วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

After School The Final 2/2


After School
The Final 2/2

เช้าวันต่อมาจองอาลืมตาตื่นขึ้นท่ามกลางแสงสลัวในห้อง เธอกวาดสายตามองหาร่างยุนนาเมื่อไม่พบว่าอยู่บนเตียง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ร่างๆหนึ่งกำลังนั่งวาดภาพอยู่อย่างขะมักเขม้น เธอจึงนอนเท้าแขนดูคนคนนั้นอย่างเอ็นดูอยู่เนิ่นนานทีเดียว กว่าอีกคนจะรู้สึกถึงสายตาที่มองมา ยุนนาหันไปมองร่างที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มและมองมาทางเธอด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม เธอจึงส่งยิ้มกลับไปและหันกลับมาวาดภาพต่อ จองอาจึงลุกขึ้นพร้อมกับพันตัวด้วยผ้าห่มเดินตรงมายังยุนนา

“ไม่หนาวหรอ” จองอาเดินเข้ามาเอาผ้าห่มคลุมให้เพราะตัวยุนนาใส่เพียงเสื้อกล้ามและชั้นในตัวเล็กเท่านั้น

“มีเธออยู่จะหนาวได้ยังไง” ยุนนาหยอดคำหวานให้คนฟังยิ้มแก้มปริ

“อ่า...นี่ใกล้จะเสร็จแล้วนี่” จองอาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นภาพที่ยุนนาวาด

“อืม...เหลือลงสีอีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว” ยุนนาตอบทั้งที่ตาและมือยังสนใจภาพที่วาดอยู่ตรงหน้า จนทำให้จองอารู้สึกน้อยใจเล็กๆ จึงบดเบียดร่างบางของตนเข้ากับแผ่นหลังของอีกคนให้เสียสมาธิ แต่ยุนนากลับไม่สะทกสะท้าน เธอจึงตัดใจที่จะก่อกวนคนขยัน และรีบไปแต่งตัวเพื่อเตรียมทำอาหารเช้าไว้รอศิลปินใหญ่วาดภาพให้เสร็จ


แต่เมื่อจองอามาที่ครัวก็ต้องตกใจเพราะสิ่งที่วางอยู่แถวนั้นดูไม่คล้ายเครื่องครัวเท่าไหร่ เห็นจะมีก็แต่หม้อใบเล็กๆที่ดูจะประกอบอาหารได้เพียงอย่างเดียว เธอจึงเดินไปเปิดดูเย็นหาวัตถุดิบมาทำอาหาร แต่ก็พบกับกระป๋องเบียร์มหาศาลที่อัดอยู่ในตู้ จะมีก็แต่ชีทและเบค่อน กับผักสลัดที่ดูจะเป็นของเหลือจากหลายๆมื้อมารวมกันที่พอจะเป็นอาหารได้ จองอาถึงกับส่ายหน้าให้กับสุขอนามัยของยุนนาเธอสงสัยเหลือเกินว่าคนคนนี้กินอยู่ยังไง แต่ก่อนที่จะปิดตู้เธอก็เหลือบไปเห็นแพ็คไข่ที่ซ่อนอยู่หลังกระป๋องเบียร์ที่วางเรียงราย เมื่อดึงออกมาก็พบว่าเหลือไข่เพียงหนึ่งฟองเท่านั้น แต่นั่นก็ยังดีกว่าไม่มี จองอาคงต้องใช้มันสมองของเธอในการคิดเมนูมาปรุงเศษอาหารพวกนี้ให้กลายเป็นมื้อเช้าแสนอร่อย


เวลาผ่านไปจนช่วงสาย ยุนนาวางมือจากภาพที่ตนนั่งคุมมานาน เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจหลังจากมองสำรวจภาพและแน่ใจแล้วว่าภาพเสร็จสมบูรณ์ดี จากนั้นก็บิดตัวเพื่อคลายอาการปวดเมื่อยเพราะนั่งนานๆ พร้อมๆกับมองไปรอบๆห้องนอนแต่ก็ไม่พบร่างบางของจองอา หากแต่ได้กลิ่นความหอมของอาหารที่ลอยมาจากนอกห้อง เธอจึงเดินตามกลิ่นนั้นไป ที่เคาเตอร์ครัวนั้นจองอากำลังขะมักเขม้นทำอาหารอยู่อย่างตั้งใจ ยุนนายิ้มออกมาทันทีที่เห็นการกระทำนั้น เธอค่อยๆเดินเข้าไปทางด้านหลังเบาๆไม่ให้อีกคนรู้ตัว และเข้าไปกอดร่างบางทันทีที่ถึงตัว

“ทำอะไรจ๊ะ” ยุนนาเอ่ยขึ้นจากด้านหลังให้จองอาร้องอุทานตกใจ เธอแทบทำหม้อตกจากเตา

“เล่นอะไรเนี่ย มันอันตรายนะ” จองอาโมโหยกใหญ่ทั้งทุบทั้งตีคนทะเล้น

“หอมน่ากินจัง” ยุนนาสูดกลิ่นอาหารเข้าไปเต็มปอดพร้อมยืนหน้าเข้าไปใกล้ๆหม้อที่วางอยู่บนเตา แต่ก็ต้องตกใจที่ในหม้อนั้นคือออมเร็ต

“นี่เธอทำออมเร็ตในหม้อหรอ” ยุนนาเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย

“แล้วมันมีอย่างอื่นให้ทำไหมล่ะ” จองอาตอบกลับ ยุนนาถึงกับอึ้งเมื่อนึกถึงคำเธอ เพราะในห้องนี้ไม่มีสิ่งที่มนุษย์เรียกว่ากระทะอยู่จริงๆ เมื่อออมเร็ตได้ที่จองอาก็ตักใส่จานและนำมาวางที่โต๊ะทานอาหาร ยุนนาเดินตามเธอเหมือนลูกเจี๊ยบตามแม่ไก่ก็ไม่ปาน

“ว้าวอะไรเนี่ย เธอออกไปซื้ออาหารมาทำหรอ” ยุนนาเอ่ยขึ้นอย่างตื่นตาเมื่อเห็นอาหารวางอยู่บนโต๊ะ

“เปล่าหรอก หาเอาในตู้เย็นน่ะ” จองอาตอนพร้อมตักอาหารใส่จานให้อีกคน

“หา? ในตู้นั่นมีอะไรกินได้ด้วยหรอนอกจากเบียร์อ่ะ” ยุนนาถามอย่างงุนงง

“ถ้ารู้ว่ามันไม่มี ก็หัดซื้อซะบ้าง แล้วเบียร์น่ะ จะซื้อมาทำไมนักหนาเขาแจกหรือยังไง” จองอาเอ็ดใส่ให้ยกใหญ่ ยุนนาถึงกับหงอเลยทีเดียว

“แหมฉันทำอาหารไม่เป็นนี่” ยุนนาตอบเสียงอ่อย

“แล้ว...ปกติกินยังไง” จองอาถามต่อขณะที่ทั้งสองเริ่มทานอาหาร

“ก็...เอ่อ บะหมี่บ้าง ซูชิบ้าง พิซซ่าบ้าง ไม่ก็เบียร์เพียวๆ” ยุนนาตอบพลางสวาปามสลัดผักที่เคยเป็นของเหลือ

“หะ?...นี่สั่งมากินอย่างเดียวเลยหรอ” จองอาได้ยินก็ถึงกับทำหน้ามุ่ย

“แฮะๆ ก็มันสะดวกดี” ยุนนาหัวเราะหน้าเจื่อน

“งั้น...ต่อไปนี้เดี๋ยวฉันทำให้ทานแล้วกัน” จองอาพูดขึ้น ยุนนาถึงกับชะงัก ลุกพรวดจากเก้าอี้จะโผเข้ากอดจองอาข้ามโต๊ะ แต่ถูกจองอาสกัดความห่ามด้วยการจ่อส้อมขึ้นห้าม และบอกให้ยุนนาลงไปนั่งทานตามเดิม ยุนนาจึงกลับไปนั่งสงบเสงี่ยม เมื่อทั้งคู่ทานเสร็จจองอาก็เก็บจานชามมาล้างโดยมียุนนาคอยเกาะหลังแกล้งไม่ให้เธอล้างได้สะดวก

“นี่ยุนนา พอแล้วเดี๋ยวจานก็แตกหรอก” จองอาร้องเอ็ดขึ้น

“ไม่เอา นี่แนะๆๆ” ยุนนาไม่ฟังแต่กลับใช้นิ้วจี้เอวให้จองอาบิดตัวหนี ทั้งคู่เล่นหยอกล้อกันสักพักจองอาก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้

“ตายแล้ว...นี่จะเที่ยงแล้วนี่” จองอาอุทานขึ้น

“หือ? มีอะไรหรอ” ยุนนาถามอย่างงุนงง

“ฉันยังไม่ได้เก็บข้าวของที่ห้องเลย ต้องรีบไปเตรียมแล้วล่ะ คืนนี้ฉันต้องบินกลับเกาหลีตอนเที่ยงคืนน่ะ” จองอาตอบพลางหยิบกระเป๋าและเสื้อโค้ท

“เอ๊ย...เดี๋ยวสิจองอาค่อยเก็บไม่ได้หรอ แล้วทำไมถึงรีบกลับล่ะ รอกลับพร้อมกันสิ เราจะได้อยู่ด้วยกันต่อไง” ยุนนาเดินเข้าไปกอดร่างบางและพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน จองอามองคนทำตาแป๋วด้วยสีหน้าลำบากใจ

“ไม่ได้หรอก ฉันต้องกลับวันนี้จริงๆ” จองอาตอบเสียงอ่อน

“ทำไมล่ะ?” ยุนนาไม่เข้าใจ จองอาชั่งใจที่จะบอกเหตุผลแต่ก็ตัดสินใจไม่บอกดีกว่า

“ฉันมีงานน่ะ” เธอบอกไม่ตรงความจริง และรีบเดินออกจากห้องไป ยุนนาได้แต่ร้องตามไล่หลังแต่ร่างบางก็ไม่หยุด

“เฮ้อ...ทำไมต้องรีบขนาดนี้นะ?” ยุนนาสงสัยไม่หาย


จองอาเองก็ไม่อยากแยกจากยุนนาเช่นกันแต่เพราะเหตุผลที่ว่า มีคนรอการกลับไปของเธออยู่จึงทำให้ไม่สามารถเลื่อนกำหนดกลับได้

“จะโกรธไหมน้า?” จองอารำพึงกับตัวเองขณะที่เก็บข้าวของแพ็คใส่กระเป๋า เธอยังรู้สึกว่าน่าจะบอกความจริงให้อีกคนรู้ แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“เก็บของอยู่หรอ” คนปลายสายทักเธอ

“อืม...แล้วเธออยู่ไหนหรอ” จองอาจึงถามกลับ

“ก็เออ...แกลลอรี่น่ะ เธอจะกลับเที่ยวเที่ยงคืนตรงไปโซลใช่ป่ะ” ยุนนาถามขึ้น

“ใช่...ทำไมหรอ” จองอาสงสัยที่ยุนนาไม่โวยวายอย่างที่คิด

“เปล่าก็แค่อยากรู้ แล้วเธอนั่งไหนล่ะ” ยุนนายังถามคำถามน่าสงสัยต่อ

“หือ? ทำไมหรอ” จองอาไม่ตอบแต่ถามกลับ

“เอาน่าบอกมาเถอะ” ยุนนาเริ่มใช้น้ำเสียงหงุดหงิด ข่มขู่ จองอาจึงยอมตอบ

“14 E” จองอาตอบเสียงอ่อนเพราะคิดว่าอีกคนโกรธ

“อืม งั้นแค่นี้นะ อ่อฉันคงไม่ไปส่งเธอหรอกนะ บาย” ยุนนาพูดตัดบทและตัดรอนจิตใจคนฟังก่อนจะวางสายไป ทำเอาจองอาเศร้าใจที่อีกคนไม่อาลัยการจากไปของเธอ


เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องจองอาก็ไปเช็คอินตรงเวลาและคอยชะเง้อคอรอคอยใครบางคนที่ไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มา

“สงสัยโกรธแน่ๆเลย” จองอารำพึงกับตัวเองก่อนจะเดินขึ้นเครื่องไป เธอไปนั่งประจำที่ของตนตั้งแต่เฟิร์สคอลล์ จนเมื่อถึงลาสคอลล์เธอก็ตัดใจปิดมือถือเพราะถึงยังไงยุนนาก็คงไม่โทรมาอยู่ดี เธอนั่งซึมสักครู่ก็รู้สึกว่ามีผู้โดยสารอีกคนมานั่งข้างๆ แต่ด้วยความเสียใจเธอจึงไม่ได้ใส่ใจเขา เธอเม่อมองไปนอกหน้าต่างด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ก็มีคนมาจับไหล่เธอ

“เป็นอะไรไปคนสวย ให้ช่วยไหมจ๊ะ” เสียงกระลิ้มกระเรี่ยดังขึ้นจากด้านหลัง จองอาจึงหันไปยังต้นเสียงนั้น ก็ปรากฏเป็นคนทะเล้นที่หัวใจไม่อยากพรากจาก มานั่งอยู่ข้างๆเธอ

“ยุนนา! มาได้ยังไงเนี่ย” จองอาถามขึ้นอย่างตื่นเต้น

“ฝีมือซะอย่าง แต่กว่าจะได้ที่นั่งตรงนี้ก็เหนื่อยแทบแย่” ยุนนาเล่าพลางทำท่าปาดเหงื่อ

“นี่จะกลับพร้อมกันหรอ?” จองอาเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ

“เอ้าไม่ได้กลับจะขึ้นมาถึงนี่ได้หรอ” ยุนนาตอบกวน แต่จองอากลับทำท่าลำบากใจ จนยุนนาดูออก

“ทำไม มีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า” ยุนนาถามพร้อมจ้องมองจองอาอย่างน่าสงสัย จองอานิ่งไปสักพัก

“เปล่าหรอก แค่...สงสัยน่ะ เตรียมตัวทันด้วยหรอ เห็นข้าวของเต็มห้อง” จองอารีบเฉไปเรื่องอื่น

“ก็ไม่ได้เตรียมไรหรอก ไม่ได้เอาไรมา” ยุนนาตอบหน้าตาย

“อะไรนะ...นี่ไม่ได้เอาอะไรมาเลยหรอ” จองอาแทบไม่อยากเชื่อหู ยุนนาช่างบ้าระห่ำได้ตลอดเวลาจริงๆ

“เดี๋ยวให้อดัมส่งไปให้ก็ได้ ไม่งั้นก็ทิ้งๆไปเหอะ” ยุนนาตอบลวกๆ จองอาถึงกับอ่อนใจ

“แต่ไม่ต้องห่วงนะ ภาพของเราฉันเก็บไว้อย่างดี เดี๋ยวให้อดัมส่งไปให้” ยุนนาบอกเสียงหวาน จองอาจึงเผยยิ้มออกมาได้ และทำให้บรรยากาศดีขึ้นอีกครั้ง ทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกันมาตลอดเส้นทาง จนเมื่อถึงโซล จองอาก็มีท่าทีแปลกไปอีกครั้ง

“เธอไม่รีบกลับหรอเดี๋ยวฉันต้องไปรอรับกระเป๋าอีกมันช้านะ เธอกลับไปก่อนก็ได้” จองอารีบไล่ยุนนาระหว่างที่เดินไปรับกระเป๋า

“หือ? นี่เธอไล่ฉันหรอ?” ยุนนาถามอย่างหงุดหงิด

“เปล่าๆ แค่ไม่อยากให้เธอเสียเวลา จะได้รีบไปพักผ่อน” จองอารีบแก้ตัว

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บอกที่บ้านไว้อยู่แล้ว ว่าจะขอไปพักกับเธอสักสองสามวันค่อยกลับบ้าน” ยุนนาตอบอย่างสบายอารมณ์ แต่จองอากลับทำหน้าเครียด ในเมื่อไม่มีทางออกเธอก็จำเป็นต้องให้ยุนนารับรู้ความจริงด้วยตัวเอง เมื่อเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วยุนนาก็แสดงความมีน้ำใจด้วยการอาสาเข็นรถให้จองอา เธอเดินนำหน้าจองอามาลิ่วๆ แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ทุกคนดูคุ้นตา

“พ่อแม่!” ยุนนาอุทานออกมาเมื่อเห็นคุณและคุณนายซิน

“ยุนนา!” ทั้งสองเองก็แปลกใจไม่แพ้กัน

“นี่...มาทำอะไรกันเนี่ย รู้ได้ไงว่าหนูจะกลับ” ยุนนาเอ่ยถามขึ้นทันที

“ใครบอกว่าพวกฉันมารับแกล่ะ คนที่หายหัวจากบ้านไปตั้งห้าปีและไม่ติดต่อกลับมาอย่างแกพวกฉันตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว” คุณซินพูดรับขวัญลูกสาวได้เจ็บแสบเหมือนเคย

“อ่ะ...นั่นพ่อ นั่นๆ จองอามาโน่นแล้ว” คุณนายซินพูดกับสามีพลางจูงเขาไปยังร่างบางที่เดินตามหลังมา ทั้งคู่เข้าไปกอดรับขวัญจองอาอย่างอบอุ่น ยุนนารู้สึกงุนงงกับภาพที่เห็นจริงๆ เธอจึงหันไปถามกับพี่ชายที่คงจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเธอได้

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันอ่ะ?” ยุนนาพูดพลางชี้ไปยังภาพแฮปปี้แฟมิลี่ข้างหน้า ยุนโฮจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“เรื่องมัน...ยาวทีเดียว” เขาตอบไม่กระจ่าง ยุนนาก็ได้แต่อึ้งกับภาพตรงหน้า


ระหว่างทางที่ครอบครัวซินนั่งรถไปส่งจองอาที่คอนโด ทุกคนก็ต่างอธิบายให้ยุนนาฟังว่าพวกเขามารู้จักกันได้อย่างไร ยุนนารู้สึกแปลกใจจริงๆ ที่พ่อแม่เธอรักและเอ็นดูจองอามากขนาดนี้

“เนี่ยนะ ถ้าจองอาเขาสนใจยุนโฮบ้างก็ดีน่ะสิ แม่จะได้ขอมาเป็นลูกสะใภ้ซะที” คุณนายซินที่นั่งคู่กับคุณซินข้างหน้าเอ่ยขึ้น ทำให้ยุนโฮ ยุนนาและจองอาที่นั่งอยู่ด้านหลังถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“โธ่แม่ จองอาเขาไม่ได้ชอบผมหรอกครับ” ยุนโฮรีบขัดขึ้นทันทีเพื่อจบการสนทนาหัวข้อนี้

“ก็แกมันไม่มีน้ำยานี่หว่า พ่อกับแม่อุตส่าจีบให้ตั้งนาน ยังทำคะแนนไม่ได้สักที” แต่คุณซินกลับสมทบเข้ามาอีก

“โด่พ่อจองอานะเขา…” ยุนนาจะพูดความจริงออกไปให้ครอบครัวได้รู้ แต่ก็ถูกจองอาดึงมือห้ามไว้

“จริงสิแล้วนี่ไปรู้จักกันได้ยังไงล่ะสองคนนี้” คุณนายซินเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าทั้งคู่รู้จักกัน

“เจอกันที่นิวยอร์กน่ะค่ะ พอดีว่าเป็นคนเกาหลีเหมือนกันแต่พอคุยไปคุยมา ดันเป็นลูกสาวที่แท้จริงของคุณพ่อคุณแม่นี่เอง” จองอาพูดเสียงหวาน

“แหมๆ จองอาพูดอะไรอย่างงั้น หนูก็เป็นลูกสาวแม่คนหนึ่งเหมือนกัน เป็นลูกสาวที่น่ารัก...กว่าใครบางคนแถวนี้เป็นไหนๆ” คุณนายซินพูดทิ้งท้ายได้เจ็บแสบไม่แพ้สามี ยุนนาได้แต่ส่ายหน้าข่มอารมณ์ไว้ ก่อนจะหันไปมองคนที่โกหกคำโตกับแม่ของเธอ จองอาได้แต่ทำหน้าเศร้า เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีแม่คนไหนดีใจแน่ๆที่ลูกจะรักกับคนเพศเดียวกัน เธอไม่สามารถทำร้ายจิตใจคนที่เธอรักและเคารพดั่งพ่อแม่แท้ๆได้ เมื่อรถขับมาถึงคอนโดทุกคนก็ต่างขนของขึ้นมาส่งเธอถึงในห้อง

“ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวหนูทำอะไรให้ทานก่อนกลับดีไหมคะ” จองอากล่าวอย่างเกรงใจ

“อุ๊ยไม่ต้องหรอกจ๊ะ หนูมาเหนื่อยๆพักผ่อนเถอะนะลูก” คุณนายซินกล่าวอย่างเอ็นดู

“แล้วอย่าลืมล่ะ พรุ่งนี้มีปาร์ตี้ที่บ้าน จัดเพื่อหนูโดยเฉพาะเลยนะ แล้วมาเล่าให้พวกเราฟังด้วยว่าการแสดงเป็นยังไงบ้าง” คุณซินเสริมขึ้นมา

“เดี๋ยวๆ นี่หนูก็กลับมาด้วยนะ จะจัดให้จองอาคนเดียวหรือไง” ยุนนาเอ่ยขึ้นอย่างเคืองๆ

“แล้วใครบอกให้แกกลับมาโดยที่ไม่บอกคนอื่นเขาล่ะ” คุณซินจึงสวนกลับไป ยุนนาถึงกับส่ายหน้าเซ็ง

“เอาล่ะพักผ่อนซะนะลูกนะ พวกแม่กลับล่ะ” คุณนายซินบอกลาก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับสามีและยุนโฮ เหลือเพียงยุนนาที่ยังยืนอยู่หน้าห้อง

“ทำไมเธอไม่บอกฉันล่ะ” ยุนนาเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

“ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง ฉันขอโทษนะ” จองอาตอบเสียงอ่อนพร้อมกุมมือยุนนาไว้ ยุนนาพยักหน้ารับก่อนจะเดินจากไป จองอามองแผ่นหลังนั้นจนลับตา


เช้าวันต่อมาครอบครัวซินกำลังวุ่นวายกับการจัดปาร์ตี้ต้อนรับจองอาอยู่ คุณนายซินเร่งมือทำอาหารหลากหลายชนิดจนมือเป็นระวิง โดยมียุนโฮคอยเตรียมวัตถุดิบให้ ในขณะที่คุณซินหัวหน้าครอบครัวง่วนกับการตกแต่งห้องและจัดโต๊ะอาหารให้มีบรรยากาศสดใสเหมาะกับการจัดปาร์ตี้ ส่วนยุนนาลูกสาวคนเล็กของบ้านกำลังงัวเงียลุกจากเตียงเพราะเสียงรบกวนข้างล่าง เธอเดินสลึมสลือลงบันใดมาก็พบทั้งสามคนกุลีกุจอเตรียมงานกันยกใหญ่ ก่อนจะหาวปากกว้างไล่ความง่วงจนคุณซินหันมามอง

“จะหาวกินเดือนหรือไง ปิดซะมั่งปากน่ะ นี่จะบ่ายอยู่แล้วแกเพิ่งตื่นหรือเนี่ย” คุณซินเอ็ดใส่ไปสองยก

“โหพ่อ หนูเพิ่งกลับมานะ ยังปรับเวลาไม่ได้เลย” ยุนนาพูดงัวเงียพลางขยี้ตา

“ให้ตายเถอะ ไปๆ ไปอาบน้ำอาบท่าเร็วๆ เดี๋ยวอีกชั่วโมงหนูจองอาก็มาแล้ว” คุณซินกล่าว ยุนนาถึงกับหูตั้งรีบวิ่งขึ้นห้องไปทำตามที่พ่อบอก เธอพยายามเลือกรื้อขุดค้นเสื้อผ้าเก่าๆในตู้ที่ไม่ได้นำไปอิตาลีด้วย แต่มันทั้งอับและเชยมากจนเธอรับไม่ได้ จึงตัดสินใจออกไปซื้อชุดใหม่ที่ห้างสรรพสินค้า เธอเดินเลือกดูอยู่หลายร้าน ก่อนจะตัดสินใจเข้าไปในร้านหนึ่ง เธอมองหุ่นที่สวมชุดเดรสลายหวานอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจบอกพนักงานให้ปลดออกมาให้เธอลอง ยุนนานำชุดมาลองในห้องลองชุด เธอหมุนซ้ายหมุนขวาอยู่นาน จนพนักงานต้องเข้ามาเคาะประตู

“เอ่อ...ไม่ทราบว่ามีปัญหารึเปล่าค่ะ” พนักงานหญิงประจำร้านถามจากด้านนอกห้อง ยุนนาจึงเปิดประตูออกมาช้าๆ และทำท่าขัดเขินกับชุดที่ใส่ พนักงานหญิงมองเธออย่างเอ็นดู

“เอ่อ...ดูตลกไหมคะ” ยุนนาถามอย่างอายๆ

“ไม่เลยค่ะ คุณใส่ชุดนี้ได้น่ารักมาก” พนักงานหญิงตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ยุนนาจึงตัดสินใจซื้อชุดนี้และใส่กลับเลย แต่เมื่อเธอจะเดินออกจากห้างฯ ก็มาชะงักหยุดอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ ยุนนายืนครุ่นคิดอยู่หน้าร้านนั้น ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าสนใจเครื่องประดับชิ้นไหนค่ะ” พนักงานสาวเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นลูกค้าเดินเข้าร้าน

“ฉันอยากได้แหวนหมั้นค่ะ” ยุนนาตอบเสียงใส


เมื่อเสียงออดดังขึ้น ครอบครัวซินก็มาออกันหน้าประตู

“สวัสดีค่ะ หนูเอาแชมเปญมาฝากค่ะ” จองอากล่าวทักเมื่อประตูเปิดออก คุณและคุณนายซินจึงเข้าไปกอดต้อนรับลูกสาวสุดที่รักทันที

“เชิญครับ” ยุนโฮกล่าวเชื้อเชิญให้เข้าไปภายใน จองอาตื่นตากับการตกแต่งและอาหารลานตาบนโต๊ะ

“ขอบคุณมากนะคะ แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่น่าลำบากเลยค่ะ แค่บะหมี่หนูก็ทานได้แล้ว” จองอากล่าวอย่างเกรงใจ

“ได้ที่ไหนล่ะ อีกอย่างบะหมี่มันกินกับแชมเปญไม่อร่อยหรอกเนอะคุณ” คุณซินรีบหากองเสริม คุณนายซินก็พยักหน้ารับยกใหญ่ ก่อนที่จองอาจะสังเกตเห็นว่ามีใครคนหนึ่งขาดหายไป

“เอ๊ะนี่ ยุนนาไม่อยู่หรือคะ” จองอาถามขึ้น

“ไม่รู้นะ เห็นหุนหันออกไปไหนไม่รู้ ไม่ได้บอก สงสัยคงจะงอนที่ไม่จัดปาร์ตี้ให้ ลูกคนนี้ก็งอนเป็นเด็กๆ” คุณนายซินตอบ จองอาได้ยินถึงกับทำหน้าเศร้า

“คงออกไปธุระมั้งครับ เดี๋ยวก็คงกลับมา” ยุนโฮพูดให้จองอาคลายกังวล เธอจึงมองหน้าเขาอย่างขอบคุณ ก่อนที่ทุกคนจะได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาแต่ไกล

“จองอามาแล้วหรอ” ยุนนาโผล่พรวดเข้ามาในห้องให้ทุกคนตกตะลึง ก่อนจะหลุดขำก๊ากออกมาเมื่อเห็นชุดที่เธอใส่

“ฮ่าๆๆ นี่ผีเข้าแกหรอถึงลุกขึ้นมาใส่กระโปรงน่ะ” คุณซินเอ่ยคุณขณะที่ยังไม่หยุดขำ

“คุณคะ อย่าว่าลูกสิ สงสัยเพิ่งจะรู้ตัวว่าโตเป็นสาวล่ะมั้ง” คุณนายซินเอ่ยขึ้นเหมือนจะช่วยแต่กลับสมทบสามีตน ส่วนยุนโฮก็ได้แต่กลั้นหัวเราะเอาไว้เพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจน้อง ทั้งทีเขาก็เห็นด้วยกับพ่อและแม่ มีเพียงจองอาที่มองว่ายุนนาใส่ชุดนี้แล้วน่ารักมาก เธอแทบอยากจะเดินเข้าไปกอดร่างนั้นไว้แน่นๆเลยทีเดียว

“ขำกันเสร็จรึยังเนี่ย ฮุย...เสียเซลหมด” ยุนนาบ่นพึมพำ

“มาๆ ผมว่าเริ่มทานกันดีกว่าครับ” ยุนโฮรีบตัดบทด้วยความสงสารน้อง ทุกคนจึงมานั่งยังโต๊ะอาหาร คุณซินหัวหน้าครอบครัวนั่งหัวโต๊ะ คุณนายซินและยุนโฮนั่งตรงข้ามกับจองอาและยุนนา ทุกคนต่างพูดคุยกันอย่างครื้นเครง จองอาเล่าประสบการณ์ที่ไปนิวยอร์กให้ครอบครัวซินฟัง เช่นเดียวกับยุนนาที่เล่าเรื่องของตนในช่วงห้าปีที่ไม่ได้กลับบ้าน

“ให้ตายเถอะ ฉันก็นึกว่าแกหายไปไหน รู้ไหม พวกฉันคิดว่าแกหนีตามฝรั่งไปแล้วซะอีก” คุณซินเอ่ย ทำให้ทุกคนหัวเราะกันยกใหญ่ มีเพียงยุนนาที่ทำหน้าเครียด จนทุกคนสังเกตได้

“ยุนนา พ่อเขาล้อเล่นนะ” ยุนโฮเอ่ยขึ้นเพราะคิดว่าน้องสาวโกรธ

“พ่อ แม่ พี่ยุนโฮ หนูมีเรื่องจะบอก” ยุนนากล่าวเสียงเครียดพร้อมกับมองหน้าทุกคน จองอารู้สึกงุนงงกับท่าทีของยุนนา ก่อนจะสะดุ้งเมื่อถูกคนข้างๆกุมมือไว้

“หนูกับจองอารักกันค่ะ รักมานานแล้วด้วย และหนูก็จริงจังกับเธอ เราจะแต่งงานกันค่ะ” ยุนนากล่าวเสียงเฉียบ ทุกคนต่างอยู่ในอาการอึ้งรวมทั้งจองอาด้วย เพราะไม่คลาดคิดว่าเธอจะพูดออกมา

“ยุนนา” จองอาร้องห้ามพลางเขย่าตัวยุนนา

“ไม่ได้ฉันไม่ยอม!” คุณซินกล่าวเสียงกร้าว ก่อนจะลุกขึ้นมาดึงแขนสองสาวออกจากกัน
“ใครจะยอมให้จองอากับคนอย่างแกกัน” คุณซินกล่าวพลางกอดจองอาอย่างหวงแหน ก่อนที่คุณนายซินจะลุกขึ้นมาสมทบ

“นั่นสิ แม่ก็ไม่ยอม น่าสงสารจองอาแย่เลย ถ้ามาได้คนแบบนี้” คุณนายซินกล่าวอย่างอ่อนใจพร้อมเดินเข้าไปกอดจองอาไว้อีกคน ยุนนาอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็มีสติพอจะเถียงกลับไป

“อะไรกันเนี่ย คนอย่างหนูมันยังไง หนูเป็นลูกพ่อแม่นะ” ยุนนาโวยขึ้น

“นั่นสินะ เฮ้อ...แย่จัง” คุณนายซินกล่าวอย่างอ่อนใจอีกครั้ง เหมือนกับว่าไม่อยากได้ยุนนาเป็นลูก

“พ่อก็บอกแล้ว ว่าเอาคนเดียว น่าจะให้หมอกดลงชักโครกซะก็สิ้นเรื่อง” คุณซินสมทบภรรยาเจ็บแสบไม่แพ้กัน ยุนนาถึงกับเดือดดาน ตรงเข้าไปกระชากจองอาออกจากอ้อมกอดของทั้งคู่ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจึงเกิดการยื้อแย่งกัน ก่อนที่ยุนนาจะเสียหลักเซถลา

“ยุนนาฉันซื้อเค้กเจ้าประจำของเรามาฝาก…” มงโดที่กะจะเซอร์ไพร์ลูกศิษย์ด้วยการถือถาดเค้กก้อนโตพร้อมเขมือบเดินเข้ามาในห้อง แต่ถูกยุนนาเซถลาไปปัดเค้กใส่หน้าเขาเต็มๆ ทุกคนจึงหยุดการกระทำทุกสิ่ง จ้องมองไปยังมงโดที่ตอนนี้เค้กกลายเป็นหน้าเขาไปแล้ว อีซานที่เดินตามมาทีหลังเข้ามาเห็นอาการค้างของทุกคนก็สงสัย จึงเดินไปดูหน้ามงโด ก่อนจะหลุดขำแทบขาดใจ

“ฮ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ หน้านาย ๆ...” อีซานแทบพูดไม่เป็นคำ

“ยัยลิงภูเขา เธอตาย” มงโดตะหวาดใส่ร่างเล็ก ก่อนจะวิ่งไล่จับไปรอบๆห้อง เหมือนดั่งแมวจับหนู (นา) เหตุการณ์ที่น่าจะตึงเครียดจึงจบลงด้วยเสียงหัวเราะ


หลังเหตุการณ์สงบลง มงโดที่เข้าไปล้างหน้าล้างตาก็ออกมาพบเข้ากับยุนนาที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ เธอมองเขาด้วยสายตาสงสัย

“อะไร อยากโดนอีกดอกใช่ไหม” มงโดพูดพร้อมทำท่าจะเขกมะกอก ยุนนาจึงรีบเอามือปัดป้อง

“เปล่าๆ หนูมีเรื่องอยากถาม” ยุนนากล่าว

“...อะไรล่ะ” มงโดตอบอย่างรำคาญ

“จารย์เป็นคนบอกพ่อแม่ใช่ป่ะ?” เธอถาม มงโดทำหน้าครุ่นคิดสักพัก

“ทำไม เธอไม่พอใจงั้นหรอ” มงโดถามกลับ

“เปล่าๆ แค่จะบอกว่า ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์นี่ดีที่สุดเลย หนูคิดว่าจะถูกกีดกันซะอีก แต่แบบ...ตกใจเลย ที่พ่อแม่ไม่เป็นอย่างที่คิด ฮ่าๆๆ แต่ก็แอบผิดหวังนิดนึง นึกว่าจะได้ฝ่าฟันอุปสรรคอีกหน่อย” ยุนนาตอบพลางลูบศีรษะอย่างเขินๆ

“งั้นเดี๋ยวฉันไปบอกให้พวกเขาแยกพวกเธอให้แล้วกัน จะได้มีอุปสรรคสมใจอยาก” มงโดประชดกลับพร้อมทำท่าจะเดินไปบอกจริงๆ ยุนนาจึงรีบดึงร่างเขาไว้และยกมือไหว้


ทางด้านจองอาที่นั่งตัวลีบอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกโดยมีคุณและคุณนายซินนั่งประกบ พร้อมด้วยยุนโฮและอีซานที่นั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม

“ตายแล้วจองอามือเย็นเชียว เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ” คุณนายซินถามขึ้นเมื่อจับไปที่มือของจองอา

“ฮึ...ไม่ต้องกลัวไปหรอกลูก พ่อกับแม่รู้เรื่องนานแล้วล่ะ” คุณซินเฉลยให้จองอาถึงกับงง

“ยุนโฮกับอาจารย์คิมแล้วก็ ผบ.บอกพ่อแม่หมดแล้วจ๊ะ” คุณนายซินสมทบ จองอาจึงมองไปที่ชายสองคนฝั่งตรงข้าม

“แม้ผมจะไม่รู้จักคุณดีเท่ายุนนา แต่ผมก็คิดว่า...ยุนนาเลือกไม่ผิดคนหรอกนะ” ยุนโฮกล่าวเสียงนุ่ม

“ที่แม่เคยบอกว่าอยากได้จองอาเป็นลูก แม่พูดจริงๆนะ พ่อและแม่ไม่เคยรังเกียจหนูเลยนะจ๊ะ แม้จะตกใจในตอนแรกที่รู้เรื่องหนูกับยุนนา แต่ก็...เฮ้อ...ไม่ว่าลูกจะรักใครแม่ก็รักคนคนนั้นทั้งนั้นล่ะจ๊ะ ยิ่งเป็นหนูจองอาแม่ยิ่งดีใจใหญ่” คุณนายซินพูดพลางกอดจองอาอย่างรักใคร่ คุณซินเองก็ลูบศีรษะเธออย่างเอ็นดู

“ว่าแต่จองอาคิดดีแล้วหรอ ไปเอาคนพันธุ์นั้นน่ะ” คุณซินถามขึ้น จองอาถึงกับมองหน้างง

“ไม่ใช่ยุนนา ไม่ได้หรอกค่ะ หนูน่ะ…” จองอายังไม่ทันพูดจบคุณนายซินก็โผเข้ามากอดเธอ

“ตายแล้ว! น่ารักจังเลย เสียดายๆจัง ที่คนอย่างยุนนาได้หนูจองอาไป” คุณนายซินกล่าวพลางบดเบียดแก้มนวลกับจองอาอย่างรักใคร่ พอดีกับที่มงโดและยุนนาเดินเข้ามา

“แอ๊ะ! ทำอะไรอ่ะแม่ ของหนูนะ” ยุนนาเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้าไปฉุดร่างบางออกมา

“นี่แกหวงแม้กระทั่ง พ่อกับแม่หรอ หะ?” คุณซินกล่าวขึ้น

“หวงหมดทุกคนแหละ อย่าเข้ามาใกล้นะ ของหนู” ยุนนาพูดพลางกอดจองอาไว้แน่น ทุกคนต่างหัวเราะให้กับท่าทีนั้น อีซานที่นั่งหัวเราะอยู่ก็หันไปมองคนที่ยืนค้ำศีรษะข้างๆอย่างชื่นชมในการกระทำที่เขาทำให้ยุนนาและจองอาได้กลับมาอยู่ด้วยกันดังเดิม ก่อนที่มงโดจะรู้ตัวแล้วหันไปมองอีซาน แต่อีซานก็รีบหลบตาหนีพร้อมแอบอมยิ้ม เสียงหัวเราะยังมีไม่ขาดสาย ความสุขยังกระจายอยู่เต็มห้อง พร้อมความรักที่มีอยู่มากมายจากหัวใจของทุกคน และมันจะคงอยู่ตลอดไปตราบเท่าที่ใจยังมีรัก






ยุนนากำลังกระวนกระวายใจ มือของเธอเริ่มชื้นเหงื่อจากการกำแหวนไว้ในมือมาช่วงระยะหนึ่ง วันนี้เธอและจองอามาออกเดทกันหลังจากที่ไม่เคยทำมาห้าปีเต็ม

“ยุนนาดูซิ ชะมดตัวนั้นไง ที่เรามาดูเมื่อครั้งก่อนนะ มันยังแข็งแรงอยู่เลย” จองอาร้องเรียกคนที่เดินตามต้อยๆให้มาเกาะกรงดูชะมดสัตว์ที่เธอชอบนักชอบหนา

“น่ารักจัง” จองอาเอ่ยขึ้นอย่างเอ็นดู แม้ยุนนาจะรู้อยู่แล้วก็ตามว่าคนรักชอบเจ้าสัตว์ตัวนี้ แต่ก็อดทำหน้าแหยงๆไม่ได้ที่เธอเอ่ยถึงมันอย่างเอ็นดู หลังเดินกันจนทั่วแล้วพวกเธอก็ไปหยุดพักยังม้านั่งตัวเดิมที่เคยนั่งเมื่อครั้งมาออกเดทด้วยกันครั้งแรก

“ไม่เปลี่ยนไปเลยเนอะ แต่ดูโทรมไปหน่อย” จองอาวิจารณ์ม้านั่งที่ทั้งคู่นั่งอยู่ เธอไม่สังเกตเลยว่าตอนนี้ยุนนานั่งเหงื่อแตกพลั่กเพราะอาการตื่นเต้น

“จองอา” ยุนนาเอ่ยเรียกคนข้างๆให้หันมา เมื่อใบหน้านวลหันมาตามเสียงเรียก ยุนนาจึงค่อยๆชักมือที่แหวนอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทออกมา แต่เสียงโทรศัพท์ที่ไม่คาดฝันก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล! ห่ะ?......ไม่ต้องรอแม่ หนูอยู่กับจองอา .......นั่นก็ไม่ต้องทำ หนูจะกินข้างนอกเลย....อืมๆๆ ไม่รู้ แค่นี้นะ” ยุนนากล่าวกับคนปลายสายด้วยเสียงหงุดหงิดที่โทรมาขัดจังหวะ


จากนั้นทั้งคู่จึงไปชมภาพยนตร์กันต่อ ในโรงภาพยนตร์ที่ยุนนาเป็นคนเลือก

“คราวนี้ฉันขอเลือกโรงฯเองนะ” ยุนนาพูดใส่อีกคนให้รู้สึกผิด จองอาก็ได้แต่พยักหน้า
ยุนนาเลือกมาโรงภาพยนตร์ระดับกลางที่มีผู้ใช้บริการคับคั่งในทุกช่วงอายุ เธอออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์และป๊อบคอร์นเครื่องดื่ม

“เดี๋ยวฉันออกค่าป๊อบคอร์นเอง” จองอากล่าวขึ้นขณะที่ยุนนายื่นเงินให้พนักงาน

“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวฉันออกเอง” ยุนนาปฏิเสธ จองอาจึงต้องจำยอม จากนั้นยุนนาจึงรีบพาจองอาเข้าโรงฯทันที

“จะรีบไปไหน ไตเติ้ลยังไม่ขึ้นเลย” จองอากล่าวขณะที่อีกคนเดินจ้ำๆ สองสาวมาถึงที่นั่งเป็นรายแรกและ
ดูเหมือนอีกสักพักถึงจะมีคนเข้ามา เมื่อนั่งที่นั่งของตนแล้วยุนนาก็เอื้อมมือไปกุมมือจองอาไว้

“จองอา” ยุนนาเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง จองอารู้สึกสงสัยในท่าทีนั้น ยุนนาจึงล้วงมืออีกข้างเข้าไปในกระเป๋า

“เอ๊ย...ยุนนาใช่ไหมน่ะ เฮ! ไงยุนนา” เสียงมงโดดังขึ้นเมื่อเขาเห็นยุนนา เขาเดินตรงมายังที่นั่งของสองสาว ตามมาด้วยอีซานที่เดินรั้งท้ายมา มงโดมองบัตรในมือและเทียบไปยังเลขที่นั่งข้างๆยุนนา

“อ้าวนั่งติดกันเลย บังเอิญจริงๆ ฮ่าๆๆๆดีๆ” มงโดโวยวายดีใจยกใหญ่ แต่ยุนนากลับรู้สึกตรงกันข้าม เธอไม่น่าเลือกมาที่นี่เลย โอกาสครั้งที่สองจึงผ่านเลยไป


หลังออกจากโรงภาพยนตร์ก็เป็นช่วงเย็นมากแล้ว ยุนนาจึงพาจองอาไปทานอาหารในร้านหรูๆแห่งหนึ่ง

“ไม่เห็นต้องเข้าร้านหรูขนาดนี้เลยนี่” จองอากล่าวขึ้นระหว่างเดินเข้าร้านมา

“แล้วจะให้ฉันพาไปกินบะหมี่ข้างถนนแบบคราวนั้นหรือไง” ยุนนาตอบกลับ

“แต่ฉันชอบบะหมี่ร้านนั้นนะ” จองอาตอบเสียงอ่อย

“งั้นคราวหน้าเราค่อยไปกินกัน แต่คราวนี้ฉันอยากเลี้ยงอาหารดีๆเธอ” ยุนนาบอกให้คนฟังยิ้มขึ้น

“ไม่ได้เลี้ยงหรอก วันนี้เธอออกมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวฉันจ่ายเอง” จองอาแย้งขึ้น

“ไม่ได้ๆ ฉันตั้งใจไว้แล้ว ว่าวันนี้ฉันจะเทคแคร์เธอทุกอย่าง....อย่าขัดฉันเลยนะ” ยุนนาเริ่มด้วยเสียงเข้มก่อนจะอ่อนปลาย ทำให้คนฟังใจอ่อนยอมให้แต่โดยดี ก่อนที่ทั้งคู่จะสั่งอาหาร ระหว่างรอเสริฟนั้นยุนนาก็ตั้งใจที่จะทำสิ่งที่พลาดมาถึงสองครั้งแล้ววันนี้ เธอลุกขึ้นยืนและไปคุกเข่าลงข้างจองอา จองอางุนงงงกับท่าทีคนรักยิ่งนัก ก่อนที่ยุนนาจะล้วงเข้าไปในกระเป๋า แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกเธอจึงต้องหยิบมือถือออกมาแทนแหวน

“ฮัลโหล!....อดัมโทรมาทำไมตอนนี้.....อะไรนะส่งผิด คุณส่งอะไรมา....ไม่ใช่ๆ ฉันบอกภาพผู้หญิงที่อยู่ในห้องนอนฉันกับภาพสเก๊ตผู้หญิงสีไวโอลินที่กลางห้อง...นี่คุณส่งมาแล้วหรอให้ตายเหอะ....รีบๆเลยนะ” ยุนนาพูดกับคนปลายสายด้วยเสียงเป็นฟืนเป็นไฟ

“มีปัญหาหรอ?” จองอาถามอย่างเป็นห่วง

“นิดหน่อยน่ะ” ยุนนาพยายามตอบเสียงนุ่ม เพราะปัญหาที่แท้จริงของเธอไม่ใช่เรื่องที่อดัมบอกแต่เป็นเรื่องที่วันนี้เธอพลาดโอกาสเป็นครั้งที่สามแล้ว


เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเสร็จยุนนาจึงไปส่งจองอาที่ห้อง

“ขอเข้าไปหน่อยสิ” ยุนนาอ้อน

“ไม่ได้ คุณแม่รออยู่ไม่ใช่หรอ” จองอาตอบเอียงอายพลางผลักคนที่พยายามจะก้าวเข้าประตูมา

“ขอเข้าไปดื่มกาแฟหน่อยนึง นะๆ” ยุนนาต่อรองจนจองอาใจอ่อน เมื่อเข้ามาในห้องยุนนาก็ไปนั่งรอจองอาชงกาแฟที่เธอไม่ได้อยากดื่มเลย เมื่อจองอานำกาแฟมาวางและมานั่งข้างๆยุนนา เธอจึงเอื้อมมือไปจับมือนุ่มไว้ คราวนี้คงไม่มีใครมาขัดขวางเธอได้อีกแล้ว

“จองอา.....” ยุนนาจะกล่าวสิ่งที่อยากกล่าวมาตลอดทั้งวัน แต่เสียงออดก็ดังขึ้นก่อน จองอาจึงรีบวิ่งไปเปิด ปรากฏเป็นยุนโฮนำอาหารที่คุณนายซินทำมาให้จองอา

“โธ่เอ๊ย...แล้วเมื่อไหร่ฉันจะขอจองอาแต่งงานได้สักที!”

______________________________________________

จบแล้วนะค่ะ อาจจะมีตอนพิเศษเขียนออกมาหลังจากนี้ เดี้ยวลองฟังเสียงแฟนๆดูก่อนว่าจะให้เขียนตอนไหน ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกันจนจบ 555 ต้องใช้ความอดทนกันมากจิงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เขียนจบ (แต่เป็นรื่องที่สองที่เขียน) ยังไงก็ช่วยอยู่เป็นกำลังใจผู้แต่งต่อไปนะค่ะ จะพยายามจิ้นเพื่อทุกคนค่ะ
โอกาสนี้อยากจะขอขอบคุณน้องสาวที่น่ารัก "ยีน" ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เสมอมาเธอคือ พิสูจน์อักษรที่ได้อ่านตอนใหม่ๆก่อนทุกคนค่ะ ^_^ เราทั้งคู่ใหม่ในเรื่องงานเขียนจึงผิดพลาดเยอะต้องขออภัยด้วย แต่เธอคนนี้ก็ช่วยให้เรื่องนี้อ่านสบายตาขึ้นมากที่เดียวค่ะ เพราะผู้แต่งพิมพ์ผิดเยอะมากและไม่ค่อยตรวจทาน เธอทำให้มันผิดน้อยลง ขอบคุณนะจ๊ะยีน ยังไงก็ขอฝากตัวเรื่องต่อๆไปอีกนะจ๊ะ เรามาพัฒนาฝีมือไปพร้อมๆกันนะ เพื่อให้งานเขียนออกมาถูกใจแฟนๆและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ไฟท์ติ้งจ้า

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

After School The Final 1/2

ลงปลอบใจแฟนๆ 2 มุนนะค่ะ ที่วันนี้ชวด ฉลู ขาน เถาะ กันเป็นแถบๆ 5555 เจ๊ไม่มา เฮียไม่โผล่


ถ้างั้นก็เอา ยุนนากะจองอาไปจิ้นกันก่อนนะจ๊ะ...............ระวัง! คนเป็นเบาหวานไม่ควรอ่านตอนนี้ เพราะมันหวานนนนนนนนนนได้อีก

ดารารับเชิญพิเศษ เซรีน่า นางเอกสาวเซ็กซี่จาก GG ซีรี่สุดฮิตของอเมริกา(แต่ชอบแบล์มากกว่าอ่ะ)



After School
The Final 1/2

ณ Pace-MacGill Gallery หญิงสาวผมบลอร์นหุ่นสเลนเดอร์ท่าทางไฮโซกำลังชื่นชมภาพ The Lover เป็นภาพแผ่นหลังของหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ขอบเตียง

“ภาพนี้สุดยอดจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นภาพไหนที่จะให้ความรู้สึกเหมือนกับเราเข้าไปอยู่ในภาพแบบนี้มาก่อนเลย” สาวไฮโซพูดอย่างหลงใหล

“ใช่แล้วครับภาพนี้ถูกวาดด้วยจิตวิญญาณของศิลปินโดยแท้ แล้วยุนนาก็เป็นศิลปินที่หาใครเปรียญไม่ได้ด้วย” ชายหนุ่มตาน้ำข้าวพูดยกยอเจ้าของผลงานอย่างออกนอกหน้า

“นี่...เขาไม่ขายจริงๆหรอคะ เรื่องราคาฉันไม่เกี่ยงเลยนะคะ ให้เขาเรียกมาได้เลย” สาวไฮโซถามอย่างอ้อนวอน

“อืม....ขอเวลาผมสักหน่อยนะครับ ผมว่าถ้าเขาทราบว่าคนสวยๆอย่างคุณเซรีน่า อยากได้มากขนาดนี้แล้วล่ะก็ เขาต้องเปลี่ยนใจแน่ๆครับ” หนุ่มตาน้ำข้าวหยอดคำหวานจนสาวไฮโซถึงกับยิ้มหวานเชิดหน้าตามคำชม


“เอาอีกแล้วนะอดัม ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ขาย” เจ้าของผลงานพูดผ่าปล้องขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาคนทั้งสอง

“คุณแวนเดอร์วู๊ดเซนต์คะ ฉันต้องขอโทษจริงๆ ภาพนี้สำคัญกับฉันมาก ฉันขายมันไม่ได้จริงๆค่ะ” ยุนนาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนคนฟังแทบเคลิ้ม

“ได้โปรดเรียกฉัน...เซรีน่าเถอะค่ะ” สาวไฮโซตอบเสียงหวานพลางส่งสายตาเชิญชวน

“ค่ะคุณเซรีน่า” ยุนนาตอบ ก่อนที่จะถูกสาวเจ้ารุกไล่ด้วยการเข้ามาเกาะแขนและยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“ถ้ายังงั้นให้เกียรติฉันสักมื้อ...ไปดินเนอร์ได้ไหมคะ” เซรีน่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ จนคนที่ไม่ได้อยากให้ฟังซึ่งยืนอยู่ข้างๆสองสาวยังหวาบหวิว
“เออ...ขอโทษด้วยค่ะ คืนนี้ฉัน...ไม่ว่างเลย” ยุนนาตอบพร้อมกับแกะมือปลาหมึกออกอย่างสุภาพ

“ถ้ายังงั้นเราไป...” เซรีน่ายังไม่ละความพยายาม แต่ก็โดนยุนนาขัดขึ้น

“เออ...อ่ะแย่จริง! ฉันลืมไปเลยค่ะ ฉันมีนัดนี่ต้องรีบไปแล้ว ขอตัวนะคะ” ยุนนารีบใช้วิชาแถเอาตัวรอดเดินหนีออกมา แต่ก็ไม่วายที่อดัม ตัวแทนขี้หลีจะตามมารังควานเธอ

“เดี๋ยวสิ ยุนนา ให้ตายเถอะ! นั่นเซรีน่า แวนเดอร์วู๊ดเซนต์เชียวนะ คุณรู้ไหมเธอเป็นเซเรบชื่อดังของอัพเปอร์อีสไซน์เลยนะ ถ้าหล่อนซื้อภาพของเราละก็ เราแทบไม่ต้องโฆษณาอะไรเลย เพราะหนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะลงเรื่องนี้ เผลอๆอาจจะลงประวัติของคุณด้วยก็ได้” อดัมเข้ามาดักหน้ายุนนาและร่ายยาวเป็นหางว่าว

“เพราะยังงี้ไง ฉันเลยเลือกคุณ...อดัม ฉันรู้ว่าคุณทำได้ โดยที่ไม่ต้องขายภาพนั้น” ยุนนาพูดพลางจับไหล่ทั้งสองของเขาและบีบเบาๆ พร้อมส่งสายตาขี้เล่น อดัมถึงกับถอนหายใจให้ความดื้อรั้นของยุนนา

“ก็ได้ๆ....ทั้งที่ผมดีขนาดนี้ ทำไมคุณไม่ใจอ่อนสักทีล่ะยุนนา” อดัมขี้หลีเปลี่ยนโหมดมารุกไล่ยุนนาทันที เธอถึงกับหัวเราะชอบใจในความลื่นไหลของเขา ก่อนจะตบลงบ่าเขาเบาๆอีกครั้ง

“อดัม คุณเป็นตัวแทนที่ดีมากและเก่งมากด้วย แต่...ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีสักเท่าไหร่ เมื่อกี้ฉันยังเห็นคุณหลีเซรีน่าอยู่เลย” ยุนนาตอบโต้งๆให้คนฟังกระตุกที่ถูกจับได้

“นั่นเป็นแค่ อัธยาศัยเท่านั้น ผมเป็นตัวแทนของคุณนะ มีหน้าที่ต้องเทคแคร์ผู้เข้าชมนี่” อดัมแถอย่างไม่อาย ยุนนาถึงกับส่ายหน้า

“โอเคๆ” ยุนนาตอบอย่างอ่อนใจและเตรียมจะผละหนีไป แต่อดัมก็ยังเข้ามาขวางไว้

“เดี๋ยวสิ แล้วคืนนี้ล่ะ ผมจองที่นั่งชมนิวยอร์กฮาโมนิคไว้แล้วนะ ฉันโค้ชเลย เราจะได้...” อดัมยังสาธยายไม่ทันจบยุนนาก็ยกมือขึ้นห้ามไว้

“อดัมฉันบอกคุณแล้วไง เรื่องฉันกับคุณนะ...มันเป็นไปไม่ได้” ยุนนาตอบอย่างระอา

“บร้าๆๆ คุณพูดอะไรเนี่ยยุนนา ผมฟังเกาหลีไม่ออกนะ” อดัมยกมือปิดหูประกอบ ยุนนาจึงจับมือทั้งสองของเขามารวบไว้

“อดัมฉันพูดภาษาอังกฤษกับคุณอยู่” ยุนนามองหน้าเจ้าเล่ห์นั่น ก่อนที่อดัมจะยอมถอดใจจากยกนี้ ยุนนาเลยเดินจากไป

“คุณไม่ไปจริงๆหรอ คืนนี้มีคนเกาหลีเล่นด้วยนะ คนเกาหลีน่ะ” อดัมตะโกนไล่หลังแต่ยุนนาก็ยังเดินต่อไป
หลังจากเรียนจบเธอก็ออกทัวร์แสดงภาพของตัวเองไปทั่วยุโรปและอเมริกาถึงหนึ่งปีเต็ม และยังไม่มีโอกาสกลับเกาหลีเลยตั้งแต่จากมาเมื่อห้าปีที่แล้ว ตอนนี้ยุนนาเป็นศิลปินดาวรุ่งที่กำลังโด่งดังในหมู่ไฮโซและคนมีชื่อเสียง ผลมาจากอดัม ชายหนุ่มซึ่งเป็นตัวแทนของเธอ เขาได้มีโอกาสไปเห็นภาพของยุนนาขณะที่เธอยังเรียนอยู่ที่โดมุส และตกหลุมรักทั้งภาพและยุนนาทันทีที่เห็น เขาจึงเสนอเป็นตัวแทนและพายุนนาเดินทางแสดงโชว์ภาพ และทุกที่เธอจะแสดงภาพ The Lover เป็นมาสเตอร์พีช แต่ก็ไม่ยอมขายให้ใคร เนื่องจากภาพนี้คือภาพแรกที่เธอได้รางวัลและเป็นภาพของคนที่เธอรัก


ณ Lincoln Center เวลาเริ่มแสดงใกล้เข้ามาแล้ว มาเอสโตรวิลเลี่ยมแห่งนิวยอร์กฮาโมนิคจึงเข้ามาเรียกนักไวโอลินสาวที่เขาเชิญเธอมาเป็นพิเศษในการแสดงช่วงสัปดาห์นี้

“พร้อมไหมจองอา” เขากล่าวอย่างอ่อนโยน หญิงสาวเจ้าของชื่อจึงหันมาส่งยิ้มละลายใจ

“พร้อมแล้วค่ะ” เธอตอบเสียงนุ่น จนคนฟังแทบเคลิ้ม แล้วเธอจึงเดินออกไปแสดงบนเวทีอย่างมาดมั่น เสียงไวโอลินอันไพเราะของเธอหยุดลมหายใจของทุกคนในฮอลล์เลยทีเดียว และเมื่อเสียงดนตรีหยุดลง ทุกคนต่างยืนขึ้นและปรบมือให้เธออย่างกึกก้อง เธอจึงโค้งรับอย่างนอบน้อม เมื่อการแสดงจบลงเหล่านักดนตรีก็มาพักเหนื่อยและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายกันยังห้องรับรองหลังเวที เช่นเดียวกับจองอา

“เธอทำได้ดีมาก ทุกคนชื่นชอบเธอมากเลย ฉันรับรองว่า พรุ่งนี้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะเขียนถึงการแสดงสุดวิเศษนี้ของเธอ” มาเอสโตรวิลเลี่ยมเข้ามาชมเธอถึงในห้องรับรอง

“ขอบคุณค่ะ” จองอาโค้งรับอย่างนอบน้อม

“น่าเสียดาย ที่ได้ร่วมแสดงกับเธอแค่เพียงช่วงสัปดาห์นี้เท่านั้น” มาเอสโตรพูดขึ้น

“แต่ฉันก็รู้จักกับคณะกรรมการดีนะ จะให้ฉันพูดกับพวกเขาเรื่องพิจารณาเซ็นสัญญากับเธออย่างเป็นทางการดีไหม” มาเอสโตรเฒ่าแย้มขึ้น พลางเดินเข้าไปใกล้เธอ

“งั้นรึคะ” จองอาตอบสั้นๆด้วยรอยยิ้มน้อยๆ มาเอสโตรถึงกับอึ้งต่อท่าทีของเธอ

“แค่นี้หรอ ถ้าเป็นนักดนตรีคนอื่นๆ เขาคงโดดใส่ฉันแล้ว” มาเอสโตรพูดหยั่งเชิง

“ทำแบบนั้นแล้ว...มันมีผลต่อการพิจารณาด้วยหรอคะ” จองอาสวนกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนที่มาเอสโตรวิลเลี่ยมจะหัวเราะชอบใจ

“ฮ่าๆๆ เธอนี่...เซอร์ไพร์ฉันจริงๆ ก็ถูกของเธอนะ เอาล่ะฉันจะลองพูดให้ แต่ว่า...ข้อเสนอของฉันก็ยังอยู่นะ” มาเอสโตรเฒ่ายังไม่วายโผล่หัวงูออกมาอีกรอบ แต่จองอาก็แค่ยิ้มรับน้อยๆพร้อมโค้งขอบคุณอย่างสุภาพ


หลังเรียนจบจองอาได้มีโอกาสร่วมแสดงกับวงดนตรีชื่อดังมากมาย ด้วยพรสวรรค์ของเธอจึงทำให้มาเอสโตรวิลเลี่ยมชักชวนเธอมาร่วมวงนิวยอร์กฮาโมนิคในครั้งนี้ ตอนนี้เธอได้ชื่อว่าเป็นนักไวโอลินสาวฝีมือชั้นแนวหน้าของเกาหลีเลยทีเดียว พร้อมฉายาที่ทุกคนต่างยอมรับ “นางฟ้าไวโอลิน”


หลายวันต่อมา ณ Central Park ยุนนามาเดินผ่อนคลายในช่วงมื้อกลางวัน เพราะต้องคอยประจบและปั้นหน้าพูดคุยกับเหล่าไฮโซมากหน้าที่อดัมคอยหามาชมภาพ เธอมักจะออกมาทานกลางวันที่นี่เสมอ แค่โค้กกระป๋องและฮอตด็อกสักอันก็ทำให้มีแรงสู้ต่อในอีกครึ่งวันที่เหลือ ยุนนานั่งอยู่ริมธารน้ำอย่างสบายอารมณ์พร้อมจิบความซ่าชื่นใจจากโค้กกระป๋อง ก่อนที่สายตาจะเหลือไปเห็นร่างบางร่างหนึ่งที่แสนจะคุ้นตากำลังเดินอยู่บนสะพานข้ามลำธารนั้น เธอจึงเพ่งมองให้ชัดๆอีกครั้งแต่ร่างนั้นก็หายไปแล้ว ยุนนาไม่รอช้าเตรียมที่จะลุกขึ้นวิ่งตามร่างนั้น แต่ก็ต้องชะงักหยุดเมื่อหันไปพบเจ้าชิวาว่าน้อยตัวหนึ่ง ยุนนานั่งตัวแข็งทื่อ เพราะในชีวิตนี้เธอไม่เคยกลัวอะไรนอกจากเจ้าสุนัขพันธุ์ไฮโซนิยมพันธุ์นี้ สืบเนื่องมาจากตอนเด็กเธอเคยถูกเจ้าสุนัขน้อยที่เธอเห็นว่าน่ารักน่ารักหนาจึงเข้าไปเล่นด้วย แต่มันกัดกระโดดกัดเธอจนเป็นแผลแหวะหวะ ทำให้ตั้งแต่นั้นเธอขยาดสุนัขพันธุ์ชิวาว่าทุกตัว ยุนนาพยายามตั้งสติว่าจะทำยังไงต่อ แต่เมื่อเห็นเจ้าชิวาว่าสาวเท้าเข้ามาเธอก็ลุกพรวดและวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าชิวาว่าเจ้ากรรมดันวิ่งตามไม่หยุดหย่อน ยุนนาวิ่งหนีหน้าตั้งในมือทั้งสองข้างก็ยังถือฮอตด็อกและโค้กเอาไว้ เธอวิ่งไปอย่างไร้จุดหมาย ขอเพียงให้พ้นจากเจ้าปีศาจน้อยนี่ก็พอ แต่มันกลับวิ่งไล่เธอดั่งหมาล่าเนื้อ ยุนนามองเห็นม้านั่งตัวหนึ่งแต่ไกล เธอจึงวิ่งตรงไปกระโดดขึ้นหดขาหนีเจ้าชิวาว่าน้อย แต่มันกลับเห่าใส่เธอเสียงแหลมและจับจ้องไปยังฮอตด็อกที่เธอถือ ยุนนาจึงใช้สมองที่ตอนนี้ตีบตันประมวลผลความต้องการของเจ้าชิวาว่า ก็ได้คำตอบว่ามันแค่ต้องการกินฮอตด็อกของเธอเท่านั้น เธอจึงโยนฮอตด็อกนั่นให้มันไป เมื่อมันได้สิ่งที่ต้องการก็คาบฮอตด็อกวิ่งหายไปทันที ยุนนาถึงกับถอดหายใจยกใหญ่ที่รอดตายมาได้

“ขอโทษนะคะ คุณนั่งทับกระเป๋าฉันอยู่” เสียงหวานของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ยุนนารู้สึกตัวว่าเธอกำลังนั่งทับกระเป๋าใบหนึ่งอยู่จริงๆ เธอจึงกระโดดลงจากม้านั่งและลุกขึ้นยืนทันที

“ขอโทษค่ะฉัน....” ยุนนาหันไปเพื่อขอโทษเจ้าของกระเป๋า แต่ไม่ทันที่จะพูดจบเธอก็ต้องตกตะลึงเมื่อคนที่เธอนึกถึงทุกลมหายใจมายืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ยุนนา...” หญิงสาวเจ้าของกระเป๋าเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ที่อยู่ๆก็พบคนที่หัวใจเรียกหา แต่ไม่ทันที่เธอจะได้กล่าวอะไร ยุนนาก็เดินเข้ามาหาและจุมพิตเธออย่างดูดดื่มจนเธอแทบตั้งตัวไม่ทัน แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนคนเอาแต่ใจแต่อย่างใด เมื่อริมฝีปากแห่งความคิดถึงถอดออกจากกันลมหายใจร้อนจึงพ่นออกมาอย่างรวยริน ทั้งคู่สบตากันและกันอย่างรักใคร่ ถ่ายทอดความห่วงหาอาทรผ่านสายตา จองอาลูบไล้ใบหน้าและเรือนผมที่ตอนนี้ยาวถึงกลางหลังของยุนนาอย่างหวงแหน

“ฉัน...” จองอาพยายามจะพูดบางอย่างแต่ยุนนาก็ไม่เปิดโอกาสนั้น เธอกลับจุมพิตจองอาอย่างดูดดื่มอีกครั้ง แต่จองอาก็ตอบรับมันอย่างยินดี ก่อนจะเหลือบไปเห็นฝรั่งมุงข้างหลังยุนนาที่ตอนนี้เริ่มล้อมวงเข้ามาแล้ว จองอาจึงผลักยุนนาออก และเรียกให้ยุนนาหันไปมองฝรั่งมุง ยุนนามีท่าทีตกใจที่ถูกจองอาผลักแต่เมื่อหันมาเจอเหตุผลก็เข้าใจ ก่อนจะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น

“เธอเป็นแฟนฉันค่ะ เราจะแต่งงานกัน” ยุนนาพูดกับฝรั่งมุงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จองอาแทบไม่เชื่อหู

“ยุนนาพูดอะไรน่ะ” จองอากระซิบห้าม แต่ไม่เป็นผล ยุนนายังเล่นไม่เลิก เธอคุกเข่าลงและจับมือจองอาไว้
“แต่งงานกับฉันนะ” ยุนนาพูดพร้อมสบตาจองอาอย่างหวานซึ้ง จองอาตกใจทำอะไรไม่ถูก และเสียงเชียร์จากฝรั่งมุงก็เริ่มดังขึ้น

“แต่งเลยๆๆๆๆ” เหล่าฝรั่งมุงส่งเสียงเชียร์กันยกใหญ่ จองอาทั้งอายทั้งงงทำอะไรไม่ถูก

“เอาสิ ตอบซิ ไม่งั้นพวกนั้นไม่ไปหรอกนะ” ยุนนากระซิบบอก

“ค่ะ” จองอากลั้นใจตอบออกไปอย่างจำใจแต่ก็ยินดีในเวลาเดียวกัน ยุนนาจึงลุกขึ้นก็โชว์จูบอันดูดดื่มให้เหล่าฝรั่งมุงดุกันเป็นบุญตาอีกครั้ง

“โอเค ขอบคุณๆ เธอตอบตกลงแล้ว ขอบคุณมาก” ยุนนาหันมาพูดกับฝรั่งมุงเหล่านั้น พวกเขาจึงพากันเดินจากไปในที่สุด ก่อนที่ฝ่ามือพิฆาตจะตามมาเฆี่ยนหลังคนกะล่อนให้ร้องโอดโอย

“นี่แนะ เล่นอะไรก็ไม่รู้” จองอาเอ็ดใส่เสียงเขียว แต่ยุนนาก็ตอบโต้โดยการโอบกอดร่างบางไว้อย่างแน่นหนา

“โอ๊ยๆ เจ็บนะ” จองอาร้องขึ้นเมื่อถูกอีกคนกอดรัดจนตัวจะหัก ยุนนาจึงคลายอ้อมกอดให้จองอาพอรู้สึกสบายตัวขึ้น และสบตาเธออย่างหวานซึ้ง

“ฉันรักเธอ...รักเธอเสมอ” ยุนนาบอกเสียงนุ่น จองอาน้ำตาไหลพรากเมื่อได้ยิน เธอจึงกอดตอบยุนนาอย่างรักใคร่

“ฉันเองก็...ฉัน...” จองอาสะอื้นไห้จนไม่สามารถพูดออกมาเป็นภาษาได้ ยุนนาหัวเราะอย่างเอ็นดูกับอาการของเธอ ก่อนจะจุมพิตเปลือกตาฉ่ำนั้นอย่างแผ่วเบา

“ฉันรู้” ยุนนากระซิบที่ข้างหู ทั้งคู่จึงจูบกันอย่างหวานซึ้งอีกครั้ง

ยุนนาพาจองอามาพายเรือเล่นใน ซึ่งอยู่ภายในบริเวณ Central Park จองอาอิงแอบร่างไปยังอ้อมกอดของยุนนา ทั้งคู่นั่งปล่อยอารมณ์ไปกับบรรยากาศแสนสบาย ต่างถามไถ่ถึงกันและกันในช่วงเวลาห้าปีที่ไม่ได้พบ

“ตอนนี้เธอทำอะไรหรอ” ยุนนาถามข้างแก้มนวล

“ฉันเล่นไวโอลิน” จองอาตอบสั้นๆ จึงทำให้คนถามไม่สมใจ
“แล้วเล่นที่ไหนล่ะ แล้วทำไมถึงมาอยู่ในนิวยอร์กได้” ยุนนาจึงซักยกใหญ่ จองอาถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

“ก็มาทำงานน่ะสิ ถามได้” จองอาอยากจะแกล้งคนถามบ้างจึงไม่ตอบให้กระจ่าง

“รู้แล้ว แล้วทำอะไร ที่ไหน ยังไงล่ะ” ยุนนาจึงซักไม่เลิก ทำให้จองอาหัวเราะกับอาการของคนถามอีกครั้ง
“ฉันถูกเชิญมาเป็นเกสให้กับนิวยอร์กฮาโมนิค แต่วันนี้เล่นเป็นวันสุดท้ายแล้วล่ะ” จองอาแกล้งจนสมใจแล้วจึงตอบออกไปให้อีกคนกระจ่าง ยุนนาเมื่อได้ฟังก็หวนนึกถึงคำชวนของอดัมเมื่อหลายวันก่อน

“โธ่เอ๊ย วันนั้นฉันน่าจะไป ไม่งั้นก็ได้เจอกันตั้งหลายวันแล้ว” ยุนนากล่าวออกมาอย่างเสียดาย แต่จองอาไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูดถึง

“อะไรหรอ” จองอาจึงถามขึ้น

“ก็ อดัมตัวแทนฉันน่ะ เขาชวนฉันไปดูนิวยอร์กฮาโมนิคเมื่อหลายวันก่อน เขาบอกว่ามีคนเกาหลีมาเล่นด้วย แต่ฉันไม่ได้สนใจเลยไม่ได้ไป เสียดายชะมัด ไม่งั้นก็ได้พบเธอตั้งแต่วันนั้นแล้ว” ยุนนาอธิบาย

“อดัมหรอ?” จองอาเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยและผละออกจากอ้อมกอดยุนนาพร้อมกับหันมาจ้องยุนนาอย่างจับผิด

“อะไรหรอ อดัมไง เขาเป็นตัวแทนของฉัน คอยขายภาพและก็ติดต่อคนให้กับฉันน่ะ” ยุนนาพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนจองอาจะยังไม่หายสงสัย เธอยังคงจ้องยุนนาอยู่ไม่วางตา

“ตัวแทนเขาชวนศิลปินไปดูดนตรีด้วยหรอ” จองอากล่าวขึ้นอย่างขุ่นเคือง นั่นทำให้ยุนนาจับอารมณ์ของเธอได้ จึงเข้าใจว่าจองอากำลังหึงอดัมอยู่

“นี่...เธอหึงหรอ” ยุนนาโพล่งขึ้น จองอาถึงกับหน้าแดงทันที เธอรีบเอามือมาปิดแก้มของตัวเองไว้และหันหลังหนีอีกคน แต่ยุนนากลับดึงร่างบางมากอดอย่างเอ็นดู จองอาขัดขืนเล็กน้อย

“โธ่ ก็บอกแล้วไง ฉันรักเธอ รักเธอเสมอ...รักแค่เธอ” ยุนนากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู จองอาแทบละลายเมื่อได้ยิน ก่อนที่จะร้อนวาบไปทั้งร่างเมื่อยุนนาขบเม้มริมฝีปากกับติ่งหูของเธอ และจูบลากยาวลงมายังต้นคอขาว

“อย่าสิยุนนา นี่เราอยู่บนเรือนะ” จองอาร้องห้ามขึ้น เมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มรุกไล่

“ก็ใช่ไง ตื่นเต้นดี” ยุนนาตอบทะเล้นให้อีกคนหันไปตีเข้าที่ไหล่สองสามตุบ

“โอ๊ยเจ็บนะ” ยุนนาร้องโอย

“ก็ตีให้เจ็บน่ะสิ” จองอาตอบหน้าเป็น คนทะเล้นจึงสวนกลับด้วยการขโมยหอมแก้มนวลไปเต็มฟอด

“เดี๋ยวเถอะ” จองอาจะเข้าไปทุบอีก แต่ยุนนายั้งมือบางไว้และรวบมาไว้กับตัว

“ฉันขอไปดูเธอเล่นนะ” ยุนนาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางช้อนตาขึ้น ให้จองอาหลุดขำออกมาอย่างเอ็นดู
“จะไปก็ไปสิ” จองอาตอบ ทำให้ยุนนายิ้มแก้มปริและโผเข้าไปกอดร่างบางจนเรือโคลง สองสาวตกใจรีบจับเรือไว้ทันที จองอาจึงเอ็ดใส่ยุนนาอีกยกใหญ่


ณ Lincoln Center เวลาแสดงกำลังเริ่มขึ้นแล้ว ร่างบางของหญิงสาวแสนสวยเดินนวยนาดออกมาจากข้างเวที ก่อนจะหยุดลงตกกลาง และเริ่มบรรเลงเพลงโซโล่ของเธอ ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังร่างบางนั่น เสียงดนตรีที่เธอบรรเลงทำให้ทุกคนตกอยู่ในห้วงแห่งความสุนทรีย์ ก่อนที่เสียงดนตรีจะจบลง ผู้ชมต่างลุกขึ้นปรบมือให้เธออย่างกึกก้อง รวมถึงผู้ชมคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าสุด เธอลุกขึ้นยืนปรบมือให้จองอาอย่างออกนอกหน้าจนคนทั้งแถวหันมามองแต่เจ้าตัวกลับไม่ใส่ใจ เพราะตอนนี้ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังร่างบางบนเวที ร่างบางเองก็หลุดหัวเราะให้กับอาการของคนหน้าเป็นที่ตบมือให้เธอไม่เลิก ก่อนจะหน้าชาวาบขึ้นเมื่ออยู่ๆคนข้างล่างก็จุมพิตผ้าพันคอลายดอกไม้ที่พันอยู่กับตัว จองอาจึงจับจี้ผีเสื้อขึ้นมาและจุมพิตลงไปเช่นกันเป็นการตอบรับอีกฝ่าย ก่อนจะโค้งให้เสียงตบมือของผู้ชมทุกคน
เมื่อการแสดงจบลงจองอาก็กลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวที่หลังเวทีเช่นเดิม ทุกคนในวงต่างอาลัยที่ต้องจากเธอจึงพากันมาบอกลาเธอกันยกใหญ่

“น่าเสียดายจริงๆ หวังว่าคงจะได้ร่วมเล่นกับเธออีกนะจองอา” นักดนตรีคนหนึ่งในวงเอ่ยขึ้น จองอาโค้งรับอย่างนอบน้อม เมื่อทุกคนออกไปจากห้องพักของเธอ มาเอสโตรวิลเลี่ยมก็เข้ามา

“อะแฮ่ม...ทำได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคยนะ ไม่สิดีกว่าทุกๆครั้งเลยก็ว่าได้ เพราะอะไรกันน๊า” มาเอสโตรเดินเข้ามาใกล้เธอด้วยท่าทางกระลิ้มกระเรี่ย

“หมายความว่ายังไงคะ มาเอสโตร” จองอาจึงหันไปถามอย่างสงสัย

“ฉันเห็นน๊า...คนนั้นใครกัน สาวน้อยที่นั่งแถวหน้าสุดน่ะ” มาเอสโตรพูดอย่างมีเลศนัย จองอาถึงกับลนลานที่ถูกจับอาการบนเวทีได้

“เธอเป็น...” จองอาชั่งใจก่อนจะตอบ มาเอสโตรเองก็จ้องรอคำตอบอย่างจดจ่อ จองอาจึงกลั้นใจตอบออกไป

“เธอเป็นแฟนฉันค่ะ” จองอาตอบด้วยใบหน้าที่แดงดั่งลูกตำลึง สองข้างแก้มของเธอแดงผุดผาดตามความเขินอายที่มี มาเอสโตรที่ได้ยินคำตอบนั้นก็อึ้งไปสักใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างพอใจ

“เธอนี่...เซอร์ไพร์ฉันได้ตลอดจริงๆ ฉันคงไม่รู้สึกเบื่อแน่ๆ ถ้ามีเธอร่วมวงด้วย” มาเอสโตรพูดเป็นปริศนาให้จองอาขบคิด ก่อนจะเดินจากไป แต่เธอก็มัวคิดได้ไม่นานเพราะนึกไปถึงคนที่ยืนรออยู่ข้างนอก เธอจึงรีบแต่งตัวและร่ำลาทุกคนในวงให้เรียบร้อย จากนั้นก็รีบตรงออกมายังหน้าประตู Lincoln Center เธอมองเห็นร่างเล็กของยุนนายืนตัวสั่นมาแต่ไกล ยุนนาเองก็เหมือนกับจับคลื่นร่างบางได้ เธอหันมามองตรงไปยังจองอาที่เดินพลางวิ่งเข้ามาหา

“โหทำไรอยู่เนี่ย หนาวจะตายอยู่แล้ว” ยุนนาบ่นอุบพลางกอดอกตัวสั่น

“โอ๋ๆ ขอโทษนะ มานี่มา” จองอาขอโทษเสียงอ่อนเสียงหวาน แล้วจับมือยุนนามาถูและเป่าลมร้อนใส่มือคู่นั้น จากนั้นก็เอามาอังแก้มตัวเองไว้

“อุ่นหรือยัง” จองอาถามด้วยใบหน้าจิ้มลิ้ม ทำให้คนโกรธหายอารมณ์บูดเลยทีเดียว

“อุ่นก็ได้” ยุนนาตอบวางฟอร์ม จองอาจึงส่งยิ้มหวานให้อีกครั้ง

“ไปกันเถอะ” ยุนนารีบดึงมือจองอาและวิ่งไปยังริมถนน เธอโบกเรียกแท็กซี่ให้จอดแล้วทั้งคู่จึงขึ้นไป ยุนนาบอกคนขับให้ไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งจองอาไม่รู้จัก

“จะไปไหนหรอ” จองอาถามขึ้นอย่างสงสัย

“เดี๋ยวก็รู้” ยุนนาเล่นลิ้น จองอาถึงกับทำหน้ามุ่ย คนทะเล้นเลยบีบจมูกงอนนั่นอย่างสนุกมือ

“เซอร์ไพร์ไง เซอร์ไพร์ ถ้าบอกก็ไม่ตื่นเต้นสิ” ยุนนาพูดให้จองอาคลายความสงสัย แต่กลับเพิ่มความตื่นเต้นให้กับเธอ ไม่นานนักแท็กซี่ก็มาจอดยังที่หมาย สองสาวจึงก้าวออกจากรถ จองอามองอย่างสำรวจไปยังอพาตเม้นตรงหน้า

“ที่ไหนเนี่ย” เธอถามขึ้นอีกครั้ง แต่ยุนนาไม่ตอบ เธอเดินเข้าไปกดรหัสเปิดประตูและจูงมือจองอาเดินตามเข้าไปข้างใน ทั้งสองเดินขึ้นบันใดไปถึงชั้นสาม ยุนนาก็หยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง ก่อนจะถอดผ้าพันคอลายดอกไม้ออกมา และผูกปิดตาจองอาไว้

“ทำอะไรเนี่ยยุนนา” จองอาตกใจกับการกระทำไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของยุนนา

“เอาน่า เซอร์ไพร์ไง” ยุนนากระซิบข้างหูเธออย่างแผ่วเบา ทำให้จองอารู้สึกวาบขึ้นมา จากนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ร่างบางเดินตามการชักจูงของยุนนาอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะหยุดลงและผ้าที่ปิดตาอยู่ก็ค่อยๆคลายออก เผยให้เห็นภาพวาดหญิงสาวที่กำลังสีไวโอลินอยู่และภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังวาดไม่เสร็จ จองอานิ่งอึ้งไปทันที ก่อนที่น้ำตาแห่งความปิติจะไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ก็บอกแล้วว่าเซอร์ไพร์” ยุนนากระซิบบอก จองอาจึงโผเข้ากอดเธอทันทีและร่ำไห้อย่างสะอึกสะอื้น

“โอ๋ๆ นี่ดีใจหรือเสียใจเนี่ย ให้ฉันเอาไปทิ้งไหม” ยุนนาพูดหยอกเย้าขึ้น จองอาจึงตีเข้าที่บ่าเธอ

“ดีใจสิ คิดว่าจะไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว” จองอาตอบเสียงเครือพลางปาดน้ำตาของตัวเอง
“ฉันขอให้พี่ซานเขาเก็บไว้ให้น่ะ” ยุนนาอธิบาย

“มิน่าล่ะ ฉันเข้าไปหาในบ้านก็ไม่เจอ” จองอากล่าว

“ฉันไม่มีวัน...ทิ้งความทรงจำของเราหรอกนะ รูปพวกนี้คือความทรงจำของเรา คือแรงปรารถนา...ที่ฉันมีต่อเธอ” ยุนนาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับจุมพิตลงไปยังแก้มนวลอย่างแผ่วเบา และย้ายมาอีกข้าง ตามด้วยหน้าผาก เปลือกตาทั้งสอง จมูกสันได้รูป และเลื่อนลงมายังริมฝีปากบาง เธอจุมพิตแผ่วเบาอย่างอ่อนหวาน จองอาหลับตาพริ้มรับสัมผัสแห่งรักของยุนนา

“เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหมจองอา...ฉันอยาก...” ยุนนากระซิบเสียงเครือ จองอาที่ได้ยินก็รู้สึกวาบหวามไปทั้งตัว

“ฉันอยากวาดให้มันเสร็จ รูปนั้นน่ะ” ยุนนากล่าวพร้อมชี้ไปยังภาพหญิงสาวที่ตนวาดค้างไว้เมื่อห้าปีก่อน ทำเอาจองอาตื่นเต้นเก้อ
จองอานั่งอยู่บนเก้าอี้ให้ยุนนานั่งวาดในท่าเดิมที่เคยทำเมื่อห้าปีก่อน ยุนนาวาดมันด้วยสีหน้าจริงจัง จองอาที่มองอยู่ก็ได้แต่อมยิ้มจนทำให้คนวาดเสียสมาธิ

“อะไรหรอ” ยุนนาเอ่ยถามขึ้น

“เปล่าๆ วาดไปเถอะ” จองอาพูดอมยิ้ม ยุนนาจึงยังไม่หายสงสัย แต่ก็หันกลับมาตั้งใจวาดรูปตามเดิม ยุนนาจะหันมามองจองอาเป็นพักๆเพื่อเทียบเคียงกับภาพที่ตนวาด และทุกครั้งที่สายตามุ่งมั่นนั้นหันมาทางเธอ จองอาเป็นต้องใจแกว่ง เธอแทบจะนั่งไม่ติดที่จริงๆเมื่อถูกจ้องมองนานๆ จองอาก้มหน้าลงพยายามตั้งสติไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆก็เห็นเท้าของคนที่นั่งวาดภาพเธอมาอยู่บนพื้นตรงหน้า เธอจึงเงยหน้าขึ้นแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่ออีกคนโถมตัวลงมาแล้วจุมพิตเธออยากดูดดื่ม แม้จะไม่ทันตั้งตัวแต่เธอก็ตอบรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ จองอาโอบคอของยุนนาลงมาและจูบตอบอย่างเร่าร้อน จนทั้งคู่เสียหลักตกเก้าอี้ไปนอนกองอยู่บนพื้น สองสาวต่างพากันหัวเราะยกใหญ่กับการกระทำของตัวเอง

“ไม่วาดต่อแล้วหรอ” จองอาถามกับร่างที่นอนทับเธออยู่

“วาดซิ แต่หลังจากนี้นะ” ยุนนาตอบและก้มลงจูบจองอาอย่างดูดดื่ม จองอาเองก็ตอบรับรสจูบนั้นอย่างเร่าร้อน เธอพลิกตัวเพื่อขึ้นไปอยู่ด้านบนและสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานของยุนนา แม้จะตกเป็นฝ่ายถูกรุกแต่ยุนนาก็ไม่อยู่เฉยเธอเอื้อมมือซุกซนไปขย้ำก้นเล็กน่ารักของจองอาอย่างมันมือ และค่อยๆสอดมือเข้าไปในกางเกงยีนตัวเล็กของจองอา แต่ก็ถูกมือบางห้ามไว้ จองอารวบมือซนนั้นไว้และจับตรึงเอาไว้บนศีรษะ ยุนนารู้สึกตกใจเล็กน้อยและตื่นเต้นกับการกระทำของอีกฝ่าย ก่อนที่จองอาจะหยิบผ้าพันคอที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้ลงมาผูกแขนทั้งสองข้างของยุนนาไว้ ตอนนี้ยุนนาเริ่มรู้สึกตกใจจริงๆเข้าแล้ว

“จองอา?” ยุนนาเอ่ยเสียงหลง

“แก้แค้น ฉันยังไม่ลืมหรอกนะ” จองอากระซิบด้วยเสียงเซ็กซี่ที่ข้างหู ทำเอาคนฟังแทบละลาย

“ถ้ายังงั้นก็...เชิญตามสบายเลย ฉันยอมทุกอย่าง” ยุนนาตอบด้วยดวงตาหวานเยิ้ม จองอาจึงเริ่มปฏิบัติการแก้แค้นแสนรัก ณ บัดนี้ เธอค่อยถอดเสื้อกันหนาวชั้นนอกออกและตามด้วยเสื้อยืดตัวเล็กข้างใน ยุนนามองภาพนั้นไม่วางตา ก่อนที่จองอาจะลุกขึ้นยืนและปลดกระดุมกางเกงยีนออก แล้วค่อยๆรูดซิบลงช้าๆ ยุนนาลุ้นไปกับการกระทำนั้น จองอาค่อยๆดึงกางเกงยีนตัวเล็กออกจากร่างอย่างเชื่องช้า เมื่อกางเกงยีนถูกถอดออกแล้วเธอที่เหลือเพียงยกทรงและชั้นในตัวจิ๋วก็ลงมาหาร่างยุนนาที่นอนดูการกระทำของนั้นอย่างระทึกใจ เธอบดเบียนอกอิ่มลงไปบนอกของยุนนา

“เด็กไม่ดีต้องถูกทำโทษ” จองอากระซิบที่ข้างหูพร้อมขบเม้มติ่งหูของยุนนา นั่นเองที่ทำให้ความอดทนของยุนนาถึงขีดจำกัด ยุนนาคลายปมผ้าพันคอที่ผูกแขนเธอออกและอุ้มร่างบางของจองอาลุกขึ้น

“ทนไม่ไหวแล้ววุ้ย” ยุนนาพูดอย่างเหลืออดก่อนจะอุ้มร่างบางวิ่งเข้าห้องนอนไป

“อย่าขี้โกงสิยุนนาไหนว่าจะยอมให้ทำอะไรก็ได้ไง” จองอาประท้วงในอ้อมกอดพร้อมทุบคนสับปลับไปหลายที แต่ยุนนาก็ไม่มีท่าทีจะฟัง เมื่อเข้ามายังห้องนอน เธอวางร่างบางลงไปยังเตียงใหญ่ที่แสนนุ่ม ก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างว่องไวและกระโดดเข้าใส่ร่างบางทันที

“พอเลยนะไม่เอาๆ โกรธแล้ว ผิดคำพูดนี่” จองอาขัดขืนและเบี่ยงตัวหนีหน้ามุ่ย

“เออ...นะจองอา...ฉันสัญญาไว้คราวหน้านะ คราวหน้าจะยอมให้ทำสองเท่าเลยเอา” ยุนนาต่อรอง และเบียดตัวไปยังร่างบาง จองอาจึงหันกลับมา

“จริงนะ สัญญาด้วย” จองอาเอ่ยขึ้นพลางยกนิ้วก้อยขึ้นมา ยุนนาถึงกับหลุดหัวเราะแต่ก็ยอมเกี่ยวก้อยโดยดี แล้วจู่ๆจองอาก็ผลักร่างเธอลงนอนพร้อมกับร่างบางที่ตามลงมาประกบริมฝีปากอย่างเร่าร้อน จองอารุกไล่จนยุนนาแทบตั้งตัวไม่ทัน แต่เมื่อจับจังหวะได้ ยุนนาก็ตอบโต้เธอด้วยมืออันซุกซนที่ตอนนี้กำลังขยำก้นเล็กๆของจองอาและพยายามถอดชั้นในตัวจิ๋วออกไปด้วย ทั้งคู่ตอบโต้และรุกเร้ากันและกันอย่างไม่ยอมแพ้ ประหนึ่งว่าทั้งคู่กำลังแข่งขันกันอยู่ และไฟรักที่ต่างก็ช่วยกันโหมทั้งคืนนั้นก็มอดดับในเวลาต่อมา



-------------------------------------------------------------------------------



ซับเลือดด่วน O_o




ยังไม่จบนะค่ะ รออ่านตอนสุดท้าย และตอนพิเศษปาร์ตี้ปิดกล้องกันด้วยนะค่ะ









ฟังเพลง Pyramid feat.IYAZ
Powered by you2play.com