วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554
The Fan Club ตอนที่ 6
ตอนที่ 6 ร้องหารัก (Call for Love)
เช้าอันสดใสของฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศแสนจะเย็นสบาย แต่ใครบางคนกลับนั่งหน้าเศร้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และไม่มีท่าทีจะลุกไปไหน
“แกเลิกจ้องจอคอมฯสักทีจะได้ไหมยัยชัน?” เสียงเข้มดังขึ้นและก้าวจ้ำๆเข้ามาหาร่างเล็ก
“เอ้า ข้าว จะกินไหม? ฉันเห็นแกนั่งอยู่ท่านี้มาตั้งแต่ตื่นแล้วนะ วันหยุดยาวทั้งทีแบบนี้ทำไมไม่ออกไปเที่ยวไหนว่ะ?” เอื้อเฟื้อนำอาหารเช้าที่เหลือจากครัวใหญ่มาให้อัญชัน เพราะเพื่อนตัวดีไม่ยอมขยับตัวไปไหนเลย (วันหยุดยาวในเทศกาลชูซอก)
“ไม่อ่ะ ไม่มีอารมณ์....ฉันกำลังเศร้าอยู่” เธอตอบด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย เธอยังคงรู้สึกเสียใจต่อท่าทีที่ดาราสาวมีต่อเธอเมื่อวานและการสนทนาผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่เธอหนีดาราสาวออกมาดื้อๆ เอื้อเฟื้อมองสภาพเพื่อนสาวแล้วก็ถอนหายใจ เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ก่อนที่เพื่อนของเขาจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้
ขณะเดียวกันภายในห้องนอนของดาราสาว เธอยังคงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนนุ่ม ทั้งที่ก็ตื่นนานแล้วแต่เจ้าตัวไม่มีกระจิตกระใจจะลุกไปไหนหรือทำอะไรทั้งนั้น มือน้อยเอื้อมไปหยิบมือถือเครื่องเล็กที่วางบนหัวเตียง เธอจ้องมองหน้าจอของมันอยู่อย่างงั้นเนิ่นนาน
“รอโทรศัพท์ใครอยู่หรอ?” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมใบหน้าของร่างโปร่งที่ยืนเข้ามาหาร่างบาง
“ว้าย! ฮโยจู ตกใจหมดเลย!” แชวอนอุทานขึ้น
“แหมๆ ขวัญอ่อนจริงนะแม่คุณ แล้วนี่รอโทรศัพท์ใครหรอ?” ฮโยจูเหย้าขึ้นก่อนจะถามคำถามเดิมอีกครั้ง
“รออะไรกันละ เปล่าสักหน่อย ฉันแค่....จะถ่ายรูปนะ” แชวอนรีบแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แล้วจึงกดเข้าระบบกล้องพร้อมทั้งแอ็คท่าถ่ายรูปเพื่อไม่ให้เพื่อนของตนสงสัย หากแต่ฮโยจูก็รูแกวเพื่อนของเธอดีแต่ก็ไม่พูดอะไรออกไป ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา
“งั้นฉันไปก่อนก็แล้วกัน” ฮโยจูเอ่ยลาก่อนลุกขึ้น
“จะไปไหนหรอ?” แชวอนจึงถามด้วยความสงสัย ปกติวันหยุดแบบนี้เพื่อนสาวจะอยู่กับเธอทั้งวันแท้ๆ
“วันหยุดยาวแบบนี้ ฉันก็ต้องไปเที่ยวกับพี่จินโฮซิ” ฮโยจูตอบลอยหน้าอย่างพอใจ
“นี่...คุณปาร์คเขายอมไปกับเธอได้ยังไงกัน?” แชวอนฉงนในคำบอกของเพื่อนจึงถามด้วยความสงสัย
“นี่! เธอเป็นเพื่อนฉันจริงรึเปล่าเนี่ย เชอะ ถึงเขาจะไม่ยอมเดี๋ยวฉันก็ลากเขาไปอยู่ดีนั่นละ ไปแล้ว คุยกับเธอนี่อารมณ์เสียจริงๆเลย” ฮโยจูเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไปให้แชวอนมองตามด้วยความมึนงง ก่อนจะหันกลับมาสนใจเจ้ามือถือเครื่องน้อยของตัวเองอีกครั้ง
“เฮ้อ....เบอร์เราเขาก็มีนี่น่า ทำไมไม่โทรมาละ วันหยุดยาวแบบนี้เขาจะทำอะไรน้า?” ร่างบางรำพึงกับมือถือของตน เพราะไม่ว่าจะจ้องมองมันเท่าไหร่ เจ้าเครื่องตัวน้อยก็ไม่ยอมโชว์เบอร์โทรเข้าของคนร่างเล็กเสียที ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทั้งที่ปกติจะคอยเอาใจเธอและรู้ใจไปเสียทุกอย่าง แต่ทำไมวันนี้คนร่างเล็กถึงไม่รู้ใจเธอบ้างว่าอยากให้อีกคนโทรมาหาใจแทบขาด
“เฮ้อ........” เสียงถอนหายใจของร่างเล็กมีอย่างต่อเนื่อง เธอยังคงนั่งอยู่ที่เดิมแม้ตอนนี้จะสายมากแล้ว เธอพยายามคิดทบทวนว่าเธอทำสิ่งใดให้ดาราสาวไม่พอใจ แต่คิดเท่าไหร่มันก็คิดไม่ออก
“หรือจะโทรไปถามเขาดี?” ร่างเล็กเอ่ยขึ้นกับตัวเองพลางหยิบมือถือของตนขึ้นมาและกดหาเบอร์ดาราสาวที่ตนเมมโมรี่เอาไว้ในเครื่อง
“แล้วจะถามว่าอะไรอ่ะ?” ร่างเล็กเอ่ยก่อนจะกดออกจากสมุดโทรศัพท์ แล้วก็นั่งกุมขมับอีกครั้ง แม้จะได้เบอร์ดาราสาวมาแต่ก็ไม่เคยกล้าโทรไปเลยสักครั้ง แล้วมามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นคนใจเสาะอย่างเธอจะกล้าโทรไปหาหล่อนได้อย่างไร
“หน้าเครียดเชียวครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหมเอ่ย?” เสียงนุ่มดังขึ้นจากประตู ร่างเล็กจึงหันไปมองตามเสียงนั้นก็พบกับร่างสูงคุ้นตา
“คุณจินโฮ! มาได้ยังไงค่ะเนี่ย?” อัญชันเอ่ยทักอย่างแปลกใจ
“ฉันเรียกมาเองล่ะ แกจะได้เลิกนั่งซึมเศร้าสักที” เอื้อเฟื้อเอ่ยขึ้นพลางเชื้อเชิญให้จินโฮเข้าบ้าน
“คุณอัญชันเศร้าเรื่องอะไรรึครับ บอกผมได้ไหม?” จินโฮถามอย่างเป็นห่วง หากแต่ร่างเล็กกลับทำหน้าลำบากใจที่จะตอบ
“ถ้าอย่างงั้นเราไปคลายเครียดกันดีไหมครับ? วันหยุดยาวแบบนี้ เราไปเที่ยวต่างจังหวัดกันดีไหมละครับ?” จินโฮเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปีไม่มีขลุ่ย
“เป็นความคิดที่ดีมากเลยครับ ว่าไงชัน แกเคยบอกนี่ว่าอยากไปเกาะเซจูนะ แกไม่ต้องทำงานแถมมหาลัยก็หยุดอีก ไม่มีเวลาไหนเหมาะไปกว่าตอนนี้แล้วนะเนี่ย เอาล่ะไปเก็บของกันเถอะ” เอื้อเฟื้อตอบรับเสร็จสัพก่อนจะลากร่างเล็กตามเขาไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อเตรียมออกเดินทาง
“นี่แกทำบ้าอะไรเนี่ย?” ร่างเล็กสะบัดแขนเพื่อนออกเมื่อเข้ามาอยู่ภายในห้องของตน
“ก็ช่วยแกไง แกรู้ไหมว่ามันน่ารำคาญแค่ไหนที่ต้องทนเห็นแกนั่งบื้ออยู่หน้าจอนะ ขืนฉันต้องทนมองมันตลอดวันหยุดยาวนี้ละก็ ฉันต้องบ้าตายแน่ๆ” เอื้อเฟื้อเอ่ยขึ้นอย่างระอา
“งั้นแกก็ไปคนเดียวซิ จะลากฉันไปด้วยทำไม?” อัญชันบอกด้วยความไม่พอใจ
“คนที่จะไปนะคือแกไม่ใช่ฉัน เพราะฉันมีนัดกับคุณลีเขาแล้ว” เอื้อเฟื้อกล่าว
“นี่แกเป็นบ้าหรอ? จะให้ฉันไปเที่ยวกับคุณจินโฮสองคนเนี่ยนะ” อัญชันโวยวาย
“เบาๆ....ฉันขอร้องละ ฉันนัดกับคุณลีเขาไว้ ให้เขามาค้างที่นี่ช่วงวันหยุดยาว ขอร้องละเพื่อน” เอื้อเฟื้อยกมือไหว้อ้อนวอนเพื่อนสาวเพราะเขาไม่อยากพลาดโอกาสทองครั้งนี้ ยากนักที่เขาและ ลี ฮอนคยอง แฟนสาวจะมีโอกาสได้พบกัน หากอัญชันอยู่มันคงไม่สะดวกต่อเขาและคนรักในการสวีทหวานเป็นแน่
“ให้ตายเหอะ!......ก็ได้ว่ะ แต่แกต้องให้เงินฉันด้วย แล้วก็....อย่ามายุ่มยามในห้องฉันเด็ดขาด” อัญชันกัดฟันตอบรับอย่างจำใจ เพราะเธอเข้าใจดีว่าเพื่อนรักกับสาวแฟนโดนกีดกันจากพ่อของฝ่ายหญิง การจะได้ใกล้ชิดกันเป็นเรื่องยาก เธอจึงไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ มันเป็นเช่นนี้เสมอเมื่อถึงเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการความช่วยเหลือทั้งสองก็พร้อมและเต็มใจที่จะช่วยเพื่อนคนสำคัญตลอดเวลา
ณ สนามบินอินชอน
“เดี๋ยวผมไปเช็คอินให้นะครับคุณอึนชัน” จินโฮบอกก่อนจะเดินจากไปเพื่อไปเช็คอินที่นั่ง เหลือเพียงอัญชันและเอื้อเฟื้อที่มาเพื่อส่งเพื่อนรักของเขานั่งรออยู่ในร้านคอฟฟี่ช้อปแห่งหนึ่งในสนามบิน
“แกติดหนี้ฉันใหญ่หลวง” อัญชันเอ่ยขึ้นลำเลิกบุญคุณ
“ฉันรู้ๆ แกสั่งมาได้เลยอยากให้ฉันทำอะไรให้น่ะ” เอื้อเฟื้อบอกด้วยความรำคาญ
“ก่อนอื่นก็..” ร่างเล็กหยิบมือถือของตนออกมา และกดเข้าระบบสนทนาผ่านเครือค่ายอินเตอร์เน็ต
“อะไรของแกเนี่ย จะขึ้นเครื่องอยู่แล้ว” เอื้อเฟื้อท้วงขึ้น
“เพราะงั้นไงละ เดี๋ยวฉันก็ไม่ได้อยู่กับแก ก็ไม่มีคนแปลให้ แล้วฉันจะคุยกับเขาได้ยังไงละ” อัญชันอธิบาย เขาถึงกับส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อได้ยิน
“แล้วเขาจะออนหรอ? เวลาแบบนี้” เอื้อเฟื้อยังคงยึกยัก
“นี่ไงเขาออนๆ!” อัญชันบอกเพื่อนด้วยความดีใจ
Teddy Bear – สวัสดีปงกู ^ ^
Bbong9 – ฉันโกรธคุณแล้ว✖︶︹︺✖
Teddy Bear – อ้า! ⊙▂⊙ ขอโทษจริงๆ เมื่อคืนเน็ตหลุดนะ แย่จัง ขอโทษนะปงกู ได้โปรดยกโทษให้ฉันเถอะนะคนดี o(╥﹏╥)o
Bbong9 – (●*∩_∩*●) ก็ได้ ฉันก็คิดแล้วว่าเน็ตต้องหลุดแน่ๆ คุณคงไม่หนีฉันหรอก ใชไหม? (◕‿◕✿)
เอื้อเฟื้อหันไปมองหน้าของอัญชัน เพื่อรอคำตอบ ก่อนที่อัญชันจะบอกให้เขาตอบกลับไป
Teddy Bear – แน่นอน *∩_∩* แล้วตอนนี้คุณทำอะไรอยู่หรอ? ทำงานหรือเปล่า?
Bbong9 – ฉันได้หยุดยาว กำลังจะกลับไปบ้านเกิด 。◕‿◕。
Teddy Bear – หือ? \(•ิ_•ิ\) แล้วตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนหรอ?
Bbong9 – สนามบินอินชอน (/≧▽≦/)
ทั้งสองมองหน้ากันเลิกลั่ก ไม่รู้จะตอบกลับอีกฝ่ายยังไงดี
Bbong9 – เท็ดดี้!
Bbong9 – เท็ดดี้!
Bbong9 – เท็ดดี้!
Bbong9 –มีผู้ชายคนหนึ่งมองฉันอยู่
Bbong9 – เขาเดินเข้ามาแล้วทำยังไงดี ช่วยด้วย!
Bbong9 ออกจากระบบ
“อ้าวเฮ้ย! เป็นอะไรของเขาเนี่ย? อยู่ดีๆก็ออก” เอื้อเฟื้อบ่นขึ้นเมื่อคู่สนทนาออกจากระบบโดยไม่บอกกล่าว หากแต่ร่างเล็กไม่ฟังสิ่งใดเธอลุกขึ้นและวิ่งออกจากร้านไปทันที
“นี่แกจะไปไหนเนี่ย ชัน! ชัน!” เอื้อเฟื้อตะโกนตามหลังหากแต่ร่างเล็กไม่หันมามอง เธอวิ่งออกจากร้านไปและสวนทางกับจินโฮ เขาหยุดเธอด้วยการรั้งแขนเธอไว้
“คุณอึนชัน จะไปไหนหรือครับ?” จินโฮถามขึ้นด้วยท่าทางแปลกใจที่เห็นเธอวิ่งหน้าตาตื่นออกมา
“ฉันขอโทษค่ะ แต่ฉันคงไปกับคุณไม่ได้แล้ว” ร่างเล็กกล่าวก่อนจะแกะมือของเขาออกและวิ่งหายไปทันที จินโฮได้แต่ยืนอึ้ง
“ชัน! ชัน! ชัน! ยัยบ้าเอ้ย!” เอื้อเฟื้อวิ่งตามออกมาร้องเรียกเธอ แต่ตอนนี้เธอก็หายลับตาไปเสียแล้ว เหลือเพียงชายหนุ่มสองคนที่มองหน้ากันด้วยอาการหนักใจ
ขณะเดียวกันดาราสาวกำลังเดินหนีชายน่าสงสัยซึ่งมองเธอด้วยสายตาแปลกและเดินตามเธอไม่หยุด ร่างบางสั่นเทาด้วยอาการหวาดกลัวมือไม้ของเธออ่อนไปหมด เธอพยายามเร่งฝีเท้าแต่เขากลับเร่งตามเธอเข้ามาอีก จนในที่สุดเธอตัดสินใจวิ่งหนีหากแต่ด้วยความร้อนรนแทนที่จะวิ่งไปในที่โล่งกว้างเธอกลับวิ่งเข้าห้องน้ำหญิง แชวอนรีบล็อคประห้องน้ำทันที พลันน้ำตาแห่งความกลัวก็หลั่งไหล
“ช่วยด้วย......ใครก็ได้ช่วยด้วย เท็ดดี้ คุณอัญชัน” เธอภาวนาอยู่ในใจ ทันใดเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอรีบหยิบมันขึ้นมาดู และที่หน้าจอนั่นก็ปรากฏชื่อของคนที่เธอเรียกหา “อัญชัน”
“คุณอัญชันช่วยฉันด้วย!” แชวอนร้องขอความช่วยเหลือทันทีที่รับสาย
“คุณอยู่ที่ไหนค่ะ?” อัญชันที่วิ่งหากระหื่นหระหอบถามด้วยความเป็นห่วง
“ฉันอยู่ที่สนามบินอินชอน ในห้องน้ำหญิงชั้น 2ประตู E” แชวอนบอกเสียงสั่น เมื่ออัญชันได้ยินดังนั้นก็รีบวางสายและวิ่งไปที่นั่นสุดฝีเท้า
“คุณอัญชัน!ๆ” ร่างบางร้องเรียกคนในโทรศัพท์หากแต่สายถูกตัดไปเสียก่อน เช่นนี้แล้วเธอจะทำอย่างไรดี น้ำตาแห่งความหวาดกลัวจึงหลั่งไหลนองหน้าขาวนวลนั้น เธอทรุดนั่งลงที่ชักโครกและกอดเข่าสะอึกสะอื้น ทันใดประตูห้องของเธอก็ถูกทุบ
ปัง! ปัง! ปัง! ร่างบางกอดเข่าแน่นตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
“คุณแชวอน ๆ ๆ คุณอยู่ในนั้นหรือเปล่าค่ะ คุณแชวอน!” เสียงคุ้นหูของคนร่างเล็กนั่นเอง แชวอนได้ยินดังนั้นก็รีบลุกไปเปิดประตูทันที เมื่อประตูเปิดออกร่างบางก็โผเข้าไปหาคนตรงหน้า เธอกอดร่างเล็กไว้แน่นพร้อมสะอื้นไห้ด้วยความดีใจ
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะค่ะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว” ร่างเล็กกอดปลอบประโลมพลางลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน
อัญชันพาดาราสาวมายังที่นั่งรอผู้โดยสารใกล้ๆแถวนั้น ร่างบางยังไม่หายจากอาการสั่น อัญชันเห็นดังนั้นจึงกุมมือของเธอไว้และขุกเข่าลงตรงหน้า
“คุณปลอดภัยแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวแล้วนะค่ะ ฉันจะดูแลคุณเอง” อัญชันกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางกระชับมือนุ่มของเธอไว้
“ขอบคุณนะค่ะ ถ้าไม่ได้คุณฉันคง...” แชวอนหวนคิดถึงเหตุการณ์น่ากลัวเมื่อครู่มันทำให้ตัวเธอสั่นขึ้นมาอีก อัญชันจึงกระชับมือเธออีกครั้ง
“คุณอัญชันมาที่นี่ได้ยังไงกันค่ะ ทำไมถึงได้มาช่วยฉันไวนัก” แชวอนถามขึ้นเมื่อได้สติ
“เอ่อ....ฉันอยู่แถวนี้พอดีนะค่ะ แล้วคุณแชวอนละค่ะ?” อัญชันรีบหาขออ้างมาตอบ
“อย่างงั้นหรือค่ะ ฉันกำลังจะไปแดกู เอ๊ะนั่น....นี่คุณกำลังจะเดินทางหรือค่ะ? ฉันทำให้คุณเสียเวลาหรือเปล่า?” แชวอนถามขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นกระเป๋าที่ร่างเล็กสะพายมันดูใหญ่และแปลกตากว่าทุกครั้ง ร่างเล็กนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่
“มัน...ไม่สำคัญแล้วละค่ะ ฉันไม่ไปแล้ว” ร่างเล็กตอบพลางสบตาคู่สวยของร่างบางและส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนที่เสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องของดาราสาวจะดังขึ้นขัดบรรยากาศ ทั้งสองต่างหลบตากันด้วยความเขินอาย
“ฉันคงต้องไปแล้วละค่ะ” ร่างบางเอ่ยขึ้นด้วยความเสียดาย ร่างเล็กก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำยอม อัญชันเดินมาส่งแชวอนถึงประตูทางเข้าผู้โดยสาร
“เดินทางปลอดภัยนะค่ะ” ร่างเล็กกล่าวอวยพรด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ร่างบางค่อยๆหันหลังเดินเข้าประตูไป ร่างเล็กเองก็หันหลังเพื่อเดินทางกลับเช่นกัน แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆกระเป๋าที่เธอสะพายโดนใครบางคนดึงรั้งไว้ ร่างเล็กค่อยๆหันไปช้าๆ ก็พบกับร่างบางที่น่าจะเดินเข้าประตูผู้โดยสารไปแล้วยืนดึงกระเป๋าเธออยู่
“ถ้าคุณไม่มีธุระต้องไปที่ไหน จะไปกับฉันได้ไหมค่ะ?” ร่างบางเอ่ยถามเสียงอ้อนนั่นทำให้ร่างเล็กยิ้มแก้มปริและพยักหน้าหงึกๆเป็นการตอบรับ สองสาวยืนยิ้มให้กันและกันอย่างมีความสุข โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาของจินโฮจ้องมองพวกเธอด้วยความเจ็บปวด ทั้งที่เขาพยายามแล้วแท้ๆ พยายามที่จะไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่ภาพที่เห็นมันก็ตำตาเสียจนต้องยอมรับว่ามันคือความจริง อัญชันผู้หญิงที่เขาหลงรักนั้น เธอรักคนอื่น
ณ สนามบินแดกู
“คุณแชวอนไม่ได้เอากระเป๋ามาด้วยหรือค่ะนี่?” อัญชันเอ่ยถามขึ้นเมื่อสังเกตว่าดาราสาวเดินตัวเปล่าตั้งแต่ลงจากเครื่องมา
“เสื้อผ้าที่บ้านฉันมีเยอะค่ะ เพราะมาที่นี่บ่อยฉันก็เลยไม่อยากหิ้วกระเป๋าไปมานะค่ะ” แชวอนอธิบาย เธอเดินนำอัญชันไปยังประตูทางออกที่นัดกับพ่อแม่ไว้ เมื่อสองสาวเดินพ้นประตูมาก็เห็นรถคันหนึ่งจอดรอพวกเธออยู่ ข้างๆรถมีชายและหญิงวัยกลางคนกำลังยืนโบกมือให้ทั้งสองอยู่
“คุณพ่อ คุณแม่!” ร่างบางตะโกนเรียกพลางวิ่งไปยังทั้งสอง เธอเข้าไปกอดหญิงวัยกลางคนอย่างสุดรัก
“คิดถึงคุณแม่ที่สุดเลย” เธอกล่าวก่อนจะหอมแก้มของแม่ไปฟอดใหญ่ พร้อมๆกับที่มีมือใหญ่ของชายวัยกลางคนกำลังลูบผมเธออย่างเอ็นดู
“คุณพ่อก็ด้วยนะค่ะ หนูคิดถึงคุณพ่อที่สุดเลย” เธออ้อนเสียงหวานและเข้าไปกอดแขนผู้เป็นพ่อไว้
“เมื่อกี้ยังบอกคิดถึงแม่ที่สุดอยู่เลย ตกลงคิดถึงใครที่สุดกันแน่ละเนี่ย?” ผู้เป็นพ่อกล่าวเหย้าขึ้น
“แหมก็ทั้งสองคนละค่ะ” แชวอนตอบเสียงหวาน อัญชันมองภาพครอบครัวอบอุ่นนั้นอย่างมีความสุข ก่อนที่ดาราสาวจะหันมาที่ร่างเล็ก
“คุณอัญชันค่ะ ทางนี้ค่ะ” แชวอนตะโกนเรียกให้ร่างเล็กเดินมาหา อัญชันก็เดินไปอย่างว่าง่าย
“คุณพ่อคุณแม่ค่ะ นี่คุณอัญชัน เธอเป็น........ผู้ช่วยและเพื่อนของหนูนะค่ะ” แชวอนนิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนจะบอกสถานะของอีกคน เพราะเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าที่จะบอกว่าเป็นอะไรกันแน่ อัญชันจึงก้มทักทายอย่างสุภาพ
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่ออัญชันค่ะ” ร่างเล็กพยายามพูดภาษาเกาหลีในประโยคที่เธอเคยนั่งถ่องจนจำได้ หากแต่สำเนียงของเธอมันฟังดูแปล่งเสียจนร่างบางอดขำไม่ได้
“ฮิๆๆ เก่งจังค่ะ พูดเกาหลีได้ด้วย” แชวอนกล่าวเหย้าให้ร่างเล็กหน้าแดง
“ไม่เอาน่าแชวอน เสียมารยาทนะลูก ไปล้อเพื่อนทำไม” คุณนายมุนกล่าวปรามลูกสาว ก่อนจะยิ้มให้ร่างเล็กอย่างเอ็ดดู
“สวัสดีจ้า ยินดีที่ได้รู้จักนะ เห็นแชวอนว่าจะมาค้างด้วยใช่ไหม ตามสบายนะ พวกเรายินดีต้อนรับจ๊ะ” คุณนายมุนกล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยภาษาอังกฤษ อัญชันรู้สึกประทับใจครอบครัวอันอบอุ่นนี้เหลือเกิน
“ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นหรอแชวอน ทำไมถึงเปลี่ยนเที่ยวบินละ? พ่อกับแม่เป็นห่วงแทบแย่” คุณมุนถามขึ้นอย่างสงสัยขณะขับรถกลับ แชวอนได้ยินดังนั้นก็หันมาหาอัญชันซึ่งทำหน้างงเพราะไม่เข้าใจที่คุณมุนพูด ก่อนจะตอบออกไป
“หนูตกเครื่องนะค่ะ ก็เลยต้องรอรอบถัดไป” แชวอนตอบ
“ยังงั้นหรอ แม่ก็นึกว่าเพราะเพื่อนลูกจะมาด้วยซะอีก ลูกเลยต้องเปลี่ยนเที่ยวบิน” คุณนายมุนเสริมขึ้นให้แชวอนแทบสะอึกที่แม่ของเธอทายถูก แล้วแบบนี้เธอจะโกหกทำไมกัน แต่ถ้าหากบอกความจริงออกไปแม่ของเธอก็คงต้องซักไซ้อีกเป็นแน่ เธอไม่อยากให้พ่อแม่รู้ว่าเธอเจอคนโรคจิตเกรงว่าพวกท่านจะเป็นห่วง
เมื่อมาถึงบ้านคุณและคุณนายมุนต้อนรับอัญชันด้วยอาหารเต็มโต๊ะและความเป็นกันเอง
“คงหิวละซิจ๊ะ ตามสบายนะ ทานเยอะๆ” คุณนายมุนบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน อัญชันจึงก้มขอบคุณอย่างสุภาพและทานอาหารร่วมโต๊ะกับทุกคน
“น่าเสียดายนะที่น้องชายตัวดีของลูกไม่ว่าง เห็นว่าง่วนกับการทำโปรเจ็คอยู่ เฮ้อทั้งที่เป็นเทศกาลชูซอกแท้ๆ น่าเสียดาย” คุณมุนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียเศร้า เทศกาลชูซอกคือการบูชาความอุดมสมบูรณ์ของผลิตผลการเกษตรหลังฤดูเก็บเกี่ยว ตามประเพณีนั้นชาวเกาหลีจะเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของบรรพบุรุษโดยมักจะไปเยี่ยมสุสานเพื่อแสดงความเคารพและนำพืชผลซึ่งเพิ่งจะเก็บเกี่ยวเสร็จมาเป็นเครื่องเซ่นไหว้
“แหม ปีหน้าก็ยังมีค่ะพ่อ ดีแล้วละค่ะ จะได้มีห้องว่างให้คุณอัญชัน” แชวอนกล่าวปลอบผู้เป็นพ่อ หลังทานอาหารเสร็จร่างบางก็พาอัญชันไปยังห้องของน้องชาย
“ใช้ได้ตามสบายเลยนะค่ะ อันไหนรกๆก็จับโยนทิ้งไปบ้างก็ได้” แชวอนกล่าวอย่างอารมณ์ดี ให้ร่างเล็กขบขัน
“ขอบคุณนะค่ะ แล้วก็ขอโทษที่มารบกวนค่ะ” อัญชันก้มศีรษะลงอย่างสุภาพ
“อะไรกันค่ะคุณอัญชัน คุณไม่ได้รบกวนเลยนะค่ะ เป็นฉันเองต่างหากที่อยากให้คุณมา ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ ขอบคุณนะค่ะที่มาเป็นเพื่อนฉัน ขอบคุณจริงๆที่ช่วยฉันไว้” แชวอนก้มศีรษะขอบคุณอย่างซึ้งใจ อัญชันจึงจะเข้าไปจับร่างบางให้เงยหน้าขึ้น แต่ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่แชวอนเงยหน้าขึ้นซะก่อน ใบหน้าของทั้งสองจึงเกือบจะชนกัน มันใกล้เสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนของอีกฝ่าย
“เด็กๆทำอะไรอยู่เอ่ย?” เสียงของคุณนายมุนดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฏตัว ทำให้สองสาวรีบผละออกจากกันทันที
“เอ่อ....หนูไปนอนก่อนนะค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” แชวอนรีบขอตัวและเดินออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน
“อะไรของเขานะลูกคนนี้?” คุณนายมุนบ่นพึมพำ ก่อนจะหันมาหาอัญชัน
“นี่จ๊ะผ้าเช็ดตัว ถ้ามีอะไรขาดเหลือก็บอกได้นะจ๊ะ” เธอยื่นผ้าพร้อมกล่าวอย่างอ่อนโยน อัญชันก้มขอบคุณและรับมันไว้
“ถ้าอย่างงั้นก็ ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะ” คุณนายมุนกล่าวก่อนจากไป เหลือเพียงร่างเล็กที่ยังคงใจวูบไหวอยู่กับเหตุบังเอิญเมื่อครู่
“คิดอะไรของแกอยู่เนี่ยยัยบ้าอัญชัน นั่นน่ะ...นางฟ้านะ แกไม่มีวันคู่ควรกับเขาหรอก” อัญชันเอ่ยขึ้นกับตัวเองพลางถอนหายใจ
ขณะเดียวกันในห้องนอนของดาราสาว ร่างบางนอนก่ายหน้าผากอย่างกลัดกลุ้ม เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แค่เพียงมีภาพของสาวร่างเล็กปรากฏขึ้น หัวใจของเธอก็สั่นไหวราวกับมีใครมาสั่นกระดิ่ง ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน? มันมากขึ้น มากขึ้นและมากขึ้นทุกวัน จนคับอยู่ในอกนี้ เธอจะทำอย่างไรกับมันดี?
ป้ายกำกับ:
The Fan Club
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
สวัสดีท่านวิน แวะเข้าทักทายและอ่านอัญชัญอีกรอบ
ตอบลบและก็แอบมาดูตอน 7 ด้วย แชวอนกะอัญชัญน่ารักมาก
ถ้ามีเวลาว่างค่อยเอามาลงก็ได้...รอได้ รอได้
ปล. คิดถึงแชวอนกะอัญชัญ...
pang080