ตอนที่ 10 หนีไปกับรัก (Gone with Love)
หลังกลับจากแดกู ดาราสาว มุน แชวอน ก็ได้ถ่ายทำละครจนเสร็จลงด้วยดี ทางทีมงานจึงจัดงานเลี้ยงปิดกล้องและเชิญทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับละครเรื่องนี้มาร่วมงาน รวมถึงอัญชันที่ต้องตามมาเป็นเพื่อนดาราสาว
“เอ้าๆดื่มเยอะๆเจ้าตัวเล็ก” เหล่าทีมงานต่างรินเหล้าและตักอาหารมาให้อัญชันยกใหญ่ ร่างเล็กได้แต่ก้มขอบคุณและกินดื่มตามที่ทุกคนต้องการด้วยความเกรงใจ แชวอนที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักมองร่างเล็กด้วยความเอ็นดู คงเป็นเพราะความน่ารักและมีน้ำใจของอัญชันที่ทำให้คนทั้งกองต่างรักและเอ็นดูผู้ช่วยคนนี้ของเธอ แน่ละก็ขนาดเธอยังหลงรักเลย เมื่อคิดได้ดังนั้นใบหน้าของดาราสาวก็ถึงกับแดงฉ่า
“โอ้! แชวอน เมาแล้วหรอหน้าแดงเชียว” นักแสดงนำหญิงของเรื่องซึ่งนั่งอยู่ข้างๆทักขึ้น ทำให้ร่างบางต้องรีบขอตัวไปห้องน้ำทันที เพราะไม่อยากให้ใครจับได้ว่าเธอนั้นเมา(รัก) ระหว่างทางเดินไปห้องน้ำดาราสาวเอาแต่ก้มหน้าคิดเรื่องของคนตัวเล็กทำให้เธอไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับร่างของชายคนหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ
“โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ อ่ะ ...ผู้กำกับ” แชวอนกล่าวขอโทษด้วยความตกใจก่อนจะพบว่าคนที่เธอชนนั้นคือผู้กำกับนั่นเอง
“ว่ายังไง แชวอนคนสวย มาเข้าห้องน้ำหรอจ๊ะ” เขากล่าวอย่างกรุ้มกริ่มส่งสายตาหวานเยิ้มให้เธอ แชวอนได้กลิ่นเหล้าแรงจากเขาคาดว่าเขาคงจะดื่มไปเยอะ
“เอ่อ...ขอตัวก่อนนะค่ะ” ดาราสาวเห็นท่าไม่ดีจึงรีบผละตัว แต่กลับโดนผู้กำกับคว้าตัวเธอไว้และดันไปติดกับผนัง
“ผู้กำกับ!” เธอร้องด้วยความตกใจ
“ชู่....เด็กดี อยากเป็นนางเอกของฉันไหม ถ้าเธอได้เล่นหนังของฉันละก็ รับรองว่าเธอต้องดังเป็นพลุแตกแน่ๆ จะได้ไม่ต้องมาเล่นบทกระจอกๆแบบนี้อีกไงละ” เขาเกลี่ยกล่อมพร้อมกับล้วงเข้าไปใต้เสื้อของเธอ แชวอนจึงผลักร่างเขาออกไปสุดแรงจนเขาเซถลา
“คุณแชวอน อยู่นี่เอง ทุกคนเขาจะตัดเค้กแล้วนะค่ะ ฉันเลย....” อัญชันที่เดินมาถึงพอดีทักขึ้นอย่างไม่ล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ แต่ไม่ทันได้พูดจบร่างบางก็ลากเธอออกมาและตรงขึ้นรถขับออกไปทันที ร่างเล็กได้แต่งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“คุณแชวอน? มีอะไรรึเปล่าค่ะ? คุณ...เป็นอะไรรึเปล่า?” อัญชันถามด้วยความเป็นห่วง แต่ดาราสาวกลับนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอโทษนะค่ะ คุณเลยไม่ได้อยู่ต่อ” แชวอนกล่าวกลบเกลื่อนด้วยไม่อยากให้อีกคนเป็นกังวล
“คุณแชวอนไม่สบายหรือค่ะ เป็นอะไรมากไหมค่ะ ไปหาหมอกันดีไหม?” ร่างเล็กลนลานถาม ดาราสาวได้ยินดังนั้นก็จอดรถข้างทางทันที ก่อนจะโผเข้ากอดร่างเล็กไว้ อัญชันที่อยู่ๆก็ถูกกอดได้แต่ตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก แต่สักพักก็รับรู้ได้ถึงร่างที่สั่นเทาของดาราสาว เหมือนดั่งเธอหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ร่างเล็กจึงสวมกอดปลอบประโลมเธอ มือน้อยค่อยๆลูบไปที่แผ่นหลังของร่างบางอย่างอ่อนโยน
เช้าวันต่อมาเอื้อเฟื้อตื่นเช้าเช่นเคย หลังทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยเขาก็มานั่งจิบกาแฟหน้าทีวีเพื่อรับข่าวสาร แต่เช้านี้เขาต้องสำลักกาแฟออกมาทันทีที่เปิดมาเห็นภาพข่าวอื้อฉาวของดาราสาว มุนแชวอน กับผู้กำกับชื่อดัง ที่ดูยังไงก็เหมือนทั้งสองกำลังกอดรัดกันอยู่
“ชะ ชะ ชัน ชันเว้ย ชัน!” เอื้อเฟื้อร้องลั่น อัญชันที่กำลังแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำจึงรีบวิ่งออกมาทันที
“อีอะไอ(มีอะไร)” เธอถามทั้งที่ฟองยังเต็มปาก เอื้อเฟื้อจึงชี้ไปที่ทีวี ทันทีที่ร่างเล็กเห็นภาพนั้นแปรงสีฟันในมือที่ถืออยู่ก็ล่วงลงพื้น ก่อนที่เธอจะวิ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
บริเวณหน้าคอนโดของดาราสาวมุนแชวอนคลาคล่ำไปด้วยเหล่าสื่อมวลชนที่มารอสัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพอื้อฉาวดังกล่าว ขณะเดียวกันภายในห้องของดาราสาว คุณจาง ฮโยจูและจินโฮ กำลังเดินวนไปมาอย่างเคร่งเครียด
“นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน ทำไมพี่ไม่หยุดมันไว้” ฮโยจูระเบิดอารมณ์ใส่จินโฮที่ยืนกุมขมับอยู่
“พี่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แล้วภาพนั่นก็ถูกโพสลงบนอินเตอร์เน็ตไม่ใช่หนังสือพิมพ์ พี่จะหยุดมันได้ยังไง” จินโฮอธิบาย
“อย่าโทษคุณปาร์คเลย มันเป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ระวังตัว ทั้งที่ความจริงเขาเข้ามาลวนลามฉัน แต่ภาพกลับออกมาเป็นแบบนี้” แชวอนรำพันเสียงเครือ ฮโยจูจึงเข้าไปปลอบเพื่อนสาว
“ฉันรู้ๆ ในวงการนี้ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าผู้กำกับลีน่ะมันหัวงูขนาดไหน ให้ตายเถอะฉันอยากจะฆ่ามันจริงๆ อย่าให้ฉันเจอหน้านะ” ฮโยจูปลอบก่อนจะกล่าวอาฆาต
“เดี๋ยวผมจะไปบริษัทคุยเรื่องการจัดแถลงข่าว ฝากดูทางนี้ด้วยนะครับคุณจาง” จินโฮกล่าวก่อนออกไป
“เฮ้อ..ไม่น่าเลยๆ แชวอนของเจ๊ มาโดนข่าวฉาวแบบนี้....ว่าแต่แม่อึนชันอยู่ไหนละเนี่ย นี่ถ้าไม่โทรไปเรียกก็จะไม่มาทำงานหรือไง” คุณจางกำลังจะกดมือถือเพื่อตามตัวผู้ช่วย แต่เสียงออดหน้าห้องกลับดังขึ้นเสียก่อน เขาจึงเดินไปดูว่าเป็นใคร
“ว้าย! ตายยากจริงๆแม่คนนี้” คุณจางกล่าวพลางเปิดประตูให้อัญชัน ร่างเล็กเดินตรงไปหาดาราสาว ทันทีที่เข้ามาข้างในก็พบเข้ากับภาพของร่างบางสะอื้นไห้อยู่กับเพื่อนสาว ก่อนที่ดาราสาวจะสังเกตเห็นร่างเล็ก เธอจึงรีบผละจากเพื่อนและเดินไปหาอัญชันทันที
“มัน มันไม่ใช่อย่างที่เห็นนะค่ะ ฉัน ฉัน........” ร่างบางพยายามอธิบายแต่ก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้จึงปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ร่างเล็กมองเธอด้วยใจที่ปวดร้าวเมื่อเห็นคนตรงหน้าร้องไห้อย่างเจ็บปวด
“ฉันเชื่อค่ะ ต่อให้มีภาพหรือคลิป ถ้าคุณบอกว่าไม่....ฉันเชื่อคุณค่ะ” อัญชันกล่าวอย่างอ่อนโยนพร้อมกุมมือร่างบางไว้
ณ บริษัทสตาร์เคย์ฯ จินโฮรีบเข้าไปพบผู้เป็นพ่อ ประธานบริษัททันทีที่มาถึง
“เราต้องแถลงข่าวเรื่องนี้นะครับ ข่าวในอินเตอร์เน็ตมันไปไวมาก ตอนนี้มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ เราจะต้องหยุดมัน” จินโฮกล่าวอย่างเคร่งเครียด
“.......ไม่ เราจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวข่าวมันก็เงียบไปเอง ปล่อยไปเถอะ” ประธานปาร์คผู้เป็นพ่อกล่าวอย่างเยือกเย็น
“อะไรนะครับ? ไม่ได้นะครับ ถ้าไม่แถลงข่าว คนทั้งประเทศจะคิดว่าแชวอนเป็นนักแสดงที่ยอมเอาตัวเข้าแลกแม้กับผู้กำกับที่แต่งงานแล้ว แบบนี้อนาคตของเธอก็จะจบ เราปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้นะครับ” จินโฮแย้ง
“แล้วเราจะทำอะไรได้ ทางสถานีว่าถ้าเราแถลงข่าวจะตัดสัญญากับดาราในสังกัดเราทุกคนและไม่ให้งานกับดาราของเราอีก! แกจะยอมให้ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เราตายกันหมดหรอ!” ประธานปาร์คอธิบาย จินโฮถึงกับตกตะลึงที่ได้ทราบข้อมูล
“แต่..แต่เธอเป็นดาราของเรา เราต้องปกป้องเธอซิครับ มันเป็นหน้าที่ของบริษัทต้นสังกัดอย่างเราไม่ใช่หรอ?” จินโฮให้เหตุผล
“แล้วถ้าบริษัทอยู่ไม่ได้แกคิดบ้างไหมว่าเราจะมีปัญญาที่ไหนไปปกป้องดารา กลับไปทำงานของแกซะ เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร” ประธานปาร์ครีบตัดบท จินโฮจึงต้องเดินออกมาอย่างหัวเสีย นี่คงเป็นเพราะผู้กำกับลีนั้นมีชื่อเสียงในการกำกับมาก หนังและละครของเขาได้รับรางวัลมากมายทางสถานีจึงเลือกที่จะปกป้องเขามากกว่าดาราสมทบอย่างแชวอน นี่ล่ะคือความสกปรกของวงการนี้ที่เขาแสนรังเกียจ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้
“เป็นยังไงบ้างค่ะ จะจัดแถลงข่าวเมื่อไหร่ ให้พวกเราออกไปเลยไหม?” ฮโยจูถามอย่างร้อนใจผ่านสายโทรศัพท์
“.....ทางสถานไม่ให้เราจัดแถลงข่าว เขาขู่จะตัดสัญญากับดาราของเราและไม่ให้งานกับดาราในสังกัดเราอีก” จินโฮตอบด้วยน้ำเสียงเจ็บใจ
“อะ...อะไรนะ? เขาทำแบบนี้ได้ยังไง ทุเรศที่สุด แบบนี้แชวอนก็เสียหายนะซิ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด!” ฮโยจูได้ยินก็โวยวายลั่น
“พี่จะลองเข้าไปคุยกับสถานีดูอีกที” จินโฮเสนอ
“งั้นฉันไปด้วย เจอกันที่สถานีนะค่ะ” ฮโยจูกล่าวสมทบก่อนจะวางสายและหันมายังแชวอนที่รอคอยฟังข่าว
“เอ่อ...คือ....พี่จินโฮกำลังไปที่สถานีน่ะ จะได้แถลงข่าวร่วมกันไง” ฮโยจูพยายามแถสุดชีวิตแต่แชวอนก็พอจะรับรู้ได้ถึงปัญหา เธอจึงได้แต่เดินเข้าห้องนอนไปอย่างสิ้นหวัง ร่างโปร่งเห็นท่าทีของเพื่อนสาวก็รู้สึกหดหู่ใจ
“นี่ยัยเตี้ย เดี๋ยวฉันกับคุณจางจะออกไปข้างนอก ฝากดูเพื่อนฉันด้วยละ” ฮโยจูกล่าวก่อนออกจากห้องไปพร้อมกับคุณจาง แม้ตัวเองจะไม่ชอบอัญชันแต่ในเวลานี้หล่อนเป็นเพียงคนเดียวที่จะสามารถปลอบใจเพื่อนสาวของเธอได้ ฮโยจูจึงต้องจำใจฝากเพื่อนรักไว้กับศัตรู(หัวใจ)
ณ สถานีโทรทัศน์ จินโฮที่เพิ่งมาถึงเดินตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการฝ่ายผลิต ชางแตซุน ทันที เขาเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากเลขาหน้าห้อง ภายในห้องนั้นเขาพบกับ ผู้กำกับลีหัวงูนั่งประจบสอพลออยู่ในนั้น
“โฮ่...ไม่พบกันนานนะคุณปาร์ค มีธุระอะไรถึงมาถึงนี่ได้ละ” ผอ.ชางกล่าวทักอย่างแสแสร้ง
“ผมมาเจรจาเพื่อขอจัดแถลงข่าวร่วมกับสถานี” จินโฮตรงเข้าประเด็นทันที
“แถลงข่าว? คุณหมายถึงการแถลงข่าวละครเรื่องใหม่ของทางสถานีที่ดาราในสังกัดคุณได้รับเลือกให้แสดงนำนะหรอ ไม่ต้องห่วงเรากำหนดวันแถลงข่าวและเตรียมงานกันเรียบร้อยแล้ว..............แต่ว่า บางทีในวันแถลงข่าวเราอาจจะต้องเปลี่ยนนักแสดงนำและดูเหมือนว่าอาจจะต้องเปลี่ยนกันหลายเรื่องเลย” ผอ.ชางขู่ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ไม่เอาน่าคุณปาร์ค คุณก็อยู่วงการนี้มานาน น่าจะรู้นี่ ดารามีทั้งเกิดทั้งดับกันอยู่ทุกวัน เธอก็แค่เป็นหนึ่งในนั้นเท่านั้น เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” ผู้กำกับลีกล่าวหน้าไม่อาย
“แก!” จินโฮที่ได้ยินคำพูดหน้าระอายก็ถึงกับเดือดดาลหมายจะเข้าไปต่อยปากเจ้าคนใจทรามสักหมัดให้หลาบจำ แต่ผอ.ชางก็ร้องห้ามขึ้นเสียก่อน
“หยุดนะ! ผมว่าคุณกลับไปเสียก่อนที่ผมจะเปลี่ยนข้อตกลงให้มันยากขึ้นกว่านี้ดีกว่านะ เห็นแก่สัมพันธภาพอันดีของเราเถอะ คุณเองก็เป็นผู้บริหาร น่าจะแยกแยะได้นะ” ผอ.ชางขู่ขึ้นอีกครั้ง ทำให้จินโฮจำใจเดินออกมาอย่างคับแค้น
“โธ่โว้ยๆๆๆๆ” จินโฮทำได้เพียงระบายความแค้นด้วยการต่อยกำแพงหน้าห้อง นี่เขาต้องปล่อยให้ผู้หญิงบริสุทธิ์โดนวงการที่เสื่อมทรามนี่ทำลายยังงั้นหรือ เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยหรือ เขาในตอนนี้ ช่างไร้ค่าจริงๆ จินโฮได้แต่กล่นด่าตัวเองและวงการบันเทิงที่น่าขยะแขยงนี้ในใจ
“พี่จินโฮ เป็นยังไงบ้างค่ะ?” ฮโยจูและคุณจางที่เพิ่งมาถึงถามอย่างร้อนใจ หากแต่จินโฮได้แต่ส่ายศีรษะอย่างอดสูในความสามารถของตัวเอง ท่าทางของเขาเป็นคำตอบได้ดีโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ย ทันใดนั้นผู้กำกับลีก็เปิดประตูออกมาจากห้อง ผอ.ชางพอดี เขามองคนผิดหวังทั้งสามอย่างผู้มีชัย ฮโยจูเห็นท่าทางของเขาก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้า ก่อนที่เขาจะเดินจากไปเธอจึงเรียกเขาไว้เสียก่อน
“ผู้กำกับลีค่ะ” ร่างโปร่งเรียกเสียงหวาน เขาจึงหันกลับมามองด้วยความสงสัย เธอเดินเข้าไปหาและโอบมือไปที่รอบคอของเขาพร้อมกับโน้มมันลงมาก่อนจะตีเข่าเข้าไปยังจุดยุทธศาสตร์ลูกผู้ชายสุดแรงเกิด ผู้กำกับลีถึงกับหน้าเขียวทรุดลงไปกองกับพื้น
“ชิ!ไอ้หัวงู อย่าแม้แต่จะคิดมายุ่งกับเพื่อนฉันอีกนะ ไม่งั้นแกตายแน่” เธออาฆาตก่อนจะจูงจินโฮและคุณจางที่ยืนแข็งทื่อตกตะลึงกับการกระทำของเธอเดินจากไป
ภายในห้องคอนโดของดาราสาวหลังอัญชันรู้ผลการเจรจาจากฮโยจูแล้วจึงเดินเข้าไปหาร่างบางในห้องนอนอีกครั้ง เธอกำลังนั่งดูคำวิพากษ์วิจารณ์ที่โพสลงบนอินเตอร์เน็ต ทุกคนต่างประณามว่าเธอเป็นดาราที่ใช้เต้าไต่กับผู้กำกับที่แต่งงานแล้วอย่างไร้ศีลธรรม ตัวอักษรแต่ละตัวนั้นช่างโหดร้ายต่อความรู้สึก หยดน้ำใสค่อยๆไหลอาบแก้ม ก่อนที่ดวงตาแดงจะถูกปิดด้วยมือเล็กของอัญชัน
“อย่าไปดูมันเลยค่ะ เรื่องไร้สาระพวกนี้” ร่างเล็กกระซิบที่ข้างหูก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์
“เราไปจากที่นี่กันเถอะค่ะ” อัญชันบอกพร้อมกุมมือแชวอนไว้ ร่างบางพยักหน้ารับทั้งน้ำตา ไม่นานนักเอื้อเฟื้อในชุดพนักงานส่งพิซซ่าก็มายืนหน้าห้อง
“ครั้งนี้แก่เป็นหนี้ฉันใหญ่หลวง” เขาพูดขณะถอดหมวกกันน็อคออกและเดินเข้ามาในห้อง
“ก็เจ๊ากันเรื่องคราวที่แล้วไง” อัญชันแย้ง
“เจ๊าบ้านแกนะสิ คราวที่แล้วแกหนีไปแดกูจำไม่ได้หรือไง” เอื้อเฟื้อโต้
“ฉันจะไปไหนมันสำคัญด้วยหรอ แค่ไม่อยู่บ้านขวางพวกแกก็พอแล้วนี่.......หรือว่าที่จริงแล้วแกวางแผนจะให้ฉันไปกับคุณจินโฮตั้งแต่แรกใช่ไหม” ร่างเล็กจับไต๋เพื่อนได้จึงโวยวายใหญ่
“เอ่อๆ เจ๊าก็เจ๊า เอานี่พาสปอร์ตของแก แล้วก็นี่ตั๋วเครื่องบินไปเมืองไทยสองใบตามที่ขอ แกรู้ไหมว่ามันหายากแค่ไหน แกคิดว่าเป็นรถทัวร์หรือไงจะไปก็ไปนะห่ะ? ฉันต้องใช้กำลังภายในเยอะนะเนี่ยกว่าจะได้มา รีบๆเข้า เครื่องจะออกในอีกชั่วโมงนี้แล้ว” เอื้อเฟื้อรีบเปลี่ยนเรื่องและเร่งเพื่อนทันที
“รู้แล้วๆ งั้นฉันติดหนี้แกก็ได้ครั้งนี้ คราวหน้าฉันจะจ่ายให้อย่างงามเลย ขอบใจนะเพื่อน” อัญชันกล่าวพร้อมตบไปที่ไหล่เพื่อน ก่อนที่แชวอนจะเดินเข้ามาหาทั้งสอง
“คุณแชวอนนี่เพื่อนฉันค่ะ ชื่อเอื้อเฟื้อ” ร่างเล็กแนะนำ
“แทยัง!” เอื้อเฟื้อรีบแย้งทันที
“เออๆ แทยังก็แทยัง แกรีบไปเปลี่ยนเสื้อเถอะ” ร่างเล็กเร่งเพื่อน เขาจึงถอดชุดพนักงานส่งพิซซ่าออกให้ดาราสาวใส่เพื่ออำพรางตัวออกมาจากคอนโด โดยมีอัญชันและเอื้อเฟื้อนำมาก่อน ก่อนที่ทั้งสามจะตรงไปยังสนามบินอินชอน
“แกแน่ใจนะจะไปแบบนี้นะ?” เอื้อเฟื้อเอ่ยขึ้นขณะยืนส่งเพื่อนหน้าทางเข้าผู้โดยสาร
“อืมไม่ต้องห่วงหรอก ว่าแต่แกอย่าบอกแม่ล่ะ” อัญชันตอบ
“นี่แกกลับเมืองไทยทั้งทีแกจะไม่ไปหาแม่แกเลยหรอ” เอื้อเฟื้อท้วง
“ก็ว่าจะแวะไป แต่คงสักพักนะ ฉันคิดว่าตอนนี้คุณแชวอนคงยังไม่พร้อมพบใคร และฉันก็ไม่อยากให้แม่เขารู้เรื่องยุ่งยากนี่ด้วย” อัญชันอธิบาย
“เออๆ เข้าใจแล้ว ยัยผู้ช่วยแสนวิเศษ แกห่วงอยู่แต่เรื่องเดียวนี่ละนะ ถ้าแกห่วงเรื่องเวลาเรียนของแกแบบนี้บ้างก็ดีนะ เพราะแกแทบไม่ได้ไปเลย” เอื้อเฟื้อประชดประชัน อัญชันยิ้มรับพร้อมกับถอนหายใจอย่างยอมรับ
“ก็อย่างที่แกพูดนั่นละ ตอนนี้ฉัน......ห่วงอยู่แต่เรื่องเดียว เรื่องของเขา” อัญชันตอบอย่างหน้าชื่นพร้อมหันไปทางดาราสาวที่ยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้า เอื้อเฟื้อเห็นแล้วก็ถึงกับถอนหายใจ
“เฮ้อ....ฉันจะทำยังไงกับแกดีเนี่ย?” เอื้อเฟื้อกล่าวอย่างระอา
“ก็ช่วยฉันไง ฉันมีเรื่องที่ต้องให้แกช่วยอีก ยังไงก็ฝากด้วยนะ ถึงเมืองไทยแล้วฉันจะติดต่อมา” ร่างเล็กตอบ
“บอกไว้ก่อนนะ ว่าค่าแรงฉันนะแพงนะ” เอื้อเฟื้อขู่
“เออ ฉันยอมจ่ายแกหมดตัวเลย” หากแต่อัญชันกลับรับคำโดยดี ทำให้เขาเซ็งเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจเธออย่างที่สุด
“ยัยบ้าเอ้ย ไปได้แล้ว!” เอื้อเฟื้อบอกอย่างระอา ร่างเล็กพยักหน้ารับพร้อมเดินตรงไปยังประตู
“เฮ้! โชคดีล่ะ” แต่ก่อนที่เธอจะเดินเข้าประตูไปเขาก็ตะโกนอวยพรตามหลัง ร่างเล็กหันมาส่งยิ้มและโบกมือลา ก่อนจะเดินหายเข้าไปในประตูผู้โดยสารพร้อมดาราสาว
“เพื่อนคุณเป็นคนดีจังเลยนะค่ะ” แชวอนเอ่ยถามขณะที่นั่งคอยอยู่ในอาคารผู้โดยสาร
“คะ? ดีอะไรกันละคะ หมอนั่นไม่ทำอะไรให้ฟรีๆหรอก นี่ฉันต้องจ่ายให้มันเยอะแน่ๆ หมอนั่นยิ่งเป็นคนเขี้ยวซะด้วยซิ” อัญชันตอบ
“เอ๊ะ จ่าย? คุณต้องจ่ายเท่าไหร่ค่ะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องของฉันให้ฉันเป็นคนจ่ายเถอะค่ะ” แชวอนรีบลนลานบอก
“ฮึๆๆ ไม่ใช่จ่ายแบบนั้นหรอกค่ะ ฉันกับหมอนั่นนะ ไม่จ่ายกันด้วยเงินหรอกค่ะ แต่เป็นการช่วยเหลือกันนะค่ะ เพราะต่อให้จ่ายด้วยเงินหมอนั่นก็ไม่รับหรอกค่ะ เพราะเขาว่าเงินน่ะมีมูลค่าที่ตายตัว แต่ความช่วยเหลือนะมันไม่สามารถตีค่าได้ เพราะงั้นเห็นทีคราวหน้าฉันคงต้องจ่ายหมอนั่นบ้างแล้ว คงต้องจ่ายอย่างงามเลยทีเดียว” อัญชันอธิบายและพึมพรำถึงค่าปรับของตน ทำให้แชวอนรับรู้ได้ถึงมิตรภาพที่เพื่อนทั้งสองมีต่อกัน
“พวกคุณนี่ สนิทกันดีจังนะค่ะ” แชวอนกล่าว อัญชันได้ยินก็หัวเราะเล็กน้อย
“ค่ะ เขาเป็น....เพื่อนรัก เป็นพี่น้อง และครอบครัว” อัญชันตอบพร้อมสบตาดาราสาวอย่างอ่อนโยน
“ดีจังเลยนะค่ะ ที่มีคนที่ดีกับคุณแบบนี้” ร่างบางเอ่ยเหมือนดั่งน้อยใจเพราะตอนนี้เธอเริ่มคิดถึงเรื่องอื้อฉาวนั้นอีกแล้ว แต่ร่างเล็กก็จับอาการของเธอได้ จึงลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นและกุมมือของร่างบางไว้พร้อมสบตาอย่างอ่อนโยน
“ไม่ต้องห่วงนะค่ะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ฉันสัญญา” อัญชันกล่าวด้วยดวงตามุ่งมั่น
_____________________________________________________
ถึง เท็ดดีแบร์
นี่คงจะเป็นอีเมล์ฉบับสุดท้ายของฉัน หลังจากครั้งที่แล้วที่การสนทนาของเราจบโดยกะทันหัน และฉันไม่สามารถติดต่อคุณได้ มันทำให้ฉันคิดอะไรบางอย่างได้ บางอย่างที่สำคัญ บางอย่างที่อยู่ในใจฉันมาตลอด ฉันชอบคุณ ฉันชอบคุณมาก นั่นเป็นสิ่งที่ฉันคิดเสมอ แต่ทั้งฉันและคุณต่างก็รู้ดีว่าเราคงไม่มีวันเจอกันได้ ไม่มีวันได้บรรจบกัน ความกลัวนั้นฉุดรั้งเราไว้ทั้งคู่ เราจึงทำได้เพียงแค่ส่งผ่านความรู้สึกกันเพียงตัวอักษร แต่นั่นมันไม่เพียงพอ ความสัมพันธ์ไม่อาจยั่งยืนหรือเจริญงอกงามได้ด้วยการปิดบังและหลบเลี่ยง และเพราะมีใครคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาหาฉัน เขาอยู่ข้างฉันในยามที่ฉันเรียกหาใครสักคน และอยู่ข้างฉันในตอนที่ฉันมีความสุข เขาคอยปลอบฉันเมื่อยามที่ฉันมีความเศร้า เขาจะอยู่เสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ และมันคงจะไม่ยุติธรรมหากฉันจะเก็บซ่อนความรู้สึกต่อไป เมื่อเขาก้าวเข้ามาหาฉันฉันเองก็อยากจะก้าวเข้าไปหาเขาเช่นกัน ฉันจึงได้เขียนอีเมล์ฉบับนี้ขึ้น เพื่อเราทั้งคู่จะได้เข้าใจตรงกัน
ปล. แม้เราจะไม่ได้ติดต่อกันเป็นการส่วนตัวแล้ว ฉันก็หวังว่าจะได้เห็นข้อความของคุณบ้างในเวบแฟนคลับ เพราะคุณคือแฟนคลับคนสำคัญของฉันเสมอ
จากเพื่อนของคุณ
ปงกู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ต้องการคอมเมนต์ โดยไม่ต้อง Login ตรง แสดงความคิดเห็นในฐานะ
ให้เลือกโปรไฟล์เป็น ไม่ระบุชื่อ