วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

After School ตอนที่ 21

After School
ตอนที่ 21

โจอึนที่กลับจากการถูกควบคุมตัว เมื่อถึงบ้านก็ถามหาจองอาทันที

“จองอาอยู่ไหน” เขาถามกับพ่อบ้านที่มารอรับ

“เอ่อ...คือ...คุณผู้หญิงยังไม่กลับเลยครับ” พ่อบ้านตอบเสียงเบา

“ยังไม่กลับ? หมายความว่ายังไง” โจอึนซัก

“เธอออกไปตั้งแต่เมื่อคืน แล้วยังไม่กลับมาเลยครับ” พ่อบ้านขยายความ

“ออกไปไหน ไปกับใคร” โจอึนถามเสียงดัง

“เอ่อ...ไม่ทราบว่าไปไหนครับ แต่เธอออกไปคนเดียว” พ่อบ้านตอบเสียงสั่น โจอึนมองเขาด้วยสายตาแทบกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะขึ้นรถและแล่นออกจากบ้านไป ระหว่างนั่งในรถเขาก็ครุ่นคิดว่าจองอาจะอยู่ที่ไหน ก่อนจะออกคำสั่งกับคนขับรถ

“ไปคอนโดของจองอา” เขาสั่งเสียงเรียบ ไม่นานนักเขาก็มาถึงที่หมายและตรงไปยังห้องของเธอ เขากดออดอยู่นานแต่ไม่มีคนเปิด เลยลองหมุนลูกบิดดู ปรากฏว่าห้องไม่ได้ล็อค เขาจึงเดินเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ตั้งแต่ซื้อห้องนี้ให้แก่จองอา เขาก็ไม่ได้เข้ามาที่นี่อีกเลย เมื่อได้มีโอกาสเข้ามาที่นี่อีกครั้งเขาจึงมองอย่างสำรวจ ก่อนจะเหลือบไปเห็นประตูห้องนอนที่เปิดอยู่ จึงเดินเข้าไปในห้องนั้น ก็พบร่างของจองอานอนอยู่บนเตียง

“จองอาๆ เป็นยังไงบ้าง” เขาเดินเขามาดูอาการเธอ ด้วยการเอามืออังหน้าผากก็รู้สึกถึงความอุ่น จึงรู้ได้ว่าเธอเป็นไข้ และสังเกตเห็นยาที่โต๊ะหัวเตียงพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็ก เขาจึงหยิบผ้าขึ้นมาก่อนจะนำมันไปชุบน้ำใหม่และนำกลับมาวางที่หน้าผากเธออีกครั้งพร้อมห่มผ้าให้เธออย่างดี

“มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย” เขามองเธอและพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นไปเดินสำรวจดูห้องนอนของเธอ เขาเดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง สังเกตเห็นครีมบำรุงผิวมากมายที่วางเรียงอยู่ซึ่งล้วนคุ้นตาทั้งสิ้น เพราะที่ห้องนอนจองอาในบ้านเขาเองก็มีขวดลักษณะเดียวกันนี้วางอยู่เช่นกัน ทำให้เขานึกขำและไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงได้เยอะขนาดนี้ ก่อนจะเหลือบไปเห็นกระดาษม้วนหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังขวดเครื่องสำอางที่วางอยู่มากมาย เขาเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาดู เมื่อคลี่ออกก็พบภาพของหญิงสาวที่กำลังสีไวโอลินอยู่ เขารู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวในภาพคือจองอาและรู้เช่นกันว่านี่คือผลงานของใคร ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นวันที่ที่ลงตรงส่วนล่างของภาพวาด เขาก็ถึงกับจับกระดาษมือสั่นด้วยความโกรธ ก่อนจะหันไปยังร่างที่นอนอยู่

“นี่สินะ เหตุผลที่เธอไม่ยอมเป็นของฉัน” โจอึนพูดอย่างเครียดแค้น
ขณะเดียวกันยุนนาที่จำใจจากจองอามาก็มานั่งดื่มเหล้ากับมงโดในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง

“จารย์ไม่เข้าใจ...หนู...หนูเนี่ยรักเขา บูชาเขา ยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา...แต่เขาก็ไม่เลือกหนู ฮือๆๆๆ” ยุนนาพรั่งพรูความอัดอั้นในใจหลังเหล้าเข้าปากจนได้ที่ มงโดที่ทนฟังอย่างจำใจรู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่ในร้านที่จับจ้องมายังโต๊ะของเขา เพราะคนขี้เมาที่พูดเสียงดังไม่เกรงใจใคร

“เบาๆหน่อย ยัยบ้า...คนมองทั้งร้านแล้ว” มงโดเอ็ดใส่ หากแต่คนฟังไม่สนใจกระดกเหล้าเข้าปากลูกเดียว และร้องไห้ฟูมฟายอีกยกใหญ่ ก่อนจะเมาจนพับไปให้มงโดแบกกลับบ้านอีกตามเคย เมื่อมาถึงบ้านมงโดก็พบอีซานที่กลับมาก่อนนานแล้ว

“อ่ะเป็นอะไรมาเนี่ย” อีซานเอ่ยถามเมื่อมงโดวางร่างของยุนนาไปยังโซฟาที่ประจำของเธอ

“จะอะไร ก็เมาเหล้าบวกเมารักอ่ะดิ” มงโดตอบ

“หะ?” อีซานที่ไม่ทันมุขจึงร้องอย่างงุนงง

“อย่าไปใส่ใจเลย วันนี้นายเหนื่อยมามากแล้ว” มงโดพูดเฉเรื่องอื่น พลางจับอีซานให้นั่งลงยังโซฟาอีกด้าน

“ฉันทำอาหารให้กินเอาไหม” มงโดเสนอด้วยเสียงอันอ่อนโยน

“นายทำเป็นหรอ” อีซานถึงกับงง เพราะไม่คิดว่าคนอย่างมงโดจะจับตะหลิวเป็น ก่อนที่มงโดจะหยิบมือถือขึ้นมาโชว์

“ทำไม่เป็น แต่ฉันโทรเป็น” มงโดเฉลย ก่อนจะโทรสั่งบะหมี่เจ้าประจำที่อีซานชอบมาทานกันสองคน (วิ๊ดวิ้วในที่สุดก็ได้เขียนฉากหวานๆของสองคนนี้) เมื่อบะหมี่มาถึงมงโดก็โซ้ยอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่อีซานนั่งมองคนตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี เมื่อมงโดรู้สึกว่าตนโดนจ้องอยู่ก็เงยหน้าขึ้น อีซานเห็นปากที่เปื้อนมอมจากการโซ้ยบะหมี่ก็หลุดขำออกมา มงโดได้แต่ทำหน้างงกับอาการคนตรงหน้า ก่อนที่คนเส้นตื้นจะหยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้เขาด้วยใบหน้าอมยิ้ม

“นายเนี่ย ไม่รู้จักโตจริงๆ” อีซานบ่นทั้งที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนที่มงโดจะกุมมือนั้นไว้

“นายจะได้ดูแลฉันตลอดไปไง” มงโดพูดเสียงนุ่ม ทั้งคู่ต่างมองสบตากันและกัน ทันใดเสียงไม่พึงประสงค์ก็ดังขึ้น

“จารย์ไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจ...หนูรักจองอา...จองอา....” ยุนนาละเมอเสียงดัง ทำให้อีซานรีบชักมือกลับ มงโดได้แต่ทำหน้าเสียอารมณ์ ใจจริงอยากจะเดินไปเขี่ยคนขี้เมาให้ตกโซฟาหรือตีให้สลบไปเลยด้วยซ้ำ (โธ่กว่าจะหาโอกาสได้ หนูนานะหนูนา ยังงี้แค้นต้องชำระใช่ไหมมงโด)
ณ ห้องของจองอา เธอเริ่มรู้สึกตัวแล้วจึงค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะเหลือบไปเห็นร่างของชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ปลายเตียง เขาหันมามองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน

“ตื่นแล้วหรอ” เขาทักด้วยเสียงนุ่ม ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยพยุงเธอลุกขึ้นนั่ง จองอารู้สึกงุนงงและตกใจที่โจอึนมาอยู่ที่นี่ เธอวิตกว่าเขาจะพบเข้ากับยุนนาหรือไม่ เขาทำอะไรยุนนาหรือเปล่า

“เดี๋ยวทานข้าวต้มหน่อยนะ เธอนอนมาทั้งวันเลย คงหิวแย่” เขาบอกก่อนจะเดินไปยังครัว นำข้าวต้มที่ต้มเองกับมือมาให้เธอ ไม่นานก็เดินกลับเข้ามาพร้อมชามข้าวต้มร้อนๆ เขาเป่าไล่ความร้อนก่อนจะป้อนใส่ปากเธอ จองอาจำยอมกลืนมันลงคอ ในสมองก็ยังสับสนและเฝ้าครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หากแต่ก็หวาดกลัวเกินกว่าจะเอ่ยถามคนตรงหน้านี้ได้ หลังจากป้อนข้าวเสร็จโจอึนก็พาเธอกลับบ้าน เมื่อได้อยู่ลำพังในห้องจองอาก็ทนความสงสัยไม่ไว้ เธอตัดสินใจกดโทรศัพท์ออกไปหายุนนาทั้งที่ไม่ได้โทรไปนานแล้ว รอสายอยู่นานกว่าจะมีคนรับ

“ฮัลโหล! ยุนนาอยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีรึเปล่า” จองอารีบถามทันทีที่มีคนรับ หากแต่เสียงตอบกลับไม่ใช่คนที่เธอโทรหา

“เธอปลอดภัยดี ตอนนี้อยู่กับฉัน” เป็นมงโดนั่นเองที่รับสาย เธอตกใจด้วยไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนรับ

“เอ่อ...ยุนนา...คือฉันขอคุยกับเขาได้ไหมค่ะ” จองอาพูดเสียงดั่งอ้อนวอน

“ได้ซี้ ถ้าเขาตื่นขึ้นมาพูดกับเธอได้นะ” มงโดพูดยียวน

“เขา...เขาหลับแล้วหรอค่ะ” จองอาถามเสียงสั่น

“ใช่...หลับปุ๋ยอยู่ข้างๆฉันนี่แหละ เฮ้ยุนนามีคนจะคุยด้วยแหนะ” มงโดพูดใส่จองอาพร้อมเขย่าตัวยุนนา หากแต่เธอก็เมาเกินกว่าที่จะรู้เรื่องได้ จึงได้แต่ตอบเสียงงัวเงียเหมือนคนง่วงนอน จองอาเองก็ได้ยินเสียงนั้น ยิ่งทำให้เธอเชื่อคำพูดของมงโดเข้าไปใหญ่

“ได้ยินแล้วนะ” มงโดถาม

“ค่ะ” เธอตอบสั้นๆอย่างขัดอารมณ์และจะกดวาง หากแต่มงโดพูดสวนขึ้น

“หวังว่าเธอคง...จะไม่โทรมาอีกนะ และจะยิ่งดีมากเลย ถ้าเธอเลิกยุ่งกับเขาสักที” มงโดพูดเสียงเข้มก่อนจะกดวางสายใส่จองอา เธอถึงกับเบิกตากว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ใจจริงอยากโต้ตอบกลับไปแต่ปลายสายกลับวางไปซะก่อน อารมณ์คุกรุ่นด้วยความโมโหจึงอัดแน่นอยู่ในร่างบาง ก่อนที่เธอจะไปอาบน้ำเพื่อให้อารมณ์เย็นลง หากแต่เมื่อเปลื้องผ้าออกรอยแดงตามร่างกาย ก็ฟ้องถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน ยิ่งทำให้เธอสะท้อนใจ เพราะคนที่สร้างรอยพวกนี้ตอนนี้กลับไปนอนเคียงข้างชายอื่น ความเสียใจและความโกรธแค้นทำให้เธอระบายออกด้วยการขัดถูรอยเหล่านั้นอย่างรุนแรง หวังจะลบร่องรอยที่คนใจดำทำไว้ หากแต่มันกลับยิ่งสร้างรอยแดงมากขึ้นกว่าเก่าจนตอนนี้ตัวเธอแดงไปทั้งร่าง ก่อนที่เธอจะทรุดลงอย่างหมดแรงและร้องไห้ฟูมฟาย

ขณะเดียวกันนั้นโจอึนกำลังคุยโทรศัพท์กับชายคนหนึ่งอยู่

“เป็นยังไงบ้าง” โจอึนถาม

“ไม่ต้องห่วงครับท่าน พวกเขาไม่พูดอะไรแน่” ชายปลายสายบอก

“หลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ตั้งข้อหาได้ไม่มากนัก ผมช่วยเขาได้แน่ครับ” เขาเสริม ชายคนนี้คือทนายที่โจอึนให้ไปดูแลคดีของผู้ดูแลบ้านที่ถูกจับ

“เด็กยุนนานั่นละ” โจอึนถามขึ้น

“ไม่พบครับท่าน เธอไม่ได้ถูกจับมาด้วย” ทนายหัวใสตอบ โจอึนรู้สึกสงสัยเมื่อได้ยิน

“ดองกูว่า คุณผู้หญิงพาเธอออกไปก่อนที่ตำรวจจะบุกครับ” ทนายเล่าเรื่องที่ฟังจากดองกูหรือผู้ดูแลบ้านนั่นเอง โจอึนกำหมัดแน่นเมื่อได้ยิน ก่อนจะตัดสายไป เขาทุบมือลงที่โต๊ะเต็มแรง กัดกรามแน่นด้วยความแค้นเต็มอกจากการถูกคนที่รักกับคนที่เขาไว้ใจหักหลัง

“ถึงเธอจะไม่ยอมเป็นของฉัน ฉันก็ไม่มีวันยอมให้เธอเป็นของใครหรอกจองอา” เขาพูดกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น
เช้าวันต่อมายุนนาตื่นขึ้นด้วยอาการปวดหัวตุบๆเช่นเคย ก่อนจะได้ยินเสียงคนสนทนากันอยู่ที่โต๊ะอาหาร จึงเดินตามเสียงนั้นไปก็พบมงโดและอีซานกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่

“ยุนนา ตื่นแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง” อีซานร้องทักเมื่อเห็นเธอเดินโซเซมา เขารีบเดินไปประคองเธอมานั่งและจัดอาหารเพิ่มให้เธออีกที่พร้อมกับชามะนาวผสมน้ำผึ้งที่เขามักทำให้เธอทุกครั้งที่เมา มงโดมองภาพที่อีซานดูแลยุนนาอย่างกระตือรือร้นแล้วก็หมั่นไส้

“ตื่นมาก็มีคนดูแลเลยนะ ยัยขี้เมา” มงโดพูดใส่ ยุนนาหันมามองเขาด้วยใบหน้าเครียดจากอาการปวดหัวและอารมณ์เศร้าที่ยังค้างอยู่

“มงโด” อีซานร้องห้ามเพื่อสกัดสงครามยามเช้า ก่อนที่ยุนนาจะเอ่ยขึ้น

“ทำไมโจอึนถูกจับล่ะคะ แล้วทำไมถึงปล่อยออกมาอีก” ยุนนาถามเสียงเครียดกับอีซาน

“ความจริง เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่เอง พี่วางแผนไม่รัดกุมรีบร้อนจับ มันก็เลยหลุดไปได้ง่ายๆ หลักฐานมันอ่อนเกินไป เราพบยาเสพติดเพียงเล็กน้อยที่ใส่ผสมในแอ็บซิล มันไม่มากพอจะตั้งข้อหาจำหน่ายได้ แค่มั่วสุมเสพสารเสพติด กับเปิดบริการผิดกฎหมายและมีเครื่องดื่มห้ามนำเข้าไว้ในครอบครอง” อีซานอธิบาย

“แล้วโจอึนโดนข้อหาอะไรบ้างค่ะ” ยุนนาถาม

“ไม่...ไม่มีเลย เขาออกจากที่เกิดเหตุไปก่อนและอ้างว่าแค่แวะไป เมื่อรู้ว่าเป็นปาร์ตี้ผิดกฎหมายจึงออกมา” อีซานตอบอย่างเจ็บใจ

“ได้ยังไง หมอนั่นเป็นคนจัดชัดๆ” ยุนนาโวยขึ้น

“ใช่...แต่ไม่มีใครซัดทอดเขา ในเมื่อไม่มีพยานและหลักฐาน พี่ก็ทำอะไรมันไม่ได้” อีซานตอบอย่างอ่อนใจ

“โธ่เว้ย” ยุนนาสบถก่อนทุบโต๊ะดัง ปัง!

“แล้วยังงี้เมื่อไหร่ เราจะจับมันได้สักที” ยุนนาถามด้วยท่าทางหงุดหงิด อีซานได้แต่ทำหน้าเครียด เขาจนปัญญาจริงๆที่จะตอบคำถามนี้
หลายวันผ่านไปยุนนายังคงไปโรงเรียนตามปกติ แต่เธอไม่ได้ไปบ้านโจอึนเหมือนแต่ก่อน ด้วยไม่ทราบว่าโจอึนจะระแคะระคายเรื่องเธอรึยัง จึงเป็นการดีที่จะนิ่งไว้ จนในที่สุดก็มีการติดต่อมาจากโจอึน

“สวัสดียุนนา ไม่ได้พบกันเลยนะ” โจอึนกล่าวทักเมื่อยุนนารับสาย

“ค่ะ ก็ตั้งแต่เรื่องยุ่งๆวันนั้น” ยุนนาตอบอย่างควบคุมสติ

“ใช่...ฉันต้องขอโทษเธอจริงๆ เรื่องปาร์ตี้นั่น แต่แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เธอไม่ถูกจับ” โจอึนแย้มขึ้น

“พอดี...ฉันรู้สึกไม่สบายนะค่ะ เลยออกมาก่อน” ยุนนาใช้วิชาแถขั้นเทพเหมือนเดิม หากแต่เธอไม่รู้หรอกว่าโจอึนนั้นรู้ความจริงที่จองอาไปช่วยเธอแล้ว

“โฮ่...อย่างงั้นรึ เป็นโชคดีของเธอจริงๆ ฉันก็ได้แต่หวังว่า เธอคงจะไม่โกรธฉันหรอกใช่ไหม” โจอึนแสร้งพูด

“ไม่หรอกค่ะ มันเป็นเรื่องสุดวิสัย ฉันเองก็...ชอบปาร์ตี้นั้นมาก” ยุนนาเองก็แสร้งตอบเช่นกัน

“งั้นเรื่องธุรกิจของเรา ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมนะสิ” โจอึนเอ่ย

“ธุรกิจ?” ยุนนาฉงน

“ก็เรื่องที่ฉันจ้างเธอวาดภาพไง ฉันยังต้องการมันอยู่นะ” เขาตอบ

“คุณยัง...จะให้ฉันวาดอีกหรอค่ะ” ยุนนาถาม

“แน่นอน ก็เธอยังวาดไม่เสร็จนี่ ถ้าไม่ใช่เธอ ก็คงจะไม่ได้หรอกนะ” โจอึนพูดอย่างเป็นปริศนา ยุนนาจึงครุ่นคิดสักครู่

“ได้ค่ะ ฉันจะไป” เธอตอบอย่างมาดมั่น

“ดี เจอกันเย็นนี้นะ” โจอึนบอกก่อนวางสาย แม้ว่ายุนนาจะสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล แต่เธอก็ไม่อาจจะปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป เพราะนี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะจับผู้ชายคนนี้
หลังเลิกเรียนยุนนาตรงไปยังบ้านของโจอึน เขาไปรอเธอที่ห้องวาดภาพอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเธอเข้าไปก็พบเขายืนมองภาพที่เธอยังวาดไม่เสร็จอยู่

“สวยจริงๆนะ เธอว่าไหม” โจอึนเอ่ยขึ้น ขณะที่ยังคงมองภาพนั้นอยู่ ก่อนจะหันมาหาเธอ

“ภาพนี้ยังไม่เสร็จดี ถ้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะยิ่งสวยกว่านี้ค่ะ” ยุนนาตอบ

“ฉันไม่ได้หมายถึงภาพ ฉันหมายถึง...เธอ จองอา” โจอึนพูดพลางชี้ไปที่ผู้หญิงในภาพ ยุนนาถึงกับหน้าถอดสี เธอรู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“จริงสิ ฉันไปเจอภาพๆหนึ่ง สวยมากเลย ก็เลยเอามาให้เธอดู ช่วยดูและวิจารณ์มันหน่อยนะ” เขาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปยิบกระดาษม้วนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ แล้วยื่นมันให้ยุนนา เธอค่อยๆคลี่มันออกดู แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามันคือภาพที่เธอวาดให้จองอานั่นเอง

“มันสวยใช่ไหมล่ะ เธอว่าผู้หญิงในภาพนี้...เป็นใครกัน” โจอึนยังคงแสร้งถาม

“ไม่ทราบสิคะ คงมีแต่คนที่วาดรูปนี้เท่านั้นที่จะรู้” เธอตอบอย่างพยายามควบคุมเสียงให้เรียบ โจอึนสังเกตอาการยุนนาที่กำลังพูดโกหกอยู่

“ฉันว่าเธอน่าจะรู้นะ ในเมื่อภาพนี้...เธอเป็นคนวาดนี่” โจอึนเฉลยพร้อมจ้องมองเธอราวกับจะอ่านจิตใจ เธอพยายามหลบตาหนี

“รู้ไหม...ฉันกำลังสงสัยอยู่ว่า ทำไมพวกเธอถึงทำเป็นไม่รู้จักกัน ทั้งที่ก็น่าจะรู้จักกัน...ดีซะด้วย ทำไมกันน้า” โจอึนกล่าวอย่างอารมณ์ดี พลางเดินไปรอบๆตัวยุนนา

“หรือเป็นเพราะ...พวกเธอมีอะไรปิดบังฉัน ความสัมพันธ์ที่...ไม่อยากให้ใครรู้” โจอึนหยุดเดินและยื่นหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆยุนนา เธอจึงถอยหลังหลบ

“เธอรู้ไหม ว่าฉันรักอะไรมากที่สุด” โจอึนถามพลางจ้องหน้ายุนนา หากแต่เธอไม่ตอบ ได้แต่ยืนหน้าซีดอยู่อย่างนั้น

“จองอาไงล่ะ แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือ จองอาอีกนั่นแหละ ฉันเกลียดจองอาที่หักหลังฉัน” ยุนนาถึงกับอึ้งเมื่อได้ยิน

“อ้า...ฉันควรจะทำยังไงกับหล่อนดี เอาไปขายในตลาดมืดดีไหม ให้กับพวกวิปริตที่ชอบทำกับคนเหมือนเป็นสัตว์” โจอึนพูดขู่ ยุนนาที่อดรนทนไม่ไหวก็โพลงขึ้น

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ เป็นฉันเอง เธอไม่รู้เรื่องด้วย ถ้าคุณจะทำก็มาทำที่ฉันเถอะ” ยุนนาพูดร้องขอด้วยคิดว่าโจอึนรู้เรื่องที่เธอเป็นสายให้ตำรวจ

“ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ ในเมื่อเธอสองคนหักหลังฉันทั้งคู่! แต่ก็นะ...ฉันเป็นคนใจอ่อนซะด้วย จะให้ทำร้ายผู้หญิงที่ตัวเองเคยรัก มันก็ยากอยู่ เอาเป็นว่าฉันจะลืมเรื่องนี้ซะ ถ้าเธอ...ทำงานให้กับฉัน ฉันจะปล่อยจองอาไป” โจอึนเสนอ ยุนนาจึงครุ่นคิดสักพัก

“ฉันตกลง” ยุนนาตอบอย่างหนักแน่น

“อีกหนึ่งสัปดาห์จะมีของล๊อตใหญ่มาส่ง ฉันอยากให้เธอเป็นคนไปรับและเอามาส่งให้ฉัน ถ้าเธอทำได้ ฉันจะปล่อยจองอาไป แต่ถ้าไม่...ฮึๆๆๆ คงไม่ต้องให้ฉันบอกหรอกใช่ไหม” โจอึนหัวเราะชอบใจ ยุนนาที่ยืนฟังอยู่ก็ได้แต่ทำหน้าเครียด

“ของอยู่ที่ไหนหรอค่ะ” ยุนนาตัดสินใจถามขึ้น

“แล้ววันนั้นเธอจะรู้เอง กลับไปได้แล้ว” โจอึนกล่าวไล่เมื่อเสร็จธุระ ยุนนาจึงต้องจำใจเดินออกมาหลังยุนนากลับไปไม่นาน จองอาก็กลับถึงบ้าน เธอถือกล่องใส่ปากกาอันน้อยนำมาให้โจอึน

“นี่ค่ะปากกาที่ให้ไปรับ” จองอาพูดพลางยื่นให้โจอึน เขารับมาพร้อมรอยยิ้ม

“ลำบากเธอจริงๆ แต่ปากกาแท่งนี้ฉันรักมันมาก แม้ว่ามันจะเขียนได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ฉันก็...ไม่มีวันทิ้งมันเด็ดขาด” โจอึนพูดอย่างมีนัยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แม้จองอาจะสงสัยในคำพูดนั้นแต่เธอก็ไม่อาจล่วงรู้ความคิดของชายคนนี้ได้ โจอึนนั้นไม่ต้องการให้เธอรู้เรื่องแผนการในครั้งนี้ จึงบอกให้เธอไปรับปากกาแทนตน จะได้กลับบ้านช้ากว่าเวลาที่เคย เพื่อไม่ให้เธอได้พบกับยุนนา

ยุนนาเองเมื่อพ้นบ้านโจอึนก็รีบโทรหามงโดและอีซานให้ไปพบกันที่ร้านคอฟฟี่ช้อปเจ้าประจำทันที

“ให้ตายเถอะ ฉันบอกแล้วว่าให้เธอระวังไง หมอนั่นรู้เข้าจนได้” มงโดเอ็ดใส่ยุนนาทันทีที่รู้เรื่อง

“เดี๋ยวๆ แต่ฉันว่าไม่น่าจะทั้งหมดนะ” อีซานแย้ง

“อะไรกัน ขนาดรู้ว่ายัยนี่ไปตีท้ายครัว ฉันว่าเรื่องอื่นก็ไม่เหลือหรอก” มงโดค้าน

“ไม่หรอก ถ้ารู้ว่ายุนนาเป็นสายมันไม่ปล่อยเธอกลับมาหรอก แถมเสนองานให้แบบนี้ มันคงยังไม่รู้เรื่องแน่ๆ” อีซานยัน

“ถ้ายังงั้น ยัยนี่ก็อยู่ในอันตรายน่ะสิ” มงโดพูดอย่างหวาดหวั่น

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูจะทำ หนูจะไม่ยอมให้มันทำอะไรจองอาเป็นอันขาด” ยุนนาพูดอย่างมาดมั่น

“นี่เธอเชื่อคำพูดมันหรอ มันไม่มีทางปล่อยพวกเธออยู่แล้ว” มงโดแย้ง

“เพราะไม่เชื่อยังไงล่ะคะ ถึงต้องทำ หนูจะต้องจับมันให้ได้ ก่อนที่มันจะทำอะไรเธอ” ยุนนาอธิบาย ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองทึ่งกับความคิดของเธอ “คนที่ไม่รู้แม้กระทั่งวิธีเช็ดตัวอย่างยัยนี่ คิดเรื่องแบบนี้ออกด้วยหรอ
เนี่ย” มงโดนึกในใจ

“แต่ยังไงมันก็อันตรายเกินไป ฉันไม่ยอมให้เธอทำหรอก” มงโดรั้น

“อาจารย์!” ยุนนาร้องอย่างอ่อนใจ ก่อนที่อีซานจะเอื้อมมือไปจับแขนมงโด (อุ๊ยลุ้น)

“ฉันจะไม่ยอมให้เกิดอันตรายกับยุนนาเป็นอันขาด” อีซานพูดอย่างมาดมั่น จนคนฟังต้องยอมอย่างจำใจ

“งั้นระหว่างนี้ ฉันคงต้องห่างพวกนายสักพักล่ะน่ะ จนกว่าจะถึงวันปฏิบัติการ ไม่งั้นพวกนั้นอาจรู้ตัวได้” อีซานพูดขึ้น มงโดถึงกับทำหน้าเซ็งที่จะไม่ได้เห็นหน้าอีซานตั้งอาทิตย์ หลังการประชุมเสร็จสิ้นทุกคนต่างแยกย้ายกันไป และต่างภาวนาให้วันที่รอคอยมาถึง

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ6 สิงหาคม 2553 เวลา 14:24

    อ๊ายยย ร๊ายนักนะ อีตามงโด ทำจองอา ช้ำใจเลย ฮือๆ

    เอาคืนเจ็บแสบมา เดี๋ยวเถ๊อะๆ
    (จะทำไรเค้าจ๊ะ ^ ^// : ก็ไม่ทำ แหะๆ)

    ปล. อีซานไมตอนหวีตเหมือนตุ๊ดจังอ่ะ อิอิ

    เดี๋ยวมาเม้นต่อค่าา
    ยามสา เองนะคะ

    ตอบลบ
  2. อย่ามาว่าซานฉันนะ ซานเป็นผู้ชายอ่อนโยนย่ะ เดี้ยๆ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ7 สิงหาคม 2553 เวลา 09:14

    ชอบคู่ซานกะมงโดอ่ะ

    แบบว่าขอฉากเลิฟๆๆมากกว่านี้หน่อยได้ป่ะค่ะ

    ชอบๆๆๆ

    ปล.ตอนนี้แอบเสียดายไม่มีซีนเลิฟยุนนากะจองอา ฮือๆๆๆ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ8 มกราคม 2554 เวลา 02:22

    ถ้าหากเจอตัวคุณ อยากจะถามจริงๆ ..คุณทำยังไงถึงให้เราเฝ้าติดตามตัวอักษรโดยที่ไม่มีตัวตนอยู่อย่างนี้

    ตอบลบ

ต้องการคอมเมนต์ โดยไม่ต้อง Login ตรง แสดงความคิดเห็นในฐานะ
ให้เลือกโปรไฟล์เป็น ไม่ระบุชื่อ