วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

After School ตอนที่ 23


After School
ตอนที่ 23

ตอนที่ 23
แสงแดดยามเช้าที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามาทำให้ร่างเล็กตื่นจากนิทราอย่างสลึมสลือ เธอครางเล็กน้อยจากอาการเจ็บปากแผลหลังจากหลับไปหลายวัน

“ยุนนา ฟื้นแล้วหรอ พ่อแม่ฮะ ยุนนาฟื้นแล้ว” ยุนโฮร้องเรียกพ่อแม่อย่างดีใจ เมื่อเห็นน้องสาวแสนรักลืมตาขึ้น หลังจากที่ลียองเอถูกควบคุมตัวเขาก็เป็นอิสระไม่ต้องหลบซ่อนตัวอีกต่อไป

“พี่...ยุน...โฮ” เธอเรียกเขาอย่างอ่อนแรง

“เอาน้ำให้น้องดื่มซิลูก” คุณนายซินผู้เป็นแม่บอกลูกชาย ก่อนที่เขาจะหยิบแก้วน้ำพร้อมหลอดให้เธอดูดน้ำอย่างกระหาย ยุนนารู้สึกดีขึ้นเมื่อได้รับน้ำ เธอหันไปมองครอบครัวที่บัดนี้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียทีก็ยิ้มออกมา ก่อนที่มงโดและอีซานจะเดินเข้ามาในห้อง

“ยุนนา ฟื้นแล้วหรอ” อีซานรีบเดินเข้าไปหาเธอ ตามมาด้วยมงโด

“นี่ล่ะนะ คนบ้า มักฆ่าไม่ตาย” มงโดพูดขึ้น อีซานถึงกับหันไปตบไหล่ปรามเขาทันที ยุนนาเองก็พยายามปั้นหน้าโกรธใส่แต่เพราะความอ่อนเพลียจึงดูไม่ค่อยออกนัก ก่อนจะมองไปรอบๆห้อง เพื่อกวาดสายตามองหาใครคนหนึ่ง

“แล้วจองอาล่ะ” เธอเอ่ยขึ้น มงโดและอีซานต่างมองหน้ากัน

“ใครกันหรอลูก” แม่เธอถามอย่างสงสัย

“นั่นสิ พ่อไม่เคยได้ยินชื่อ” พ่อสมทบ ยุนนาได้แต่อึ้ง เมื่อนึกได้ว่าคนในครอบครัวเธอไม่รู้จักจองอาเลยนี่น่า


หลังจากครอบครัวซินกลับไปพักผ่อน เพราะต้องดูแลเธอมาหลายคืน มงโดและอีซานเลยอาสาเฝ้าให้

“พี่ซานรู้ไหมว่าจองอาอยู่ไหน” ยุนนาเจาะจงถาม

“เธอมาให้ปากคำเมื่อสองวันก่อน แล้วก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย” อีซานตอบ

“แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน” ยุนนาซัก

“เอาน่า ไว้เธอหายดี แล้วค่อยไปหาเขาสิ” มงโดรีบตัดบท
ตลอดช่วงที่อยู่โรงพยาบาลยุนนาพยายามโทรหาจองอาตลอดเวลา หากแต่ไม่สามารถติดต่อเธอได้ เหมือนกับว่าเธอไม่ได้ใช้เบอร์นี้แล้ว จนเมื่อได้กลับมาพักที่บ้านยุนนาก็ไม่ยอมอยู่เฉย

“จะไปไหนนะยุนนา เธอยังไม่หายดีนะ” ยุนโฮร้องเรียกเมื่อเห็นยุนนากำลังจะออกจากบ้าน

“ฉันจะไปหาจองอา” ยุนนาตอบ ยุนโฮถึงกับถอนหายใจ

“พี่ไม่รู้หรอกนะ ว่าเขาเป็นใคร แต่ถ้าเธอจะต้องพบเขาให้ได้ พี่ก็จะไปด้วย” ยุนโฮพูดอย่างอ่อนโยน ยุนนาได้ยินดังนั้นก็ยิ้มหน้าบาน จากนั้นสองพี่น้องก็มุ่งไปยังบ้านของโจอึน

“พี่ว่าไม่น่าจะมีใครอยู่นะ” ยุนโฮกล่าวพลางมองเส้นกั้นบริเขตของตำรวจ “KEEP OUT” บ้านของโจอึนนั้นถูกยึดและตอนนี้อยู่ในระหว่างตรวจค้น ยุนนาเองก็เห็นด้วยกับพี่ชาย จึงยอมจากไป จากนั้นเธอก็ตรงไปยังคอนโดของจองอา เธอมั่นใจมากว่าจองอาต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ แต่หลังจากยืนกดออดอยู่นานก็ชักเริ่มไม่มั่นใจซะแล้ว ด้วยความร้อนใจจึงทุบประตูเสียงดัง เผื่อว่าคนข้างในอาจได้ยิน

“ยุนนา เบาๆ” ยุนโฮร้องห้าม ก่อนที่ห้องข้างๆจะเปิดประตูออกมา

“มาหาใครหนู ห้องนี้เขาย้ายออกไปแล้ว” หญิงแก่ข้างห้องบอก

“ไปไหนทราบไหมคะ” ยุนนาถามอย่างร้อนใจ

“ไม่รู้หรอก เห็นว่าห้องนี้ถูกตำรวจยึดนะ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมานะเนี่ย น่ากลัวจริงเชียวคนสมัยนี้” หญิงแก่เล่าเจื้อยแจ้ว ยุนนาได้ยินดังนั้นก็เดินคอตกออกมา อาทิตย์เริ่มตกดินแล้วเธอยังคิดไม่ตกว่าจองอาจะอยู่ที่ไหน

“เธอไปอยู่ที่ไหนของเธอนะ จองอา” ยุนนารำพึงกับตัวเอง

“ใจเย็นๆ ค่อยๆคิด เดี๋ยวก็คิดออกเอง” ยุนโฮเดินเข้ามาตบไหล่น้องสาวเป็นการให้กำลังใจ เธอจึงครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะอุทานออกมา

“คิดออกแล้ว ที่นั่นต้องเจอแน่ๆ” ยุนนาเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมกับออกวิ่งไปยังจุดหมายอย่างมีความหวัง ยุนโฮแทบจะวิ่งตามไปไม่ทัน เธอมายังคลับแพชชั่นที่ที่จองอาเคยทำงาน หากแต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อเห็นสภาพร้านที่ปิดร้าง โดยมีป้ายประกาศว่าเป็นพื้นที่ในอำนาจของตำรวจ เธอแทบล้มทั้งยืนหมดเรี่ยวแรงจะไปต่อ จึงมานั่งหมดอาลัยตายอยากที่ริมฟุตพาท

“เอ้า เติมพลังหน่อย” ยุนโฮยื่นกระป๋องน้ำอัดลมให้เธอ เธอยิ้มน้อยๆก่อนจะรับมาเปิดดื่ม ยุนโฮเองก็นั่งดื่มข้างๆน้องสาวริมฟุตพาทนั้นเช่นกัน

“ทำไม เขาต้องหนีฉันด้วยล่ะพี่” ยุนนาพูดอย่างเศร้าสร้อย

“พี่ว่า เขาน่าจะมีเหตุผลของเขานะ เธอต้องดูด้วยว่าเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ปกติเท่าไหร่ ดูจากบ้านและคอนโดที่ถูกยึดนี่แล้ว พี่ว่าเขาคงลำบากน่าดูเลย” ยุนโฮพูดปลอบน้องสาวอย่างให้เหตุผล จึงทำให้ยุนนาคิดได้

“นั่นสิ เขาต้องกำลังลำบากมากแน่ๆ ฉันจะต้องตามหาเขาให้เจอ” ยุนนาพูดขึ้นอย่างมาดมั่น ยุนโฮมองน้องสาวที่มีไฟฮึดสู้อย่างเอ็นดู


เมื่อยุนนาหายดีแล้วเธอก็กลับไปเรียนตามปกติ เธอดีใจมากที่ได้ไปโรงเรียนพร้อมกันกับพี่อีกครั้ง เมื่อมาถึงโรงเรียนเพื่อนๆต่างรุมล้อมเธอ เนื่องจากเรื่องที่เธอเป็นนักสืบน้อยช่วยตำรวจจนจับผู้ร้ายรายใหญ่ได้นั้นแพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียน ตอนนี้ใครๆต่างพากันนับถือเธอ ยุนนากลายเป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียนไปเลย

“ฉันอยากกิน ขนมปังใส้แกงกระหรี่” ยุนนาพูดขึ้นกลางกลุ่มเพื่อนที่นั่งล้อมวงกันกินข้าวกลางวันในห้องเรียน โฮวอนที่ถือขนมปังใส้แกงกระหรี่อยู่ก็หน้าเจื่อน

“แต่...มันมีอันเดียวนะ” โฮวอนตอบเสียงอ่อน ยุนนาจึงใช้พลังสายตาพิฆาตใส่ โฮวอนเลยรีบส่งมันให้เธอทันที มงโดที่เดินผ่านมาเห็นกลุ่มประหลาดนี่ก็เดินเข้าไปทักหนักๆที่ท้ายทอยยุนนา ด้วยการตบเข้าให้อย่างงดงามจนเธอหน้าขมำ

“เดี๋ยวนี้ใหญ่แล้วเบ่งหรอ” มงโดพูดขึ้น ยุนนาเงยหน้าขึ้นมาพลางลูบท้ายทอยปลกๆ

“อะไรอ่ะจารย์ มาตีหนูทำไมเนี่ย” ยุนนาตะหวาดใส่

“หมั่นไส้มีไรมะ” มงโดพูดยียวน ยุนนาจึงสวมหน้ายักษ์ใส่ แต่เขากลับไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งร่วมวงและแย่งขนมปังจากมือนักเรียนชายข้างๆไปกินหน้าตาเฉย นักเรียนคนนั้นได้แต่มองขนมปังอย่างเสียดายแต่ก็ไม่กล้าหือ

“แล้วนี่ไม่คิดอ่านหนังสือหนังหากันรึยังไง จะสอบเข้ามหาลัยกันอยู่แล้ว” มงโดพูดพลางเคี้ยวขนมปังอยู่ในปาก

“โหฝีมือระดับนี้ ไม่ต้องสอบก็มีแต่คนมาเชิญไปเข้า” ยุนนาพูดยกยอตน

“ถ้ามั่นใจขนาดนั้น จะลองสอบเข้า โดมุส ดูไหมล่ะ” มงโดพูดขึ้น ทุกคนถึงกับอึ้ง “โดมุส” มหาลัยในฝันของเด็กศิลป์ อยู่ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก ถ้าไม่เก่งจริงคงไม่มีทางเข้าได้

“ฮึ มันจะยากอะไร ยุนนาซะอย่าง จะ โดมุส หรือ ยู.เอ. (ยูนิเวอซิตี้ออฟอาร์ท) ก็เข้าได้ทั้งนั้นล่ะ” ยุนนาตอบอย่างไม่ยี่หระ ทุกคนต่างมองมาที่เธออย่างเหลือเชื่อ


หลังเลิกเรียนยุนนาก็ตรงมาที่เซ้นมาเรียน่า เธอมาดักรอจองอาอยู่หน้าโรงเรียน เด็กนักเรียนคนแล้วคนเล่าเดินผ่านเธอไป จนในที่สุดเธอก็พบยอดดวงใจของเธอ จองอามีท่าทีตกใจเมื่อเห็นยุนนา

“นึกว่าจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว” ยุนนาพูดขึ้นพร้อมเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าจองอา

“พักนี้ฉันยุ่งน่ะ” จองอาตอบเสียงเรียบ ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

“ฉันหาเธอไปทั่วเลย” ยุนนาเล่าพลางยิ้มน้อยๆ

“หรอ” จองอาตอบประหยัดคำ

“เออ...แล้วเธอเป็นไงบ้าง เธออยู่ที่ไหนหรอ” ยุนนาถาม

“ขอตัวก่อนนะ ฉันมีธุระ” จองอาพูดตัดบทก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ยุนนามองตามอย่างงุนงง เธอไม่เข้าใจว่าจองอาเป็นอะไร นี่เธอไปทำอะไรให้เจ้าหล่อนโกรธอีกหรือเปล่า
เมื่อกลับมาถึงบ้านยุนนาก็เอาแต่นั่งถอนหายใจ

“เป็นอะไรอีกล่ะเรา” ยุนโฮเดินมาถามพลางนั่งลงข้างๆน้อง

“ฉันเจอเขาแล้วล่ะ” ยุนนาบอก

“จริงหรอ แล้วเขาเป็นไงบ้าง” ยุนโฮถามอย่างสนใจ ยุนนาได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะถอนหายใจอีกเฮือก

“เขา....ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรอ่ะ เหมือนเขาโกรธฉัน...รึเปล่า” ยุนนาตอบชวนงง

“เขาอาจจะมีเรื่องไม่สบายใจล่ะมั้ง ชีวิตเปลี่ยนแปลงกะทันหันแบบนี้ เธอต้องให้เวลาเขาหน่อยนะ” ยุนโฮเสนอ ก่อนจะตบไหล่ให้กำลังใจน้อง
หลังจากนั้นยุนนาก็เทียวไปดักรอจองอาที่หน้าโรงเรียนทุกวัน แต่กลับไม่พบเธออีกเลย


ฝั่งมงโดก็พยายามติดต่อไปยังมหาลัยโดมุส เพื่อขอให้ยุนนาได้เข้าสอบชิงทุนไปเรียนที่นั่น จนในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ

“ฉันขอที่เพิ่มให้เธอได้แล้วนะ” มงโดเดินเข้ามาพูดกับยุนนาในเที่ยงวันหนึ่ง เธอได้แต่ทำหน้างง

“โดมุส ไงล่ะ ที่เหลือก็อยู่ที่เธอแล้วล่ะนะ จะมีฝีมือไหม” มงโดพูดใส่เพื่อกระตุ้นยุนนา หากแต่ปฏิกิริยาไม่เป็นไปตามที่คิด เธอแค่พยักหน้ารับรู้เท่านั้น แต่เมื่อถึงเวลาเข้าสอบยุนนาก็ทำมันได้อย่างสบายๆ มงโดเองก็เชื่อมั่นในตัวลูกศิษย์ว่าเธอจะทำได้แน่ เขาที่เคยไปเรียนที่นั่นมาแล้วรู้ดีว่าที่นั่นจะให้อะไรแก่เธอบ้าง แม้จะเป็นมหาลัยที่เด่นด้านการออกแบบดีไซน์ แต่นั่นกลับเป็นประโยชน์ต่อศิลปินหัวขบถแบบเขาและยุนนา การได้อยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยศิลปะที่หลากหลายจะช่วยให้เกิดจินตนาการแปลกใหม่ หากเธอได้ไปเรียนที่นั่นอนาคตศิลปินระดับโลกคงไม่ไกลเกินเอื้อม และเขามั่นใจว่าศิษย์คนนี้จะทำได้ดีกว่าที่เขาเคยทำซะอีก


ในที่สุดผลการสอบก็ออกมา ยุนนาได้ทุนไปเรียนโดมุสจนจบปริญญาตรี ซึ่งเป็นทุนที่น้อยคนนักจะได้

“เธอได้ๆ ไม่อยากเชื่อให้ตาย” มงโดร้องตะโกนเมื่อทราบข่าว

“ก็บอกแล้ว” ยุนนาพูดพลางเก๊กท่า

“โห เจ๋งว่ะยุนนา” เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“เอางี้ไหม เราไปเลี้ยงฉลองกันดีกว่า เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” โฮวอนคนขี้โอ่เสนอ

“ดีๆ ไปร้านนั้นที่เราไปเมื่อสัปดาห์ก่อนนะโฮวอน ที่ผู้หญิงคนนั้นทำอยู่น่ะ” เพื่อนอีกคนกล่าวขึ้น
“ใช่ๆ จำได้ไหมยุนนา ผู้หญิงที่เธอแย่งกับเจ้าคังจุนไงล่ะ” เพื่อนตัวอ้วนกล่าวขึ้น เรียกความทรงจำของยุนนาให้นึกถึงงานเลี้ยงวันเกิดของโฮวอน ที่คังจุนเพื่อนขี้เมาของเธอทำตัวลุ่มล่ามกับจองอา

“นายหมายถึงจองอาหรอ เธออยู่ไหน ร้านอะไร” ยุนนาถามพลางเขย่าตัวเจ้าอ้วนจนกระเพื่อม มงโดได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าเครียด
หลังเลิกเรียนทุกคนก็ตรงไปยังร้านดังกล่าว โดยมีมงโดขอติดตามไปด้วย

“อาจารย์ครับ ออกมาเที่ยวกับนักเรียนแบบนี้ไม่ผิดกฎโรงเรียนหรอครับ” เจ้าอ้วนคนเดิมถามขึ้น

“ไม่ผิดหรอก ถ้าเรื่องไม่ถึงหูอาจารย์คนอื่นนะ แล้วอีกอย่างอยู่นอกโรงเรียนฉันก็เป็นแค่คนธรรมดา เอ้าเรียกพี่คิมซิ” มงโดกล่าว ทุกคนต่างพากันหัวเราะชอบใจและซ้อมเรียกชื่อพี่คิมกันยกใหญ่ มีแต่ยุนนาเท่านั้นที่ยังทำหน้าเครียด
เมื่อมาถึงร้านยังไม่ทันได้นั่ง ยุนนาก็ถามหาจองอาทันที

“ไหนล่ะจองอา” ยุนนาถามขึ้นพลางมองไปรอบๆร้าน

“จองอายังไม่มาจ๊ะน้องสาว” โฮสเตสสาวคนหนึ่งตอบ

“เพื่อนผมมันหลงเธอมากน่ะครับ” คังจุนขี้เมาเอ่ยแซวขึ้น

“แหมๆ มีแต่คนหลงจองอา ตอนนี้ใครๆก็เรียกหาแต่เธอกันทั้งนั้นล่ะจ๊ะ” โฮสเตสสาวเล่า

“โห...ยังไงก็ช่วยบอกให้เธอแวะโต๊ะเราบ้างนะครับ เดี๋ยวเพื่อนผมมันจะลงแดง” โฮวอนกล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่เครื่องดื่มจะถูกยกมา ยุนนาเทเหล้าใส่แก้วจนเต็มแล้วกระดกดื่มรวดเดียวจนหมด

“เฮ้ยๆ นั่นเหล้านะไม่ใช่น้ำ ดื่มแบบนั้นนะสิถึงได้เมาพับตลอด” มงโดร้องห้าม

“นั่นสิ ยุนนา ดื่มเบาๆหน่อย เดี๋ยวก็เมาหรอก” ยุนโฮสมทบ
หากแต่เธอก็ไม่ฟังยังกระดกแก้วต่อไป จนในที่สุดจองอาก็มาถึงร้าน เธอเข้าไปนั่งกับลูกค้าประจำของเธอก่อน เขาเป็นตาแก่ตัวอ้วนหัวล้านมือปลาหมึก จองอานั่งได้ไม่นานมือเขาก็มาแมะอยู่ที่ขาอ่อนเธอ ยุนนาถึงกับเดือดดาน เดินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อเขาและต่อยเข้าเต็มแรงจนอีกฝ่ายเลือดกบปากลงไปกองกับพื้น

“ไอ้แก่ ไอ้อ้วน ไอ้หัวล้าน ไอ้หื่น” ยุนนาด่าเป็นชุดและหมายจะเดินเข้าไปเตะซ้ำ แต่ถูกมงโดรั้งคอไว้ การ์ดของร้านรีบวิ่งเข้ามาทันที มงโดและยุนโฮจึงก้มหัวขอโทษทุกคน จากนั้นก็ลากยุนนาออกมาหน้าร้าน

“จารย์ปล่อยนะ หนูจะฆ่ามัน” ยุนนายังไม่หมดฤทธ์ ก่อนที่มงโดจะปล่อยและผลักเธอลงไปกองกับพื้น

“ให้ตายเถอะ เธอนี่จะหาเรื่องให้ได้ใช่ไหม ดูมือของตัวเองสิ ถ้ามือเธอเป็นอะไรไปจะทำไง” มงโดพูดเตือนสติ ยุนนาจึงก้มลงมองมือตัวเองที่ตอนนี้ช้ำจนออกม่วง เธอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดมันคงจะซ้น ยุนโฮนั่งลงดูมือน้องสาวอย่างเป็นห่วง

“เป็นยังไงบ้าง” เขาถามอย่างห่วงใย แต่เธอกลับชักมือกลับ ก่อนที่จองอาจะตามออกมา ยุนนารีบลุกขึ้นไปหา

“จองอากลับกันเถอะ” ยุนนาจับแขนจองอาด้วยมือข้างที่ไม่เจ็บ แต่ถูกเธอสะบัดออกก่อนที่จองอาจะเบือนหน้าหนี

“เธอกลับไปเถอะ อย่ามากวนฉันอีกเลย” พูดเสร็จเธอก็เดินเข้าร้านไป ยุนนาจะเดินตามแต่ถูกมงโดรั้งไว้และลากกลับบ้านทันที


แม้มาถึงบ้านแล้วแต่ยุนนาก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์

“จารย์มายุ่งทำไม หนูจะเคลียร์กับจองอาให้รู้เรื่อง” ยุนนาตะคอกใส่มงโด

“เคลียร์หรือจะไปหาเรื่องคนอื่นเขากันแน่ ถ้าเขาเรียกตำรวจขึ้นมา เธอชวดทุนแน่” มงโดพูด

“แล้วไง หนูไม่สนหรอก หนูไม่ไปแล้ว” ยุนนาพูดอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเดินขึ้นห้องไป มงโดถึงกับอึ้ง

“ขอโทษด้วยนะครับอาจารย์ ยุนนากำลังโมโหน่ะครับ” ยุนโฮกล่าวขอโทษพลางโค้งศีรษะ มงโดได้แต่พยักหน้าและจากไป ระหว่างทางเขาครุ่นคิดถึงคำพูดและท่าทีของยุนนา หากปล่อยไว้แบบนี้มีหวังยุนนาทิ้งทุนโดมุสแน่ๆ ในเมื่อไม่มีทางเลือกเขาก็จำเป็นต้องสวมบทตัวร้ายอีกครั้ง มงโดจึงกลับไปที่ร้านของจองอา รออยู่หน้าร้านจนเลิกงาน

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ” มงโดกล่าวพลางเดินเข้าไปดักหน้าจองอาที่เพิ่งเดินออกจากร้านมา เธออารมณ์เสียเล็กน้อยที่ต้องเห็นหน้าเขาอีก

“งั้นก็รีบพูดธุระคุณมาเถอะค่ะ” จองอาตอบหน้าเชิด

“ยุนนาได้ทุนไปเรียนที่อิตาลี โดมุสน่ะรู้จักไหม” มงโดค่อนเสียงถาม

“รู้จักค่ะ” จองอาตอบอย่างขัดเคือง

“ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับยัยนั่นนะ แต่ถ้าแค่สักนิด ถ้าเธอรักยัยนั่นแค่สักนิด เธอคงไม่รั้งเขาไว้ใช่ไหม” มงโดพูดเสียงเครียด

“คุณหมายความว่ายังไง” จองอาถามอย่างสงสัย

“ฉันอยากให้เธอปล่อยเขาซะ ปล่อยยัยนั่นเป็นอิสระจากความรักจอมปลอมนี่ซะที” มงโดตอบ จองอามองเขาอย่างเคืองขุ่น ก่อนที่มงโดจะเดินจากไป


วันต่อมายุนนาได้รับโทรศัพท์แต่เช้า

“ไปเจอฉันที่นัมซันทาวเวอร์ตอนสี่ทุ่มนะ” ปลายสายพูดแค่นั้นก็วางสายไป แต่ยุนนาก็จำได้ว่าเป็นเสียงของจองอา เธอกระโดโลดเต้นดีใจยกใหญ่และรีบไปรื้อเสื้อผ้า หยิบลองแล้วลองอีกจนรกเต็มห้อง กว่าจะออกจากห้องได้ก็เกือบไปโรงเรียนสาย
วันทั้งวันยุนนาไม่เป็นอันเรียนนั่งยิ้มหน้าบานเหมือนคนบ้า ก่อนจะรีบวิ่งกลับบ้านเมื่อได้ยินเสียงออดดังเลิกเรียน เธอรีบเข้าบ้านมาอาบน้ำแต่งตัวและรีบออกไปตั้งแต่สองทุ่มเพราะคราวนี้เธอจะไม่ให้จองอาต้องรอเธออีกเป็นอันขาด


ยุนนามาถึงก่อนเวลาเกือบชั่วโมง เธอยืนรออย่างมีความสุขแหมอากาศจะเริ่มเย็นแล้วแต่ในใจเธอนั้นอบอุ่นเหลือเกิน เวลาก็ใกล้สี่ทุ่มเข้าไปทุกทีคนก็เริ่มน้อยลงไปด้วย จนในที่สุดร่างบางที่เธอปรารถนาก็ปรากฏตัวขึ้น ยุนนาถึงกับยิ้มหน้าบานที่ได้เห็นหน้าคนรักอีกครั้ง

“วันนี้มาไวเชียวนะ” จองอาเอ่ยแซว ยุนนายิ้มอายก่อนจะตอบ

“แหม จะให้มาสายตลอดเลยหรอ” ยุนนาโต้กลับอย่างอายๆ ก่อนจะมองดวงหน้าอันสวยซึ้งของจองอา วันนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์ช่วยขับให้หน้าเธอขาวนวลยิ่งกว่าปกติ

“งั้นเราไปกันเถอะ” ยุนนาพูดขึ้นพลางจับแขนจองอาจะพาเดินไปด้วยกัน แต่เธอกลับขืนแขนไว้ ยุนนาจึงหันมามองจองอาอย่างงุนงง

“พอเถอะ พวกเราน่ะ พอแค่นี้เถอะ” จองอาพูดขึ้น ยุนนาถึงกับอึ้งและพยายามคิดว่าจองอาคงพูดเล่น

“พูดอะไรนะ อย่ามาอำน่า” ยุนนาพูดอย่างอารมณ์ดี จองอาจึงแกะมือที่เกาะกุมแขนเธออยู่ออก ยุนนาถึงกับใจหาย ทั้งคู่ต่างตกอยู่ในความเงียบ ก่อนที่จะปรากฏร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งเดินเข้ามา

“นี่หมายความว่ายังไง หมอนั่นเป็นใคร” ยุนนาถามเสียงสั่น น้ำตาพาลจะไหล จองอาก้มหน้าอย่างลำบากใจ

“เขาเป็นแฟน....”จองอากลั้นใจตอบออกไปแต่ยังไม่ทันพูดจบ ยุนนาที่ตอนนี้น้ำตาล่วงพราวก็เขย่าตัวเธออย่างแรง

“โกหก เธอโกหก มองหน้าฉันและพูดความจริงมาสิ” ยุนนาตะคอกใส่หน้าจองอาทั้งน้ำตา คนฟังแทบอยากจะโผเข้ากอดคนตรงหน้าเมื่อเห็นหยดใสๆนั่น แต่ก็ต้องตัดใจพูดทำร้ายจิตใจคนรักออกไป

“ความจริงก็คือ ฉันรำคาญเธอเต็มทีแล้ว เธอคิดเหรอว่าฉันจะจริงจังกับเด็ก ม.ปลาย อย่างเธอ เธอดูแลฉันไม่ได้หรอก ต่อไปนี้...เราอย่าเจอกันอีกเลยนะ” จองอาแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองที่พูดจาเหยียบย่ำน้ำใจคนรักแบบนี้แต่ก็ทำเพื่อตัวยุนนาเอง เธอจึงแกะมือที่เกาะกุมไหล่บางเธอออกและเดินไปเคียงข้างร่างสูงของชายหนุ่มที่แต่งตัวภูมิฐาน ก่อนจะคล้องแขนกันเดินจากไป ร่างยุนนาทรุดลงกับภาพสะเทือนใจนั้นก่อนจะร้องไห้ฟูมฟาย

“ไม่จริงๆ เธอโกหก ไม่จริง” ยุนนาคร่ำครวญจนคนที่ยืนแอบดูทนไม่ไหวต้องเดินออกมาปลอบ

“ตัดใจซะเถอะ” มงโดพูดพลางนั่งลงลูบหลังยุนนา ก่อนที่เธอจะโผเข้ากอดเขาอย่างหาหลักค้ำจุนจิตใจ

“อาจารย์ ฮือๆๆๆ จองอาทิ้งหนูแล้ว” เธอร้องไห้คร่ำครวญอยู่อย่างนั้น
จองอาเองแม้จะไม่หันไปดูสภาพคนรัก แต่ก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด เธอกอดแขนชายคนนั้นไว้แน่น ก่อนที่หยดน้ำตาแห่งความเสียใจจะไหลแอบแก้ม จนชายคนนั้นสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เธอมี แม้เขาจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตาม


หลังจากนั้นเขาพาเธอไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่ง

“ต้องขอโทษจริงๆนะคะ ที่ขอร้องให้คุณมาทำเรื่องแบบนี้” จองอากล่าวอย่างอ่อนน้อมด้วยดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้

“ไม่หรอก ฉันดีใจซะอีก ที่เธอเลือกฉัน แทนที่จะเป็นลูกค้าคนอื่นๆของเธอ” ชายหนุ่มตอบ จองอาทำหน้าลำบากใจ

“แม้จะไม่ใช่เรื่องจริง แต่ฉันก็ดีใจนะ ที่ได้เป็นแฟนหลอกๆของเธอ แต่ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากให้มันเป็นจริงนะ” เขากล่าวพลางส่งยิ้มอ่อนโยนให้เธอ

“ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันคงไม่คู่ควรกับคุณหรอกค่ะ” จองอาปฏิเสธอย่างมีมารยาท ชายหนุ่มจึงหัวเราะ ฮึๆ

“ไม่ให้โอกาสกันเหมือนเดิมเลยนะ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างอารมณ์ดี เขาเป็นหนึ่งในลูกค้าประจำของเธอ ด้วยความที่เขาเป็นคนสุภาพและเข้าใจอะไรง่าย เธอจึงขอร้องให้เขาร่วมแสดงละครตบตาฉากนี้

“แต่ว่า...เป็นแบบนี้จะดีแน่หรอ” ชายหนุ่มถามขึ้น

“แบบนี้ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ มันเป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะทำเพื่อเขาได้” จองอากล่าวพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลริน ชายหนุ่มจึงยื่นผ้าเช็ดหน้าของเขาให้เธอ

8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ19 สิงหาคม 2553 เวลา 03:29

    ยิ้มไม่ออกเลยเลยค่ะกะตอนจบในตอนนี้

    เจ๊ใจร้ายใจร้ายที่สุด

    มงโดอีกแล้วตานี่อภัยให้ตอนนึง

    เพราะเหตุผลที่ดี

    ไม่งั้นมงโดแก.....อะจ๊าก

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ19 สิงหาคม 2553 เวลา 03:58

    ท่านวินดี้ขอรับ

    อย่าให้จองอาใจร้ายกับยุนนาเลยนะครับ
    ตามงโดจะเก็บไว้เองทั้งสองเลยหรือ เกินไป เอาไงแน่

    อย่าปล่อยให้ยุนนากับจองอาเข้าใจผิดนานเกินนะขอรับ แง แง แง

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ19 สิงหาคม 2553 เวลา 09:01

    อืม วินเขียนได้ดีมากเลยครับ อารมณ์ของจองอาชัดเจนเหลือเกิน ยุนนาก็ยอดเยี่ยมนะ วินเก่งขึ้นมาก ต่อไปแฟนคลับเยอะแน่นอน เป็นกำลังใจให้นะครับ
    ปล.นัท (เกษตรศิลป์)

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ19 สิงหาคม 2553 เวลา 10:48

    อ๊ากกก ชายคนนั้นเป็นใครกันคะ ชักหลงแล้วจิ อิอิ

    แอบขำ ประดยคนี้อ่ะท่านวิน
    "หรอ” จองอาตอบประหยัดคำ ประหยัดจิงๆเอนะ 55

    แต่อีตามงโดนั่น ข้าน้อยว่าไม่ได้สวมบทร้ายนะคะ ดูร้ายมาตลอดแหละในสายตาข้าน้อยน่ะ ชะ บังอาจทำกะจองอาได้ ฮื้อๆ

    สงสารๆๆๆ ทั้งคู่เลยค่ะ จองอาต้องเจ้บปวดเพราะคำพุดของตัวเอง
    ยุนนาก็ต้องเจ็บเพราะคำพูดของคนรัก ฮือๆ ไมเสร้าอย่างนี้เนี่ย

    รีบมาต่อไวไวนะคะ รออยู่ๆๆ กระซิกๆ

    ปล. ยามสา เองค่า

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ21 สิงหาคม 2553 เวลา 02:52

    รักที่เสียสละ แม้ว่าตัวเองก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน
    วินดี้ ถ่ายทอดอารมณ์เจ็บปวดของคนทั้งคู่ได้ดีจริงๆๆ
    เยี่ยมมากๆๆๆ เศร้าอ่ะ สงสารทั้ง ยุนนา และ จองอา
    ยังไงซะ วินดี้ คงไม่ใจร้ายให้เขาสองคนจากกันไปตลอดกาลใช่ไหม
    อย่างน้อย ยามเมื่อลมพัดหวนก็ยังดีนะ
    รอคอยอย่างเจ็บปวด เมื่อเธอจากไป
    กบน้อย เองจร้า

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ21 สิงหาคม 2553 เวลา 07:45

    เจ็บปวดสุด ๆ เลยอะ

    T^T

    กลับมาดีกันไว ๆ นะยุนนากับจองอา

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ23 สิงหาคม 2553 เวลา 10:59

    ชอบคำนี้อะ "คนบ้ามักฆ่าไม่ตาย" 555
    ถ้ามงโดไม่มีเหตุผลเพียงพอนะ แบบว่าอยากเอาปืนยิงทิ้งเลย (แอบโหด ไม่ว่ากันนะคะ)

    จองอา เธอทำไมทำร้ายจิตใจตัวเอง และยุนนา ได้ลงคอ แงงงงงง T_T
    (แต่ก็เพื่อยุนนา...จองอานี่จริงใจจัง ยอมเจ็บเอง...)

    ยุนนาจะหายงี่เง่า ง่ายๆไหมน๊า....มีคนที่รักและทำเพื่อนยุนนามากมายซะขนาดนี้

    เขียนได้ดีค่ะท่านวิน....จิ้นตามแล้วน้ำตาจะไหลเลย เศร้าได้อีก อารมณ์ของตัวละครตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่า "เยี่ยมค่ะ" เป็นกำลังใจให้ ให้สร้างผลงานเรื่องใหม่ๆออกมาอีกนะคะ

    ป.ล.เฝ้ารอตอนต่อไปอยู่...รีบมาไวไวนะ

    จาก ยีน...เด็กดื้อ

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ8 มกราคม 2554 เวลา 03:14

    คุณเริ่มเข้าถึง วิญญานของการเป็นนักเขียนแล้วละ หรือเป็นเพราะว่า วัน และ เวลา ที่เปลี่ยนไปมันหล่อหลอมตัวตนของการเป็นนักเขียนที่อยู่ในตัวคุณออกมาโดยไม่รู้ตัว

    ตอบลบ

ต้องการคอมเมนต์ โดยไม่ต้อง Login ตรง แสดงความคิดเห็นในฐานะ
ให้เลือกโปรไฟล์เป็น ไม่ระบุชื่อ