วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Manga Time

Manga Time




พอดีเกิดอยากแปลmangaก็เลยเอามาลงให้อ่านกันฆ่าเวลาเล่นๆ




แต่ระวังนะจ๊ะ ติดเรต ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ไปเรียกพี่มาดูด้วยไป เร็ว!






เรื่อง TIME จ้า


ถ้าชื่อไทยคงเป็น "ช่วงเวลาแห่งรัก"








โหลดคลิ๊กที่รูปเลยจ๊ะ
ขอให้อร่อยนะ

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

After School ตอนที่ 19

After School

ตอนที่ 19

ณ ร้านคอฟฟี่ช้อป เจ้าประจำ มงโด อีซานและยุนนา ต่างนั่งประชุมกันอย่างเคร่งเครียด

“เมื่อวานมีความคืบหน้าอะไรบ้าง” มงโดถาม

“ก็ไม่มีอะไรมาก หนูแค่ไปเอา...ภาพกับหนังสือที่ลืมไว้” ยุนนาตอบมีพิรุธ

“แค่นั้นหรอ” อีซานถาม

“ก็...เอ่อ เขาขอให้ฉันวาดภาพให้นะ” ยุนนาบอกอย่างลำบากใจ

“วาดภาพหรอ ยังงี้เขาก็ไว้ใจมากขึ้นแล้วนะซิ” อีซานกล่าวด้วยน้ำเสียงยินดี

“แล้วเขาให้เธอวาดภาพอะไร” มงโดถามขึ้น

“รูปจองอา” เธอตอบเสียงค่อย มงโดเลยได้ยินไม่ถนัด

“อะไรนะ?” เขาถามซ้ำ

“วาดภาพจองอา” เธอจึงตะโกนใส่หน้าเขา

“ไหมล่ะ...นี่คงกระโดดงับเลยซิ” มงโดพูดประชดพลางตีมือลงเข่าตัวเองที่คาดการณ์ไว้ถูก

“บ้าหรอ ไม่ใช่หมานะจารย์ หนูยังไม่ได้ตอบอะไรเขาซักหน่อย” ยุนนาพูดเสียงแง่งอน

“แล้วเธอจะตอบเขาว่าไงล่ะ” มงโดถามต่อ

“ก็ว่าจะวาดล่ะนะ เย็นนี้ถึงจะให้คำตอบ ต่อไปคงได้ไปบ้านนั้นบ่อยขึ้น” ยุนนาตอบ

“ดีแล้วล่ะ นี่เป็นโอกาสของเราแล้ว พี่ว่าอีกไม่นานนี้หรอก เขาจะต้องเรียกใช้เธอแน่” อีซานกล่าวสิ่งที่คาดการณ์ไว้

“ว่าแต่เธอเถอะ อย่าทำเสียเรื่องซะละ ไม่ใช่วาดกันจนเลยเถิดนะ สำนึกเอาไว้ด้วยว่าอยู่ในบ้านศรัทตรู” มงโดพูดเตือนพลางใช้นิ้วทิ่มย้ำไปที่ศีรษะเธอ ยุนนาลูบมันเหมือนเจ็บปวด

“รู้แล้วน่าโธ่ รู้ตัวตลอดแหละ” ยุนนาพูดมุ่ยปาก แล้วทั้งคู่ก็ทำหน้าจิกกัดใส่กัน

“มีแค่นี้เองหรอ ยุนนาไม่ได้สังเกตหรือได้ยินอะไรบ้างหรอ” อีซานถามซักต่อ

“ไม่นะ อันที่จริงตอนแรกก็คุยกันเป็นการเป็นงาน แต่อยู่ๆก็มีโทรศัพท์เข้ามา เขาก็เลยออกไป” ยุนนาเล่า อีซานได้ยินดังนั้นก็สนใจขึ้นมา

“แล้วเขาพูดว่าไงมั่ง บอกหรือเปล่าว่าไปพบใคร” อีซานซัก

“หึ..ไม่เลย เขาแค่รับสาย ไม่ได้พูดโต้ตอบกับปลายสายด้วยซ้ำ แล้วก็บอกว่ามีธุระ จากนั้นก้ออกไป ฉันยังงงเลย” ยุนนาบรรยาย“หมอนี่ระวังตัวจริงๆ” อีซานพึมพำ

“หมายความว่าไง นายรู้หรอว่ามันออกไปไหน” มงโดถามขึ้นอย่างสงสัย

“คนของฉันรายงานว่า โจอึนไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เข้าไปเกือบชั่วโมงก็ออกมา” อีซานบอกข้อมูลในรายงาย

“นายสงสัยว่ามันออกไปพบใครหรือเปล่าหรอ” มงโดถาม

“ไม่หรอก ฉันมั่นใจว่ามันต้องไปพบใครบางคนแน่ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร” อีซานตอบ

“เอ๊ะ หรือว่าจะเป็น ลียองเอ” ยุนนาพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น

“ฉันก็ไม่แน่ใจ จากการตรวจสอบดูรายชื่อแขกในโรงแรม ก็ไม่มีทั้งชื่อของโจอึนหรือลียองเอ แล้วอีกอย่าง คนที่ตามลียองเอก็รายงานว่า เธอไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย” อีซานบอกเล่าข้อมูลที่รู้อย่างหนักใจ

“เดี้ยวนะ เขาเป็นสส. ไม่ใช่หรอ อยู่บ้านทั้งวันเนี่ยนะ ไม่แปลกไปหน่อยหรอ” มงโดแย้ง

“ใช่ เมื่อวานข่าวออกว่าเธอไปเยี่ยมเด็กอนุบาลที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ฉันว่าเธอคงรู้ตัวแล้วแน่ๆว่าถูกเฝ้าดู” อีซานพูดอย่างอ่อนใจ

“แย่จังแล้วยังงี้เราจะทำยังไงดีละค่ะ” ยุนนา ถามขึ้นอย่างกังวล

“คงต้องพึ่งเธอแล้วละนะยุนนา ถ้าเราหาหลักฐานจับโจอึนได้ เราก็จะสาวไปถึงตัวลียองเอได้” อีซานพูดอย่างฝากฝัง ยุนนาได้ยินดังนั้นก็ฮึดสู้ขึ้นมาพร้อมดวงตาที่เป็นประกายแน่วแน่ เธอจะต้องจับลียองเอ คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี่ให้ได้

เมื่อตัดสินใจได้ยุนนาจึงตอบตกลงกับโจอึน เขาดีใจมากและให้เธอเริ่มวาดได้ทันที โจอึนเตรียมห้องและอุปกรณ์ไว้ให้ยุนนาอย่างเพียบพร้อม

“ดีจริงๆ ขอบใจเธอมากยุนนา ฉันจะให้ค่าตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน” โจอึนกล่าวอย่างยินดี ยุนนาน้อมศีรษะลงเล็ฏน้อยเป็นการตอบรับ

“แล้วคุณคิมอย่างให้ฉันวาด...แบบไหนหรอค่ะ” ยุนนาถาม โจอึนครุ่นคิดซักครู่จึงตอบ

“ฉันอยากได้ภาพที่ ถ่ายทอดตัวตนของจองอา ฉันอยากจะ....เห็นใจจริงของเธอ” โจอึนกล่าวอย่างคาดหวัง หากแต่สร้างความหนักใจให้แก่คนวาดยิ่งนัก ทันใดนางแบบของภาพก็เดินเข้ามาพอดี

“ฉันพร้อมแล้วค่ะ” จองอากล่าวเสียงนุ่น

“ดี...งั้นเชิญพวกเธอตามสบายนะ” โจอึนกล่าว ทำให้หญิงสาวทั้งสองถึงกับตกใจ ไม่คาดคิดว่าเขาจะให้พวกเธออยู่กันตามลำพัง

“ฉันเชื่อมือเธอ” โจอึนพูดกับยุนนาพร้อมตบบ่าเธอเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงหญิงสาวสองคนที่ยังอึ้งอยู่ ทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน

“งั้น...เออ เธอนั่งตรงนั้นละนะ” ยุนนาพูดทำลายความเงียบขึ้น พลางชี้ตำแหน่งไปยังเกาอี้กลางห้อง จองอาจึงทำตามอย่างว่าง่าย ยุนนาเลยมาจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้วาด เมื่อทำก็นั่งลงหน้ากระดานสเก็ตพร้อมนิ่งมองจองอาอยู่นาน จองอาเองก็ประหม่าไม่กล้ามองสบตาคนที่จ้องอยู่ เธอหลบตามองต่ำแล้วทั้งคู่ก็ตกอยู่ในวังวนแห่งความเงียบอีกครั้ง ก่อนที่ยุนนาจะพ่ายแพ้แก่ความเงียนนี้และวางดินสอลง

“เฮ้อ....นี่เราจะเครียดกันทำไมเนี่ย? เราทำกันมาตั้งสองครั้งแล้ว” ยุนนาพูดขึ้นพลางหัวเราะขบขนกับอาการแปลกๆของตนและจองอา จองอาเองเมื่อได้ยินดังนั้นก็เผยยิ้มมุมปากและหลบอายหน้าแดงที่ตนแสดงอาการแปลกๆออกไป ตอนนี้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นเยอะ ยุนนาจึงลุกขึ้นและเดินไปหาจองอา เธอคุกเข่าลงต่อหน้าจองอาพร้อมทั้งกุมมือนุ่นทั้งสองข้างของหล่อนขึ้นมาจูบอย่างอ่อนโยน

“แม้ว่าครั้งนี้ฉันทำมันเพราะคำสั่งของคนอื่น แต่ก็อยากให้เธอรู้ไว้ว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ ฉันก็อยากวาดรูปของเธอเสมอ” ยุนนาพูดพร้อมมองสบตาจองอาอย่างอ่อนโยน จองอายิ้มรับหน้าพริ้มก่อนที่ยุนนาจะกลับมานั่งยังตำแหน่งเดิม และเริ่มวาดอย่างจริงจัง โจอึนที่ออกไปได้สักครู่ใหญ่ก็นึกถึงหญิงสาวทั้งคู่ขึ้นมา จึงเดินกลับมายังห้องวาดรูปและแอบดูอยู่เงียบๆ เขาตกตะลึงทันทีที่เห็นจองอานั่งยิ้มพิมใจอยู่กลางห้อง ส่งสายตาอ่อนโยนมายังยุนนา มันเป็นใบหน้าที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน เขารู้สึกทึ่งในความสามารถของยุนนา ที่ทำให้จองอาเปิดใจได้ถึงเพียงนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน

การวาดภาพในวันนี้จบลงเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน โจอึนจึงเชื้อเชิญยุนนาให้ทานอาหารค่ำด้วยกัน

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ พอดีฉันมีธุระ ต้องขอตัวกลับก่อนนะค่ะ” ยุนนาตอบปฏิเสธอย่างมีมารยาท

“งั้นหรอ ช่วยไม่ได้นะ เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน” โจอึนกล่าวอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ยุนนาจะจากไป

ขณะเดียวกันภายในห้องจองอา ที่ตอนนี้กำลังอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์หลังนั่งเป็นแบบให้วาดอยู่นาน เธอยิ้มอย่างมีความสุขพลางมองไปยังมือที่ยุนนาฝากจุมพิตไว้ ก่อนที่จะรีบแต่งตัวลงไปทานอาหาร เพราะคิดว่ายุนนาจะร่วมโต๊ะด้วย แต่เมื่อเข้ามาในห้องเห็นเพียงโจอึนจึงเอ่ยถามขึ้น

“เอ๊ะนี่...เธอกลับไปแล้วหรอค่ะ” จองอาถามอย่างสงสัย

“อืม น่าเสียดาย เธอว่าเธอมีธุระนะ” โจอึนตอบพลางมองปฏิกิริยาของจองอา เขาสังเกตได้ว่ามีแววความเสียใจฉายอยู่ในดวงตาคู่นั้น

“น่าอิจฉาจริง ฉันคงต้องหัดวาดภาพบ้างแล้ว เพราะอาจทำหน้าแบบนี้บ้างเวลาที่ฉันไม่อยู่” โจอึนพูดเหย้าขึ้น จองถึงกับหน้าซีดจนโจอึนต้องรีบพูดแก้

“ฉันล้อเล่นนะ....แต่ ใครจะรู้” แม้จะรู้สึกสงสารเธอผู้เป็นที่รัก หากแต่ความน้อยใจของคนเป็นสามีก็ทำให้ห้ามใจริษยานี้ไม่ได้ จึงทิ้งทายสะกิดใจไว้สักหน่อย นั่นทำให้อาหารมื้อนี้ของจองอากลายเป็นรสเฝื่อน จนเธอต้องขอตัวขึ้นห้องก่อนทั้งที่ทานได้ไม่กี่คำ โจอึนได้แต่มองตามอย่างอ่อนใจ

“คงมีแค่ฉันซินะ ที่เธอไม่มีวันเปิดใจให้” เขารำพึงกับตัวเอง

หลังจากนั้นทุกวันหลังเลิกเรียน ยุนนาจะมาวาดภาพจองอาที่บ้านโจอึนเสมอ วันนี้ก็เช่นกัน ระหว่างที่วาดอยู่นั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก่อนที่โจอึนจะเดินเข้ามา หญิงสาวทั้งคู่ตกใจกับการปรากฏตัวของเขาอยู่ไม่น้อย

“อืม ก้าวหน้าไปมากทีเดียว”โจอึนกล่าวชมขณะมองภาพที่ยุนนาวาด

“เธอเก่งมากนะยุนนา ทั้งที่รู้จักกันไม่นาน แต่ก็สามารถวาดหล่อนออกมาได้ถึงขนาดนี้” โจอึนกล่าวพลางส่งสายตาคมไปยังจองอา เธอถึงกับหลบตาหนี

“เก่งมากจริงๆ” เขาตบบ่ายุนนาเบาๆพร้อมกล่าวชมอีกครั้ง ยุนนาได้แต่พยักหน้ารับคำชมหน้าเจื่อน

“จริงซิ พรุ่งนี้คืนวันเสาร์เธอว่างไหม” โจอึนเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ยุนนาได้แต่ทำหน้าเหรอหรา

“พอดีฉันจัดปาร์ตี้นะ เป็นปาร์ตี้เล็กๆ แต่ถ้าเธอไม่ว่างก็ไม่เป็นไร” โจอึนเฉลยให้ยุนนาหายงง เธอจึงชั่งใจพลางลอบมองสบตากับจองอา แต่กลับเพิ่มความสงสัย เมื่อจองอาส่งสายตาราวกับห้ามปรามเธอ แต่นี่เป็นโอกาสที่ยุนนาจะปล่อยไปไม่ได้

“ได้ค่ะ ฉันว่างพอดี” ยุนนาตอบตกลง

“เยี่ยม งั้นพรุ่งนี้ฉันจะให้คนไปรับเธอก็แล้วกันนะ ไม่ต้องมาวาดรูปหรอก” โจอึนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“วันนี้เธอคงจะเหนื่อยมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะนะ” โจอึนกล่าวไล่อยากมีมารยาท ยุนนาจึงขอตัวกลับตามความประสงค์ของเจ้าบ้าน หลังจากที่เธอกลับไปแล้ว จองอาจึงเข้ามาคุยกับโจอึน

“ทำไมท่านถึง...ให้เธอไปที่แบบนั้นละค่ะ” จองถามอย่างร้อนใจกับโจอึนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่

“ทำไมล่ะ มันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่” โจอึนตอบเสียงเรียบยังคงมองหนังสือในมือ ก่อนจะปิดลงและเงยหน้าขึ้นมองจองอา

“หรือว่า...ผู้หญิงคนนี้...มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นๆ” โจอึนกล่าวเน้นเสียง พร้อมจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่งามที่พยายามซ่อนความรู้สึกอยู่ ก่อนที่เธอจะเดินหนีและตรงไปยังห้องนอน เธอนั่งกลัดกลุ้มถึงเหตุการณ์การที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ โจอึนมักทำแบบนี้เสมอกับเด็กๆที่เขาเลือกมาใช้งาน เขาจะเอาใจก่อนในช่วงแรก จากนั้นจะหลอกล่อให้หลงในโลกีย์ โดยใช้ปาร์ตี้บังหน้า แต่ที่แท้มันคือแหล่งมั่วสุมของคนชั้นสูงที่แอบซ่อนสังคมมามัวเมาอบายมุข หากยุนนาไปที่นั่นคงติดบ่วงโจอึนแน่ แล้วเขาคงจะดึงเธอเข้ามาพัวพันกับธุรกิจเลวร้ายที่เขาทำอยู่ในไม่ช้า จองอาหวั่นใจเหลือเกิน เธอครุ่นคิดเพื่อจะหาทางช่วยยุนนาให้พ้นจากเงื้อมือของโจอึนให้ได้

ขณะเดียวกันที่บ้านของมงโด ยุนนา อีซานและมงโดกำลังนั่งประชุมกันอยู่

“ปลากินเบ็ดแล้วซิ เร็วกว่าที่คิดนะ” อีซานกล่าวขึ้น หลงฟังยุนนาเล่า

“แต่หนูว่ามันน่าสงสัยนะค่ะ” ยุนนาแย้ง

“ใช่ๆ ฉันว่ามันต้องไม่ใช่ปาร์ตี้ธรรมดาๆแน่” มงโดสมทบ

“ถ้าเกิดว่า...มันรู้ตัวแล้วละค่ะ แล้วมันหลอกให้หนูไป....”ยุนนากล่าวอย่างวิตก

“ใจเย็นๆ พี่มั่นใจว่าไม่นะ กลับกันซะอีก พี่คิดว่าโจอึนมันทนนิ่งไม่ได้นาน ยังไงก็ต้องหาคนทำงานให้มัน มันถึงได้ทำแบบนี้ พี่เชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ มันต้องเรียกใช้เธอแน่” อีซานพูดปลอบพร้อมให้เหตุผล หากแต่คนฟังก็ไม่รู้สึกดีขึ้น เธอยัวคงทำหน้าเครียดอยู่

“ไม่ต้องห่วง พี่จะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอเด็ดขาด” อีซานพูดอย่างอ่อนโยนพลางจับที่บ่าของยุนนา จึงทำให้เธอผ่อนคลายลง

“นี่นายจะให้เธอไปจริงๆหรอ” มงโดถามพลางมองลูกศิษย์อย่างเป็นห่วง

“เราถอยไม่ได้แล้ว” อีวานตอบพร้อมสบตาอย่างมาดมั่นกับทั้งสอง

วันต่อมายุนนาได้รับของขวัญจากโจอึนกล่องใหญ่ เขาให้คนนำมาให้เธอถึงบ้าน เมื่อเปิดออกเธอพบชุดเกาะอกกระโปรงสั้น สีน้ำตาลครีมคาดดำใต้อกพร้อมโบว์สีดำอันใหญ่ตรงหน้าอก ยุนนาจับชุดพลิกหน้าพลิกหลังอยู่หลายรอบ ก่อนจะเหลือไปเห็นเพชรสีขาว เธอจึงวางชุดลงแล้วหยิบหน้ากากขึ้นมาพิจารณา

“นี่ฉันต้องใส่ชุดพวกนี้หรอ” เธอพึมพำก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่

เมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ยุนนาก็ง่วนอยู่กับการยัดร่างตัวเองใส่ชุดกระโปรงตัวน้อย ที่ไม่คุ้นชิน

“ปัง! ๆๆๆๆ นี่เสร็จหรือยังแม่คุณ จะแต่งไปถึงไหน” มงโดที่คอยอยู่หน้าห้อง ทนไม่ไหวจนต้องไปเคาะเรียก เขาเป็นห่วงเธอไม่น้อยเลยขอมารอส่งเธอที่บ้าน ไม่นานร่างเล็กก็ยอมออกมาห้องที่เธอใช้ขังตัวเองอยู่นาน ก่อนที่จะหยุดสายตาของมงโดให้ค้างพอๆกับปากที่อ้าจนลืมหุบของเขา ยุนนามีทีท่าประหม่ากับชุดที่ใส่ แม้เธอจะเคยใส่ชุดกระโปรงมาบ้างแต่ก็ไม่เคยใส่ชุดที่สั้นแบบนี้มาก่อน เธอจึงจับชายกระโปรงดึงลงตลอดเวลา

“เอ่อ...ดูเป็นไงอ่ะ” ยุนนาถามขึ้นอย่างเอียงอาย มงโดที่ยืนอึ้งอยู่ตั้งสติสักครู่จึงตอบกลับไป

“ก็...เหมือนลิงใส่กระโปรงแหละ” มงโดตอบส่งๆแก้เขิน ทั้งที่เธอดูสวยมากในชุดนี้ คนฟังถึงกับเสียความมั่นใจจะเดินเข้าห้องไปอีกครั้งแต่โดนมงโดรั้งแขนไว้

“ไม่ต้องเลย พอได้แล้ว แล้วมือเนี่ยก็ไม่ต้องไปดึงมันหรอกกระโปรงนะ ยังไงมันก็สั้นอยู่ดี” มงโดพูดพลางดึงร่างเล็กออกจากห้อง เขาพาเธอเดินลงมายังชั้นล่างที่พ่อแม่ของเธอรออยู่

“ยุนนา...สวยมากลูกแม่” แม่ของเธอพูดพลางเดินเข้าไปกอดลูกสาวอย่างเอ็นดู เธอตอบรับด้วยท่าทางเขินอายและยิ้มน้อยๆ ก่อนหันไปสบตากับพ่อ

“ระวังตัวด้วยนะลูก” พ่อของเธอกล่าวพลางลูบศีรษะเธอ ก่อนที่เสียงออดหน้าบ้านจะดังขึ้น เป็นสัญญาณว่ารถของโจอึนมาถึงแล้ว ทุกคนต่างมองหน้ากัน แล้วเธอจึงกอดลาพ่อแม่ ใจจริงแล้วทั้งสองไม่เห็นด้วยกับการกระทำครั้งนี้ หากแต่ก็ไม่สามารถทัดทานความตั้งใจของลูกสาวได้ จากนั้นมงโดจึงเดินไปส่งเธอที่ประตู แล้งยื่นหน้ากากให้กับเธอ

“อย่าทำอะไรแผลงๆล่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นรีบโทรหาฉันทันทีเข้าใจไหม” เขาพูดเสียงเข้ม ยุนนาจึงส่งยิ้มทะเล้นให้เขา เขาทำมือจะตีใส่ศีรษะเธอแต่ก็ยั้งเอาไว้

“ฉันพูดจริงๆนะ โทรหาฉันทันทีถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่าเสี่ยงทำอะไรโง่ๆเด็ดขาด” คราวนี้เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จนยุนนารู้สึกได้

“ไม่ต้องห่วงหรอกอาจารย์ หนูจะระวังตัว” เธอตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะเดินออกประตูไปเมื่อรถแล่นจากบ้านของยุนนาไม่นาน รถสีดำคันหนึ่งที่จอดรออยู่บริเวณนั้นก็แล่นตามไปทันที โดยรักษาระยะห่างไม่ให้คันหน้ารู้ตัว รถวิ่งมาไกลจากตัวเมืองไม่นานนัก ก็เลี้ยวเข้าไปยังหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ยุนนาสังเกตภูมิทัศน์รอบๆตัวอย่างหวาดวิตก แต่ก็พยายามตั้งสติ ก่อนจะเห็นบ้านหลังหนึ่งที่เปิดไฟสว่างไสว ท่ามกลางบ้านที่รกร้างรายล้อม แล้วรถก็หยุดลงหน้าบ้านหลังนั้น ก่อนที่ประตูข้างที่เธอนั่งจะถูกเปิดออก

“เดินทางเป็นยังไงบ้างยุนนา” โจอึนกล่าวทักพร้อมยื่นมือให้เธอจับประคองลงรถ เธอก้าวลงมาอย่างหวาดๆ แต่ก็พยายามยิ้มสู้

“ไปกันเลยไหม” เขาเอ่ยชวนทันทีที่เธอยืนทรงตัวได้ เธอจึงเดินตามไปยังมือที่เผยออกของเขา

“อ่ะ...เดี้ยว อย่าลืมสวมหน้ากากด้วย” โจอึนพูดเตือนและส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะล้วงหน้ากากจากทักซิโด้มาใส่เป็นตัวอย่าง ยุนนาเห็นดังนั้นจึงทำตาม แล้วทั้งคู่ก็เดินหายเข้าไปในบ้านปริศนาหลังนั้น โดยมีสายตาของบุรุษหลายคู่แอบเฝ้าดูอยู่ หนึ่งในนั้นคืออีซานที่ติดตามเธอมาตั้งแต่หน้าบ้าน

คืนนี้ช่างเป็นคืนที่ท้องฟ้ามืดสนิท เหมาะแก่การพรางตัวจริงๆ เหล่าผู้พรางตัวจึงมารวมกัน ณ ที่นี้ ทั้งผู้ที่ชอบการพรางตัวและผู้ที่ต้องพรางตัวเพราะหน้าที่ จะเป็นใครกันหนอที่ถูกกระชากหน้ากากออกก่อนกัน


วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

After School ตอนที่18

After School
ตอนที่18

ณ ห้องทำงานส่วนตัวของมงโดที่โรงเรียนศิลปะ ยุนนานั่งจ้องหน้ามงโดอย่างเว้าวอน ในขณะที่เขากำลังตรวจการบ้านนักเรียนอยู่ จนในที่สุดมงโดก็ทนความรำคาญที่ถูกส่งผ่านมาทางสายตาของคนตรงหน้าไม่ไหว
“อะไร! นี่เธอจะมานั่งจ้องหน้าฉันทำไมเนี่ย” มงโดตะวาดขึ้น ยุนนาจึงทำหน้าแหยๆหัวเราะแฮะๆ
“จารย์ ไหนจารย์ว่าจะเล่าให้หนูฟังไง” ยุนนาพูดด้วยเสียงออดอ้อน หวังให้คนฟังเอ็นดู กลับเป็นตรงกันข้าม มงโดรู้สึกขนลุกกับเสียงนั้น
“ไม่ต้องทำเสียงแบบนี้หรอกน่า ฉันรู้แล้ว” มงโดพูดเสียงแกมดุเล็กน้อย ยุนนาได้ยินจึงยิ้มหน้าบาน ทำให้คนมองหมั่นไส้ขึ้นมา
“ฮึ...ทำยิ้มหน้าบานไปเถอะ ฟังเสร็จเธอได้ร้องไห้แน่” มงโดพูดใส่ ยุนนาถึงกับหน้ามุ่ย จากนั้นมงโดก็เริ่มเล่าเรื่องที่เขาสืบรู้มา
“ยัยนั่นเป็นเด็กกำพร้า อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เล็กๆ จนไอ้เฒ่านั่นไปรับมาเลี้ยง แล้วก็ส่งเสียให้เรียนในโรงเรียนดีๆซะด้วย มันหลงเด็กนั่นมากทีเดียว ปรนเปรอหล่อนด้วยแก้วแหวนเงินทอง คิดว่าห้องหรูๆนั้นของใครกันล่ะ” มงโดเอ่ยถามขึ้นพลางมองหน้าเครียดของยุนนา เธอไม่ตอบได้แต่หลบตาและถอนหายใจหนัก
“อ้อจริงสิคลับนั่นนะ ไม่รู้เธอรู้จักรึเปล่า เด็กนั่นไปเล่นดนตรีที่นั่นบ่อยๆ เอ...ชื่อร้านอะไรนะ....” มงโดนิ่งคิดชื่อร้าน หากแต่เป็นยุนนาที่เอ่ยขึ้น
“แพสชั่น” เธอเอ่ยขึ้น มงโดจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอรู้จักร้านดังกล่าว ก่อนที่จะเล่าต่อ
“ใช่...นั่นแหละร้านนั้นก็ของมัน” มงโดพูดพลางสังเกตสีหน้าที่เคร่งเครียดของยุนนา มันทำให้เขาไม่อยากจะเล่าอะไรต่อ แต่เธอก็เอ่ยถามขึ้น
“พวกเขาพบกันบ่อยไหม” ยุนนาเอ่ยถามเสียงลอดไรฟัน ทำให้คนฟังรู้ได้ทันทีว่าเธอต้องฝืนตัวเองมากแค่ไหนที่เอ่ยถามขึ้น มงโดนิ่งสักพักก่อนจะตอบ
“ก็...เกือบทุกวันนะ แต่ว่าส่วนมากจะเป็นข้างนอก พวกเขามักไป...” มงโดยังไม่ทันพูดจบ ยุนนาก็สวนขึ้นมา
“ดูหนัง” เธอเอ่ยขึ้น ทำให้มงโดฉงนนักที่เธอรู้
“ใช่ แล้วก็ไปกินอาหารหรูๆ ตามสไตล์เด็กเสี่ยอะนะ” มงโดพูดจบก็มองสังเกตอาการยุนนา หากแต่ตอนนี้เธอไม่ได้ฟังเขาแล้ว เพราะในหัวกำลังคิดย้อนไปเมื่อตอนออกเดทกับจองอา ยุนนาจำอาการแปลกๆของจองอาได้ดี เดิมเธอคิดว่าจองอาคงประหม่าแต่มันไม่ใช่เลย แล้วบัตรฟรีนั่นอีก โจอึนคงซื้อให้เธอแน่ๆ
“ฉันได้ฟรีมาน่ะ ยังเหลืออีกตั้งหลายที่” ยุนนาห้วนนึกถึงคำพูดของจองอา ทำให้รู้สึกแค้นใจจนต้องระบายออกมาด้วยการทุบโต๊ะเต็มแรง แล้วจึงเดินหุนหันออกไป มงโดได้แต่มองตามอย่างงุนงง
“อะไรของมันวะเนี่ย” มงโดบ่นพึมพำ
ยุนนาเดินอย่างเลื่อนลอยแม้ตอนนี้จะได้เวลาเรียนคาบบ่ายแล้ว แต่ตัวเธอกลับเดินไปยังห้องพยาบาล สถานที่หลบภัยของเธอ ยุนนานอนลงบนเตียงพลางยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ตอนนี้เธออยากจะร้องไห้มากๆ แต่น้ำตากลับไม่รินไหลออกมาสักหยด หากแต่ภายในหัวใจกลับเปียกปอน
“ฉันจะทำยังไงดี” เธอพึมพำกับตัวเอง ความรู้สึกและความทรงจะทั้งหมดกำลังถาโถมหัวใจที่ปวดร้าว
เย็นวันนั้นหลังเลิกเรียนจองอาก็ตรงกลับบ้าน เมื่อเดินผ่านห้องรับแขกก็แว่วเสียงสนทนา เธอจึงเดินไปตามเสียงนั้น ในห้องโจอึนกำลังนั่งสนทนากับใครคนหนึ่ง อย่างออกรส
“อ้าวจองอา กลับมาแล้วหรอ” โจอึนเอ่ยทักทันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามา จากนั้นคู่สนทนาซึ่งนั่งหันหลังอยู่ก็ลุกขึ้นทักทายเธอ
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้พบอีกครั้งนะค่ะ” ยุนนากล่าวพลางส่งสายตากรุ่มกริม จองอาอึ้งไปสักพัก
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ” จองอากล่าวตามมารยาทเจ้าบ้านที่ดี ก่อนจะขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ยุนนามองเธอจนลับตาก่อนจะหันกลับมาสนทนากับโจอึนอีกครั้ง
“ฉันพูดจริงๆนะ ยุนนา ฉันชื่นชมผลงานเธอมาก “โจอึนกล่าวย้ำถึงบทสนทนาก่อนที่จองอาจะเข้ามา เขาได้ขอให้ยุนนาวาดภาพให้เขา
“เป็นเกียรติมากค่ะ แต่ฉันเกรงว่าฝีมือจะไม่ดีพอ” ยุนนาถ่อมตัว
“เอาน่า ฉันให้เวลาเธอคิดแล้วกัน ไม่ต้องรีบตอบก็ได้” โจอึนกล่าวโน้มน้าว
“แต่ถ้าได้คำตอบตกลงจากเธอ ฉันและจองอาจะดีใจมากทีเดียว” โจอึนเอ่ยทิ้งท้าย ยุนนาถึงกับทำหน้าสงสัย
“ฉันอยากให้เธอวาดภาพของจองอานะ” โจอึนเฉลย ยุนนารู้สึกแปลกใจแต่ก็ปิติในเวลาเดียวกัน เธอแทบอยากตะโกนตอบตกลงไปในทันที แต่ก็รักษาท่าทีคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยให้คำตอบดีกว่า ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของโจอึนก็ดังขึ้น เขากดรับก่อนจะฟังเสียงปลายสายไม่นานนักก็กดวาง
“ขอโทษด้วย พอดีฉันมีธุระนิดหน่อย ต้องขอตัวก่อน”เขาพูดพลางลุกยืน ยุนนาจึงลุกตาม
“ค่ะ งั้นฉันกลับเลยดีกว่า” ยุนนาตอบ
“อ้ออย่าเลย อยู่ต่อเถอะ มาที่นี่ทั้งที ก็เข้าไปดูหนังสือในห้องสมุดให้พอใจเถอะนะ” โจอึนกล่าวเชื้อเชิญ
“เอ่อคือ...”ยุนนาจะปฏิเสธ แต่โจอึนสวนขึ้น
“ไม่ต้องเกรงใจ คิดว่าเป็นสินบนเพื่อให้เธอตอบตกลงวาดภาพให้ฉันละกัน” โจอึนพูดติดตลกให้ยุนนาผ่อนคลาย
“ค่ะ” เธอจึงตอบรับด้วยสีหน้าจำยอม ก่อนที่เขาจะเดินไปยังหน้าบ้านและสั่งพ่อบ้านให้ดูแลแขกแทนตน จากนั้นก็นั่งรถออกไป
เมื่อยุนนาเดินตามพ่อบ้านไปถึงห้องสมุด เขาก็ทิ้งให้เธออยู่เพียงลำพัง ยุนนาไม่ยอมเสียเวลามากนัก ทันทีที่แน่ใจว่าตนอยู่คนเดียวแล้วจึงย่องออกจากห้อง เดินหลบสายตาคนขึ้นไปบนบ้าน ในเมื่อแมวไม่อยู่หนู(นา)ก็ร่าเริง
ภายในห้องของจองอา เจ้าของห้องกำลังนั่งถอนหายใจอยู่หน้ากระจก แม้เธอจะแต่งตัวเสร็จนานแล้วแต่ก็ยังไม่อยากออกไปรับแขก เพราะแขกคนนี้ทำให้เธอวุ่นวายใจและหนักใจทุกครั้งที่เจอ เธอจึงลุกขึ้นเดินไปยังระเบียง เหม่อมองไปยังสนามหลังบ้านซึ่งอยู่ติดกับทิวป่าสนหนาทึบ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกกอดจากด้านหลัง
“อย่าค่ะท่าน!.....”จองอาร้องขึ้นพร้อมหันหลังกลับไปยังผู้รุกราน แต่ต้องตกใจเมื่อคนที่เห็นไม่ใช่บุรุษที่เธอเอ่ยนามเมื่อกี้
“ยุนนา!” จองอาร้องอย่างตกใจ
“ทำไม เสียใจที่ไม่ใช่ไอ้แก่นั่นหรอ” ยุนนากล่าวพลางซุกไซร้ไปตามแก้มนวลและซอกคอขาว
“อย่านะ...เดี๋ยวเขาขึ้นมา” จองอาร้องห้าม ก่อนที่ยุนนาจะหัวเราะ ฮึๆ ในลำคอ
“ไม่ต้องห่วง หมอนั่นออกไปแล้ว เมื่อผัวไม่อยู่ ชู้ก็ต้องทำงานแทนสิ” ยุนนาพูดประชด นั่นกลับทำให้จองอายิ่งขัดขืนจนสะบัดตัวหลุดจากการกอดรัดได้ และตบเข้าที่หน้าของยุนนาอย่างแรง ยุนนามองจ้องจองอาอย่างดุดันจนเธอกลัวจึงรีบเดินหนี แต่ก็ถูกอีกคนรั้งเรียวแขนเล็กไว้จนตัวโยน ยุนนาลากจองอามาที่เตียงและผลักเธอลงไป ก่อนจะทาบทับร่างบางพร้อมตรึงแขนสองข้างไว้ จองอาพยายามดิ้นรนขัดขืน
“พอทีเถอะยุนนา” จองอาร้องห้าม ก่อนจะสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงหยดน้ำใสที่ล่วงหล่นกระทบใบหน้า เป็นน้ำตาของยุนนานั่นเอง จองอารู้สึกสบสนและสะเทือนใจกับภาพที่เห็น
“ยุนนา” จองอาเอ่ยเรียกอย่างห่วงหา ก่อนที่ยุนนาจะซบลงกับอกอิ่มแล้วสะอื้นไห้ จองอางุนงงกับพฤติกรรมของยุนนามาก หากแต่เมื่อเห็นน้ำตาของคนรักเธอก็อดที่จะปลอบประโลมไม่ได้ แม้จะไม่รู้ก็ตามว่าทำไม เธอใช้มือทั้งคู่กอดร่างของยุนนาไว้ พร้อมลูบผมยุนนาอย่างเอ็นดู ยุนนาสัมผัสได้ถึงมืออ่อนโยนที่ลูบผมเธออยู่ จึงเงยหน้ามองสบตาจองอา เธอส่งสายตาตัดพ้อและเว้าวอน
“ทำไม...ทำไมถึงไม่ใช่ฉัน” ยุนนาพูดอย่างน้อยใจ จองอาได้แต่ทำหน้าเศร้า รู้สึกสงสารคนตรงหน้าจับใจ เธอเอื้อมมือไปลูบใบหน้าที่เปียกปอนไปด้วยน้ำตา และโน้มตัวไปจูบเปลือกตาฉ่ำอย่างอ่อนโยน ก่อนจะจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปากบาง แม้ไม่มีคำพูดใดๆจากปากของจองอา แต่ยุนนาก็สัมผัสได้ถึงความรักที่เธอถ่ายทอดมา หากแต่ใจที่เจ็บช้ำของยุนนาก็ยังสับสน เธอไม่สามารถเชื่อสิ่งใดจากผู้หญิงคนนี้ได้อีกแล้ว แต่แค่เพียงเวลานี้เท่านั้น ยุนนาอยากจะลืมทุกสิ่งและดื่มด่ำกับความหอมหวานตรงหน้า แม้มันจะเป็นเพียงภาพมายาก็ตาม
ขณะเดียวกันโจอึนก็เดินทางมาถึงที่หมาย เขาเข้าไปในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ก่อนจะเดินไปยังฟอร์นของโรงแรม หลังรับกุญแจก็เดินไปยังห้องที่เปิดไว้ เมื่อเข้ามาในห้องเขานั่งลงสักพักก่อนจะมองนาฬิกาและลุกไปเปิดประตูเชื่อมระหว่างห้อง ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังรอคอยการมาของเขาอยู่
“มาแล้วหรอ นั่งสิ” โจอึนนั่งลงตามคำเชิญ
“ขอโทษด้วยครับที่มาช้า” โจอึนกล่าวอย่างนอบน้อม
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ คุณก็คงลำบากมาก พวกนั้นเริ่มขยับใกล้เข้ามาแล้ว จะทำอะไรก็ต้องระวังหน่อย” หญิงมีอำนาจกล่าวเสียงเรียบ
“ครับ แต่พวกนั้นยังไม่ระแคะระคายเรื่องของท่านผมมั่นใจ” โจอึนเอ่ย คนฟังถึงกับเลิกคิ้วขึ้น
“เรื่องนั้นฉันไม่มั่นใจนักหรอกนะ” เธอกล่าว
“ไม่มีการติดต่อจากสายของเรามาระยะหนึ่งแล้ว” เธอกล่าวเสริม โจอึนถึงกับตกใจ
“นี่หมายความว่า มันรู้เรื่องเราแล้วหรอครับ” โจอึนถามเสียงตื่น
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เธอตอบด้วยน้ำเสียงกังวล แล้วทั้งคู่ก็อยู่ในอาการเครียดสักพัก
“เจ้า ผบ. หน้าอ่อนนั่น...มันน่ารำคาญจริงๆ” เธอเอ่ยขึ้น เกือบจะเหมือนบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่ก็ดังพอให้โจอึนได้ยิน
“ให้ผมจัดการดีไหมละครับ” โจอึนเสนอ แต่เธอกลับยกมือขึ้นปราม
“ยังก่อน ตอนนี้อย่าเพิ่งทำอะไรดีกว่า เรื่องสารวัตรนั่นฉันยังเคลียร์ไม่เสร็จเลย” เธอให้เหตุผล
“ทางที่ดี ควรเก็บเนื้อเก็บตัวให้มาก คงทำงานลำบากหน่อย ยังไงก็ระวังด้วยละ” เธอฝากฝัง
“ครับ เรื่องนั้นท่านไม่ต้องห่วง” เขารับปากพร้อมโค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนที่การสนทนาจะเสร็จลง โจอึนจึงออกจากโรงแรมไป
“ครับ ตอนนี้เขาออกไปแล้ว” ชายคนหนึ่งที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่กำลังรายงานไปยังปลายสาย
“เข้าใจแล้ว ช่วยเช็คชื่อแขกทั้งหมดที่พักในวันนี้ด้วยนะ” อีซานสั่งการก่อนจะกดวางสาย
“ให้ตายเถอะ ลื่นเป็นปลาไหลจริงๆ ยังไงฉันก็จะจับพวกแกให้ได้” อีซานกล่าวกับตัวเอง
ภายในห้องสลัวร่างอรชนทั้งสองยังไม่ผละออกจากกัน ดั่งผีเสื้อที่ยังไม่ตัดใจจากรสหวานของดอกไม้ ต่างเคล้าคลอกันอยู่บนเตียง
“ฉันจะวาดรูปเธอ” ยุนนากล่าวพลางพรมจูบไหปาหล้าได้รูปของจองอา เธอส่งสายตาเป็นเชิงถามกับยุนนา
“เขาอยากให้ฉันวาดรูปเธอ สามีของเธอน่ะ” ยุนนาบอก หากแต่คำว่า “สามี” มันทิ่มแทงใจทั้งคู่ จองอาจึงกอดร่างของยุนนาให้โน้มลงมาซบอกอิ่ม
“เธอจะ...ทำจริงหรอ” เธอถามพลางลูบผมของยุนนาอย่างอ่อนโยน
“เธอไม่อยากให้ฉันทำหรอ” ยุนนาถามกับอกอิ่ม หากแต่ไม่มีเสียงตอบใดๆ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองจองอา ยุนนามองสบตาอย่างเว้าวอนขอคำตอบ จองอายิ้มบางพร้อมส่ายศีรษะเล็กน้อย เป็นคำตอบว่า “ไม่ใช่” แต่ใจจริงแล้วเธอไม่อยากให้ยุนนาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับโจอึนเลย แต่มันก็เป็นทางเดียวที่จะได้ใกล้ชิดยุนนา เธอรู้สึกว่าตัวเองช่างเห็นแก่ตัวนัก ที่เอาเปรียบคนรักถึงเพียงนี้ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของจองอาก็ดังขึ้น เธอจึงลุกขึ้นไปรับ
“เขากลับไปรึยัง” คนปลายสายถามทันทีที่เธอรับ
“ใครรึค่ะ” จองอาถามอย่างสงสัย
“ยุนนายังไงล่ะ นี่เธอไม่ได้ลงไปดูแลเขาหรอ” โจอึนซัก
“ขอประทานโทษด้วยค่ะท่าน ฉันรู้สึกเพลียมากเลยไม่ได้ลงไป” จองอาตอบ โจอึนได้ฟังก็เงียบไปสักครู่
“ไม่เป็นไร พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันก็ถึงบ้านแล้วล่ะ ไปถึงก็รู้ แค่นี้ล่ะนะ” โจอึนกล่าวก่อนวางสาย จองอาได้ยินดังนั้นก็ลนลาน
“เขาจะกลับมาแล้ว เธอรีบลงไปซะ…เร็ว!” จองอากล่าว
“เดี๋ยวๆ” ยุนนาร้องพลางลุกขึ้นแต่งตัวอย่างรีบร้อน ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น จองอามองประตูหน้าซีด รีบผลักร่างยุนนาไปยังระเบียงและปิดประตูบังไว้ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องด้วยอาการเรียบเฉย
“ขอโทษครับคุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าคุณเห็นคุณหนูซิน แขกท่านโจอึนไหมครับ ผมหาเธอไม่พบเลย” เป็นพ่อบ้านนั่นเอง
“ไม่นี่ ฉันอยู่ในห้องตลอดน่ะ” จองอากล่าวสีหน้าเรียบ
“ยังงั้นหรอครับ ต้องขอโทษด้วยครับที่รบกวน” พ่อบ้านกล่าวแล้วจึงโค้งน้อยๆก่อนจะเดินจากไป จองอาปิดประตูลง แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูให้อีกคนที่ยืนซ่อนตัวอยู่นอกระเบียง
“เธอรีบลงไปข้างล่างเถอะ พวกเขาตามหาเธอกันใหญ่เลย” จองอาบอก ยุนนาพยักหน้ารับและรีบออกจากห้อง เดินหลบสายตาคนไปยังห้องสมุดที่ที่ตนควรจะอยู่ ไม่นานโจอึนก็กลับถึงบ้าน
“อะไรกัน คนทั้งคนจะหายไปได้ยังไง” โจอึนโวยวายทันทีที่ทราบเรื่องจากพ่อบ้าน เขารีบเดินจ้ำๆไปยังห้องสมุด แล้วกวาดสายตามองไปทั่วห้อง ทันใดก็ปรากฏร่างของยุนนาเดินออกมาจากซอกหนังสือ เธอกำลังดูหนังสือเล่มหนึ่งอย่างเคร่งเครียด อีกทั้งในหูทั้งสองข้างยังใส่หูฟังไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองโจอึนที่ยืนมองเธออยู่อย่างแปลกใจ เธอจึงถอดหูฟังออก
“คุณเรียกฉันหรือค่ะ?” ยุนนาถาม
“ไม่มีอะไรหรอก พ่อบ้านฉันเขาหาเธอไม่เจอนะ” โจอึนตอบ พลางหันไปมองพ่อบ้านอย่างตำหนิ
“เอ๊ะ...หรอค่ะ ฉันก็อยู่ในนี้ตลอดเลยนะค่ะ สงสัยเพราะฉันนั่งอ่านหนังสืออยู่ในหลืบนั่นนะค่ะ แถมยัง...เจ้านี่อีก” ยุนนาบอกพลางยกหูฟังขึ้นประกอบ เพื่ออธิบายว่าไม่ได้ยินเสียงใคร
“ต้องขอประทานโทษจริงๆครับ เพราะผมสะเพร่าเอง” พ่อบ้านกล่าวขอโทษพร้อมโค้งศีรษะ หากแต่ในใจยังกังขาอยู่ เพราะมั่นใจว่าตนหาในห้องนี้ดีแล้ว
“เอาเถอะๆ มืดค่ำป่านนี้แล้ว ทานข้าวด้วยกันนะยุนนา” โจอึนกล่าวเชื้อเชิญ ยุนนาจึงพยักหน้าน้อยๆ เป็นการตอบรับอย่างเกรงใจ จากนั้นทั้งสามก็มานั่งยังโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมหน้าในตำแหน่งเดิม หากแต่บรรยากาศต่างจากครั้งที่แล้วมาก
“จริงสิ อย่าลืมไปคิดดูดีๆนะ ยุนนา” โจอึนเอ่ยขึ้นขณะทานของหวาน ยุนนาลอบสบตากับจองอาก่อนที่จะหันไปยิ้มให้โจอึนเป็นการตอบรับ
“เรื่องอะไรหรอค่ะ” จองอาถามขึ้น แม้เธอจะรู้จากยุนนาแล้วก็ตาม แต่หากเธอเข้าใจไปก่อนที่โจอึนจะบอก เขาจะสงสัยได้
“วาดรูปนะ ฉันจะให้ยุนนาวาดรูปของเธอ” โจอึนกล่าวกับจองอาและยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน สร้างความเคืองขุ่นให้ยุนนาจนจองอาสังเกตได้ เธอจึงรีบเฉไปเรื่องอื่น
“อาหารอร่อยไหมคะ” จองอาถามคนหน้าบึ้งตรงหน้า โจอึนเลยหันมาทางยุนนาบ้างเธอจึงรีบเปลี่ยนสีหน้า
“อร่อยมากค่ะ” ยุนนาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นบทสนทนาแห่งความเสแสร้งก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ยุนนาจะขอตัวกลับบ้านไป

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

After School ตอนที่ 17

After School
ตอนที่ 17

มงโดกำลังงุ่นง่านเดินไปเดินมาอยู่ภายในบ้าน เพราะตอนนี้ลูกศิษย์ตัวดียังไม่กลับถึงบ้าน
“ให้ตายเถอะ ไปทำอะไรของเขาอยู่นะ ป่านนี้แล้ว” มงโดบ่นกับตัวเอง อีซานที่ทนรำคาญไม่ไหวจึงพูดขึ้น
“ถ้าห่วงนัก ทำไมไม่โทรเข้ามือถือซะเลยล่ะ” อีซานเสนอ
“บ้าหรอ ถ้ายัยนั่นยังอยู่กับมันล่ะ” มงโดตอบ
“ไม่หรอกฉันมั่นใจว่าเธอออกจากบ้านมันมาแล้ว คนที่เผ้าอยู่แถวนั้นรายงานฉัน” อีซานบอกข้อมูลที่รู้มา
“แล้วทำไมไม่บอกเล่า” มงโดขึ้นเสียงโมโหเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์กดโทร.ไปหายุนนา
“นั้นเธออยู่ที่ไหนนะ เสียงอะไรเนี่ยทำไมดังจัง นั่นเสียงเพลงหรอ” มงโดยิงคำถามเป็นชุดเมื่อยุนนารับสาย
“จารย์ หนูอยู่กับเพื่อน ฮ่าๆๆๆเพื่อนใหม่สดๆร้อนๆเลย” เธอตอบไม่เป็นภาษานักเพราะฤทธิ์เหล้า
“นี่เธอเมาหรอ ให้ตายเถอะ เธออยู่กับใครหะ? อยู่ที่ไหนยัยบ้าเอ้ย” มงโดตะโกนใส่โทรศัพท์ แต่คนฟังกลับไม่สะทกสะท้านได้แต่ตอบกลับไม่เป็นภาษา
“เอาโทรศัพท์ให้เพื่อนใหม่เธอพูดซิ” มงโดจึงบอกให้เธอยื่นโทรศัพท์ให้ผู้ชายที่นั่งดื่มกับเธอ รับรับมาอย่างงงๆ
“ฟังไว้ให้ดีนะ ฉันมีวิธีที่จะรู้ได้แน่ๆว่าแกเป็นใครและมีอาชีพอะไรหรือครอบครัวแบบไหน แต่ที่แกไม่รู้ก็คือฉันสามารถทำให้แกเห็นนรกได้เลยถ้าแกแตะเธอแม้แต่ปลายก้อยละก็ บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเธออยู่ที่ไหน” มงโดพูดขู่อย่างเลือดเย็น จนคนฟังหน้าซีดรีบบอกที่อยู่ไป หลังวางสายเขาก็ผละจากเธอและรีบออกจากร้านไปทันที มงโดเองเมื่อรู้ที่อยู่ก็หุนหันออกไป เขาตรงไปยังผับที่ชายคนนั้นบอก เมื่อเข้าสู่ภายในมงโดก็ตรงไปยังบาร์
“นี่เห็นผู้หญิงผมสั้นๆตัวเล็กไหม” มงโดถามกับบาร์เทนเดอร์คนหนึ่ง
“อ้อครับ เธอนั่งดื่มกับผู้ชายคนหนึ่งตรงนี้สักพักใหญ่ที่เดียว” บาร์เทนเดอร์บอกพลางชี้ตำแหน่งที่ยุนนาเคยนั่ง
“แล้วตอนนี้ไปไหนซะล่ะ” มงโดถามต่อ
“ไม่ทราบครับ แต่รู้สึกผู้ชายจะลุกไปก่อนนะครับ แล้วสักพักเธอก็หายไป” บาร์เทนเดอร์บอก นั่นไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ แต่มงโดก็วางใจว่ายุนนาไม่ได้ออกไปกับชายคนนั้น เขาครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะเดินตามหาเธอไปรอบๆ เขามั่นใจว่าเธอยังอยู่ในนี้ พร้อมทั้งโทรหาเธอหากแต่ไม่มีใครรับสาย
ขณะเดียวกันยุนนาที่ลุกจากบาร์กำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่ชนเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่ง
ยุนนาเอือมมือไปประคองอีกฝ่ายอย่างอัตโนมัติเมื่อปะทะกัน
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวอุทานออกมา
“ไม่เป็นไร ถ้าโดนคนสวยอย่างคุณชน ต่อให้ต้องล้มตึงฉันก็ยอม” ยุนนาหยอดคำหวาน หญิงสาวจึงมองสบตาอย่างท้าทาย
“ปากหวานจัง ไม่รู้เพราะเมาถึงได้ปากหวานหรือปากของคุณหวานอยู่แล้วกัน” เธอถามพลางยกมือขึ้นแตะริมฝีปากยุนนา ยุนนายิ้มก่อนจะกุมมือเธอไว้
“ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองชิมเอาเอง” ยุนนาพูดอย่างมีเลศนัยพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ก่อนที่ทั้งคู่จะหลบเข้ามุมมืดของห้องน้ำและจูบกันอย่างนัวเนีย
ขณะนั้นเองมงโดที่เดินดูจนทั่วฮอลล์แล้ว จึงเดินเข้าไปดูแถวห้องน้ำ เขาสอดส่ายสายตาไปทั่ววระหว่างทางเดินเข้า ก่อนจะหยุดอยู่หน้าประตูห้องน้ำหญิงเพื่อชั่งใจสักพัก แล้วจึงตัดสินใจก้าวเข้าไป ผู้หญิงในห้องน้ำต่างตกใจ เขาจึงรีบกวาดสายตาให้ไว แล้วก็ไปพบเข้ากับแผ่นหลังคุ้นตา ที่ตอนนี้กำลังยืนนัวเนียกับผู้หญิงคนอีกคนอยู่ เขาเดินเข้าไปลากคอยุนนาทันที ยุนนาหันมาอย่างตกใจ ก่อนจะกระโดดดีใจที่เห็นอาจารย์ของตน
“จารย์ โหจารย์มาได้ไง” เธอกระโดดเกาะเขาเหมือนหมีโคอาล่าเกาะต้นไม้ หญิงสาวอีกคนได้แต่มองพวกเขาอย่างตกใจ มงโดเองก็ส่งสายตาตำหนิเธอ
“โธ่...มีผัวแล้วก็ไม่บอก” หญิงสาวเดินออกมาอย่างเสียอารมณ์ มงโดได้แต่ทำหน้างงหันตามเธอ และสักพักก็รู้สึกว่าตนกำลังเป็นเป้าสายตาของผู้หญิงในห้องน้ำจึงรีบเดินออกมาทั้งที่ยุนนายังเกาะเขาอยู่อย่างนั้น ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านยุนนาก็ไม่ปล่อยเขาซักที
“นี่ยัยบ้า เธอจะเกาะเป็นลิงแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่” มงโดบ่น
“จาเกาะ จาเกาะ” ยุนนาตอบเสียงยาน
“ลงมาก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันแบกเธอไปเอง เกาะแบบนี้ไม่เมื่อยหรือไง” มงโดเสนอ ยุนนาจึงยอมลงแล้วมงโดก็แบกเธอขึ้นหลัง ท่านี้ทำให้ยุนนานอนหลับได้สบายทีเดียว
“อ้าอาจารย์เหมือนพี่ฉันเลย เขาก็ชอบให้ฉันขี่หลาง” ยุนนาบอกเสียงยานแล้วสักพักก็สะอื้นไห้ออกมา
“เพราะฉันๆ พี่ต้องมาเจอแบบนี้ เพราะฉันไม่ดีเองจองอาถึงทิ้งฉันไป เพราะฉันทุกอย่างเลย” ยุนนาคร่ำครวญ
“เฮ้ยๆ มันไม่เกี่ยวกับเธอหรอกนะ เรื่องพี่ชายของเธอนะ และโดยเฉพาะเรื่องยัยผู้หญิงคนนั้นยิ่งไม่เกี่ยวใหญ่เลย ยัยนั่นนะ ก็แค่ผู้หญิงหลอกลวงคนหนึ่งเท่านั้นเอง” มงโดพูด และรู้สึกแปลกใจที่ยุนนาไม่ตอบโต้อะไรที่เขาว่าจองอา เพราะปกติเธอจะไม่ยอมให้เขาพูดเรื่องเสียหายถึงหล่อน หากแต่ตอนนี้คนฟังหลับไปแล้วประโยคเมื่อกี้จึงไม่มีผลอะไร
“ให้ตายเถอะ เด็กหนอเด็ก” เขาพูดอย่างอ่อนใจ
รุ่งเช้ายุนนาตื่นขึ้นด้วยอาการงงบวกปวดหัวตุ๊บๆ เธอยกมือขึ้นกุมขมับ
“อ้าวตื่นแล้วหรอ” มงโดร้องทักเมื่อเห็นเธอลุกขึ้นนั่งบนโซฟา พร้อมทั้งเอาขวดน้ำเย็นเฉียบไปแนบที่หน้าเธอ
“จ๊ากก” ยุนนาร้องเสียงหลงจากความเย็น พร้อมทั้งอาการปวดขมับที่เข้าโจมตี จนเธอต้องเอามือทั้งสองกุมขมับไว้ไม่ห่าง
“จารย์เล่นบ้าไรเนี่ย” เธอบ่นใส่มงโด เขาจึงเดินไปนั่งยังโซฟาฝั่งตรงข้าม
“อะไรเล่นคนอุตส่าห์เอาน้ำมาให้ จะขอบใจก็ไม่มี แล้วรู้ไหมใครแบกเธอมาจากผับบ้านั่น นี่ถ้าฉันไม่ตามไปป่านนี้เธอโดนรุมโทรมไปแล้ว เอ่อ..ไม่สิ ฉันว่าเธอต่างหากที่จะโทรมเขา” มงโดเปลี่ยนคำตอนท้ายเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน พอดีกับที่อีซานเดินมาเห็นทั้งคู่คุยกัน
“ยุนนาตื่นแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง” อีซานรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง เขานั่งลงข้างๆเธอ พยายามจะอังหน้าผากดูอาการ หากแต่ก็โดนเธอบัดมือหนี เขาตกใจกับท่าทีของเธอมาก
“ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงฉันหรอก พี่ไม่สนอยู่แล้วนี่ว่าฉันจะเป็นยังไง แค่ทำตามที่พี่ต้องการก็พอ ฉันจะเป็นยังไงก็ช่างมันใช่ไหม” ยุนนาระบายอย่างเหลืออด อีซานถึงกับหน้าเสีย
“ยุนนาฟังพี่ก่อน ที่จริงแล้วพี่ก็...” อีซานพยายามจะอธิบายแต่เธอก็สวนขึ้น
“พี่ก็ทำไม พี่จะบอกว่างานของพี่มันสำคัญกว่าความรักโง่ๆของฉันใช่ไหม พี่ถึงหลอกใช้ฉันแบบนี้” ยุนนาตะคอกใส่อีซาน มงโดที่ฟังอยู่ก็เหลืออด
“ใช่ ความรักของเธอมันโง่เง่าสิ้นดี ไม่ต้องไปโทษซานหรอก ฉันเองนี่แหละที่ไม่บอกเธอ เพราะฉันรู้นะสิ หากเธอรู้คงทำมันพังหมดแน่ๆ ตอนนี้เธอหลงยัยนั่นจนลืมแม้กระทั่งพี่และครอบครัวตัวเองไปหมดแล้ว” มงโดพูดแทงใจดำเธอ ยุนนาถึงกับกัดฟันสะกดอารมณ์ ก่อนจะทุบโต๊ะดัง ปัง! จนชายทั้งสองมองเธออย่างหวาดๆ
“เท่าไหร่แล้ว....นานเท่าไหร่แล้วที่รู้” ยุนนาถามเสียงเข้ม
“เฮ้อ....หลังจากที่ยุนโฮปาดเจ็บไม่นานนักหรอก” มงโดตอบอย่างอ่อนใจ
“นั่นมันตั้งแต่แรกเลยนี่ แล้วทำไมอาจารย์ถึงไม่บอกหนู” ยุนนาท้วงเสียงดัง
“แล้วเธอจะเชื่อไหมล่ะถ้าฉันบอกเธอ เธอจะยอมฟังฉันแล้วเลิกกับแม่นั่นงั้นหรอ” มงโดถามจี้ใจ ยุนนาถึงกับตอบไม่ได้ เพราะจริงอย่างที่มงโดพูด เธอคงไม่เชื่อเขาแน่ๆ ความรักที่มีให้จองอามันมากมายเกินกว่าจะตัดใจได้
“อะไรบ้างที่อาจารย์รู้” ยุนนาถามเสียงอ่อน มงโดครุ่นคิดสักครู่
“ฉันว่าเธออย่ารู้ดีกว่า” เขาตอบ นั่นทำให้ยุนนาอารมณ์ขึ้นอีกครั้ง
“ทำไม ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้นี่” ยุนนาร้องบอก
“ก็ได้แต่เธอต้องเล่าเรื่องที่ไปบ้านโจอึนมาก่อน ซานเขารอฟังอยู่ รับผิดชอบต่องานที่ตัวเองทำหน่อยสิ” ยุนนาได้ยินดังนั้นถึงกับทำหน้ามุ่ยและหันไปค้อนใส่อีซานที่ทำหน้าลำบากใจอยู่
“ก็ได้...เจ้าหมอนั่นบ้านใหญ่ชะมัด” ยุนนาพูดขึ้น
"เรื่องนั้นเรารู้ ช่วยบอกอะไรที่มองจากข้างนอกไม่เห็นได้ไหม" มงโดพูดใส่
"อืม ข้างในก็กว้าง มีหลายห้องดี แล้วก็...ใช่ๆมันพาฉันไปห้องสมุด อ้าในนั้นหนังสือเพียบเลย หนังสือดีๆหายากทั้งนั้น หนังสือรวมภาพของศิลปินต่างๆก็มีนะจารย์ แล้วก็มีทั้งภาพวาดและรูปปั้นเต็มห้องเลย เหมือนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเลย" ยุนนาเล่าอย่างตื่นเต้น
"โฮ...งั้นหรอ ดูท่าเจ้าหมอนี่คงคลั่งงานศิลป์นะ" มงโดวิเคราะห์
"ใช่ โจอึนมักเดินทางไปประมูลงานศิลป์ต่างๆ รอบโลกเลย และมักให้มันเป็นของขวัญกับคนรู้จักด้วย" อีซานบอกข้อมูลที่ทราบมา
"ของขวัญหรอ....อ้า! ตายห่า หนังสือ!" ยุนนาร้องอุทานขึ้นเมื่อนึกถึงหนังสือที่โจอึนให้มาเมื่อคืน
"หนังสืออะไร" มงโดถาม
"เมื่อคืนหมอนั่นให้หนังสือภาพฉันยืมน่ะ แต่ฉันลืมไว้ในรถเขา" ยุนนาบอก
"ก็ดีแล้วนี่ จะได้หาโอกาสเข้าไปใหม่" มงโดเสนอ
"ดีบ้าไรล่ะ ฉันเอารูปจองอาที่วาดเล่นบนรถสอดเข้าไปในเล่มนั้นนะสิ" ยุนนาบอก
"หา!" มงโดและอีซานอุทานออกมาพร้อมกัน
ขณะเดียวกัน ณ บ้านของโจอึน เขากำลังทานอาหารเช้าอยู่ พ่อบ้านก็เดินนำหนังสือเล่มหนึ่งมามอบให้
"อะไรหรอ" โจอึนถาม
"เป็นหนังสือที่คุณหนูคนเมื่อคืนลืมไว้นะครับ" พ่อบ้านตอบ โจอึนรู้สึกแปลกใจ เขากำลังคิดว่ายุนนาเผลอลืมไว้จริงหรือจงใจลืมมันไว้กันแน่ จึงเปิดออกสำรวจก็พบกระดาษแผ่นหนึ่งสอดอยู่ในหนังสือ เพียงแวบแรกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนในรูปคือจองอาเมียรัก จึงตัดสินใจโทรศัพท์ออกไปหายุนนาทันที
ฝั่งบ้านของมงโด ทุกคนต่างเงียบงันจากการรับรู้ความสะเพร่าของยุนนาและคิดว่าแผนคงแตกแน่แล้ว ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"แหกๆ!" ยุนนาอุทาน ทุกคนจึงหันไปมองยังต้นเสียง เป็นมือถือของเธอนั่นเอง พวกเขาต่างมองหน้ากันก่อนที่ยุนนาจะกลั้นใจรับ
"สวัสดีค่ะ" ยุนนาทักเสียงสั่น
"โอ้...นั่นยุนนาหรือเปล่า ฉันคิมโจอึนนะ" โจอึนรีบถามยืนยันตัวบุคคล
"ค่ะ ใช่ค่ะ คุณคิมมีอะไรให้ฉันรับใช้หรอคะ" ยุนนาพยายามควบคุมสติ
"ไม่หรอก...ฉันแค่จะโทรมาบอกเธอว่า...เธอลืมหนังสือไว้ในรถนะ" โจอึนเริ่มเข้าเรื่อง
"หนังสือ? โอ้หนังสือเล่มนั้น อ้านี่ฉันลืมหรอค่ะเนี่ย แย่จริงๆ" ยุนนาแสร้งพูด
"แต่ว่านะ...เธอไม่ได้ลืมแค่หนังสือหลอกนะ" โจอึนพูดเสียงเข้ม ยุนนารู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมาทันที
"พอดีฉันเปิดเจอภาพภาพหนึ่ง...ภาพนี้เป็นรูปของจองอาใช่ไหม" โจอึนถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยุนนาถึงกับหน้าซีด
"เอ๊ะ...คุณมองเป็นเธอหรอค่ะ" ยุนนาแถ
"หือ? แล้วไม่ใช่หรอกหรือ" โจอึนสงสัย
"อ้อ ก็ไม่เชิงค่ะ นั่นเป็นภาพสเก็ตนะค่ะ พอดีฉันกำลังฝึกวาดภาพที่ทำให้คนมองรู้สึกว่าคนในภาพคือคนที่เขารู้จักนะค่ะ แหมไม่น่าเชื่อว่าคุณจะมองเห็นเป็นเธอ" ยุนนาแถไปยกใหญ่
"ยังงั้นหรอ อ้าเป็นยังงี้นี่เอง ถ้าอย่างงั้นเธอก็มีฝีมือมากเลยนะยุนนา นี่ขนาดภาพสเก็ตเฉยๆ ถ้าเธอวาดภาพนี้ได้สำเร็จ ฉันว่ามันต้องเป็นภาพที่โด่งดังไม่แพ้โมนาลิซ่าแน่ๆ" โจอึนพูดอย่างพอใจ ยุนนาก็ได้แต่หัวเราะแฮะๆ
"ถ้ายังงั้นฉันจะเก็บมันไว้ให้นะ ทั้งสองอย่างเลย เธอจะมาเอาเมื่อไหร่ก็ได้" โจอึนพูดก่อนจะวางสายไป ยุนนาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่เธอแถจนรอดมาได้ ชายหนุ่มทั้งคู่ได้แต่มองลุ้นไปกับเธอ
"เป็นยังไง เขารู้ไหม" มงโดถาม
"ฝีมือระดับนี้ แถขั้นเทพ" ยุนนาพูดยอตัวเอง มงโดเห็นแล้วหมั่นไส้เดินไปตีลงหน้าผากเธอ
"นี่ไงแถขั้นเทพ ทำอะไรให้มันระวังหน่อย ดีนะที่แผนไม่แตก" มงโดเอ็ดใส่เธอ
"เอาน่าๆ ยังไงก็ผ่านมาได้แล้ว ว่าแต่ยังมีอะไรเล่าอีกไหมยุนนา" อีวานพูดตัดบท เพราะต้องการข้อมูลอีก
"อืม...หมอนั่นพยายามชวนฉันไปบ้านเขาอีกตลอดเลย" ยุนนาพูดขึ้น
"เฒ่าหัวงูชัดๆ" มงโดเอ่ยขึ้น
"ไม่หรอก ฉันว่าเขาคงอยากรู้จักเธอมากขึ้น ดูว่าเธอไว้ใจได้รึเปล่า เพื่อใช้ให้ทำงานไง" อีซานเสนอ
"ฉันเห็นด้วยกับพี่นะ หมอนั่นดูจะเป็นคนที่อ่านท่าทีของคนอื่นตลอดเวลา ฉันว่าเขาช่างสังเกตและรอบคอบมากทีเดียว แถมยังมีจิตวิทยาในการหว่านล้อมด้วย เมื่อวานนี้ก็พูดเยินยอฉันตลอดเลย" ยุนนาสมทบพร้อมอธิบาย
"คิมโจอึนนะฉลาดเป็นกรดเชียวล่ะ พี่พยายามส่งสายสืบเข้าไปหลายคนแล้ว แต่โดนจับได้ตลอดเลย ถ้าไม่ใช่ทางโจอึนเก่งก็คงเพราะทางพี่มีหนอนบ่อนไส้นะแหละ แต่ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องหนอนพี่จัดการไปแล้ว" อีซานกล่าว
"แล้วฉันจะรอดไหมเนี่ย" ยุนนาพูดอย่างหวาดหวั่น
"ก็ถ้าเธอไม่ไปเจ๊าะแจ๊ะแม่นั่น เธอก็ไม่เป็นอะไรหรอก" มงโดพูดดักคอ ยุนนาได้แต่มองหน้าค้อน ก็มันห้ามใจได้ที่ไหนล่ะ เพียงเห็นหน้าเธอก็แทบอยากจะกระโจนเข้าหาทันทีแล้ว
"แล้วจะเอาไงต่อไป" มงโดถามถึงแผนขั้นต่อไป
"ไม่เอาไงหรอก จะไปเอา...รูป" ยุนนาตอบพลางยิ้มกรุ่มกริ่ม มงโดชี้โพรงให้กระรอกซะแล้ว แต่จะว่าไปถึงไม่มีใครชี้โพรงให้ เจ้ากระรอกตัวนี้มันก็คงหาโพรงจนเจอให้ได้อยู่ดี ^_^