมองกลุ่มคนกลุ่มนึงอยู่ เป็นกลุ่มเดียวกันที่เธอเห็นที่สวนสาธารณะ พวกเขากำลังทรมานชายคนนั้น มันแทงเขาซะยับเขาร้องโอดโอย จากนั้นก็นำไปถ่วงน้ำ ทันใดนั้นผู้หญิงคนนึงในกลุ่มก็หันมาหาเธอ
“จับมัน!” ผู้ชายมากมายวิ่งมาทางเธอตามคำสั่งหล่อน
“ม่าย........” ยุนนาสะดุ้งตื่น เธอฝันไปนั่นเอง
“ยุนนาเป็นไงบ้าง” ยุนโฮถามอย่างเป็นห่วง เขาเฝ้าเธอตลอดภาคบ่าย
“พี่ นี่กี่โมงแล้วเนี่ย” เธอถาม
“เลิกเรียนแล้วล่ะ เธอหลับไปนานเลย” เขาตอบ
“หาเลิกเรียนแล้ว” ยุนนารีบมองนาฬิกา
“ห้าโมงแล้วเวร ฉันไปก่อนนะพี่” เธอรีบร้อนลุกจากเตียงพยาบาล
“จะไปไหนนะ” ยุนโฮถาม
“พี่กลับบ้านไปก่อนเลยฉันมีธุระ เดี้ยวตามไป” เธอพูดพลางวิ่งออกไป ยุนโฮได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง เมื่อวิ่งออกมาถึงประตูทางออกก็พบเพื่อนในห้อง
“เฮ้ยุนนา หายดีแล้วหรอ” เพื่อนคนหนึ่งทัก
“เออ” เธอตอบ
“วันนี้วันเกิดโฮวอนมัน มันจะพาไปเลี้ยงที่คลับ ไปด้วยกันไหม” เขาชวน
“เฮ้ย จะบ้าหรอโฮสคลับนะเว้ย จะชวนยุนนาไปทำไมว่ะ” เพื่อนคนนึงท้วง
“เออไม่เป็นไรฉันไม่ว่างว่ะ ไปกันเหอะ” เธอตอบและวิ่งหนีไป เธอรีบร้อนมากจนไม่สังเกตเลยว่ามีคนตามเธออยู่ เธอมุ่งหน้าไปยังคอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่ง เธอเดินตรงเข้าไปถึงโต๊ะในสุด ชายคนหนึ่งกำลังนั่งรอเธออยู่
“ขอโทษค่ะที่มาช้า” เธอโค้งขอโทษก่อนนั่งลง
“ทำไมช้าแบบนี้รอมาเกือบชั่วโมงแล้ว” เขาบ่น
“รีบๆเอามาซิ” เขาเร่งเธอ เธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบซองกระดาษซองหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นให้เขา เขาเปิดดูซักพัก ก็ส่งเงินให้เธอ
“หา แค่ห้าหมื่นวอนเองหรอ” เธอท้วง
“โธ่เอ้ย ห้าหมื่นก็ดีแล้ว อย่าลืมซิเธอนะมันโนเนม ไม่ค่อยมีคนซื้อของเธอหรอก” เขาอธิบาย ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็ดึงซองกระดาษจากมือเขามา
“นี่อะไรเนี่ย” เขาพูดพลางดึงออกมาดู ข้างในคือการ์ตูนอย่างว่าที่ภาพโจ้งครึ่มมาก
“อาจารย์” เธอตกใจที่เห็นเขาโผล่มา
“นี่เธอวาดของแบบนี้หรอเนี่ย” เขาเสียงดังใส่เธอ
“เฮ้ๆพี่ชายนั่นมันของฉันนะ” ชายที่นั่งอยู่ยืนขึ้น
มงโดมองเขาตาเขียวทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกลัว จากนั้นมงโดก็ล้วงกระเป๋าหยิบเงินออกมาสามแสนวอนวางไว้บนโต๊ะ และกระชากแขนยุนนา
“ฉันขอซื้อต่อ ส่วนเธอมากับฉัน” เขาพาเธออกจากร้านมา ชายคนนั้นอ้าปากค้างด้วยความงง
“อาจารย์ทำอะไรเนี่ย” เมื่อพ้นร้านมาเธอก็สลัดออกจากเขา
“เธอตะหากทำบ้าอะไร” เขาเอาซองกระดาษฟาดศรีษะเธอ
“ไม่เกี่ยวกับอาจารย์นี่” เธอแย่งซองคืนมาจากเขา
“ไม่เกี่ยวได้ยังไง เธอรู้ไหม ว่าเธอกำลังทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนมากแค่ไหน” เขาก็แย่งมันกลับมาได้อีก และมองเธอด้วยสายตาตำหนิ
“เธอไม่รู้เลยรึไง ว่าตัวเองมีพรสวรรค์มากแค่ไหน ภาพที่เธอวาดนะมันบอกเล่าเรื่องราวได้หมดนะ” เขากล่าว
“แล้วยังไงล่ะ หนูก็เป็นแค่เด็กผู้หญิง ไม่มีใครเขายอมรับหรอก” เธอตอบกลับ
“แล้วยังไงล่ะ เธอก็เลยดูถูกตัวเองด้วยการทำแบบนี้หรอ เขียนการ์ตูนโป๊เนี่ยนะ มากับฉันซะดีๆเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่” เขาหมายจะลากเธอไปแต่เธอสบัดและวิ่งหนี ยุนนาวิ่งอย่างเร็ว เมื่อรู้สึกว่าพ้นจากมงโดแล้วเธอก็หยุดพักเหนื่อยสักครู่ และครุ่นคิดถึงคำพูดของเขา
“โธ่โว้ย!” เธอระบายด้วยการเตะถังขยะใกล้ๆ และนึกขึ้นได้ถึงคำชวนของเพื่อนในห้อง จึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อสอบถามสถานที่ เมื่อทราบแล้วยุนนาจึงเดินทางไปที่นั่น
“เฮ้ยๆยุนนาจะมาว่ะ” เพื่อนที่เพิ่งวางสายจากเธอพูดขึ้น
“อะไรว่ะ บ้าเปล่าเนี่ย มันเป็นผู้หญิงนะเว้ย ฉันบอกแกแล้วว่าไม่ต้องชวนมัน” เพื่อนอีกคนด่า
“ไม่เป็นไร ให้มันมา ฉันจะต้อนรับมันอย่างดีเอง” โฮวอนเจ้าของวันเกิดและเป็นเพื่อนรักเพื่อนแค้นของยุนนากล่าวขึ้น
ไม่นานนักเธอก็เดินทางมาถึงและมารวมกับเหล่านักเรียนชายที่นั่งกันเป็นกลุ่มใหญ่
“อุ้ยตายแล้วมีเพื่อนผู้หญิงด้วยหรอค่ะ” โฮสเตสขึ้นนึงพูดขึ้น
“ฮ่าๆๆ ไอ้นี่นะถึงเป็นผู้หญิงก็เหมือนไม่ใช่ คิดซะว่ามันเป็นน้องชายพวกพี่ก็แล้วกันนะจ๊ะ” เพื่อนในห้องคนหนึ่งกล่าว
“ยุนนามางานวันเกิดฉันทั้งที ทำไมไม่มีของติดไม้ติดมือมาเลยล่ะ” โฮวอนถามขึ้น
“โทษทีฉันลืมนะ ไว้วันหน้าฉันเอามาให้แล้วกัน” ยุนนาตอบ
“ไม่เป็นๆ เราเพื่อนกันอยู่แล้วฉันไม่ถือหรอก แต่ว่า วันเกิดฉันทั้งที ช่วยดื่มอวยพรให้ฉันหน่อยได้ไหม” โฮวอนพูดจบก็ส่งสัญญาณให้เพื่อน รินวอดก้าผสมวิสกี้บวกจินอีกหน่อยให้เธอจนเต็มแก้วทรงสูง
“เอ้าดื่มซิยุนนา หรือว่าดื่มไม่ได้ นั่นซิน่ะแย่จริงๆเลยฉัน จะให้ผู้หญิงตัวเล็กๆดื่มเหล้าแบบนี้ได้ยังไงกัน ถ้าไงฉันสั่งน้ำส้มให้ไหม” เขาพูดอย่างเย้ยหยัน ทุกคนเองก็หัวเราะชอบใจ เธอเห็นดังนั้นก็หยิบแก้วเหล้าดื่มอักๆทันที ทำให้ทุกคนอึ้งกันไปหมดโดยเฉพาะโฮวอน เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้า ไม่ซิเขาไม่คิดว่าใครในโต๊ะนี้จะกล้าดื่มเหล้าแก้วนั้นด้วยซ้ำ
“เอามาอีกซิ” เธอพูด เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งจึงยื่นขวดวอดก้าให้ เธอจึงนั่งลงดื่มต่อ
“เอาล่ะครับ เวลาที่ทุกท่านรอคอยมาถึงแล้ว เชิญพบกลับจองอานางฟ้าไวโอลินได้เลยครับ” พิธีกรชายของร้านพูดก่อนที่การแสดงไวโอลินจะเริ่ม จองอาหญิงสาวที่เป็นดาวเด่นในคลับนี้ เธอเล่นไวโอลินได้เก่งจับใจ ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เธอรวมถึงยุนนา เธอจำได้ทันทีว่าจองอาคือหญิงสาวที่แกล้งเธอเมื่อวาน คืนนี้จองอาเลือกสีเพลงช้าๆแต่ก็ไพเราะมาก คนอื่นอาจซึมซับได้เพียงความไพเราะของมันผิดกับยุนนาที่สัมผัสได้ถึงความเศร้า มันเหมือนดั่งจองอาไม่ได้สีไวโอลินแต่เหมือนเธอกำลังร้องไห้อยู่ ยุนนารับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้นน้ำตาจึงไล้ออกมา
“ยุนนาเธอเป็นอะไรเนี่ย” เพื่อนคนนึงถาม
“ช่างฉันเหอะ” เธอตอบ เมื่อจองอาบรรเลงเพลงเสร็จเธอก็เดินมายังโต๊ะของโฮวอน
“สวัสดีค่ะจองอานะค่ะ ขอบคุณมากที่ใช้บริการร้านเราค่ะ” เธอโค้งทักทาย
“สวัสดีจองอา วันนี้วันเกิดผมช่วยนั่งเป็นเพื่อนได้ไหม” โฮวอนกล่าวขึ้น
“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ดิฉันเป็นเนักดนตรี คงไม่สามารถบริการคุณได้ค่ะ” เธอตอบ นั่นทำให้โฮวอนถึงกับหน้าเสีย
“ฮ่าๆๆๆ เธอนี่พิษเยอะจริงๆเลย แม่คนสวย”เป็นยุนนานั่นเองที่กล่าวขึ้น
“เพราะเป็นคนสวยถึงต้องมีพิษสงไม่ใช่หรอค่ะ”จองอาตอบ
“นะ..นี่รู้จักกันหรอ” เพื่อนคนหนึ่งกล่าวขึ้น ทุกคนจึงมองไปทางยุนนา แต่เธอไม่ได้ตอบอะไร
“อย่าเล่นตัวน่า มานั่งนี่” ทันใดนั้นเพื่อนขี้เมาคนหนึ่งก็กระชากจองอาให้มานั่งกับเขา ยุนนาเห็นดังนั้นก็สาดเหล้าใส่เขาทันที
“ถ้าแกเมาก็กลับบ้านไป อย่ามาทำตัวสถุล” เธอด่าเขาอย่างแรงและดึงจองอาขึ้น
“ซินยุนนา เขาเมาก็จริง แต่นี่มันงานของฉัน ช่วยให้เกียรติกันหน่อยได้ไหม” โฮวอนพูดขึ้น และเสียงก็เริ่มดังขึ้นแล้วด้วยจึงทำให้คนทั้งร้านหันมามอง
“งั้นฉันกลับล่ะ” ยุนนาจึงตัดสินใจกลับ เธอจึงเดินออกจากร้านไป จองอาก็รีบเดินตามเธอทันที
“นี่เดี้ยวซิ คุณ!” จองอาตะโกนเรียก ยุนนาจึงหยุดและหันกลับมาชนจองอาเข้าพอดี ทุกคู่จึงกอดกันโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อไม่ให้ล้ม จองอารู้สึกว่านี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่คนคนนี้สัมผัสเธอโดยพละการ ทั้งคู่จะพละออกจากกัน
“ขอบคุณค่ะที่ช่วย” จองอากล่าว
“ใช่ฉันไม่น่าทำเลย ไปขัดรายได้เธอเปล่าๆ” ยุนนาพูดใส่
“นี่...ฉันแค่มาเล่นดนตรีเท่านั้น” จองอาตอบเสียงชัด ยุนนานิ่งมองเธอซักครู่ จนจองอาสงสัย
“งั้นหรอ...งั้นช่วยเล่นให้ฉันฟังอีกได้ไหม ฉันมีเท่นนี้” ยุนนาพูดพลางล้วงกระเป๋าหยิบเงินที่ขายการ์ตูนได้ออกมาให้จองอาดู เธอมองมันอย่างดูแคลน
“เท่านี้เองหรอ ห้าหมื่นวอน” จองอาพูด
“ห้าหมื่นวอนคือทั้งหมดที่ฉันมี” ยุนนาตอบพลางมองสบตาเธออย่างเว้าวอน จองอาไม่สามารถต้านทานต่อดวงตาคู่นี้ได้
“งั้นรอเดี้ยวฉันไปเก็บของก่อน” จองอาตอบ และเดินเข้าไปในร้านไม่นานนักเธอก็ออกมา เธอพายุนนามายังห้องของเธอซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านมากนัก
ตอนที่ 3
ยุนนากำลังแอบมองกลุ่มคนกลุ่มนึงอยู่ เป็นกลุ่มเดียวกันที่เธอเห็นที่สวนสาธารณะ พวกเขากำลังทรมานชายคนนั้น มันแทงเขาซะยับเขาร้องโอดโอย จากนั้นก็นำไปถ่วงน้ำ ทันใดนั้นผู้หญิงคนนึงในกลุ่มก็หันมาหาเธอ
“จับมัน!” ผู้ชายมากมายวิ่งมาทางเธอตามคำสั่งหล่อน
“ม่าย........” ยุนนาสะดุ้งตื่น เธอฝันไปนั่นเอง
“ยุนนาเป็นไงบ้าง” ยุนโฮถามอย่างเป็นห่วง เขาเฝ้าเธอตลอดภาคบ่าย
“พี่ นี่กี่โมงแล้วเนี่ย” เธอถาม
“เลิกเรียนแล้วล่ะ เธอหลับไปนานเลย” เขาตอบ
“หาเลิกเรียนแล้ว” ยุนนารีบมองนาฬิกา
“ห้าโมงแล้วเวร ฉันไปก่อนนะพี่” เธอรีบร้อนลุกจากเตียงพยาบาล
“จะไปไหนนะ” ยุนโฮถาม
“พี่กลับบ้านไปก่อนเลยฉันมีธุระ เดี้ยวตามไป” เธอพูดพลางวิ่งออกไป ยุนโฮได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง เมื่อวิ่งออกมาถึงประตูทางออกก็พบเพื่อนในห้อง
“เฮ้ยุนนา หายดีแล้วหรอ” เพื่อนคนหนึ่งทัก
“เออ” เธอตอบ
“วันนี้วันเกิดโฮวอนมัน มันจะพาไปเลี้ยงที่คลับ ไปด้วยกันไหม” เขาชวน
“เฮ้ย จะบ้าหรอโฮสคลับนะเว้ย จะชวนยุนนาไปทำไมว่ะ” เพื่อนคนนึงท้วง
“เออไม่เป็นไรฉันไม่ว่างว่ะ ไปกันเหอะ” เธอตอบและวิ่งหนีไป เธอรีบร้อนมากจนไม่สังเกตเลยว่ามีคนตามเธออยู่ เธอมุ่งหน้าไปยังคอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่ง เธอเดินตรงเข้าไปถึงโต๊ะในสุด ชายคนหนึ่งกำลังนั่งรอเธออยู่
“ขอโทษค่ะที่มาช้า” เธอโค้งขอโทษก่อนนั่งลง
“ทำไมช้าแบบนี้รอมาเกือบชั่วโมงแล้ว” เขาบ่น
“รีบๆเอามาซิ” เขาเร่งเธอ เธอจึงเปิดกระเป๋าหยิบซองกระดาษซองหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นให้เขา เขาเปิดดูซักพัก ก็ส่งเงินให้เธอ
“หา แค่ห้าหมื่นวอนเองหรอ” เธอท้วง
“โธ่เอ้ย ห้าหมื่นก็ดีแล้ว อย่าลืมซิเธอนะมันโนเนม ไม่ค่อยมีคนซื้อของเธอหรอก” เขาอธิบาย ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็ดึงซองกระดาษจากมือเขามา
“นี่อะไรเนี่ย” เขาพูดพลางดึงออกมาดู ข้างในคือการ์ตูนอย่างว่าที่ภาพโจ้งครึ่มมาก
“อาจารย์” เธอตกใจที่เห็นเขาโผล่มา
“นี่เธอวาดของแบบนี้หรอเนี่ย” เขาเสียงดังใส่เธอ
“เฮ้ๆพี่ชายนั่นมันของฉันนะ” ชายที่นั่งอยู่ยืนขึ้น
มงโดมองเขาตาเขียวทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกลัว จากนั้นมงโดก็ล้วงกระเป๋าหยิบเงินออกมาสามแสนวอนวางไว้บนโต๊ะ และกระชากแขนยุนนา
“ฉันขอซื้อต่อ ส่วนเธอมากับฉัน” เขาพาเธออกจากร้านมา ชายคนนั้นอ้าปากค้างด้วยความงง
“อาจารย์ทำอะไรเนี่ย” เมื่อพ้นร้านมาเธอก็สลัดออกจากเขา
“เธอตะหากทำบ้าอะไร” เขาเอาซองกระดาษฟาดศรีษะเธอ
“ไม่เกี่ยวกับอาจารย์นี่” เธอแย่งซองคืนมาจากเขา
“ไม่เกี่ยวได้ยังไง เธอรู้ไหม ว่าเธอกำลังทำลายชื่อเสียงของโรงเรียนมากแค่ไหน” เขาก็แย่งมันกลับมาได้อีก และมองเธอด้วยสายตาตำหนิ
“เธอไม่รู้เลยรึไง ว่าตัวเองมีพรสวรรค์มากแค่ไหน ภาพที่เธอวาดนะมันบอกเล่าเรื่องราวได้หมดนะ” เขากล่าว
“แล้วยังไงล่ะ หนูก็เป็นแค่เด็กผู้หญิง ไม่มีใครเขายอมรับหรอก” เธอตอบกลับ
“แล้วยังไงล่ะ เธอก็เลยดูถูกตัวเองด้วยการทำแบบนี้หรอ เขียนการ์ตูนโป๊เนี่ยนะ มากับฉันซะดีๆเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่” เขาหมายจะลากเธอไปแต่เธอสบัดและวิ่งหนี ยุนนาวิ่งอย่างเร็ว เมื่อรู้สึกว่าพ้นจากมงโดแล้วเธอก็หยุดพักเหนื่อยสักครู่ และครุ่นคิดถึงคำพูดของเขา
“โธ่โว้ย!” เธอระบายด้วยการเตะถังขยะใกล้ๆ และนึกขึ้นได้ถึงคำชวนของเพื่อนในห้อง จึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อสอบถามสถานที่ เมื่อทราบแล้วยุนนาจึงเดินทางไปที่นั่น
“เฮ้ยๆยุนนาจะมาว่ะ” เพื่อนที่เพิ่งวางสายจากเธอพูดขึ้น
“อะไรว่ะ บ้าเปล่าเนี่ย มันเป็นผู้หญิงนะเว้ย ฉันบอกแกแล้วว่าไม่ต้องชวนมัน” เพื่อนอีกคนด่า
“ไม่เป็นไร ให้มันมา ฉันจะต้อนรับมันอย่างดีเอง” โฮวอนเจ้าของวันเกิดและเป็นเพื่อนรักเพื่อนแค้นของยุนนากล่าวขึ้น
ไม่นานนักเธอก็เดินทางมาถึงและมารวมกับเหล่านักเรียนชายที่นั่งกันเป็นกลุ่มใหญ่
“อุ้ยตายแล้วมีเพื่อนผู้หญิงด้วยหรอค่ะ” โฮสเตสขึ้นนึงพูดขึ้น
“ฮ่าๆๆ ไอ้นี่นะถึงเป็นผู้หญิงก็เหมือนไม่ใช่ คิดซะว่ามันเป็นน้องชายพวกพี่ก็แล้วกันนะจ๊ะ” เพื่อนในห้องคนหนึ่งกล่าว
“ยุนนามางานวันเกิดฉันทั้งที ทำไมไม่มีของติดไม้ติดมือมาเลยล่ะ” โฮวอนถามขึ้น
“โทษทีฉันลืมนะ ไว้วันหน้าฉันเอามาให้แล้วกัน” ยุนนาตอบ
“ไม่เป็นๆ เราเพื่อนกันอยู่แล้วฉันไม่ถือหรอก แต่ว่า วันเกิดฉันทั้งที ช่วยดื่มอวยพรให้ฉันหน่อยได้ไหม” โฮวอนพูดจบก็ส่งสัญญาณให้เพื่อน รินวอดก้าผสมวิสกี้บวกจินอีกหน่อยให้เธอจนเต็มแก้วทรงสูง
“เอ้าดื่มซิยุนนา หรือว่าดื่มไม่ได้ นั่นซิน่ะแย่จริงๆเลยฉัน จะให้ผู้หญิงตัวเล็กๆดื่มเหล้าแบบนี้ได้ยังไงกัน ถ้าไงฉันสั่งน้ำส้มให้ไหม” เขาพูดอย่างเย้ยหยัน ทุกคนเองก็หัวเราะชอบใจ เธอเห็นดังนั้นก็หยิบแก้วเหล้าดื่มอักๆทันที ทำให้ทุกคนอึ้งกันไปหมดโดยเฉพาะโฮวอน เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้า ไม่ซิเขาไม่คิดว่าใครในโต๊ะนี้จะกล้าดื่มเหล้าแก้วนั้นด้วยซ้ำ
“เอามาอีกซิ” เธอพูด เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งจึงยื่นขวดวอดก้าให้ เธอจึงนั่งลงดื่มต่อ
“เอาล่ะครับ เวลาที่ทุกท่านรอคอยมาถึงแล้ว เชิญพบกลับจองอานางฟ้าไวโอลินได้เลยครับ” พิธีกรชายของร้านพูดก่อนที่การแสดงไวโอลินจะเริ่ม จองอาหญิงสาวที่เป็นดาวเด่นในคลับนี้ เธอเล่นไวโอลินได้เก่งจับใจ ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เธอรวมถึงยุนนา เธอจำได้ทันทีว่าจองอาคือหญิงสาวที่แกล้งเธอเมื่อวาน คืนนี้จองอาเลือกสีเพลงช้าๆแต่ก็ไพเราะมาก คนอื่นอาจซึมซับได้เพียงความไพเราะของมันผิดกับยุนนาที่สัมผัสได้ถึงความเศร้า มันเหมือนดั่งจองอาไม่ได้สีไวโอลินแต่เหมือนเธอกำลังร้องไห้อยู่ ยุนนารับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้นน้ำตาจึงไล้ออกมา
“ยุนนาเธอเป็นอะไรเนี่ย” เพื่อนคนนึงถาม
“ช่างฉันเหอะ” เธอตอบ เมื่อจองอาบรรเลงเพลงเสร็จเธอก็เดินมายังโต๊ะของโฮวอน
“สวัสดีค่ะจองอานะค่ะ ขอบคุณมากที่ใช้บริการร้านเราค่ะ” เธอโค้งทักทาย
“สวัสดีจองอา วันนี้วันเกิดผมช่วยนั่งเป็นเพื่อนได้ไหม” โฮวอนกล่าวขึ้น
“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ดิฉันเป็นเนักดนตรี คงไม่สามารถบริการคุณได้ค่ะ” เธอตอบ นั่นทำให้โฮวอนถึงกับหน้าเสีย
“ฮ่าๆๆๆ เธอนี่พิษเยอะจริงๆเลย แม่คนสวย”เป็นยุนนานั่นเองที่กล่าวขึ้น
“เพราะเป็นคนสวยถึงต้องมีพิษสงไม่ใช่หรอค่ะ”จองอาตอบ
“นะ..นี่รู้จักกันหรอ” เพื่อนคนหนึ่งกล่าวขึ้น ทุกคนจึงมองไปทางยุนนา แต่เธอไม่ได้ตอบอะไร
“อย่าเล่นตัวน่า มานั่งนี่” ทันใดนั้นเพื่อนขี้เมาคนหนึ่งก็กระชากจองอาให้มานั่งกับเขา ยุนนาเห็นดังนั้นก็สาดเหล้าใส่เขาทันที
“ถ้าแกเมาก็กลับบ้านไป อย่ามาทำตัวสถุล” เธอด่าเขาอย่างแรงและดึงจองอาขึ้น
“ซินยุนนา เขาเมาก็จริง แต่นี่มันงานของฉัน ช่วยให้เกียรติกันหน่อยได้ไหม” โฮวอนพูดขึ้น และเสียงก็เริ่มดังขึ้นแล้วด้วยจึงทำให้คนทั้งร้านหันมามอง
“งั้นฉันกลับล่ะ” ยุนนาจึงตัดสินใจกลับ เธอจึงเดินออกจากร้านไป จองอาก็รีบเดินตามเธอทันที
“นี่เดี้ยวซิ คุณ!” จองอาตะโกนเรียก ยุนนาจึงหยุดและหันกลับมาชนจองอาเข้าพอดี ทุกคู่จึงกอดกันโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อไม่ให้ล้ม จองอารู้สึกว่านี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่คนคนนี้สัมผัสเธอโดยพละการ ทั้งคู่จะพละออกจากกัน
“ขอบคุณค่ะที่ช่วย” จองอากล่าว
“ใช่ฉันไม่น่าทำเลย ไปขัดรายได้เธอเปล่าๆ” ยุนนาพูดใส่
“นี่...ฉันแค่มาเล่นดนตรีเท่านั้น” จองอาตอบเสียงชัด ยุนนานิ่งมองเธอซักครู่ จนจองอาสงสัย
“งั้นหรอ...งั้นช่วยเล่นให้ฉันฟังอีกได้ไหม ฉันมีเท่นนี้” ยุนนาพูดพลางล้วงกระเป๋าหยิบเงินที่ขายการ์ตูนได้ออกมาให้จองอาดู เธอมองมันอย่างดูแคลน
“เท่านี้เองหรอ ห้าหมื่นวอน” จองอาพูด
“ห้าหมื่นวอนคือทั้งหมดที่ฉันมี” ยุนนาตอบพลางมองสบตาเธออย่างเว้าวอน จองอาไม่สามารถต้านทานต่อดวงตาคู่นี้ได้
“งั้นรอเดี้ยวฉันไปเก็บของก่อน” จองอาตอบ และเดินเข้าไปในร้านไม่นานนักเธอก็ออกมา เธอพายุนนามายังห้องของเธอซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านมากนัก
ป้ายกำกับ:
After School
After School ตอนที่ 2
After School
ตอนที่ 2
เช้าวันต่อมามีข่าวใหญ่โตเรื่องการพบศพสารวัตใหญ่ผู้คุมท้องที่ถูกจับถ่วงน้ำตายอนาจ ยุนนาตื่นขึ้นมาทันดูข่าวเช้าเรื่องนี้พอดี เธอกำลังกระดกนมดื่มอยู่ก็สำลักพรวดออกมาทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารหันมามองที่เธอเป็นตาเดียว
“เป็นอะไรไปยุนนา” พ่อเอ่ยถามเธอ
“เอ่อเปล่าค่ะ หนูลืมทำการบ้านจะรีบไปเรียนแต่เช้านะค่ะ” เธอพูดพลางลุกพรวดออกจากโต๊ะและออกไป ยุนโฮเห็นดังนั้นจึงรีบลุกตามทันที แต่เขาก็ไม่ลืมหยิบขนมปังติดมือไปให้น้องของเขาด้วย ระหว่างทางไปโรงเรียนยุนนาเอาแต่คิดถึงเรื่องข่าวนั่นที่ดู เธอจำหน้าเขาได้ขึ้นใจสารวัตที่เห็นในข่าวเป็นคนเดียวกับชายที่ถูกมัดเมื่อวานแน่ๆ ยุนนารู้สึกมวลท้องจะลูบมันเพื่อบรรเทา ยุนโฮเห็นดังนั้นจึงยื่นขนมปังให้
“หิวล่ะซิวิ่งออกมาแบบนั้น เอ้า” ยุนนามองเขาด้วยสายตาขอบคุณและหยิบขนมปังมากิน เขาช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอเหลือเกิน
ทางโรงเรียนศิลปะ วันนี้มีอาจารย์ใหม่มาสอน เขาเป็นศิลปินชื่อดังที่ทั่วโลกยอมรับ คิมมงโด ศิลปินผู้เป็นตำนานแห่งเกาหลี วันนี้เขาจึงมาโรงเรียนแต่เช้า เขาเข้ามายังห้องพักครูรวมเพื่อจะทักทายคุณครูท่านอื่นๆ หากแต่ก็ยังไม่มีผู้ใดมา
เขาเหลือบไปเห็นกองกระดาษกองนึงจึงหยิบขึ้นดู มันเป็นภาพวาดของเหล่านักเรียนที่ออกไปวาดนอกสภานที่เมื่อวานนั่นเอง เข้าพลิกมันดูทีละอันและมาสะดุดเข้ากับภาพภาพหนึ่ง มันแตกต่างจากภาพอื่นสิ้นเชิง เขาจึงพลิกด้านหลังดู ปรากฎเป็นชื่อ ซินยุนนา 13/6/2010 สวนสาธารณะชีจัง เขาครุ่นคิดซักครู่ก่อนจะดึงภาพออกจากกองและเก็บไว้ ทันใดนั้นอาจารย์คนนึงก็เดินเข้ามา
“อ่า อรุณสวัสดิ์ครับมาแต่เช้าเลยนะครับอาจารย์...อ่าอาจารย์คิมมงโด” อาจารย์คนนั้นตกใจมากที่เห็นมงโด เขาชื่นชอบผลงานของมงโดมาก
“ผมเป็นแฟนผลงานของอาจารย์เลยนะครับ” เขากล่าว
“ขอบคุณครับ อรุณสวัสดิ์เช่นกันครับ” มงโดตอบ ก่อนที่อาจารย์คนนั้นจะไปทางด้านหลังของมงโด
“อ่ามาอยู่นี่เอง แย่จริงครับผมลืมการบ้านนักเรียนไว้ที่โรงเรียนเลยยังไม่ได้ตรวจเลย” เขากล่าวถึงกองภาพวาดที่มงโดเพิ่งจับไป
“เอ๊ะเป็นภาพวาดอะไรรึครับ” มงโดทำเป็นถามอย่างสนใจ
“ครับเมื่อวานผมพานักเรียนไปสวนสาธารณะชีจังที่ในเมืองมานะครับ เลยให้พวกเขาวาดรูป” เขาอธิบาย
“ยังงั้นหรอครับฝีมือดีๆกันทั้งนั้นเลยนะครับ ถ้าอาจารย์ไม่ว่าอะไรผมขอตรวจแทนได้ไหมครับ นี่เก็บคะแนนรึเปล่า” มงโดกล่าว
“อ้อไม่ครับไม่เก็บแค่เช็คชื่อเท่านั้น แต่จะดีรึครับ” เขากล่าวอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรครับ ผมสนใจภาพพวกเขามากเลย งั้นรบกวนขอรายชื่อนักเรียนด้วยนะครับเดี้ยวผมเช็คให้” มงโดยืนยัน
“งั้นก็รบกวนด้วยนะครับ” เขากล่าวพร้อมยื่นใบเช็คชื่อให้ จากนั้นมงโดจึงหยิบกองภาพวาดไปยังห้องทำงานส่วนตัวของตัวเองซึ่งอาจารย์ใหญ่จัดให้เขาเป็นพิเศษ
เมื่อยุนนามาถึงที่โรงเรียนก็ตรงมายังห้องพักครู เธอมุ่งไปหาอาจารย์ประจำชั้นที่สอนเธอ
“อาจารย์ค่ะ หนูขอภาพที่วาดเมื่อวานคืนได้ไหมค่ะ คือหนูวาดผิดน่ะค่ะ” เธอกล่าว
“อะไรกันยุนนา ภาพวาดเมื่อวานหรอ...ไม่ได้อยู่กับอาจารย์แล้วนะ คือพอดีอาจารย์คิม เอ่ออาจารย์คิมมงโดนะ เขามาเป็นอาจารย์ใหม่ที่นี่ เขาสนใจผลงานพวกเธอก็เลยขออาจารย์ไปตรวจเองนะ” คำตอบนี้ทำให้ยุนนาตกใจมากทั้งตกใจที่ภาพไม่อยู่และตกใจเมื่อรู้ว่าศิลปินในดวงใจของเธอมาสอนที่นี่
“จริงหรอค่ะ อาจารย์คิมมงโดจะมาสอนที่นี่ โห้สุดยอดๆๆๆ” เธอกระโดดโลดเต็นใหญ่ แต่ก็นึกถึงจุดประสงค์แรกของตนได้
“แล้วอาจารย์เขาเอาภาพวาดไปไหนแล้วอ่ะค่ะ” เธอถาม
“อืมคงเป็นห้องส่วนตัวของท่านนะ อยู่ทางตึกศิลปะเก่านะ” เมื่อได้ยินดังนั้นเธอจึงรีบไปตามคำบอก เธอเดินมายังตึกศิลปะเก่า ที่นี่ไม่ค่อยได้ใช้สอนเท่าไหร่แล้ว เป็นที่สอนเฉพาะคลาสระดับสูงเท่านั้น ส่วนมากจะใช้เป็นที่ฝึกซ้อมไม่ก็เก็บตัวของเหล่าศิลปินในสังกัดโรงเรียน เธอไม่เคยมาที่นี่จึงอยากจะดูให้รอบๆ เธอเดินเข้าไปทางหลังตึกเดินขนาบไปตามกำแพงของตึกและชนเข้าอย่างจังกับชายคนหนึ่ง จนเธอล้มก้นจ่ำเบ้า
“โอ้ย...ใครว่ะ” เธอค่อยๆเงยหน้าดู ก็เห็นเป็นชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเธอ มือหนึ่งล้วงกระเป๋าอีกมือคีบบุหรี่สูบกำลังมองดูเธออยู่
“นี่ลุง...เดินไม่ดูคนรึไง” เธอตะโกนใส่เขา ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าลุงก็ฉุนเฉียว
“เฮ้ๆ พูดให้ดีๆนะใครลุง เธอตะหากละที่ไม่มองทาง เดินมาชนฉัน แล้วนี่เธอเป็นใครเนี่ยเข้ามาที่นี่ได้ยังไง” เขาตอกกลับและถามด้วยความสงสัยที่เห็นเด็กผู้หญิงอยู่ในโรงเรียนศิลปะแห่งนี้
“ฉันอยู่นะมันไม่แปลกหรอกก็ฉันเรียนที่นี่ ว่าแต่ลุงเถอะเข้ามาหาลูกหรอ” เธอตอบ คำตอบของเธอสร้างความแปลกใจให้เขา
“ที่นี่มีนักเรียนหญิงด้วย ไม่เห็นเคยรู้มาก่อน” เขาถามด้วยความฉงน เมื่อนึกย้อนไปสมัยที่ตนเรียนที่นี่หรือที่ผ่านๆมาไม่เคยมีนักเรียนหญิงมาก่อนเลย
“แน่ล่ะก็ฉันไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดานี่” เธอพูดอย่างยกยอตัวเอง
“ทำไมเธอมีหางหรือไง” เขาจึงแหย่เข้าให้ ทำให้เธอฉุน จนต้องทำหน้านิ่วใส่
“ฉันเป็นผู้หญิงคนแรกที่สอบเข้าที่นี่ได้ และสอบเข้าได้คะแนนเต็มด้วย” เธอพูดด้วยท่าทางภาคภูมิ
“เฮอะ ฮ่าๆๆ สงสัยข้อสอบที่นี่มันจะรั่วซะละมั่ง ไม่ก็มาตรฐานต่ำ ขนาดเด็กปัญญาอ่อนแบบนี้ก็ทำคะแนนเต็มได้” เขาพูดพลางหัวเราะ นั่นยิ่งทำให้เธอโมโหหนักคิดคำที่จะต่อว่าเขา แต่เขากลับพ่นควันใส่หน้าเธอ จากนั้นก็เดินหนีไป เธอได้แต่มองตามอย่างโกรธแค้น
“ฝากไว้ก่อนเถอะลุง” เธออาฆาต จากนั้นจึงมุ่งขึ้นตึกไปยังห้องพักครูของมงโดแต่ก็หาไม่พบจนออดเข้าเรียนดังขึ้น เธอจึงต้องกลับมาเข้าชั้นเรียน
“เอาล่ะนักเรียน วันนี้อาจารย์มีอาจารย์คนใหม่มาแนะนำ ท่านจะมาสอนพวกเธอในวิชาศิลปะขั้นสูงนะ อาจารย์ท่านนี้คือ อาจารย์คิมมงโด” อาจารย์ประชั้นชั้นกล่าวแนะนำ มงโดก็เดินเข้ามาข้างในห้อง สร้างเสียงฮือฮายกใหญ่ หากแต่มีเพียงคนเดียวที่ตกใจสุดขีด นั่นคือยุนนา เธอไม่คิดว่าตาลุงหลังตึกที่เธอยืนเถียงอยู่ยกใหญ่จะเป็นอาจารย์คิมมงโด เธอรู้สึกได้เลยว่า ชะตาเธอขาดซะแล้ว
“ให้ตายเถอะยุนนา แกนี่ตาไม่มีแววจริงๆ” เธอพึมพำกับตัวเองพลางใช้มือเขกมะกอกตัวเอง
“สวัสดีนักเรียนทุกคน ฉันยินดีมากที่ได้มาสอนที่นี่ ที่นี่เป็นโรงเรียนเก่าของฉันที่ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย และหวังว่าพวกเธอก็จะได้ความรู้และประสบการณ์ที่ดีจากที่นี่เช่นกันนะ ฉันจะพยายามเต็มที่ ฝากตัวด้วยแล้วกัน” ทุกคนปรบมือเมื่อเขาพูดเสร็จ เหล่านักเรียนต่างยิ้มหน้าบานเมื่อรู้ว่าศิลปินชื่อดังอย่างเขามาสอน
“งั้นเรามาทำความรู้จักกันหน่อนดีกว่า แต่ละคนช่วยแนะนำตัวกันหน่อยนะ” มงโดพูด นักเรียนซึ่งนั่งอยู่หัวแถวจึงลุกขึ้นแนะนำตัว และไล่เรียงไปเรื่อยๆ จนมาถึงยุนนาเธอไม่อยากลุกขึ้นยืนเลย
“เอ่อ...ซิน..ยุน..ยุนนาค่ะ” เธอยืนช้าๆ และพูดเสียงเบาๆ หลบหน้าหลบตา แต่นั่นไม่ได้ช่วยอะไร มงโดจำเธอได้ทันที
“อ้อนักเรียนหญิงที่ทำคะแนนเต็มนั่นเอง เอ้าเสียงดังฟังชัดหน่อยซิ เมื่อกี้ยังด่าฉันฉอดๆเลย” เขารำเลิก เธอจึงทำหน้าเสียและกลั้นใจพูดออกไปดังๆ
“ซินยุนนา ขอโทษด้วยค่ะอาจารย์” เธอก้มโค้งขอโทษเขาอย่างแข็งขัน เขาได้แต่หัวเราะ คนทั้งห้องเลยหัวเราะตามเขาไปด้วย จากนั้นเขาก็เริ่มสอน ทุกคนตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
“เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ อย่าลืมทำการบ้านที่ให้ไว้ด้วยล่ะ” เขาพูดก่อนปิดคลาส นักเรียนจึงทำความเคารพเขา แต่ก่อนที่จะออกจากห้องเขาก็พูดขึ้น
“ซินยุนนา ช่วยตามไปพบฉันตอนพักเที่ยงด้วยนะ” นั่นทำให้เธอถึงกับหน้าซีด
“ยุนนาเธอไปทำอะไรไว้” ยุนโฮถาม เธอได้แต่เงียบหน้าซีด และคิดว่าชีวิตเธอนี่น้าเจอแต่แจ็คพ๊อต
เมื่อถึงพักเที่ยงยุนนาก็ไปพบมงโดตามที่เขาสั่ง คราวนี้เธอถามอาจารย์จนหาห้องของเขาเจอ
“ไงมาแล้วหรอแม่คะแนนเต็ม” มงโดทัก
“อาจารย์หนูขอโทษจริงๆค่ะ หนูไม่ทราบจริงๆว่าเป็นอาจารย์” เธอโค้งขอโทษอย่างรีบร้อน
“อืมยังงั้นซินะ คงเพระฉันหน้าเหมือนลุงมากไป” เขากล่าว
“หา! ไม่จริงเลยค่ะ หนูพูดไปงั้นเอง จริงๆแล้วอาจารย์หน้าเด็กมาก ตอนยืนอยู่ในห้องเรียนหนูว่าเหมือนรุ่นพี่มากกว่า” เธอพยายามพูดยกยอเขา เขาจึงเดินเข้ามาหาเธอและเขกมะกอกเธอเข้าที่หน้าผาก เธอเอามือลูบมันราวกับเจ็บปวด
“ฉันไม่ได้เรียกเธอมาด่าหรอกไม่ต้องห่วง” เธอจึงยิ้มออกเมื่อได้ยินดังนั้น แล้วเขาจึงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากสูทของเขา มันเป็นภาพวาดของยุนนานั่นเอง เธอทำตาโตเมื่อเห็นมัน
“ไป..ไปอยู่กับอาจารย์ได้ไงค่ะ” เธอถาม
“เรื่องนั้นช่างเถอะ แต่ฉันมีคำถามที่สำคัญกว่านั้น” เขานิ่งไปซักพัก
“เมื่อวานเธอเห็นอะไร” เขาสบตาเธอ เธอหลบหน้าหนี
“ไม่มีอะไรนี่ค่ะ หนูแค่วาดเล่นๆเท่านั้น” เธอพูดเสียงอ่อน
“ซินยุนนาเรื่องนี้สำคัญมากนะ ทั้งต่อตัวเธอเองและคนในภาพนี้ด้วย” เขาชี้ไปในภาพ เธอมองมันอย่างหวาดหวั่นและวิ่งหนีไป เขาได้แต่ถอนหายใจ จากนั้นจึงกดโทรศัพท์ออก
“ฉันเอง ฉันว่าฉันเจอเบาะแสให้แกแล้ว แต่ขอเวลายืนยันซักเดี้ยว แล้วจะติดต่อกลับไป”
ยุนนาวิ่งออกมายังสนามกลางโรงเรียน เธอหยุดพักเหนื่อยซักครู่ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกจึงหันไปตามเสียงนั้น
“ยุนนาระวัง พลั่ก” เธอโดนลูกบอลอัดใส่หน้าเต็มๆ ล้มทั้งยืนและหมดสติไป
ตอนที่ 2
เช้าวันต่อมามีข่าวใหญ่โตเรื่องการพบศพสารวัตใหญ่ผู้คุมท้องที่ถูกจับถ่วงน้ำตายอนาจ ยุนนาตื่นขึ้นมาทันดูข่าวเช้าเรื่องนี้พอดี เธอกำลังกระดกนมดื่มอยู่ก็สำลักพรวดออกมาทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารหันมามองที่เธอเป็นตาเดียว
“เป็นอะไรไปยุนนา” พ่อเอ่ยถามเธอ
“เอ่อเปล่าค่ะ หนูลืมทำการบ้านจะรีบไปเรียนแต่เช้านะค่ะ” เธอพูดพลางลุกพรวดออกจากโต๊ะและออกไป ยุนโฮเห็นดังนั้นจึงรีบลุกตามทันที แต่เขาก็ไม่ลืมหยิบขนมปังติดมือไปให้น้องของเขาด้วย ระหว่างทางไปโรงเรียนยุนนาเอาแต่คิดถึงเรื่องข่าวนั่นที่ดู เธอจำหน้าเขาได้ขึ้นใจสารวัตที่เห็นในข่าวเป็นคนเดียวกับชายที่ถูกมัดเมื่อวานแน่ๆ ยุนนารู้สึกมวลท้องจะลูบมันเพื่อบรรเทา ยุนโฮเห็นดังนั้นจึงยื่นขนมปังให้
“หิวล่ะซิวิ่งออกมาแบบนั้น เอ้า” ยุนนามองเขาด้วยสายตาขอบคุณและหยิบขนมปังมากิน เขาช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอเหลือเกิน
ทางโรงเรียนศิลปะ วันนี้มีอาจารย์ใหม่มาสอน เขาเป็นศิลปินชื่อดังที่ทั่วโลกยอมรับ คิมมงโด ศิลปินผู้เป็นตำนานแห่งเกาหลี วันนี้เขาจึงมาโรงเรียนแต่เช้า เขาเข้ามายังห้องพักครูรวมเพื่อจะทักทายคุณครูท่านอื่นๆ หากแต่ก็ยังไม่มีผู้ใดมา
เขาเหลือบไปเห็นกองกระดาษกองนึงจึงหยิบขึ้นดู มันเป็นภาพวาดของเหล่านักเรียนที่ออกไปวาดนอกสภานที่เมื่อวานนั่นเอง เข้าพลิกมันดูทีละอันและมาสะดุดเข้ากับภาพภาพหนึ่ง มันแตกต่างจากภาพอื่นสิ้นเชิง เขาจึงพลิกด้านหลังดู ปรากฎเป็นชื่อ ซินยุนนา 13/6/2010 สวนสาธารณะชีจัง เขาครุ่นคิดซักครู่ก่อนจะดึงภาพออกจากกองและเก็บไว้ ทันใดนั้นอาจารย์คนนึงก็เดินเข้ามา
“อ่า อรุณสวัสดิ์ครับมาแต่เช้าเลยนะครับอาจารย์...อ่าอาจารย์คิมมงโด” อาจารย์คนนั้นตกใจมากที่เห็นมงโด เขาชื่นชอบผลงานของมงโดมาก
“ผมเป็นแฟนผลงานของอาจารย์เลยนะครับ” เขากล่าว
“ขอบคุณครับ อรุณสวัสดิ์เช่นกันครับ” มงโดตอบ ก่อนที่อาจารย์คนนั้นจะไปทางด้านหลังของมงโด
“อ่ามาอยู่นี่เอง แย่จริงครับผมลืมการบ้านนักเรียนไว้ที่โรงเรียนเลยยังไม่ได้ตรวจเลย” เขากล่าวถึงกองภาพวาดที่มงโดเพิ่งจับไป
“เอ๊ะเป็นภาพวาดอะไรรึครับ” มงโดทำเป็นถามอย่างสนใจ
“ครับเมื่อวานผมพานักเรียนไปสวนสาธารณะชีจังที่ในเมืองมานะครับ เลยให้พวกเขาวาดรูป” เขาอธิบาย
“ยังงั้นหรอครับฝีมือดีๆกันทั้งนั้นเลยนะครับ ถ้าอาจารย์ไม่ว่าอะไรผมขอตรวจแทนได้ไหมครับ นี่เก็บคะแนนรึเปล่า” มงโดกล่าว
“อ้อไม่ครับไม่เก็บแค่เช็คชื่อเท่านั้น แต่จะดีรึครับ” เขากล่าวอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรครับ ผมสนใจภาพพวกเขามากเลย งั้นรบกวนขอรายชื่อนักเรียนด้วยนะครับเดี้ยวผมเช็คให้” มงโดยืนยัน
“งั้นก็รบกวนด้วยนะครับ” เขากล่าวพร้อมยื่นใบเช็คชื่อให้ จากนั้นมงโดจึงหยิบกองภาพวาดไปยังห้องทำงานส่วนตัวของตัวเองซึ่งอาจารย์ใหญ่จัดให้เขาเป็นพิเศษ
เมื่อยุนนามาถึงที่โรงเรียนก็ตรงมายังห้องพักครู เธอมุ่งไปหาอาจารย์ประจำชั้นที่สอนเธอ
“อาจารย์ค่ะ หนูขอภาพที่วาดเมื่อวานคืนได้ไหมค่ะ คือหนูวาดผิดน่ะค่ะ” เธอกล่าว
“อะไรกันยุนนา ภาพวาดเมื่อวานหรอ...ไม่ได้อยู่กับอาจารย์แล้วนะ คือพอดีอาจารย์คิม เอ่ออาจารย์คิมมงโดนะ เขามาเป็นอาจารย์ใหม่ที่นี่ เขาสนใจผลงานพวกเธอก็เลยขออาจารย์ไปตรวจเองนะ” คำตอบนี้ทำให้ยุนนาตกใจมากทั้งตกใจที่ภาพไม่อยู่และตกใจเมื่อรู้ว่าศิลปินในดวงใจของเธอมาสอนที่นี่
“จริงหรอค่ะ อาจารย์คิมมงโดจะมาสอนที่นี่ โห้สุดยอดๆๆๆ” เธอกระโดดโลดเต็นใหญ่ แต่ก็นึกถึงจุดประสงค์แรกของตนได้
“แล้วอาจารย์เขาเอาภาพวาดไปไหนแล้วอ่ะค่ะ” เธอถาม
“อืมคงเป็นห้องส่วนตัวของท่านนะ อยู่ทางตึกศิลปะเก่านะ” เมื่อได้ยินดังนั้นเธอจึงรีบไปตามคำบอก เธอเดินมายังตึกศิลปะเก่า ที่นี่ไม่ค่อยได้ใช้สอนเท่าไหร่แล้ว เป็นที่สอนเฉพาะคลาสระดับสูงเท่านั้น ส่วนมากจะใช้เป็นที่ฝึกซ้อมไม่ก็เก็บตัวของเหล่าศิลปินในสังกัดโรงเรียน เธอไม่เคยมาที่นี่จึงอยากจะดูให้รอบๆ เธอเดินเข้าไปทางหลังตึกเดินขนาบไปตามกำแพงของตึกและชนเข้าอย่างจังกับชายคนหนึ่ง จนเธอล้มก้นจ่ำเบ้า
“โอ้ย...ใครว่ะ” เธอค่อยๆเงยหน้าดู ก็เห็นเป็นชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเธอ มือหนึ่งล้วงกระเป๋าอีกมือคีบบุหรี่สูบกำลังมองดูเธออยู่
“นี่ลุง...เดินไม่ดูคนรึไง” เธอตะโกนใส่เขา ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าลุงก็ฉุนเฉียว
“เฮ้ๆ พูดให้ดีๆนะใครลุง เธอตะหากละที่ไม่มองทาง เดินมาชนฉัน แล้วนี่เธอเป็นใครเนี่ยเข้ามาที่นี่ได้ยังไง” เขาตอกกลับและถามด้วยความสงสัยที่เห็นเด็กผู้หญิงอยู่ในโรงเรียนศิลปะแห่งนี้
“ฉันอยู่นะมันไม่แปลกหรอกก็ฉันเรียนที่นี่ ว่าแต่ลุงเถอะเข้ามาหาลูกหรอ” เธอตอบ คำตอบของเธอสร้างความแปลกใจให้เขา
“ที่นี่มีนักเรียนหญิงด้วย ไม่เห็นเคยรู้มาก่อน” เขาถามด้วยความฉงน เมื่อนึกย้อนไปสมัยที่ตนเรียนที่นี่หรือที่ผ่านๆมาไม่เคยมีนักเรียนหญิงมาก่อนเลย
“แน่ล่ะก็ฉันไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดานี่” เธอพูดอย่างยกยอตัวเอง
“ทำไมเธอมีหางหรือไง” เขาจึงแหย่เข้าให้ ทำให้เธอฉุน จนต้องทำหน้านิ่วใส่
“ฉันเป็นผู้หญิงคนแรกที่สอบเข้าที่นี่ได้ และสอบเข้าได้คะแนนเต็มด้วย” เธอพูดด้วยท่าทางภาคภูมิ
“เฮอะ ฮ่าๆๆ สงสัยข้อสอบที่นี่มันจะรั่วซะละมั่ง ไม่ก็มาตรฐานต่ำ ขนาดเด็กปัญญาอ่อนแบบนี้ก็ทำคะแนนเต็มได้” เขาพูดพลางหัวเราะ นั่นยิ่งทำให้เธอโมโหหนักคิดคำที่จะต่อว่าเขา แต่เขากลับพ่นควันใส่หน้าเธอ จากนั้นก็เดินหนีไป เธอได้แต่มองตามอย่างโกรธแค้น
“ฝากไว้ก่อนเถอะลุง” เธออาฆาต จากนั้นจึงมุ่งขึ้นตึกไปยังห้องพักครูของมงโดแต่ก็หาไม่พบจนออดเข้าเรียนดังขึ้น เธอจึงต้องกลับมาเข้าชั้นเรียน
“เอาล่ะนักเรียน วันนี้อาจารย์มีอาจารย์คนใหม่มาแนะนำ ท่านจะมาสอนพวกเธอในวิชาศิลปะขั้นสูงนะ อาจารย์ท่านนี้คือ อาจารย์คิมมงโด” อาจารย์ประชั้นชั้นกล่าวแนะนำ มงโดก็เดินเข้ามาข้างในห้อง สร้างเสียงฮือฮายกใหญ่ หากแต่มีเพียงคนเดียวที่ตกใจสุดขีด นั่นคือยุนนา เธอไม่คิดว่าตาลุงหลังตึกที่เธอยืนเถียงอยู่ยกใหญ่จะเป็นอาจารย์คิมมงโด เธอรู้สึกได้เลยว่า ชะตาเธอขาดซะแล้ว
“ให้ตายเถอะยุนนา แกนี่ตาไม่มีแววจริงๆ” เธอพึมพำกับตัวเองพลางใช้มือเขกมะกอกตัวเอง
“สวัสดีนักเรียนทุกคน ฉันยินดีมากที่ได้มาสอนที่นี่ ที่นี่เป็นโรงเรียนเก่าของฉันที่ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมาย และหวังว่าพวกเธอก็จะได้ความรู้และประสบการณ์ที่ดีจากที่นี่เช่นกันนะ ฉันจะพยายามเต็มที่ ฝากตัวด้วยแล้วกัน” ทุกคนปรบมือเมื่อเขาพูดเสร็จ เหล่านักเรียนต่างยิ้มหน้าบานเมื่อรู้ว่าศิลปินชื่อดังอย่างเขามาสอน
“งั้นเรามาทำความรู้จักกันหน่อนดีกว่า แต่ละคนช่วยแนะนำตัวกันหน่อยนะ” มงโดพูด นักเรียนซึ่งนั่งอยู่หัวแถวจึงลุกขึ้นแนะนำตัว และไล่เรียงไปเรื่อยๆ จนมาถึงยุนนาเธอไม่อยากลุกขึ้นยืนเลย
“เอ่อ...ซิน..ยุน..ยุนนาค่ะ” เธอยืนช้าๆ และพูดเสียงเบาๆ หลบหน้าหลบตา แต่นั่นไม่ได้ช่วยอะไร มงโดจำเธอได้ทันที
“อ้อนักเรียนหญิงที่ทำคะแนนเต็มนั่นเอง เอ้าเสียงดังฟังชัดหน่อยซิ เมื่อกี้ยังด่าฉันฉอดๆเลย” เขารำเลิก เธอจึงทำหน้าเสียและกลั้นใจพูดออกไปดังๆ
“ซินยุนนา ขอโทษด้วยค่ะอาจารย์” เธอก้มโค้งขอโทษเขาอย่างแข็งขัน เขาได้แต่หัวเราะ คนทั้งห้องเลยหัวเราะตามเขาไปด้วย จากนั้นเขาก็เริ่มสอน ทุกคนตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
“เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ อย่าลืมทำการบ้านที่ให้ไว้ด้วยล่ะ” เขาพูดก่อนปิดคลาส นักเรียนจึงทำความเคารพเขา แต่ก่อนที่จะออกจากห้องเขาก็พูดขึ้น
“ซินยุนนา ช่วยตามไปพบฉันตอนพักเที่ยงด้วยนะ” นั่นทำให้เธอถึงกับหน้าซีด
“ยุนนาเธอไปทำอะไรไว้” ยุนโฮถาม เธอได้แต่เงียบหน้าซีด และคิดว่าชีวิตเธอนี่น้าเจอแต่แจ็คพ๊อต
เมื่อถึงพักเที่ยงยุนนาก็ไปพบมงโดตามที่เขาสั่ง คราวนี้เธอถามอาจารย์จนหาห้องของเขาเจอ
“ไงมาแล้วหรอแม่คะแนนเต็ม” มงโดทัก
“อาจารย์หนูขอโทษจริงๆค่ะ หนูไม่ทราบจริงๆว่าเป็นอาจารย์” เธอโค้งขอโทษอย่างรีบร้อน
“อืมยังงั้นซินะ คงเพระฉันหน้าเหมือนลุงมากไป” เขากล่าว
“หา! ไม่จริงเลยค่ะ หนูพูดไปงั้นเอง จริงๆแล้วอาจารย์หน้าเด็กมาก ตอนยืนอยู่ในห้องเรียนหนูว่าเหมือนรุ่นพี่มากกว่า” เธอพยายามพูดยกยอเขา เขาจึงเดินเข้ามาหาเธอและเขกมะกอกเธอเข้าที่หน้าผาก เธอเอามือลูบมันราวกับเจ็บปวด
“ฉันไม่ได้เรียกเธอมาด่าหรอกไม่ต้องห่วง” เธอจึงยิ้มออกเมื่อได้ยินดังนั้น แล้วเขาจึงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากสูทของเขา มันเป็นภาพวาดของยุนนานั่นเอง เธอทำตาโตเมื่อเห็นมัน
“ไป..ไปอยู่กับอาจารย์ได้ไงค่ะ” เธอถาม
“เรื่องนั้นช่างเถอะ แต่ฉันมีคำถามที่สำคัญกว่านั้น” เขานิ่งไปซักพัก
“เมื่อวานเธอเห็นอะไร” เขาสบตาเธอ เธอหลบหน้าหนี
“ไม่มีอะไรนี่ค่ะ หนูแค่วาดเล่นๆเท่านั้น” เธอพูดเสียงอ่อน
“ซินยุนนาเรื่องนี้สำคัญมากนะ ทั้งต่อตัวเธอเองและคนในภาพนี้ด้วย” เขาชี้ไปในภาพ เธอมองมันอย่างหวาดหวั่นและวิ่งหนีไป เขาได้แต่ถอนหายใจ จากนั้นจึงกดโทรศัพท์ออก
“ฉันเอง ฉันว่าฉันเจอเบาะแสให้แกแล้ว แต่ขอเวลายืนยันซักเดี้ยว แล้วจะติดต่อกลับไป”
ยุนนาวิ่งออกมายังสนามกลางโรงเรียน เธอหยุดพักเหนื่อยซักครู่ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกจึงหันไปตามเสียงนั้น
“ยุนนาระวัง พลั่ก” เธอโดนลูกบอลอัดใส่หน้าเต็มๆ ล้มทั้งยืนและหมดสติไป
ป้ายกำกับ:
After School
วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553
After School ตอนที่ 1
After School
นำแสดงโดย
ซินยุนบก – ซินยุนนา
จองฮยาง – จองอา
คิมฮงโด – คิมมงโด
คิมโจนึน – คิมโจอึน
ณ โรงเรียนศิลปะแห่งหนึ่ง
“เอ้าเร็วๆ รีบแทงเร็วว่าข้างไหนจะชนะ การแข่งขันจะเริ่มขึ้นแล้ว” นักเรียนคนหนึ่งกล่าวขึ้นเขาเป็นผู้รับพนันการแข่งขันลากดินสอในครั้งนี้ การแข่งขันลากดินสอจัดขึ้นทุกสามปีในหมู่นักเรียน รางวัลครั้งนี้คือด้ามต่อดินสอสั่งทำพิเศษของอาจารย์ใหญ่คนปัจจุบัน
“พวกนายพร้อมแล้วนะ” ผู้แข่งขันทั้งสองจึงพยักหน้ารับ
“เริ่มได้” พวกเขาจึงเริ่มลงแรงไปยังปลายดินสอและลากยาวไปเรื่อยๆ ผู้ใดใส้ดินสอหมดก่อนหรือหักไปคนนั้นก็แพ้
“เอาล่ะครับการแข่งขันระหว่าง ชางโฮวอนและซินยุนนาได้เริ่มขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้โฮวอนจะเป็นฝ่ายนำอยู่นะครับ” นักเรียนชายคนหนึ่งทำหน้าที่บรรยาย
“นี่เธอยอมแพ้ซะเถอะนะ ผู้หญิงนะไม่มีวันแข่งชนะผู้ชายไปได้หรอกนะ” โฮวอนกล่าวเย้ยหยันคู่ต่อสู้
“เงียบปากนายไว้เถอะ เก็บไว้ร้องไห้ตอนแพ้ฉันดีกว่า” ยุนนาจึงตอกกลับ สร้างความฉุนเฉียวให้โฮวอนน่าดู พวกเขาทั้งคู่ลากเส็นมาจนกระดาษที่เตรียมไว้ใกล้จะหมดแล้ว นักเรียนคนอื่นๆจึงนำกระดาษมาต่อเพิ่มเพื่อให้การแข่งขันมีต่อไป ตอนนี้ใส้ดินสอของยุนนาใกล้กุดเต็มที หากแต่ของโฮวอนนั้นยังเหลือยาวอยู่ เพราะโฮวอนใช้คัดเตอร์เหลาดินสอให้ใส้ของมันยาวเกือบนิ้ว แต่ยุนนาเลือกที่จะเหลาให้มันพอดีเหมือนกับที่ใช้เขียนรูปทุกครั้ง ทันใดนั้นเหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ใส้ดินสอของโฮวอนหักเนื่องจากเขาลากมันสะดุดกรวดเล็กๆเข้า ยุนนาจึงเป็นฝ่ายชนะไป
“ขอบใจมากนะเพื่อนรัก” เธอเดินไปหยิบรางวัลของผู้ชนะทันที
“นี่เดี้ยวซิ...นั่นนะ เป็นของ พ่อฉันนะ คือ...” โฮวอนพูดเสียงอ่อน
“ทำไมอยากได้หรอ อะไรกันๆ ไหนว่าลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำไง หรือว่านายไม่ใช่” เท่านั่นล่ะโฮวอนก็ระเบิดอารมณ์ใส่ยุนนาทันที เขาหมายจะเข้าทำร้ายแต่นักเรียนคนอื่นๆก็ห้ามเอาไว้ ยุนนาเองก็ไม่น้อยหน้า แม้เธอจะเป็นหญิงแต่เธอก็ไม่กลัวหมายจะเข้าต่อยตีด้วยเช่นกัน ทันใดนั้นอาจารย์ก็ปรากฎตัวขึ้น
“นี่มันอะไรกันเนี่ย เสียงดังออกไปถึงข้างนอก ให้มาเตรียมอุปกรณ์วาดเขียนยังไงล่ะ นี่พวกนายไม่อยากไปแล้วใช่ไหม” อาจารย์ประจำชั้นของพวกเขานั่นเอง เมื่อเหล่านักเรียนได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งกันจ้าล่ะหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้ออกไปข้างนอก วันนี้เป็นวันที่จะได้ออกไปวาดรูปนอกสถานที่ ทุกคนจึงไม่อยากพลาด โรงเรียนศิลปะแห่งนี้ได้เปิดสอนมายาวนานว่ากันว่าสืบต่อมาจากศูนย์ศิลปะในสมัยโชซอนเลยทีเดียว แต่เดิมจะเปิดรับแต่นีกเรียนชายเท่านั้นหากแต่เดี้ยวนี้แม้จะไม่มีกฎห้ามแล้วแต่ก็ไม่มีนีกเรียนหญิงคนใดสนใจเข้ามาเรียนที่นี่ อาจเพราะมีแต่ผู้ชายก็เป็นได้หรืออีกเหตุผลหนึ่งคือที่นี่สอบเข้าเรียนยากมาก ต้องเก่งศิลปะจริงๆถึงจะเข้าได้ และยุนนาเองก็เป็นนักเรียนหญิงคนแรกที่สอบเข้าที่นี่ได้ เมื่อจัดการสัมภาระเรียบร้อยแล้วทุกคนก็มุ่งหน้าสู่ดาวน์ทาว อาจารย์นำพวกเขามายังสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ทุกคนจึงนั่งบนพื้นหญ้าร่วมกันฟังอาจารย์อธิบาย
“เอาล่ะเดี้ยวให้แยกย้ายกันไปวาดภาพนะ แล้วอีกสามชั่วโมงก็กลับมารวมกันตรงนี้ แล้วก็...”อาจารย์ยังอธิบายไม่จบแต่นักเรียนทั้งหลายก็ไม่สนใจฟังเขาแล้ว เพราะตอนนี้สายตาทุกคู่หันไปจับจ้อง เหล่านักเรียนสาวจากโรงเรียนสตรีมาเรียน่า โรงเรียนสตรีชั้นสูงที่เป็นเลิศทางดนตรี วันนี้พวกเธอก็มีเรียนนอกสถานที่เช่นกัน
“นี่ๆๆ ดูคนนั้นดิ อกตู้มมาก” นักเรียนชายคนหนึ่งพูด
“คนนั้นต่างหาก แบ๊วสุดๆ” อีกคนกล่าว นักเรียนชายต่างมองเหล่านักเรียนหญิงอย่างวิพากวิจารณ์
“พวกแกนี่เสียมารยาทชะมัด ดูผู้หญิงแล้วมานินทาแบบนี้” ยุนนาพูดขึ้น
“เธอเป็นผู้หญิงเธอไม่เข้าใจหรอก” เพื่อนคนหนึ่งกล่าว
“ฮึทำเป็นเหยียดเพศ เชอะ.....”สายตาของยุนนานิ่งค้างเมื่อหันไปพบกับนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เธอช่างงดงามราวกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ สมองของยุนนาว่างเปล่าไม่ตอบรับใดๆทั้งสิ้นมีแต่ภาพของเธอคนนั้น
“ยุนนาๆๆ” ยุนโฮพี่ชายฝาแฝดของเธอนั่นเองที่เป็นคนเรียก ตอนนี้เหล่านักเรียนหญิงเดินไปลับตาแล้วอาจารย์จึงเริ่มอธิบายอีกครั้ง
“เป็นอะไรไปนะ” ยุนโฮถาม
“หา? เปล่าไม่มีไร ไปวาดรูปกันเถอะ”ยุนนาได้สติกลับคืนจากเสียงเรียกของพี่ชายแล้วจึงชวนกันไปวาดรูป ทั้งสองเดินแยกออกจากกลุ่มมา
“นี่พี่ไม่ต้องตามฉันไปหรอกน่า” ยุนนาบ่นพี่ชายที่เดินตามเธอ
“ไม่ได้หรอก มันอันตรายนะไปคนเดียวนะ” ยุนโฮให้เหตุผล
“โธ่เอ้ยนี่มันแค่สวนสาธารณะ ไม่มีใครทำอะไรฉันหรอกนะ” ยุนนาแย้ง
“แต่....” ยุนโฮพยายามจะให้เหตุผลอีกครั้ง
“นั่นยูเอฟโอ” ยุนนาร้องอย่างตกใจพร้อมชี้นิ้วขึ้นฟ้า ยุนโฮจึงหันมองตาม เธอจึงวิ่งหนีเขาทันที กว่าเขาจะรู้ตัวเธอก็วิ่งหายไปซะแล้ว ยุนนาวิ่งมาไกลจากกลุ่มมาก เธอเข้ามาในแทบต้นไม้ทึบ ไร้ผู้คนโดยสิ้นเชิง หากแต่เธอก็ได้ยินเสียงแว่วเหมือนดั่งคนสนทนากัน เธอจึงเดินตามเสียงนั้นไป หลังพุ่มไม้นั้นเธอเห็นคนกลุ่มหนึ่ง มีชายคนนึงถูกจับมัดอยู่ ทันใดนั้นผู้หญิงคนนึงก็เข้ามาพูดคุยกับชายคนนั้น ยุนนาได้ยินไม่ถนัดนักเธอจึงพยายามเงี่ยหูฟังแต่นั่นทำให้เธอไปเหยียบกิ่งไม้เข้า ทุกคนจึงรู้ตัว
“ใครนะ ไปจับมัน” หญิงคนนั้นสั่ง ยุนนาเห็นดังนั้นก็วิ่งหนีไม่คิดชีวิต เธอวิ่งเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนพลุ่กพล่านแต่พวกมันก็ไม่ลดละ เธอเหลือไปเห็นศาลานั่งเล่นหลังหนึ่งจึงเข้าไปซ่อนตัว หากแต่ศาลาหลังนี้มีผู้มาจับจองก่อนแล้ว หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาเห็นยุนนานั่งก้มต่ำอยู่กับพื้นทั้งสองสบตากัน ยุนนาจำเธอได้ เธอคือหญิงสาวคนนั้นที่หยุดสายตาของยุนนา ได้มาเห็นเธอใกล้ๆเช่นนี้แม้จะอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้ แต่ยุนนาก็ไม่อาจห้ามตัวเองให้หยุดมองใบหน้านั้นได้
“ขอโทษนะค่ะ” เธอเอ่ยขึ้น ยุนนาได้แต่ทำหน้าเอ๋อ
“ช่วยเขยิบไปหน่อยได้ไหมค่ะ คุณนั่งทับกระเป๋าฉันอยู่” ยุนนาจึงได้รู้ว่าตนนั่งทับกระเป๋าใส่ไวโอลินอยู่ เมื่อยุนนาเขยิบออกเธอจึงหยิบมันขึ้นมาวางบนที่นั่ง ยุนนามองซ้ายขวาไม่เห็นพวกนั้นแล้ว จึงได้ลุกขึ้นยืน
“เธอเล่นไวโอลินหรอ ก็เหมาะกับคนสวยๆแบบเธอดีน่ะ” ยุนนากล่าว
“ความสวยไม่ได้ช่วยให้เล่นไวโอลินได้นี่ค่ะ” เธอตอบกลับอย่างไร้อารมณ์
“นั่นมันก็ใช่ แต่ว่า....” ยุนนายังพูดไม่จบก็เหลือบไปเห็นพวกที่ตามล่าเธอวิ่งมากันพอดี เธอจึงหดตัวกลับลงไปนั่งที่พื้นตามเดิม หญิงสาวคนนั้นมองอย่างสงสัยในการกระทำของยุนนาและก็พอเดาเหตุการณ์ได้ว่ายุนนาหลบพวกนี้อยู่
“คุณค่ะ เขาอยู่ตรงนี้...” หญิงสาวพยายามบอกคนข้างนอกศาลา แต่ยุนนาห้ามการกระทำนั้นไว้ด้วยการโผเข้าหาและปิดปากของเธอ หญิงสาวตกใจตาเบิกกว้างไม่คาดคิดว่าอีกคนจะกล้าทำถึงเพียงนี้ แต่เมื่อยุนนามองออกไปภายนอกกลับไม่พบกลุ่มคนกลุ่มนั้นแล้ว จึงได้รู้ว่าหญิงสาวเพียงแค่แกล้งเธอเท่านั้น ยุนนาจึงโมโหใหญ่
“นี่เธอ..ให้ตายเถอะ...อย่าคิดว่าตัวเองสวยแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ” ยุนนาพูดจบก็เดินฉุนเฉียวออกไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนงงบวกกับโมโหที่คนแปลกหน้ามาสัมผัสตัวเธอแล้วยังมาว่าเธออีก จากนั้นยุนนาจึงเดินไปเข้ากลุ่มกับเพื่อนๆและกลับโรงเรียนไปพร้อมกัน เย็นวันนั้นอาจารย์ให้ทุกคนส่งรูปที่แต่ละคนไปวาดมา ส่วนใหญ่ล้วนเป็นภาพธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า หรือนก หากแต่ยุนนาวาดภาพเหตุการณ์ที่เธอไปเห็นมาในวันนี้ เธอคงไม่รู้หรอกว่าภาพนี้จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอด
นำแสดงโดย
ซินยุนบก – ซินยุนนา
จองฮยาง – จองอา
คิมฮงโด – คิมมงโด
คิมโจนึน – คิมโจอึน
ณ โรงเรียนศิลปะแห่งหนึ่ง
“เอ้าเร็วๆ รีบแทงเร็วว่าข้างไหนจะชนะ การแข่งขันจะเริ่มขึ้นแล้ว” นักเรียนคนหนึ่งกล่าวขึ้นเขาเป็นผู้รับพนันการแข่งขันลากดินสอในครั้งนี้ การแข่งขันลากดินสอจัดขึ้นทุกสามปีในหมู่นักเรียน รางวัลครั้งนี้คือด้ามต่อดินสอสั่งทำพิเศษของอาจารย์ใหญ่คนปัจจุบัน
“พวกนายพร้อมแล้วนะ” ผู้แข่งขันทั้งสองจึงพยักหน้ารับ
“เริ่มได้” พวกเขาจึงเริ่มลงแรงไปยังปลายดินสอและลากยาวไปเรื่อยๆ ผู้ใดใส้ดินสอหมดก่อนหรือหักไปคนนั้นก็แพ้
“เอาล่ะครับการแข่งขันระหว่าง ชางโฮวอนและซินยุนนาได้เริ่มขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้โฮวอนจะเป็นฝ่ายนำอยู่นะครับ” นักเรียนชายคนหนึ่งทำหน้าที่บรรยาย
“นี่เธอยอมแพ้ซะเถอะนะ ผู้หญิงนะไม่มีวันแข่งชนะผู้ชายไปได้หรอกนะ” โฮวอนกล่าวเย้ยหยันคู่ต่อสู้
“เงียบปากนายไว้เถอะ เก็บไว้ร้องไห้ตอนแพ้ฉันดีกว่า” ยุนนาจึงตอกกลับ สร้างความฉุนเฉียวให้โฮวอนน่าดู พวกเขาทั้งคู่ลากเส็นมาจนกระดาษที่เตรียมไว้ใกล้จะหมดแล้ว นักเรียนคนอื่นๆจึงนำกระดาษมาต่อเพิ่มเพื่อให้การแข่งขันมีต่อไป ตอนนี้ใส้ดินสอของยุนนาใกล้กุดเต็มที หากแต่ของโฮวอนนั้นยังเหลือยาวอยู่ เพราะโฮวอนใช้คัดเตอร์เหลาดินสอให้ใส้ของมันยาวเกือบนิ้ว แต่ยุนนาเลือกที่จะเหลาให้มันพอดีเหมือนกับที่ใช้เขียนรูปทุกครั้ง ทันใดนั้นเหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ใส้ดินสอของโฮวอนหักเนื่องจากเขาลากมันสะดุดกรวดเล็กๆเข้า ยุนนาจึงเป็นฝ่ายชนะไป
“ขอบใจมากนะเพื่อนรัก” เธอเดินไปหยิบรางวัลของผู้ชนะทันที
“นี่เดี้ยวซิ...นั่นนะ เป็นของ พ่อฉันนะ คือ...” โฮวอนพูดเสียงอ่อน
“ทำไมอยากได้หรอ อะไรกันๆ ไหนว่าลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำไง หรือว่านายไม่ใช่” เท่านั่นล่ะโฮวอนก็ระเบิดอารมณ์ใส่ยุนนาทันที เขาหมายจะเข้าทำร้ายแต่นักเรียนคนอื่นๆก็ห้ามเอาไว้ ยุนนาเองก็ไม่น้อยหน้า แม้เธอจะเป็นหญิงแต่เธอก็ไม่กลัวหมายจะเข้าต่อยตีด้วยเช่นกัน ทันใดนั้นอาจารย์ก็ปรากฎตัวขึ้น
“นี่มันอะไรกันเนี่ย เสียงดังออกไปถึงข้างนอก ให้มาเตรียมอุปกรณ์วาดเขียนยังไงล่ะ นี่พวกนายไม่อยากไปแล้วใช่ไหม” อาจารย์ประจำชั้นของพวกเขานั่นเอง เมื่อเหล่านักเรียนได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งกันจ้าล่ะหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้ออกไปข้างนอก วันนี้เป็นวันที่จะได้ออกไปวาดรูปนอกสถานที่ ทุกคนจึงไม่อยากพลาด โรงเรียนศิลปะแห่งนี้ได้เปิดสอนมายาวนานว่ากันว่าสืบต่อมาจากศูนย์ศิลปะในสมัยโชซอนเลยทีเดียว แต่เดิมจะเปิดรับแต่นีกเรียนชายเท่านั้นหากแต่เดี้ยวนี้แม้จะไม่มีกฎห้ามแล้วแต่ก็ไม่มีนีกเรียนหญิงคนใดสนใจเข้ามาเรียนที่นี่ อาจเพราะมีแต่ผู้ชายก็เป็นได้หรืออีกเหตุผลหนึ่งคือที่นี่สอบเข้าเรียนยากมาก ต้องเก่งศิลปะจริงๆถึงจะเข้าได้ และยุนนาเองก็เป็นนักเรียนหญิงคนแรกที่สอบเข้าที่นี่ได้ เมื่อจัดการสัมภาระเรียบร้อยแล้วทุกคนก็มุ่งหน้าสู่ดาวน์ทาว อาจารย์นำพวกเขามายังสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ทุกคนจึงนั่งบนพื้นหญ้าร่วมกันฟังอาจารย์อธิบาย
“เอาล่ะเดี้ยวให้แยกย้ายกันไปวาดภาพนะ แล้วอีกสามชั่วโมงก็กลับมารวมกันตรงนี้ แล้วก็...”อาจารย์ยังอธิบายไม่จบแต่นักเรียนทั้งหลายก็ไม่สนใจฟังเขาแล้ว เพราะตอนนี้สายตาทุกคู่หันไปจับจ้อง เหล่านักเรียนสาวจากโรงเรียนสตรีมาเรียน่า โรงเรียนสตรีชั้นสูงที่เป็นเลิศทางดนตรี วันนี้พวกเธอก็มีเรียนนอกสถานที่เช่นกัน
“นี่ๆๆ ดูคนนั้นดิ อกตู้มมาก” นักเรียนชายคนหนึ่งพูด
“คนนั้นต่างหาก แบ๊วสุดๆ” อีกคนกล่าว นักเรียนชายต่างมองเหล่านักเรียนหญิงอย่างวิพากวิจารณ์
“พวกแกนี่เสียมารยาทชะมัด ดูผู้หญิงแล้วมานินทาแบบนี้” ยุนนาพูดขึ้น
“เธอเป็นผู้หญิงเธอไม่เข้าใจหรอก” เพื่อนคนหนึ่งกล่าว
“ฮึทำเป็นเหยียดเพศ เชอะ.....”สายตาของยุนนานิ่งค้างเมื่อหันไปพบกับนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เธอช่างงดงามราวกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ สมองของยุนนาว่างเปล่าไม่ตอบรับใดๆทั้งสิ้นมีแต่ภาพของเธอคนนั้น
“ยุนนาๆๆ” ยุนโฮพี่ชายฝาแฝดของเธอนั่นเองที่เป็นคนเรียก ตอนนี้เหล่านักเรียนหญิงเดินไปลับตาแล้วอาจารย์จึงเริ่มอธิบายอีกครั้ง
“เป็นอะไรไปนะ” ยุนโฮถาม
“หา? เปล่าไม่มีไร ไปวาดรูปกันเถอะ”ยุนนาได้สติกลับคืนจากเสียงเรียกของพี่ชายแล้วจึงชวนกันไปวาดรูป ทั้งสองเดินแยกออกจากกลุ่มมา
“นี่พี่ไม่ต้องตามฉันไปหรอกน่า” ยุนนาบ่นพี่ชายที่เดินตามเธอ
“ไม่ได้หรอก มันอันตรายนะไปคนเดียวนะ” ยุนโฮให้เหตุผล
“โธ่เอ้ยนี่มันแค่สวนสาธารณะ ไม่มีใครทำอะไรฉันหรอกนะ” ยุนนาแย้ง
“แต่....” ยุนโฮพยายามจะให้เหตุผลอีกครั้ง
“นั่นยูเอฟโอ” ยุนนาร้องอย่างตกใจพร้อมชี้นิ้วขึ้นฟ้า ยุนโฮจึงหันมองตาม เธอจึงวิ่งหนีเขาทันที กว่าเขาจะรู้ตัวเธอก็วิ่งหายไปซะแล้ว ยุนนาวิ่งมาไกลจากกลุ่มมาก เธอเข้ามาในแทบต้นไม้ทึบ ไร้ผู้คนโดยสิ้นเชิง หากแต่เธอก็ได้ยินเสียงแว่วเหมือนดั่งคนสนทนากัน เธอจึงเดินตามเสียงนั้นไป หลังพุ่มไม้นั้นเธอเห็นคนกลุ่มหนึ่ง มีชายคนนึงถูกจับมัดอยู่ ทันใดนั้นผู้หญิงคนนึงก็เข้ามาพูดคุยกับชายคนนั้น ยุนนาได้ยินไม่ถนัดนักเธอจึงพยายามเงี่ยหูฟังแต่นั่นทำให้เธอไปเหยียบกิ่งไม้เข้า ทุกคนจึงรู้ตัว
“ใครนะ ไปจับมัน” หญิงคนนั้นสั่ง ยุนนาเห็นดังนั้นก็วิ่งหนีไม่คิดชีวิต เธอวิ่งเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนพลุ่กพล่านแต่พวกมันก็ไม่ลดละ เธอเหลือไปเห็นศาลานั่งเล่นหลังหนึ่งจึงเข้าไปซ่อนตัว หากแต่ศาลาหลังนี้มีผู้มาจับจองก่อนแล้ว หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาเห็นยุนนานั่งก้มต่ำอยู่กับพื้นทั้งสองสบตากัน ยุนนาจำเธอได้ เธอคือหญิงสาวคนนั้นที่หยุดสายตาของยุนนา ได้มาเห็นเธอใกล้ๆเช่นนี้แม้จะอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้ แต่ยุนนาก็ไม่อาจห้ามตัวเองให้หยุดมองใบหน้านั้นได้
“ขอโทษนะค่ะ” เธอเอ่ยขึ้น ยุนนาได้แต่ทำหน้าเอ๋อ
“ช่วยเขยิบไปหน่อยได้ไหมค่ะ คุณนั่งทับกระเป๋าฉันอยู่” ยุนนาจึงได้รู้ว่าตนนั่งทับกระเป๋าใส่ไวโอลินอยู่ เมื่อยุนนาเขยิบออกเธอจึงหยิบมันขึ้นมาวางบนที่นั่ง ยุนนามองซ้ายขวาไม่เห็นพวกนั้นแล้ว จึงได้ลุกขึ้นยืน
“เธอเล่นไวโอลินหรอ ก็เหมาะกับคนสวยๆแบบเธอดีน่ะ” ยุนนากล่าว
“ความสวยไม่ได้ช่วยให้เล่นไวโอลินได้นี่ค่ะ” เธอตอบกลับอย่างไร้อารมณ์
“นั่นมันก็ใช่ แต่ว่า....” ยุนนายังพูดไม่จบก็เหลือบไปเห็นพวกที่ตามล่าเธอวิ่งมากันพอดี เธอจึงหดตัวกลับลงไปนั่งที่พื้นตามเดิม หญิงสาวคนนั้นมองอย่างสงสัยในการกระทำของยุนนาและก็พอเดาเหตุการณ์ได้ว่ายุนนาหลบพวกนี้อยู่
“คุณค่ะ เขาอยู่ตรงนี้...” หญิงสาวพยายามบอกคนข้างนอกศาลา แต่ยุนนาห้ามการกระทำนั้นไว้ด้วยการโผเข้าหาและปิดปากของเธอ หญิงสาวตกใจตาเบิกกว้างไม่คาดคิดว่าอีกคนจะกล้าทำถึงเพียงนี้ แต่เมื่อยุนนามองออกไปภายนอกกลับไม่พบกลุ่มคนกลุ่มนั้นแล้ว จึงได้รู้ว่าหญิงสาวเพียงแค่แกล้งเธอเท่านั้น ยุนนาจึงโมโหใหญ่
“นี่เธอ..ให้ตายเถอะ...อย่าคิดว่าตัวเองสวยแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ” ยุนนาพูดจบก็เดินฉุนเฉียวออกไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนงงบวกกับโมโหที่คนแปลกหน้ามาสัมผัสตัวเธอแล้วยังมาว่าเธออีก จากนั้นยุนนาจึงเดินไปเข้ากลุ่มกับเพื่อนๆและกลับโรงเรียนไปพร้อมกัน เย็นวันนั้นอาจารย์ให้ทุกคนส่งรูปที่แต่ละคนไปวาดมา ส่วนใหญ่ล้วนเป็นภาพธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า หรือนก หากแต่ยุนนาวาดภาพเหตุการณ์ที่เธอไปเห็นมาในวันนี้ เธอคงไม่รู้หรอกว่าภาพนี้จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอด
ป้ายกำกับ:
After School
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)