วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
After Ending (After School ตอนพิเศษ)
After Ending
“ที่รักค่ะ หิวหรือยังเอ่ย?” ร่างบางเดินเข้ามาจากด้านหลังและเกยคางกับไหล่คนรักพร้อมเอ่ยถามด้วยเสียงหวาน
“ยังจ๊ะ เดี๋ยวขอวาดอีกแป๊ปหนึ่งนะ” คนรักเธอตอบกลับด้วยเสียงใส
“ก็ได้ค่ะ ถ้าหิวแล้วบอกฉันนะ” ร่างบางบอกก่อนจะหอมไปที่แก้มใสหนึ่งฟอดใหญ่ๆ จากนั้นจึงเดินออกไปเพื่อให้คนรักวาดภาพต่ออย่างมีสมาธิ
อะแฮ่มๆ สวัสดีทุกท่าน คิดถึงฉันไหมเอ่ย.........ฉันรู้ๆ พวกคุณคงคิดถึงหน้าตาน่ารักของฉันสินะ :3 ตอนนี้ฉันย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์กแล้วและมีความสุขม๊วกกกกกก ก็อย่างที่เห็นละนะ ภรรยาของฉันเธอดีออกขนาดนี้ ฮิๆๆ ^ ^ พูดกี่ทีก็มีความสุข ภรรยาของฉ้านนนนนนนนน ใช่! เราแต่งงานกันแล้ว ฮิ้ววววว ในที่สุดฉันก็ขอเธอแต่งงานสำเร็จ แปะๆๆๆๆๆ (เสียงตบมือ) ฉันยังจำวันนั้นได้ดี ฉันตั้งใจจะขอเธอแต่งงานที่สวนสาธารณะที่เราเจอกันครั้งแรก (โฮแมนติกไหมละ :D) แต่เราดันพลัดหลงกันซะงั้น ("_ _) ฉันเดินหาเธออยู่นานทีเดียว จนในที่สุดเราก็หากันจนพบที่ศาลาหลังนั้น หลังที่ฉันเคยได้พบกับนางฟ้าแสนงอนของฉัน และที่นั่นฉันก็ได้เอ่ยปากขอแต่งงานกับเธอ ฉันจำสีหน้าของเธอได้ดี เธอมีอาการอึ้งที่ได้ยินก่อนจะร้องไห้โฮออกมา ฉันตกใจแทบแย่ แล้วเธอก็โผเข้าหาฉันและตอบรับด้วยน้ำตาแห่งความดีใจ วินาทีนั้นฉันสัญญากับตัวเองว่า จะดูแลร่างบอบบางในอ้อมกอดนี้ให้ดีที่สุด //(ㄒoㄒ)// ซึ้งไหม
หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนเราก็เดินทางไปจัดงานแต่งกันที่แคนาดาพร้อมด้วย พ่อ แม่ พี่ยุนโฮ พี่ซาน จารย์ และอดัม อ้อเกือบลืม มาเตสโตรวิลเลี่ยมหัวงูก็มา วันนั้นจองอาสวยมากๆ ไม่รู้ว่าเพราะฉันตาเบลอหรือเพราะความสวยของเธอกันแน่ ฉันถึงได้เห็นแสงรอบๆตัวเธอ มันสว่างไสวไปหมด เธอใส่ชุดเจ้าสาวแสนสวยมีชายกระโปรงยาวเป็นหางว่าว แต่ด้านบนเป็นเกาะอก o(≧ω≦)o เซ็กซี่ม๊วกกก พูดแล้วอยากให้เธอใส่ชุดนั้นให้ดูอีกรอบจัง อิอิอิ ในพิธีที่เรากล่าวคำสาบานนั้นฉันดันลืมคำมั่นของตัวเองซะได้ ~( ̄▽ ̄)~ ทั้งที่นั่งท่องทั้งคืน ถูกจารย์หัวเราะเยาะเลย (づ ̄³ ̄) แต่ยังดีที่ได้พี่ชายใจดีของฉันช่วยกระซิบบอกให้ เพราะพี่ก็ช่วยฉันเขียนคำมั่นด้วย พิธีจึงเสร็จลงได้ เฮ้อโล่งเลยละ จากนั้นก็เข้าหอ ฮ่าๆๆ
หลังจบพิธีแต่งงานพวกฉันก็เถียงกันยกใหญ่เรื่องฮันนีมูน เพราะตัวฉันอยากจะไปที่มัลดีฟหรือที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่อิตาลี แต่จองอายืนยันท่าเดียวว่าต้องไปอิตาลีเท่านั้น ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจเธอจริงๆ แต่มีหรือที่คนอย่างฉันจะยอม ยุนนาผู้ดื้อรั้นคนนี้เคยยอมใครด้วยหรือ ฮ่าๆๆ.....แต่สุดท้ายเราก็ไปอิตาลี ก็นะฉันไม่เคยยอมใครหรอกนอกจากภรรยา »-(¯`v´¯)-» เมื่อไปถึงอิตาลีเธอก็ขยั้นขยอให้ฉันพาไปที่โดมุสให้ได้ อะไรนักหนาฉันอยู่ที่นั่นตั้ง 4 ปี เบื่อจะตายอยู่แล้ว แต่ก็นะมันเป็นความต้องการของเธอที่ฉันไม่สามารถขัดได้ ก็เลยต้องพาเธอไป และที่นั่นทำให้ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอถึงอยากมาอิตาลี
“ฉันอยากเห็นที่ๆเธอเคยอยู่ ฉันอยากจะชดเชยเวลาของเรา” นี่คือคำพูดของเธอ มันทำให้ฉันดีใจแทบบ้า ฉันเข้าไปกอดเธอทันทีที่ฟังจบ นับจากนั้นฉันจึงพาจองอาไปทุกที่ที่ฉันเคยไป มันทำให้ฮันนีมูนของเรามีความสุขที่สุด จริงสิเมืองสุดท้ายที่เราไปคือเวโรนา เมืองแห่งความรัก ที่นี่เราสองคนได้เขียนจดหมายถึงจูเลียต นางเอกในบทประพันธ์ของเช็คเสปียร์ด้วย ฉันไม่รู้ว่าจองอาเขียนอะไรถึงจูเรียตหรอกนะ แต่ฉันเขียนถึงจูเลียตว่า
“สวัสดีจูเลียต ฉันเพิ่งแต่งงานและเราก็มาฮันนีมูนกันที่นี่ ฉันมีความสุขมากและอยากจะให้มันเป็นเช่นนี้ตลอดไป แต่ฉันก็รู้ว่าไม่มีความสุขใดอยู่กับเราได้ตลอดไปเช่นเดียวกันกับความทุกข์ เพราะฉะนั้นฉันจะเตรียมรับมือกับมันนะ และอยากให้คุณช่วยเป็นพยานด้วยว่าไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขฉันจะรับมันทั้งหมดโดยไม่ปล่อยมือจากคนรักของฉัน เพราะเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน”
ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องราวเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ฉันและจองอาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขในอพาร์ทเม้นทีบรู๊กลิน ฉันวาดภาพและมีแกลรอลี่ของตัวเองที่อัพเปอร์อีสไซด์ ส่วนจองอาก็ได้เล่นประจำในวงนิวยอร์กฮาโมนิค เธอมักจะทำงานบ้านและอาหารเช้าให้เสร็จก่อนออกไปซ้อมทุกเช้า และจะกลับมาทำอาหารเย็นรอฉันกลับจากแกลรอลี่ ทุกๆวันชีวิตคู่ของเราช่างมีความสุข
“เมื่อไหร่คุณจะวาดเสร็จสักที ฉันรอนานแล้วนะ” เสียงเข้มของเธอดังขึ้นและเดินปึงปังเข้ามาในห้องวาดภาพของฉัน
“อีกแป๊ปหนึ่งนะจ๊ะที่รักเกือบเสร็จแล้ว” ฉันจึงต้องบอกประวิงเวลาเธอ สงสัยเธอคงจะโมโหหิวแล้ว
“ถ้าอยากจะวาดนัก ก็วาดไปเลยทั้งคืน ข้าวก็ไม่ต้องกินแล้วกัน ฉันจะเททิ้งให้หมดเลย” เธอพูดเสียงเขียวก่อนจะเดินออกไป ฉันเลยต้องรีบวางงานและออกไปทานข้าวกับเธอไม่อย่างงั้นแม่คุณทิ้งทุกอย่างแน่ๆ เฮ้อ...นี่ละชีวิตคู่ แต่ถึงยังไงเธอก็ยังน่ารักเสมอในสายตาของฉัน รวมทั้งเสียงแว๊ดๆที่ตะโกนด่าฉันทุกวันนั่นก็ด้วย
“ฉันบอกให้ใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้วในตะกร้าไงละ นี่คุณต้องให้ฉันพูดอีกกี่รอบกัน!”
“ห้ามทานขนมเวลาดูทีวีนะ ดูสิหกหมดแล้ว!”
“นี่คุณดื่มเบียร์อีกแล้วหรอ นี่กระป๋องที่เท่าไหร่แล้ว เอาไปทิ้งให้หมดเลยนะ!”
“ออกไปเลยนะ ถ้าไม่อาบน้ำอย่าหวังจะได้มานอนบนเตียงของฉันเป็นอันขาด!”
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้คุณวาดภาพเฉพาะในห้องของคุณ ดูซิสีมันหกเลอะพรมเต็มไปหมดเลย!”
“สนุกไหมละทิ้งฉันอยู่บ้านคนเดียวแล้วออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆนะ!”
“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ มาช่วยฉันจัดบ้านเดี๋ยวนี้!” และอีกมากมาย บราๆๆๆ แต่นั่นก็ยัง น่าร้ากกกก<( ̄︶ ̄)/ จนกระทั่งวันหนึ่ง
“ทำไมวันนี้คุณกลับบ้านช้าจัง รู้ไหมฉันรอทานข้าวกับคุณนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย” เธอขึ้นเสียงใส่ฉันทันทีที่เปิดประตูเข้ามา ฉันงงมากทั้งที่นี่เพิ่งสองทุ่ม มันเลยเวลาปกติที่ฉันกลับบ้านแค่ครึ่งชั่วโมงเอง
“เอ่อ..ขอโทษนะจ๊ะ ฉันไปทานข้าวกับอดัมมาน่ะ” ฉันจึงขอโทษเธอไปสงสัยวันนี้เธอคงอารมณ์ไม่ดี
“ทานกับอดัมหรอค่ะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
“จ๊ะ” ฉันก็ได้แต่ตอบไปอย่างสงบเสงี่ยม ท่าทางของเธอดูแปลกๆไป ปกติเธอน่าจะอาละวาดกว่านี้ถ้าเธอโมโห แต่นี่ดูเหมือนเธอจะโมโหแต่เก็บอารมณ์ไว้ เธอเป็นอะไรหรือเปล่านะ? วันต่อมาเป็นวันหยุดของเราทั้งคู่ฉันจึงคิดอยากจะทำอะไรให้เธอบ้าง เลยตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหารเช้าให้เธอ แต่เพราะฉันไม่เคยทำมาก่อนมันจึงเละไม่เป็นท่า เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอก็โวยวายยกใหญ่ และโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างจริงจัง ทั้งที่ปกติเธอจะแกล้งโวยวายก่อนแล้วก็แอบดีใจแท้ๆที่ฉันทำอะไรให้เธอแบบนี้ แต่คราวนี้มันแปลกไป
“ห้ามกลับบ้านช้า ถ้ามีธุระต้องบอกก่อนหนึ่งวัน
ห้ามดื่มเบียร์เกินวันละหนึ่งกระป๋อง
ห้ามทานของหวานถ้าไม่ใช่หลังอาหาร
ห้ามนอนโดยไม่ได้อาบน้ำเด็ดขาด
ห้ามทำห้องเลอะ ไม่ว่าจากสาเหตุอะไร
ห้ามอยู่จนดึกดื่น หากไม่ได้ทำงาน
ห้ามวางเสื้อผ้าไว้เกลื่อนกลาด
ห้ามไปเล่นเกมส์ที่บ้านเพื่อนคนเดียวโดยไม่พาฉันไปด้วย และไม่ให้ไปเกินเดือนละสองครั้ง
ต้องกลับมาทานอาหารเย็นกับฉันทุกวัน ถึงทานมาแล้วก็ต้องทานอีก
ต้องช่วยฉันทำงานอาทิตย์ละหนึ่งวัน และห้ามเถียงฉัน” (;°○°) เธอสั่งยืดยาวจนฉันฟังแทบไม่ทัน
“เอ่อ...ที่รักจ๊ะ ที่สั่งมาเนี่ย ก็ห้ามทำอยู่แล้วไม่ใช่หรือจ๊ะ”ฉันถามขึ้นอย่างสงสัย
“ห้ามเถียง!” เธอทำเสียงเข้ม ฉันก็เลยได้แต่พยักหน้ารับ เค้าไม่ได้เถียงสักหน่อยแค่ถามเฉยๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? o(╥﹏╥)o ทำไมเธอถึงลุกขึ้นมาเข้มงวดขนาดนี้ (ถึงปกติจะเข้มอยู่แล้วก็เถอะ) และเมื่อฉันไปทำงานเธอก็โทรมาเช็คทุกสองชั่วโมง
“คุณอยู่ที่ไหน?” เธอถามเสียงเข้ม
“เอ่อ...ก็ที่แกลรอลี่ไงจ๊ะ” ฉันตอบอย่างงงๆ
“กับใคร?” เธอยังคงถามเสียงเข้มอยู่
“จะกับใครละ ไม่มีใครหรอก อดัมก็ไปคุยงานที่ฝรั่งเศส ตอนนี้มีฉันดูแกลรอลี่คนเดียวจ๊ะ” ฉันตอบไปตามความจริงเพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย พนักงานที่ทำหน้าที่ต้อนรับก็ลาหยุดซะด้วย ฉันเลยต้องดูแลแกลรอลี่คนเดียว เมื่อเธอได้คำตอบแล้วก็วางสายไป พักนี้เธอมักถามอะไรแปลกๆ
“คุณยุนนาค่ะ ดีใจจังที่วันนี้เจอคุณได้” เสียงใสของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นฉันจึงหันไปมอง โอ้แม่เจ้า! นั่นเซรีน่านี่ ให้ตายเถอะหล่อนยังไม่ละความพยายามสักที ( _ _。)
“สวัสดีค่ะ คุณเซรีน่า มาซื้อภาพหรอค่ะ?” ฉันจึงต้องทักทายตามมารยาท เพราะยังไงเธอก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของฉัน
“แล้ว...คุณยุนนาขายอย่างอื่นไหมละค่ะ?” เธอพูดอย่างมีนัยและเดินเข้ามาใกล้ฉัน ให้ตายเถอะจะทำยังไงดีเนี่ยจะเดินหนีก็ไม่ได้ไม่มีคนเฝ้าแกลรอลี่ซะด้วย
“ว่าไงละค่ะ ฉันอยากจะซื้อ ไอ้นี่นะค่ะ” เธอเบียดร่างและกระซิบที่ข้างหูพร้อมจิ้มปลายนิ้วไปที่อกข้างซ้ายของฉัน โอ้! ⊙▂⊙ ล่อแหลม นี่มันล่อแหลมจริงๆ ถ้าใครมาเห็นเข้ามีหวังเป็นเรื่องแน่โดยเฉพาะจองอา เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงผลักร่างเธอออกอย่างเบามือ
“หัวใจฉันไม่ได้มีไว้ซื้อขายหรอกนะค่ะ แล้วมันก็มีเจ้าของแล้วด้วย” ฉันบอกออกไปเพื่อให้เธอตัดใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม
“น่าสนใจจังค่ะ อยากรู้จังว่าฉันกับเจ้าของหัวใจของคุณ ใครจะเก่งกว่ากัน?” เธอยังคงพูดมีนัยด้วยใบหน้าท้าทายดูเหมือนฉันคงไปกระตุ้นเธอมากกว่าเดิมซะแล้ว ให้ตายเถอะฉันจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ดีเนี่ย เย็นวันนั้นฉันกลับไปบ้านตรงเวลาตามที่ภรรยาสุดที่รักสั่ง แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปทำไมบรรยากาศมันมาคุแบบนี้\("▔□▔)/
“ที่รักจ๊ะฉันกลับมาแล้ว” ฉันพยายามทำใจดีสู้เสือ (ภรรยา) เอ่ยออกไปเสียงใส แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆจากเธอ เธอยังคงนั่งหน้าเครียดที่โต๊ะอาหารซึ่งเคยมีอาหารเย็นเตรียมไว้เต็มโต๊ะทุกเย็น แต่วันนี้ไม่รู้ว่าพวกมันหายไปไหนกันหมด สงสัยว่าเธอคงจะเพิ่งกลับจากซ้อมและคงจะเหนื่อยมาก
“ที่รักจ๊ะเราไปทานอาหารนอกบ้านกันดีไหม เดี๋ยวฉันโทรจองโต๊ะเลยนะ” ฉันเลยเดินไปหยิบโทรศัพท์
“ไม่ต้อง!” เสียงเข้มดังขึ้น ฉันหยุดการกระทำทุกอย่างทันที นี่มันต้องเกิดอะไรขึ้นสักอย่างแน่ๆ ว่าแต่เรื่องอะไรละ? ⊙﹏⊙
“วันนี้คุณทำอะไร?” เธอเอ่ยขึ้นเสียงเย็น มันเย็นมากถึงขนาดฉันรู้สึกหนาวไปทั้งสันหลัง
“ก็...ก็อยู่เฝ้าแกลรอลี่ไงจ๊ะ อยู่เฝ้าทั้งวันเลย” ฉันตอบเสียงอ่อย เธอได้ยินก็ตบโต๊ะดังปัง!
“นี่อยู่กันทั้งวันเลยเรอะ....” เธอเอ่ยขึ้นพลางกัดฟันกรอดๆ (น่าจัวๆ)
“อยู่กับใครจ๊ะทั้งวัน? อะไรหรอจองอา?” ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูดเลยถามออกไป
“อย่ามาเนียนนะ คุณคิดว่าฉันโง่นักใช่ไหม ใช่สิฉันไม่ได้สวยไม่ได้สูงเหมือนยัยเสาไฟฟ้านั่นนี่ ฉันมัน...ฮื่อๆๆๆๆ” เธอระเบิดอารมณ์ออกมาก่อนจะร้องไห้โฮ ฉันงงมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่จองอาหมายถึงใครกัน เธอกำลังพูดเรื่องอะไร? ( ‵□′)
“ฉันคงเป็นนางมารร้ายของคุณไปแล้วสินะ ถ้าอย่างงั้นคุณก็ไปหาเธอเถอะ” เธอกล่าวทั้งน้ำตาก่อนจะลุกขึ้นเดินหนี แต่ฉันไม่ยอมให้เธอไปไหนหรอก ฉันจึงเข้าไปสวมกอดเธอเอาไว้
“เธอหมายถึงใครกันจองอา นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ฉันกระซิบถามข้างหูเธอ ร่างเธอสั่นเทาและร้องไห้กระซิกก่อนจะแกะมือฉันออก
“คุณรู้ดีว่าฉันหมายถึงใคร อย่าทรมานฉันอีกเลย ปล่อยฉันไปเถอะในเมื่อคุณไม่ต้องการฉันแล้ว” เธอหันมาและกล่าวทั้งน้ำตา ฉันสะเทือนใจกับภาพที่เห็น มันเหมือนกับร่างของเธอกำลังจะหายไปต่อหน้าต่อตาฉัน
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน บอกฉันมาสิ” ฉันจึงเขย่าร่างบางถามเพื่อให้แน่ใจว่าร่างตรงหน้าฉันจะไม่หายไป ก่อนจะกอดเธอเอาไว้แน่น ร่างบางขัดขืนฉันแต่ฉันก็ไม่ยอมปล่อยเธอ จนในที่สุดเธอก็เลิกขัดขืนและร้องไห้กับไหล่ฉัน ฉันจึงคลายวงแขนออกก่อนจะคุกเข่าลงพร้อมจับมือเธอไว้
“ได้โปรดเถอะจองอา ได้โปรดบอกฉัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันทำเธอเสียใจเรื่องอะไร?” ฉันกล่าวอย่างวิงวอนพร้อมสบตาเธออย่างอ้อนวอน เธอจึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟัง
“เมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อนในวงโทรมาบอกว่าเจอคุณในร้านอาหาร คุณทานอาหารอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนนั้นฉันไม่เชื่อเรื่องที่เขาพูดฉันคิดว่าเขาคงตาฝาด แต่พอคุณกลับมาคุณก็บอกว่าทานอาหารมาแล้ว แต่คุณโกหกฉันว่าไปทานกับอดัม มันทำให้ฉันคิดมากฉันพยายามที่จะเชื่อใจคุณ แต่ว่าฉันก็อดไม่ได้ เพื่อนของฉันเธอบอกว่าเธอก็เคยเป็นแบบฉัน เธอทำหน้าที่ภรรยาที่ดีทุกอย่างแต่สุดท้ายสามีของเธอก็นอกใจ เพราะแบบนั้นฉันถึงได้ออกกฎกับคุณมากมายเพราะฉันไม่อยากจะเป็นเหมือนหล่อน แต่แล้ววันนี้ฉันก็เห็นผู้หญิงคนนั้นกับคุณ......ทั้งที่คุณบอกว่าอยู่คนเดียว แล้วผู้หญิงคนนั้นมาได้ยังไง....” เธอเล่าทั้งน้ำตา ฉันพยายามนิ่งให้เธอเล่าจนจบ และจับมือเธอขึ้นมาจูบลงไปเบาๆ
“ฉันขอโทษ...ขอโทษที่ทำให้เธอเข้าใจผิด ขอโทษที่ทำให้เธอเสียใจ ขอโทษที่ปล่อยให้เธอทุกข์ใจอยู่คนเดียว แต่เธอจะยอมฟังเรื่องที่ฉันจะอธิบายได้ไหม เธอ...จะเชื่อใจฉันคนนี้อีกครั้งได้ไหม?” ฉันบอกเธอและสบตาเธออย่างอ้อนวอน เธอพยักหน้านองน้ำตานั่น
“เรื่องทั้งหมดมีอยู่ว่า วันนั้นที่ฉันบอกไปทานข้าวกับอดัมนั้น ฉันยอมรับว่าโกหกจริง แต่นั่นเพราะไม่อยากให้เธอคิดมาก ความจริงแล้วฉันไม่ได้อยากไปทานอาหารกับเธอคนนั้นเลย นั่นเป็นเพราะอดัมหลอกให้ฉันไป เขาบอกว่ามีลูกค้าอยากคุยกับฉัน ฉันเลยไปไม่คิดว่าจะเป็นหล่อน ในเมื่อไปแล้วฉันก็ไม่มีทางเรื่องเพราะยังไงหล่อนก็เป็นลูกค้า เรื่องมันเลยเป็นแบบนั้น ส่วนวันนี้ฉันไม่ได้โกหกเธอจริงๆ ตอนที่เราคุยโทรศัพท์กันนั้นฉันอยู่คนเดียวจริงๆ หล่อนเพิ่งมาหลังจากฉันวางโทรศัพท์จากเธอ และฉันก็ไม่ยินดีเลยที่เจอหล่อน ฉันไม่รู้ว่าเธอเห็นอะไรบ้างนะแต่บอกได้อย่างเดียวว่า ฉันไม่ได้ยินดีกับการกระทำของเขา และฉันก็บอกเขาไปแล้วว่าหัวใจของฉันมีเจ้าของแล้ว แล้วเจ้าของก็หวงมากด้วย” ฉันกล่าวพร้อมสบตาเธออย่างจริงใจ และเอามือของเธอมานาบที่หัวใจฉันไว้ เธอหัวเราะเมื่อฉันกล่าวถึงเจ้าของหัวใจ ก่อนจะโผเข้ากอดฉัน
“ฉันขอโทษค่ะ ฉันมันโง่จริงๆ” เธอกล่าว
“ใช่ แล้วก็ขี้หึง จู้จี้ แสนงอน เจ้าอารมณ์ด้วย” ฉันกล่าวเหย้าเธอ เธอจึงทำหน้าบูดและตีใส่ฉันดังเพี๊ยะ
“ถ้าฉันไม่ดีขนาดนั้นก็เลิกกับฉันเลยสิ” เธอหันหน้าหนีอย่างแงงอน
“แล้วใครว่าไม่ดีละ ภรรยาของฉันน่ารักที่สุดในโลกอยู่แล้ว” ฉันจึงเข้าไปกอดเธอและหอมแก้มนวลเข้าไปเต็มสฟอด เธอยิ้มอย่างดีใจ
“สัญญานะค่ะว่าจะไม่นอกใจฉัน?” เธอหันกลับมากล่าวอย่างจริงจัง
“แน่นอนจ๊ะ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะไม่มีวันปล่อยมือคู่นี้” ฉันเองก็ตอบรับอย่างจริงจังเช่นกัน ก่อนจะจับมือทั้งสองของเธอยกขึ้นมาแนบแก้มไว้
“เพราะฉันสัญญากับจูเลียตเอาไว้แล้ว” ฉันกล่าวต่อ
“อะไรนะค่ะ จูเลียตนี่ใครกัน?” เธอชักมือกลับและถามเสียงเข้มทันที
“เอ้าก็จูเลียตไงที่เราเขียนจดหมายถึงนะ” ฉันพยายามอธิบาย
“นี่คุณเขียนจดหมายถึงหล่อนด้วยหรอ? หล่อนเป็นใครกันบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ” เธอโวยวายยกใหญ่และวิ่งไล่ตีฉันไปรอบบ้าน กว่าจะอธิบายให้เธอเข้าใจได้ก็เกือบค่อนคืน วันต่อมาฉันจึงพาจองอามาที่แกลรอลี่ด้วย และเป็นไปตามคาดที่เซรีน่าก็มาที่แกลรอลี่เช่นกัน เธอเดินชูคอระหงส์เข้ามาหาเราทั้งคู่ทันที
“สวัสดีค่ะคุณยุนนา วันนี้พาป้ามาด้วยหรอค่ะ?” เซรีน่าเริ่มเปิดศึกก่อน จองอาจึงสวนกลับในแบบของเธอ
“ที่รักค่ะ เขาว่าฉันเป็นป้าค่ะ คุณว่าฉันเหมือนป้าหรือเปล่าค่ะ?” เธอหันมาถามฉันและทำหน้าแบ๊วใส่ ให้ตายเถอะเป็นคุณจะตอบยังไงล่ะ ก็มันน่ารักขนาดนี้
“อ้อไม่หรอกจ๊ะ เธอน่ารักมาก” ฉันจึงตอบไปอย่างที่คิด จองอาจึงยิ้มรับและจับหน้าฉันหันไปทางเธอ ก่อนจะจูบเย้ยเซรีน่าให้เห็นกันจะๆ
“ขอบคุณค่ะที่รัก” เธอกล่าวหลังจุมพิตอันร้อนแรง ฉันแทบยืนไม่อยู่เลย แต่มันก็ได้ผลทีเดียว เซรีน่าเดินฟาดงวงฟาดงาออกไปเลย จองอามองตามและหัวเราะอย่างพอใจ เมื่อเห็นเธอยิ้มอารมณ์ดีแบบนี้มันก็ทำให้ฉันอารมณ์ดีไปด้วย แต่ไม่ทันไรเธอก็หันกลับมาทางฉันด้วยใบหน้ายักษ์
“อย่าแม้แต่จะคิดนะค่ะ ถ้าคุณนอกใจฉันละก็ ฉันฆ่าคุณแน่” เธอกล่าวเสียงเข้ม
“\("▔□▔)/…จ้า” ดูเหมือนว่านางฟ้าของฉันคงจะกลายร่างเป็นนางมารไปซะแล้ว แต่ก็เอาเถอะจะนางฟ้าหรือนางมาร ฉันก็รักเธอจองอาของฉัน\(≧3≦)/
ป้ายกำกับ:
After School
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
น่ารักดี *-*
ตอบลบ