After School
ตอนที่ 19
ณ ร้านคอฟฟี่ช้อป เจ้าประจำ มงโด อีซานและยุนนา ต่างนั่งประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
“เมื่อวานมีความคืบหน้าอะไรบ้าง” มงโดถาม
“ก็ไม่มีอะไรมาก หนูแค่ไปเอา...ภาพกับหนังสือที่ลืมไว้” ยุนนาตอบมีพิรุธ
“แค่นั้นหรอ” อีซานถาม
“ก็...เอ่อ เขาขอให้ฉันวาดภาพให้นะ” ยุนนาบอกอย่างลำบากใจ
“วาดภาพหรอ ยังงี้เขาก็ไว้ใจมากขึ้นแล้วนะซิ” อีซานกล่าวด้วยน้ำเสียงยินดี
“แล้วเขาให้เธอวาดภาพอะไร” มงโดถามขึ้น
“รูปจองอา” เธอตอบเสียงค่อย มงโดเลยได้ยินไม่ถนัด
“อะไรนะ?” เขาถามซ้ำ
“วาดภาพจองอา” เธอจึงตะโกนใส่หน้าเขา
“ไหมล่ะ...นี่คงกระโดดงับเลยซิ” มงโดพูดประชดพลางตีมือลงเข่าตัวเองที่คาดการณ์ไว้ถูก
“บ้าหรอ ไม่ใช่หมานะจารย์ หนูยังไม่ได้ตอบอะไรเขาซักหน่อย” ยุนนาพูดเสียงแง่งอน
“แล้วเธอจะตอบเขาว่าไงล่ะ” มงโดถามต่อ
“ก็ว่าจะวาดล่ะนะ เย็นนี้ถึงจะให้คำตอบ ต่อไปคงได้ไปบ้านนั้นบ่อยขึ้น” ยุนนาตอบ
“ดีแล้วล่ะ นี่เป็นโอกาสของเราแล้ว พี่ว่าอีกไม่นานนี้หรอก เขาจะต้องเรียกใช้เธอแน่” อีซานกล่าวสิ่งที่คาดการณ์ไว้
“ว่าแต่เธอเถอะ อย่าทำเสียเรื่องซะละ ไม่ใช่วาดกันจนเลยเถิดนะ สำนึกเอาไว้ด้วยว่าอยู่ในบ้านศรัทตรู” มงโดพูดเตือนพลางใช้นิ้วทิ่มย้ำไปที่ศีรษะเธอ ยุนนาลูบมันเหมือนเจ็บปวด
“รู้แล้วน่าโธ่ รู้ตัวตลอดแหละ” ยุนนาพูดมุ่ยปาก แล้วทั้งคู่ก็ทำหน้าจิกกัดใส่กัน
“มีแค่นี้เองหรอ ยุนนาไม่ได้สังเกตหรือได้ยินอะไรบ้างหรอ” อีซานถามซักต่อ
“ไม่นะ อันที่จริงตอนแรกก็คุยกันเป็นการเป็นงาน แต่อยู่ๆก็มีโทรศัพท์เข้ามา เขาก็เลยออกไป” ยุนนาเล่า อีซานได้ยินดังนั้นก็สนใจขึ้นมา
“แล้วเขาพูดว่าไงมั่ง บอกหรือเปล่าว่าไปพบใคร” อีซานซัก
“หึ..ไม่เลย เขาแค่รับสาย ไม่ได้พูดโต้ตอบกับปลายสายด้วยซ้ำ แล้วก็บอกว่ามีธุระ จากนั้นก้ออกไป ฉันยังงงเลย” ยุนนาบรรยาย“หมอนี่ระวังตัวจริงๆ” อีซานพึมพำ
“หมายความว่าไง นายรู้หรอว่ามันออกไปไหน” มงโดถามขึ้นอย่างสงสัย
“คนของฉันรายงานว่า โจอึนไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เข้าไปเกือบชั่วโมงก็ออกมา” อีซานบอกข้อมูลในรายงาย
“นายสงสัยว่ามันออกไปพบใครหรือเปล่าหรอ” มงโดถาม
“ไม่หรอก ฉันมั่นใจว่ามันต้องไปพบใครบางคนแน่ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร” อีซานตอบ
“เอ๊ะ หรือว่าจะเป็น ลียองเอ” ยุนนาพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ฉันก็ไม่แน่ใจ จากการตรวจสอบดูรายชื่อแขกในโรงแรม ก็ไม่มีทั้งชื่อของโจอึนหรือลียองเอ แล้วอีกอย่าง คนที่ตามลียองเอก็รายงานว่า เธอไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย” อีซานบอกเล่าข้อมูลที่รู้อย่างหนักใจ
“เดี้ยวนะ เขาเป็นสส. ไม่ใช่หรอ อยู่บ้านทั้งวันเนี่ยนะ ไม่แปลกไปหน่อยหรอ” มงโดแย้ง
“ใช่ เมื่อวานข่าวออกว่าเธอไปเยี่ยมเด็กอนุบาลที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ฉันว่าเธอคงรู้ตัวแล้วแน่ๆว่าถูกเฝ้าดู” อีซานพูดอย่างอ่อนใจ
“แย่จังแล้วยังงี้เราจะทำยังไงดีละค่ะ” ยุนนา ถามขึ้นอย่างกังวล
“คงต้องพึ่งเธอแล้วละนะยุนนา ถ้าเราหาหลักฐานจับโจอึนได้ เราก็จะสาวไปถึงตัวลียองเอได้” อีซานพูดอย่างฝากฝัง ยุนนาได้ยินดังนั้นก็ฮึดสู้ขึ้นมาพร้อมดวงตาที่เป็นประกายแน่วแน่ เธอจะต้องจับลียองเอ คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี่ให้ได้
เมื่อตัดสินใจได้ยุนนาจึงตอบตกลงกับโจอึน เขาดีใจมากและให้เธอเริ่มวาดได้ทันที โจอึนเตรียมห้องและอุปกรณ์ไว้ให้ยุนนาอย่างเพียบพร้อม
“ดีจริงๆ ขอบใจเธอมากยุนนา ฉันจะให้ค่าตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน” โจอึนกล่าวอย่างยินดี ยุนนาน้อมศีรษะลงเล็ฏน้อยเป็นการตอบรับ
“แล้วคุณคิมอย่างให้ฉันวาด...แบบไหนหรอค่ะ” ยุนนาถาม โจอึนครุ่นคิดซักครู่จึงตอบ
“ฉันอยากได้ภาพที่ ถ่ายทอดตัวตนของจองอา ฉันอยากจะ....เห็นใจจริงของเธอ” โจอึนกล่าวอย่างคาดหวัง หากแต่สร้างความหนักใจให้แก่คนวาดยิ่งนัก ทันใดนางแบบของภาพก็เดินเข้ามาพอดี
“ฉันพร้อมแล้วค่ะ” จองอากล่าวเสียงนุ่น
“ดี...งั้นเชิญพวกเธอตามสบายนะ” โจอึนกล่าว ทำให้หญิงสาวทั้งสองถึงกับตกใจ ไม่คาดคิดว่าเขาจะให้พวกเธออยู่กันตามลำพัง
“ฉันเชื่อมือเธอ” โจอึนพูดกับยุนนาพร้อมตบบ่าเธอเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงหญิงสาวสองคนที่ยังอึ้งอยู่ ทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
“งั้น...เออ เธอนั่งตรงนั้นละนะ” ยุนนาพูดทำลายความเงียบขึ้น พลางชี้ตำแหน่งไปยังเกาอี้กลางห้อง จองอาจึงทำตามอย่างว่าง่าย ยุนนาเลยมาจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้วาด เมื่อทำก็นั่งลงหน้ากระดานสเก็ตพร้อมนิ่งมองจองอาอยู่นาน จองอาเองก็ประหม่าไม่กล้ามองสบตาคนที่จ้องอยู่ เธอหลบตามองต่ำแล้วทั้งคู่ก็ตกอยู่ในวังวนแห่งความเงียบอีกครั้ง ก่อนที่ยุนนาจะพ่ายแพ้แก่ความเงียนนี้และวางดินสอลง
“เฮ้อ....นี่เราจะเครียดกันทำไมเนี่ย? เราทำกันมาตั้งสองครั้งแล้ว” ยุนนาพูดขึ้นพลางหัวเราะขบขนกับอาการแปลกๆของตนและจองอา จองอาเองเมื่อได้ยินดังนั้นก็เผยยิ้มมุมปากและหลบอายหน้าแดงที่ตนแสดงอาการแปลกๆออกไป ตอนนี้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นเยอะ ยุนนาจึงลุกขึ้นและเดินไปหาจองอา เธอคุกเข่าลงต่อหน้าจองอาพร้อมทั้งกุมมือนุ่นทั้งสองข้างของหล่อนขึ้นมาจูบอย่างอ่อนโยน
“แม้ว่าครั้งนี้ฉันทำมันเพราะคำสั่งของคนอื่น แต่ก็อยากให้เธอรู้ไว้ว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ ฉันก็อยากวาดรูปของเธอเสมอ” ยุนนาพูดพร้อมมองสบตาจองอาอย่างอ่อนโยน จองอายิ้มรับหน้าพริ้มก่อนที่ยุนนาจะกลับมานั่งยังตำแหน่งเดิม และเริ่มวาดอย่างจริงจัง โจอึนที่ออกไปได้สักครู่ใหญ่ก็นึกถึงหญิงสาวทั้งคู่ขึ้นมา จึงเดินกลับมายังห้องวาดรูปและแอบดูอยู่เงียบๆ เขาตกตะลึงทันทีที่เห็นจองอานั่งยิ้มพิมใจอยู่กลางห้อง ส่งสายตาอ่อนโยนมายังยุนนา มันเป็นใบหน้าที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน เขารู้สึกทึ่งในความสามารถของยุนนา ที่ทำให้จองอาเปิดใจได้ถึงเพียงนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน
การวาดภาพในวันนี้จบลงเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน โจอึนจึงเชื้อเชิญยุนนาให้ทานอาหารค่ำด้วยกัน
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ พอดีฉันมีธุระ ต้องขอตัวกลับก่อนนะค่ะ” ยุนนาตอบปฏิเสธอย่างมีมารยาท
“งั้นหรอ ช่วยไม่ได้นะ เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน” โจอึนกล่าวอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ยุนนาจะจากไป
ขณะเดียวกันภายในห้องจองอา ที่ตอนนี้กำลังอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์หลังนั่งเป็นแบบให้วาดอยู่นาน เธอยิ้มอย่างมีความสุขพลางมองไปยังมือที่ยุนนาฝากจุมพิตไว้ ก่อนที่จะรีบแต่งตัวลงไปทานอาหาร เพราะคิดว่ายุนนาจะร่วมโต๊ะด้วย แต่เมื่อเข้ามาในห้องเห็นเพียงโจอึนจึงเอ่ยถามขึ้น
“เอ๊ะนี่...เธอกลับไปแล้วหรอค่ะ” จองอาถามอย่างสงสัย
“อืม น่าเสียดาย เธอว่าเธอมีธุระนะ” โจอึนตอบพลางมองปฏิกิริยาของจองอา เขาสังเกตได้ว่ามีแววความเสียใจฉายอยู่ในดวงตาคู่นั้น
“น่าอิจฉาจริง ฉันคงต้องหัดวาดภาพบ้างแล้ว เพราะอาจทำหน้าแบบนี้บ้างเวลาที่ฉันไม่อยู่” โจอึนพูดเหย้าขึ้น จองถึงกับหน้าซีดจนโจอึนต้องรีบพูดแก้
“ฉันล้อเล่นนะ....แต่ ใครจะรู้” แม้จะรู้สึกสงสารเธอผู้เป็นที่รัก หากแต่ความน้อยใจของคนเป็นสามีก็ทำให้ห้ามใจริษยานี้ไม่ได้ จึงทิ้งทายสะกิดใจไว้สักหน่อย นั่นทำให้อาหารมื้อนี้ของจองอากลายเป็นรสเฝื่อน จนเธอต้องขอตัวขึ้นห้องก่อนทั้งที่ทานได้ไม่กี่คำ โจอึนได้แต่มองตามอย่างอ่อนใจ
“คงมีแค่ฉันซินะ ที่เธอไม่มีวันเปิดใจให้” เขารำพึงกับตัวเอง
หลังจากนั้นทุกวันหลังเลิกเรียน ยุนนาจะมาวาดภาพจองอาที่บ้านโจอึนเสมอ วันนี้ก็เช่นกัน ระหว่างที่วาดอยู่นั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก่อนที่โจอึนจะเดินเข้ามา หญิงสาวทั้งคู่ตกใจกับการปรากฏตัวของเขาอยู่ไม่น้อย
“อืม ก้าวหน้าไปมากทีเดียว”โจอึนกล่าวชมขณะมองภาพที่ยุนนาวาด
“เธอเก่งมากนะยุนนา ทั้งที่รู้จักกันไม่นาน แต่ก็สามารถวาดหล่อนออกมาได้ถึงขนาดนี้” โจอึนกล่าวพลางส่งสายตาคมไปยังจองอา เธอถึงกับหลบตาหนี
“เก่งมากจริงๆ” เขาตบบ่ายุนนาเบาๆพร้อมกล่าวชมอีกครั้ง ยุนนาได้แต่พยักหน้ารับคำชมหน้าเจื่อน
“จริงซิ พรุ่งนี้คืนวันเสาร์เธอว่างไหม” โจอึนเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ยุนนาได้แต่ทำหน้าเหรอหรา
“พอดีฉันจัดปาร์ตี้นะ เป็นปาร์ตี้เล็กๆ แต่ถ้าเธอไม่ว่างก็ไม่เป็นไร” โจอึนเฉลยให้ยุนนาหายงง เธอจึงชั่งใจพลางลอบมองสบตากับจองอา แต่กลับเพิ่มความสงสัย เมื่อจองอาส่งสายตาราวกับห้ามปรามเธอ แต่นี่เป็นโอกาสที่ยุนนาจะปล่อยไปไม่ได้
“ได้ค่ะ ฉันว่างพอดี” ยุนนาตอบตกลง
“เยี่ยม งั้นพรุ่งนี้ฉันจะให้คนไปรับเธอก็แล้วกันนะ ไม่ต้องมาวาดรูปหรอก” โจอึนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“วันนี้เธอคงจะเหนื่อยมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะนะ” โจอึนกล่าวไล่อยากมีมารยาท ยุนนาจึงขอตัวกลับตามความประสงค์ของเจ้าบ้าน หลังจากที่เธอกลับไปแล้ว จองอาจึงเข้ามาคุยกับโจอึน
“ทำไมท่านถึง...ให้เธอไปที่แบบนั้นละค่ะ” จองถามอย่างร้อนใจกับโจอึนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่
“ทำไมล่ะ มันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่” โจอึนตอบเสียงเรียบยังคงมองหนังสือในมือ ก่อนจะปิดลงและเงยหน้าขึ้นมองจองอา
“หรือว่า...ผู้หญิงคนนี้...มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นๆ” โจอึนกล่าวเน้นเสียง พร้อมจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่งามที่พยายามซ่อนความรู้สึกอยู่ ก่อนที่เธอจะเดินหนีและตรงไปยังห้องนอน เธอนั่งกลัดกลุ้มถึงเหตุการณ์การที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ โจอึนมักทำแบบนี้เสมอกับเด็กๆที่เขาเลือกมาใช้งาน เขาจะเอาใจก่อนในช่วงแรก จากนั้นจะหลอกล่อให้หลงในโลกีย์ โดยใช้ปาร์ตี้บังหน้า แต่ที่แท้มันคือแหล่งมั่วสุมของคนชั้นสูงที่แอบซ่อนสังคมมามัวเมาอบายมุข หากยุนนาไปที่นั่นคงติดบ่วงโจอึนแน่ แล้วเขาคงจะดึงเธอเข้ามาพัวพันกับธุรกิจเลวร้ายที่เขาทำอยู่ในไม่ช้า จองอาหวั่นใจเหลือเกิน เธอครุ่นคิดเพื่อจะหาทางช่วยยุนนาให้พ้นจากเงื้อมือของโจอึนให้ได้
ขณะเดียวกันที่บ้านของมงโด ยุนนา อีซานและมงโดกำลังนั่งประชุมกันอยู่
“ปลากินเบ็ดแล้วซิ เร็วกว่าที่คิดนะ” อีซานกล่าวขึ้น หลงฟังยุนนาเล่า
“แต่หนูว่ามันน่าสงสัยนะค่ะ” ยุนนาแย้ง
“ใช่ๆ ฉันว่ามันต้องไม่ใช่ปาร์ตี้ธรรมดาๆแน่” มงโดสมทบ
“ถ้าเกิดว่า...มันรู้ตัวแล้วละค่ะ แล้วมันหลอกให้หนูไป....”ยุนนากล่าวอย่างวิตก
“ใจเย็นๆ พี่มั่นใจว่าไม่นะ กลับกันซะอีก พี่คิดว่าโจอึนมันทนนิ่งไม่ได้นาน ยังไงก็ต้องหาคนทำงานให้มัน มันถึงได้ทำแบบนี้ พี่เชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ มันต้องเรียกใช้เธอแน่” อีซานพูดปลอบพร้อมให้เหตุผล หากแต่คนฟังก็ไม่รู้สึกดีขึ้น เธอยัวคงทำหน้าเครียดอยู่
“ไม่ต้องห่วง พี่จะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอเด็ดขาด” อีซานพูดอย่างอ่อนโยนพลางจับที่บ่าของยุนนา จึงทำให้เธอผ่อนคลายลง
“นี่นายจะให้เธอไปจริงๆหรอ” มงโดถามพลางมองลูกศิษย์อย่างเป็นห่วง
“เราถอยไม่ได้แล้ว” อีวานตอบพร้อมสบตาอย่างมาดมั่นกับทั้งสอง
วันต่อมายุนนาได้รับของขวัญจากโจอึนกล่องใหญ่ เขาให้คนนำมาให้เธอถึงบ้าน เมื่อเปิดออกเธอพบชุดเกาะอกกระโปรงสั้น สีน้ำตาลครีมคาดดำใต้อกพร้อมโบว์สีดำอันใหญ่ตรงหน้าอก ยุนนาจับชุดพลิกหน้าพลิกหลังอยู่หลายรอบ ก่อนจะเหลือไปเห็นเพชรสีขาว เธอจึงวางชุดลงแล้วหยิบหน้ากากขึ้นมาพิจารณา
“นี่ฉันต้องใส่ชุดพวกนี้หรอ” เธอพึมพำก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่
เมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ยุนนาก็ง่วนอยู่กับการยัดร่างตัวเองใส่ชุดกระโปรงตัวน้อย ที่ไม่คุ้นชิน
“ปัง! ๆๆๆๆ นี่เสร็จหรือยังแม่คุณ จะแต่งไปถึงไหน” มงโดที่คอยอยู่หน้าห้อง ทนไม่ไหวจนต้องไปเคาะเรียก เขาเป็นห่วงเธอไม่น้อยเลยขอมารอส่งเธอที่บ้าน ไม่นานร่างเล็กก็ยอมออกมาห้องที่เธอใช้ขังตัวเองอยู่นาน ก่อนที่จะหยุดสายตาของมงโดให้ค้างพอๆกับปากที่อ้าจนลืมหุบของเขา ยุนนามีทีท่าประหม่ากับชุดที่ใส่ แม้เธอจะเคยใส่ชุดกระโปรงมาบ้างแต่ก็ไม่เคยใส่ชุดที่สั้นแบบนี้มาก่อน เธอจึงจับชายกระโปรงดึงลงตลอดเวลา
“เอ่อ...ดูเป็นไงอ่ะ” ยุนนาถามขึ้นอย่างเอียงอาย มงโดที่ยืนอึ้งอยู่ตั้งสติสักครู่จึงตอบกลับไป
“ก็...เหมือนลิงใส่กระโปรงแหละ” มงโดตอบส่งๆแก้เขิน ทั้งที่เธอดูสวยมากในชุดนี้ คนฟังถึงกับเสียความมั่นใจจะเดินเข้าห้องไปอีกครั้งแต่โดนมงโดรั้งแขนไว้
“ไม่ต้องเลย พอได้แล้ว แล้วมือเนี่ยก็ไม่ต้องไปดึงมันหรอกกระโปรงนะ ยังไงมันก็สั้นอยู่ดี” มงโดพูดพลางดึงร่างเล็กออกจากห้อง เขาพาเธอเดินลงมายังชั้นล่างที่พ่อแม่ของเธอรออยู่
“ยุนนา...สวยมากลูกแม่” แม่ของเธอพูดพลางเดินเข้าไปกอดลูกสาวอย่างเอ็นดู เธอตอบรับด้วยท่าทางเขินอายและยิ้มน้อยๆ ก่อนหันไปสบตากับพ่อ
“ระวังตัวด้วยนะลูก” พ่อของเธอกล่าวพลางลูบศีรษะเธอ ก่อนที่เสียงออดหน้าบ้านจะดังขึ้น เป็นสัญญาณว่ารถของโจอึนมาถึงแล้ว ทุกคนต่างมองหน้ากัน แล้วเธอจึงกอดลาพ่อแม่ ใจจริงแล้วทั้งสองไม่เห็นด้วยกับการกระทำครั้งนี้ หากแต่ก็ไม่สามารถทัดทานความตั้งใจของลูกสาวได้ จากนั้นมงโดจึงเดินไปส่งเธอที่ประตู แล้งยื่นหน้ากากให้กับเธอ
“อย่าทำอะไรแผลงๆล่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นรีบโทรหาฉันทันทีเข้าใจไหม” เขาพูดเสียงเข้ม ยุนนาจึงส่งยิ้มทะเล้นให้เขา เขาทำมือจะตีใส่ศีรษะเธอแต่ก็ยั้งเอาไว้
“ฉันพูดจริงๆนะ โทรหาฉันทันทีถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่าเสี่ยงทำอะไรโง่ๆเด็ดขาด” คราวนี้เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จนยุนนารู้สึกได้
“ไม่ต้องห่วงหรอกอาจารย์ หนูจะระวังตัว” เธอตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะเดินออกประตูไปเมื่อรถแล่นจากบ้านของยุนนาไม่นาน รถสีดำคันหนึ่งที่จอดรออยู่บริเวณนั้นก็แล่นตามไปทันที โดยรักษาระยะห่างไม่ให้คันหน้ารู้ตัว รถวิ่งมาไกลจากตัวเมืองไม่นานนัก ก็เลี้ยวเข้าไปยังหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ยุนนาสังเกตภูมิทัศน์รอบๆตัวอย่างหวาดวิตก แต่ก็พยายามตั้งสติ ก่อนจะเห็นบ้านหลังหนึ่งที่เปิดไฟสว่างไสว ท่ามกลางบ้านที่รกร้างรายล้อม แล้วรถก็หยุดลงหน้าบ้านหลังนั้น ก่อนที่ประตูข้างที่เธอนั่งจะถูกเปิดออก
“เดินทางเป็นยังไงบ้างยุนนา” โจอึนกล่าวทักพร้อมยื่นมือให้เธอจับประคองลงรถ เธอก้าวลงมาอย่างหวาดๆ แต่ก็พยายามยิ้มสู้
“ไปกันเลยไหม” เขาเอ่ยชวนทันทีที่เธอยืนทรงตัวได้ เธอจึงเดินตามไปยังมือที่เผยออกของเขา
“อ่ะ...เดี้ยว อย่าลืมสวมหน้ากากด้วย” โจอึนพูดเตือนและส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะล้วงหน้ากากจากทักซิโด้มาใส่เป็นตัวอย่าง ยุนนาเห็นดังนั้นจึงทำตาม แล้วทั้งคู่ก็เดินหายเข้าไปในบ้านปริศนาหลังนั้น โดยมีสายตาของบุรุษหลายคู่แอบเฝ้าดูอยู่ หนึ่งในนั้นคืออีซานที่ติดตามเธอมาตั้งแต่หน้าบ้าน
คืนนี้ช่างเป็นคืนที่ท้องฟ้ามืดสนิท เหมาะแก่การพรางตัวจริงๆ เหล่าผู้พรางตัวจึงมารวมกัน ณ ที่นี้ ทั้งผู้ที่ชอบการพรางตัวและผู้ที่ต้องพรางตัวเพราะหน้าที่ จะเป็นใครกันหนอที่ถูกกระชากหน้ากากออกก่อนกัน
“แม้ว่าครั้งนี้ฉันทำมันเพราะคำสั่งของคนอื่น แต่ก็อยากให้เธอรู้ไว้ว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ ฉันก็อยากวาดรูปของเธอเสมอ”
ตอบลบอ๊ากกกก ยุนนา อ่อนโยนจังค่ะ ท่านวิน ปลื้มๆๆๆๆ อิอิ เหมือนได้เห็นหัวใจของยุนนาเลยนะคะ ประโยคนี้ ^ ^// โรแมนติกมากกกกก
แล้วตานั่นจะชวนยุนนาทำไรคะเนี่ย ระแวงๆๆๆๆๆ
รีบมาต่อไวไวนะคะ อิอิ อยากอ่านๆๆๆ
ยามสา เองนะคะ ^ ^
ว้าวชอบตอนนี้จังเลยครับ 5555เยี่ยมต้องอ่่อโยนกับเธอสิแบบนี้แหละถูกต้องแล้ว ขอบคุณครับสำหรับผลงานดีๆ ปล.นัทเพลย์บอย
ตอบลบ